สามวันต่อมา....
มันเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ เหมือนพิมพ์ถอนหายใจออกมากี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ แต่เธอก็ไม่สามารถหาทางออกได้ นอกจากว่าเธอไปจดทะเบียนสมรสกับเขาเท่านั้น เงินห้าแสนกว่าบาทที่พยายามหยิบยืมคนรู้จักและสถาบันการเงินต่างๆ แต่ทว่าไม่มีที่ไหนให้เธอได้หยิบหยืมเลย เลยต้องจบโดยการเก็บกระเป๋า เพื่อไปย้ายเข้าบ้านผู้ชายที่เธอเกลียดตั้งแต่เห็นหน้าเลยก็ว่าได้
อาการของบุตรสาวตอนนี้ทำให้นายชายรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เพราะว่านายชายทำให้บุตรสาวจะต้องตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ นายชายเคยได้ยินคุณเจิดเกริ่นเรื่องนี้ออกมาอยู่ แต่เขาไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะเอาจริง มาตอนนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือบุตรสาวของเขา แล้วที่มันเจ็บปวดมากกว่านั้นก็คือการที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือบุตรสาวของเขาได้เลย
“พ่อขอโทษนะพิมพ์ พ่อขอโทษจริงๆ” นายชายเอ่ยออกมาด้วยความเครียด ท่าทางที่ทุกข์ใจมากของบุตรสาว ทำให้นายชายที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปที่สำนักงานเขตกับบุตรสาวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่น้ำตาของชายชราเอ่อคลอออกมาจากหางตาโดยที่ผู้เป็นบุตรสาวไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“พ่อจะมาขอโทษพิมพ์ทำไม พ่อไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เงินที่พ่อยืมคุณลุงเจิดมาพ่อก็เอามาส่งเสียพิมพ์เรียนมหาลัยนี่นา พ่อไม่ผิดอะไรเลย แต่ลูกสาวหัวขี้เรื่อยของพ่อคนนี้ต่างหากล่ะที่สอบเข้ามหาลัยของรัฐาบาลไม่ติด ทำให้พ่อต้องหาเงินมากมายมาส่งเสียพิมพ์เรียน” เหมือนพิมพ์เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ท่าทางทุกข์ใจก่อนหน้านี้หายไป ด้วยเพราะว่าเธอไม่ต้องการให้บิดาต้องมาทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเข้าใจบิดาของเธอดี เพียงแต่ที่เธอถอนหายใจออกมา นั่นก็เพราะว่าเธอไม่ต้องการที่จะร่วมชายคาเดียวกันกับว่าที่สามีของเธออย่างปราบ ผู้ชายที่ทัศนคติแย่อย่างนั้น เธอไม่รู้เลยว่าเธอต้องสู้รบปรบมือยังไงกับเขา เหนื่อยใจจริงๆ เขาโทษเธอและบิดาตั้งแต่ยังไม่รู้ความจริง เธอไม่อยากที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขาเลย แค่คิดก็ปวดใจมากแล้ว
“ถ้าพ่อไม่ยืมเงินลุงเจิด หนูก็คงไม่ต้องไปอยู่ในเงื่อนไขแบบนี้หรอกนะ” นายชายรำพึงออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่บุตรสาวก็เข้าไปกอดบิดาไว้ เพราะว่าเธอไม่ต้องการให้ท่านต้องเจ็บปวดกับเรื่องของเธอ ถึงเวลาแล้วสินะที่เธอจะต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อให้บิดาไม่รู้สึกอะไร แม้ว่าข้างในใจของเธอจะทุกข์มากเพียงใดก็ตาม