พิชญาภาและปัณณวรรธเดินทางมาถึงสมุยในเวลาหัวค่ำของวันศุกร์ทั้งสองให้รถรีสอร์ตมารับจากนั้นก็ส่งเข้าพักที่รีสอร์ต หญิงสาวให้ทางรีสอร์ตจัดอาหารเย็นไว้รอแล้ว พอมาถึงล้างหน้าล้างตาเสร็จ ทั้งสองก็ทานอาหารด้วยกันทันที
“อาหารทะเลที่นี่สดมากๆ เลยพีชรู้ใจพี่มากเลยนะ ที่สั่งอาหารไว้รอแบบนี้กลางวันพี่แทบไม่ได้กินข้าว”
“งานยุ่งเหรอคะ”
“งานมีปัญหานิดหน่อย แต่ทุกอย่างก็เคลียร์เสร็จก่อนมา”
“พีชไม่ทำให้พี่เสียงานใช่ไหมคะ” หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ถ้าหากเขาจะทิ้งงานมาเที่ยวกับตนเอง
“ไม่เลยพี่เองก็อยากพักผ่อนเหมือนกันเรารีบกินกันเถอะเดี๋ยวกินเสร็จจะได้ออกไปเดินเที่ยวรับลมทะเลตอนกลางคืนดีไหม”
“ดีค่ะ”
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารและพูดคุยกันไปเรื่อย เมื่อทานอิ่มหญิงสาวก็โทรบอกทางรีสอร์ตให้มาเก็บโต๊ะอาหาร ก่อนที่เธอและปัณณวรรธจะออกไปเดินบริเวณชายหาดซึ่งตอนนี้เป็นเวลาดึกมากจึงไม่มีใครอยู่บริเวณนั้นเลย
“เงียบสงบดีเหมือนกันนะคะ ได้ฟังเสียงคลื่นแบบนี้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ พี่ววรรธโอเคกับที่พักที่พีชจองไหม”
“โอเคมากเลย อยู่ใกล้ทะเลแบบนี้ตอนกลางคืนเราน่าจะได้ยินเสียงคลื่นพี่ว่าหลับสบายเลยมากแน่ๆ” ปกติเวลามาเที่ยวปัณณวรรธจะพักโรมมากกว่าเพราะจะได้เที่ยวกลางคืนหรือนั่งดื่มไปด้วยแต่ครั้งนี้เขาอยากยอยู่ตามลำพังกับพิชญาภามากกว่า
“พรุ่งนี้พี่วรรธมีแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้างคะ”
“พี่ว่าเราเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะดีไหม ร้อนก็แวะเข้าคาเฟ่ส่วนเย็นๆ ค่อยกลับมาเล่นน้ำกันที่บ้านพีชเห็นด้วยไหมหรือมีอะไรเสนอก็บอกได้เลย”
“พีชเห็นด้วยค่ะ พี่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นใช่ไหมคะ”
“เป็นครับ พีชนั่งได้ใช่ไหม” ที่ปัณณวรรธต้องถามหญิงสาวก่อนเพราะไม่รู้ว่าถึงจะชอบการเที่ยวแบบนี้หรือเปล่า ผู้หญิงบางคนก็ไม่ชอบนั่งรถจักรยานยนต์เท่าไหร่ แต่เขาคิดว่าการจะเที่ยวสมุยให้สนุกก็น่าจะต้องขี่จักรยานยนต์สัมผัสบรรยากาศมากกว่านั่งอยู่ในรถยนต์และรับแอร์ในรถ
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย พีชว่าคืนนี้เรารีบเข้าไปนอนกันดีไหมพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า”
ปัณณวรรธตื่นมาในเวลาเจ็ดนาฬิกาเขารีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะวันนี้มีนัดจะไปเที่ยวกับพิชญาภา เมื่อแต่งตัวเสร็จก็รีบออกมาจากห้องเขาเห็นประตูห้องของหญิงสาวยังปิดอยู่และภายในบริเวณห้องรับแขกก็ไม่มีคนอยู่เลย ชายหนุ่มคิดว่าพิชญาภาน่าจะยังไม่ตื่นจึงไปเคาะประตู แต่เคาะเท่าไหร่คนด้านในก็ไม่ส่งเสียงตอบรับเขาเอามือจับที่ลูกบิดประตูและรู้ว่าเธอไม่ล็อกห้องก็เลยเปิดเข้าไป แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของห้อง
