หยาดน้ำรักจากร่องเยิ้มฉ่ำแฉะเสียงดัง แจ่ะ! แจ่ะ! แจ่ะ! รุนแรงขึ้นหนักหน่วงขึ้น
พยัคฆ์ซอยกายถี่ยิบเห็นจากกระจกเงาบานใหญ่ว่าท่อนดุ้นของเขาวิ่งเข้าวิ่งออกรุนแรงและไร้ความปรานี
เธอหวีดร้องเสียงหลง ส่ายหน้าไปมาอย่างรุนแรงไม่นานก็หยัดกายน้ำแตกคาดุ้นใหญ่ๆ ของคนที่โอบกอดเธออยู่
พยัคฆ์รั้งร่างน้อยมากอด หอบหายใจอย่างรุนแรงอัดกายถี่ยิบจนน้ำแตกตามเธอไป
นรินดาขาเปลี้ยไปหมด เธอแทบร่วงแต่เขารัดร่างเอาไว้ เสื้อผ้าชุดทำงานยับย่นจนเธอต้องถอนใจเล็กน้อย วันนั้นเธอเลยต้องโทรไปบอกเถ้าแก่ว่ามีธุระช่วงเช้า
เธอรู้ว่าโกหกคำโต เพราะคนเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอไปทำงานง่ายๆ ต้องรับประทานอาหารเช้าก่อน เขาให้เหตุผลว่ากลัวเธอปวดท้องโรคกระเพาะกำเริบเอาได้
เธอนั่งซ้อนตักเขา ตอนนี้ท่อนล่างเปลือยเปล่า ร่องอ้าอมดูดรัดท่อนดุ้นของเขาเอาไว้จนมิดโคน
นรินดาบิดกายไปมาอยู่บนตักแกร่ง เสื้อผ้าของเธอท่อนบ่อนหลุดลุ่ยเพราะโดนล้วงควัก
“ลุงเสือขา”
“ทำไม”
หนูดาเสียวค่ะ”
“มากไหม”
“มากค่ะ”
“หนูดาจะไม่เสียวได้ไง ดุ้นฉันฝังในร่องมิดโคนแบบนี้”
เขาจับเธอถ่างขาออกแหวกให้ดูว่าดุ้นเขาฝังเข้าไปลึกเพียงใด น้ำรักปริ่มออกมาจากร่องขณะอ้าอมความใหญ่โตเอาไว้ทั้งลำ นรินดาก้มมองแล้วสะท้าน ขาเธอสั่น มือจิกกับขอบโต๊ะแน่น
“หนูดาต้องรีบไปทำงานช่วงบ่ายนะคะ”
เธอพ้อเสียงสั่นๆ ตอดรัดดุ้นใหญ่ๆ เป็นจังหวะตามสัญชาติญาณ
“ขย่มให้ฉันน้ำแตกก่อนแล้วฉันจะปล่อยให้ไปทำงาน”
“ทำไมลุงเสือใจร้ายจังเลยค่ะ”
เธอถามเสียงสั่นๆ ก่อนจะเริ่มขย่มเขาอยู่บนตัก พยัคฆ์ครางเสียงหนัก มองสะโพกของเธอที่ขยับขึ้นลงจนเห็นท่อนลำของเขาผลุบหายเข้าไปในร่องสาวไม่วางตา
“ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันเรียกร้องมาก เคยบอกไปแล้วจำได้ไหม”
“หนูดาจำได้ค่ะ แต่อ๊า... ตอนนี้หนูดาเสียวอีกแล้ว”
“ขย่มแรงกว่านี้หน่อย มีแรงเท่านี้เองเหรอ”
“หนูดา... หนูดา...”
เธอร้องครางกัดปาก หลับหูหลับตาขย่มตอเนื้อของพยัคฆ์แรงขึ้นเร็วขึ้น
“อ๊า... เด็กหัวไว”
เขาขยำสะโพกของเธอแรงๆ ด้วยความเสียว จับใบหน้าของเธอให้ก้มมองตอนขย่ม
นรินดามองแล้วเสียวซ่านหนักขึ้นกว่าเดิม ท่อนเนื้อตั้งตรงแข็งเป็นลำมีน้ำรักหยาดเยิ้มชโลมอยู่กำลังถูกเธอสวมครอบครั้งแล้วครั้งเล่า
“ลุงเสืออึดเกินไปแล้วนะคะ”
เธอกำลังจะแตกในขณะที่เขายังแข็งไปทั้งลำ
“เร็วอีกหนูดา อีกนิด”
เขาร้องบอกตอนที่เธอกดกายลงมาเขาก็กระแทกขึ้นไป จนร่างน้อยหัวสั่นหัวคลอน
เสื้อผ้าด้านบนที่หลุดลุ่ยทำให้เต้านมอวบกระเด้งไปมา หัวนมของเธอแข็งเป็นไต ใบหน้าของนรินดาเสียวสุดติ่งทั้งแดงก่ำลามไปถึงใบหู สีหน้าของเธอรัญจวนใจสุดขีด
“หนูดาจะแตกแล้วค่ะลุง จะแตกแล้วนะคะ แตกแล้วค่ะ หนูดา อ๊า...”
เธอขย่มบนตอเขาเป็นจังหวะสุดท้ายในขณะที่เขากระแทกสวนขึ้นมา ก่อนจะน้ำแตกพร้อมกัน นรินดาบี๋กายกดเข้าหาลึกสุดใจพร้อมกับความเสียวสุดใจที่ถาโถมเข้ามาเช่นกัน
พยัคฆ์ดึงร่างน้อยมาสวมกอดแนบอก ร้องครางประสานกับเธอเสียงลั่นบ้าน
ร่างน้อยซบที่อกกว้าง ลูบไล้แผงอกของเขาเบาๆ ท่าทางกระปลกกระเปลี้ย เธอนั่งทับตักแกร่งของเขาเนื้อกายยังสอดเสียบประสานกันอยู่ไม่คลาย
“ลุงเสือเสร็จแล้วเหมือนกันเหรอคะ”
เธอกระซิบถาม จูบปลายคางสากๆ ของเขาเบาๆ พยัคฆ์ลูบสะโพกของเธอ กอดรั้งร่างน้อยมาแนบอก
นรินดาจำต้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เธอกลับไปเอาข้าวของบางอย่างที่บ้านก็เจอกับเจ้าหนี้ของบิดามารดา
เธอยอมรับว่ากลัวเพราะคนทวงหนี้หน้าโหดและดูคุกคาม
“วันนี้วันสุดท้ายแล้ว”
คนทวงหนี้ของเสี่ยมีเงินที่บิดามารดาของเธอไปกู้ยืมมามาขู่เอาโฉนด นรินดาเอ่ยขอร้องทั้งน้ำตา ยกมือไหว้ปรกๆ แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะยินยอม
“บอกให้เอามานี่ แล้วก็ไสหัวไปซะ”
เธอโดนผลักจนเซ ร้องเสียงหลงเมื่อร่างน้อยไปชนเข้ากับร่างสูงของพยัคฆ์
“ลุงเสือ!” เธออุทานอย่างตกใจ
“นี่มันอะไรกัน”
“พ่อแม่อีนี่ติดหนี้เสี่ยอยู่ วันนี้เสี่ยให้มายึดบ้าน”
มันกระชากเสียงตอบ พยัคฆ์ก้มมองคนในอ้อมแขนที่ก้มงุดมองมือตัวเอง ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตา
“เป็นหนี้เท่าไหร่”
พยัคฆ์เอ่ยถามเสียงกร้าว
“แกจะจ่ายให้อีนี่หรือไง”
“ใช่ เท่าไหร่”
พยัคฆ์ตอบกลับเสียงกร้าว มันมองหน้ากันเหมือนครุ่นคิด
“ลุงเสือ...”
นรินดาอุทานไม่คิดว่าเขาจะใช้หนี้ให้เธอ แต่พอพวกทวงหนี้บอกจำนวนเงิน พยัคฆ์ก็บอกว่ารอเดี๋ยวก่อนจะรีบเดินกลับไปเอาเงินมาให้พวกมันทันที
เธอไม่เคยรู้ว่าเขามีเงินเก็บเยอะขนาดนี้ เพราะอยู่บ้านเขาแต่เธอไม่เคยยุ่งวุ่นวายเรื่องทรัพย์สินของเขาเลย
“ลุงเสือคะ หนูดาขอบคุณค่ะ แล้วหนูดาจะรีบหาเงินมาคืนนะคะ”
เธอกราบเขาที่อก ซาบซึ้งในบุญคุณของเขานัก เขาไม่พูดอะไร ประคองเธอกลับบ้านของตัวเอง
“เป็นหนี้ทำไมไม่บอก”
“หนูดาเกรงใจ ไม่อยากรบกวน”
“ถ้าเกิดโดนทำร้ายขึ้นมาจะทำยังไง”
“เอ่อ... หนูดาขอโทษค่ะ”
เขาดึงเธอไปกอดแนบอก นรินดากอดเอวหนาของเขาเอาไว้ ต่อจากนี้ไปเธอจะทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายคนนี้ เขาไม่บอกรักก็ไม่เป็นไร แต่เขาดูแลเธอดี อาจจะเฉยชาไปบ้าง เธอเคยชินกับนิสัยของเขาไปแล้ว ดีกว่าคนพูดหวานแต่ไม่จริงใจเป็นไหนๆ
“งั้นหนูดาไปทำงานก่อนนะคะ”
“ขับรถดีๆ ล่ะ”
“ค่ะ” เธอยิ้มให้เขา ก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทำงาน
พยัคฆ์กดโทรศัพท์หาลูกน้องในทันทีที่หญิงสาวขับรถออกไปแล้ว
“พวกนายทำดีมาก”
“ครับเสี่ย”
ปลายสายสนทนาอีกครู่ใหญ่ก่อนจะวางสาย
พยัคฆ์พิงร่างสูงใหญ่ไปกับพยักโซฟา เขาเคยโดนผู้หญิงที่รักที่สุดหักหลัง อีกฝ่ายต้องการแค่เงินของเขาเท่านั้น จนมาเจอกับนรินดานี่แหละ เด็กสาวข้างบ้านที่ไม่เคยเรียกร้องอะไร แต่เขาก็ไม่มั่นใจเพราะเข็ดหลาบกับผู้หญิงหลายใจที่เคยพบพาน
นรินดาไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ไม่เหมือนใครด้วย แม้ติดหนี้เธอก็ไม่เคยปริปากขอ ข้าวของมีค่าที่เขาแอบทิ้งเอาไว้ในบ้านเธอก็ไม่เคยหยิบจับ ไม่เคยเอ่ยขอ
แบบนี้จะไม่ให้เขารักเธอได้อย่างไรกัน ต่อจากนี้ไปเขาจะทำดีกับเธอให้มากและทะนุถนอมให้เธอมีความสุขที่สุด
นรินดาพบกับความแปลกใจในเย็นวันนั้นเพราะพยัคฆ์ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เขาเอ่ยถาม ใส่ใจและทำอาหารให้เธอกิน แถมยังบอกให้เธอลาออกจากงานมาช่วยเขาดูแลบัญชี รับโทรศัพท์ลูกค้าอีก
สำคัญที่สุดเขาชวนเธอมาอยู่ด้วยกัน และบ้านของเธอก็ปล่อยให้เช่า เธอก็คิดว่าดีเพราะก็อยากดูแลเขาให้ดีเหมือนกัน
เหมือนการสมยอมเป็นเมียเขาไปโดยปริยาย แหวนทองเกลี้ยงเล็กๆ ที่เขาสวมให้และจุมพิตหลังมือของเธอเบาๆ เป็นการตีตราจองเธอมาเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์
“หลังจากนี้ ฉันจะดูแลเธอเอง มาเป็นเมียฉันนะ”
เขาดึงเธอมากอดแนบอก นรินดาหอมแก้มเขาก่อนจะโอบกอดเอาหนาเอาไว้
“หนูดารักลุงเสือที่สุดเลยค่ะ”
“ฉันก็รักเธอ”
ประโยคที่รอคอยหลุดออกมาจากริมฝีปากหยักหนา เธอรู้สึกหัวใจพองโตแทบคับอก เขาไม่พูดมาก แต่พอพูดคำรักออกมา มันคือความจริงที่เธอรอคอย คนไม่พูดมากแต่ถนัดทำมากกว่าพูด ดังนั้นคำพูดของเขาจึงมีคุณค่าต่อจิตใจของเธอมาก
คำว่ารักทำให้เธออบอุ่นหัวใจยิ่งนัก ดีกว่าผู้ชายที่พร่ำบอกรักแต่หาความรักและความจริงใจไม่ได้เลย
พยัคฆ์อุ้มร่างภรรยาขึ้นสู่อ้อมแขน เขาบอกเธอว่าเก็บเงินได้เยอะพอสมควรแล้ว จะไปซื้อบ้านอยู่อีกหลัง และหลังนี้ให้ปล่อยเช่า
จริงๆ ก็บ้านของเขานั่นแหละ แค่เธอไม่รู้เท่านั้นเอง
เล่ม 2 เลขาหน้าหวานกับท่านประธานมาดเข้ม
ครามหรี่ตามองเลขาคนใหม่ที่มารดาหามาให้ไม่วางตา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหล่อนเป็นว่าที่เมียของเขาหรือพูดอีกนัยคือว่าที่ลูกสะใภ้ของท่าน