ชายหนุ่มเดินออกมาและมองไปรอบๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาหญิงสาวแล้วประตูบ้านพักด้านก็เปิดเข้ามาพอดี
“พี่กำลังจะโทรหาพีชอยู่เลย ไปไหนมาตั้งแต่เช้าพี่ตื่นมาไม่เจอตกใจมาก”
“พีชไปเดินเล่นแล้วก็ดูพระอาทิตย์ขึ้นมาค่ะ พี่วรรธตื่นนานแล้วเหรอคะ”
“ตื่นก่อนหน้านี้ไม่นาน ทำไมพีชไม่ไปปลุกพี่ล่ะเราจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน”
“พีชไม่อยากรบกวนค่ะ เรามาพักผ่อนก็อยากทำอะไรที่มันสบายๆ ถ้าพี่อยากดูพรุ่งนี้อีกครั้งก็ได้ค่ะ ตอนนี้พี่วรรธหิวหรือยังคะ”
“ยังเลยปกติตอนเช้าพี่ไม่ค่อยกินข้าวเท่าไหร่ พีชล่ะ”
“พีชก็ไม่หิวเหมือนกัน เรากินกาแฟที่บ้านก็ได้นะคะ สายๆ ค่อยออกไปเที่ยวกันเดี๋ยวพีชชงให้ พี่วรรธกินแบบไหน”
“ขอเป็นกาแฟดำครับ”
พิชญาภาชงกาแฟให้ตนเองและเขาคนละหนึ่งแก้ว แล้วทั้งสองก็ออกมานั่งมองทะเลที่หน้าบ้าน
ตลอดทั้งวันพิชญาภาและปัณณวรรธก็พากับเที่ยวไปทั่วเกาะชายหนุ่มขี่จักรยานยนต์โดยมีหญิงสาวซ้อนท้าย แขนเล็กๆ ที่โอบอยู่รอบเอวทำให้เขารู้สึกดีเอามากๆ
เมื่อเที่ยวจนเหนื่อยก็กลับมาบ้านพักในเวลาสี่โมงเย็นทั้งสองนั่งดูทีวีพอพอห้าโมงครึ่ง ปัณณวรรธก็ชวนเธอไปดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน
“พี่ถามเขามาแล้วทางมันค่อนข้างชันหน่อยพีชไหวไหม”
“ไหวค่ะ” หญิงสาวสวมกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวและรองเท้าผ้าใบพร้อมสำหรับการเดินอยู่แล้ว
“ถ้างั้นก็ไปกัน”
เธอขึ้นมานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของปัณณวรรธแต่ก่อนที่เขาจะสตาร์ทเครื่องก็อดถามเขาไม่ได้
“พี่วรรธรู้ทางไปใช่ไหมคะ”
“รู้ครับ พี่ถามเขามาแล้วพีชเกาะแน่นๆ นะ ทางอาจจะขรุขระหน่อยแต่รับรองว่าสวยมาก”
“ค่ะ” หญิงสาวเอามือโอบเอวเขาพิงศีรษะกับไหล่เหมือนที่ทำเมื่อตอนกลางวัน รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้
ใช้เวลาไม่นานปัณณวรรธก็พาเธอมายังบริเวณริมหน้าผาด้านหนึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยเพราะส่วนใหญ่จะไปดูกันอีกจุดหนึ่งแต่เขาอยากมีความเป็นส่วนตัวก็เลยเลือกพาเธอมาที่นี่
“ไม่เห็นมีคนเลยค่ะ พี่มาถูกหรือเปล่า”
“ถูกครับ ปีนขึ้นไปบนนี้นิดเดียวก็จะถึงแล้ว ส่งมือมาสิ”
“ไม่ได้หลอกกันใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับ”
พิชญาภาส่งมือให้เขาจับ ชายหนุ่มออกแรงเล็กน้อยเพื่อดึงเธอขึ้นมาบนเนินเตี้ยๆ
“นั้นไงพระอาทิตย์กำลังจะตกพอดี”
ทั้งสองนั่งลงบนพื้นกรวดตามองพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไปเรื่อยๆ
“พี่ไม่คิดเลยนะว่าจะมีโอกาสนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้”
“ทำไมล่ะคะ”
“แต่ก่อนพี่เป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวธรรมชาติเท่าไหร่หรอกรู้สึกว่ามันไร้สาระมาก ก็แค่พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก มันก็วนซ้ำกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พี่คิดว่าการได้นั่งอยู่ข้างๆ ใครสักคนและมองธรรมชาติรอบตัวมันเป็นอะไรที่ดีมากๆ”
“พี่วรรธคะ คนเราชอบไม่เหมือนกันพี่ไม่จำเป็นต้องชอบแบบนี้ก็ได้ รู้สึกยังไงชอบอะไรพี่บอกพีชได้เลยนะคะพีชจะไม่บังคับ”
“พี่ไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับเลย บางทีความสุขที่แท้จริงของเราก็มีอยู่แค่นี้”
“เบื่อไหมที่มาเที่ยวแบบนี้”
“ไม่ครับ พี่ดีใจที่ได้มาเที่ยวกับพีช”
“พีชก็ดีใจค่ะ”
“พีชคิดว่าเรารู้จักกันดีพอหรือยัง”
“ดีพอสำหรับอะไรคะ พี่วรรธถามเจาะจงกว่านี้ได้ไหมคะ”
“ดีพอที่เราจะคบกัน มันจะเร็วไปหรือเปล่าถ้าพี่จะขอคบกับพีท”
“ขอคบกับพีท พี่วรรธหมายความว่ากำลังจะขอพีชเป็นแฟนใช่ไหม”
“ใช่พี่หมายถึงอย่างนั้น แล้วพีชคิดว่ามันเร็วไปหรือเปล่า” ชายหนุ่มจับมือเล็กๆ ของเธอมากุมไว้ตามองอย่างต้องการคำตอบ
“พีชก็ไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าเร็วเกินไปหรืออะไรช้าเกินไป”
“แสดงว่าพีชตกลงจะเป็นแฟนกับพี่ใช่ไหม”
“ถ้าพีชตอบตกลงพี่จะมองว่าพีชเป็นผู้หญิงใจง่ายไหม รู้จักกันแค่สองอาทิตย์ก็ยอมเป็นแฟนพี่แล้ว”
“ไม่เลยพี่ว่าเวลามันไม่สำคัญมัน อยู่ที่เราคุยกันเข้าใจมากกว่าตกลงพีชเป็นแฟนพี่นะ”
“พี่จะยอมเป็นแฟนกับเด็กงี่เง่าอย่างพีชเหรอคะ เรารู้จักกันน้อยมาก เวลาสองอาทิตย์แทบไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันเลยนะคะ พีช อยากจะบอกว่าพีชค่อนข้างงี่เง่าเรื่องความรัก”
“งี่เง่ายังไงล่ะ”
“พีชชอบให้โทรหา ชอบให้ไลน์หา วันหยุดก็อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน”
“พี่คิดว่าพี่ทำได้ไม่มีปัญหาเพราะตอนนี้เราก็คุยกันทุกวันและวันหยุดเราก็ได้ใช้ชีวิตด้วยกันตกลงเป็นแฟนพี่นะ”
“ถ้าพีชปฏิเสธล่ะ”
“พี่คงเสียใจมากๆ”
“ถ้างั้นพีชตกลงก็ได้ค่ะเพราะพีชไม่อยากให้พี่เสียใจ” หญิงสาวยิ้มกว้างเขารีบดึงเธอเข้ามากอดด้วยความดีใจ
เป็นครั้งแรกที่ปัณณวรรธขอผู้หญิงเป็นแฟนแบบตรงๆ เพราะปกติแล้วเขาจะพัฒนาความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดเจอกันนอนด้วยกันจากนั้นค่อยขอเป็นแฟน แต่ก็อย่างว่าสำหรับผู้หญิงที่ชื่อพิชญาภา เธอต่างจากผู้หญิงคนอื่นเพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่ทำกับเธอเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน