ตอนที่ 4 เวลาชดใช้คืนบ้างแล้ว

1606 คำ
“ท่านแม่ทัพขอรับ หรือว่าท่านยัง….” “พวกเจ้าออกไปได้แล้วข้าจะนอนพัก พรุ่งนี้ต้องรีบออกเดินทางแต่เช้า” ""ขอรับ"" จางเต๋อไม่กล้าถามเขาซ้ำอีกรอบ แม้ว่าพวกเขาจะจากเมืองชิงโจวไปถึงสิบปีเต็มแต่ในตอนที่พวกเขาจากมา จำได้ว่าครั้งนั้นคุณชายพึ่งจะหายจากพิษไข้ที่ถูกโบยและตากฝนเพื่อไปช่วยคุณหนูเจียง พวกเขาได้ยินคุณชายร้องไห้ตลอดทางพร้อมกับคำพูดว่า “เหตุใดต้องส่งเขามาไกลถึงเพียงนี้ เขาทำผิดถึงขนาดนี้เชียวหรือถึงให้อภัยกันไม่ได้” พวกเขาทั้งสองไม่กล้าเอ่ยปาก ทำได้เพียงแค่ปลอบใจคุณชายจนเขาสงบลงได้และเริ่มฝึกหนักอย่างตั้งใจนับแต่นั้นเป็นต้นมา “พิธีปักปิ่นงั้นหรือ” เฉินจวินเซียวเดินมาที่เตียงของเขาและค่อย ๆ หยิบบางอย่างออกมาจากห่อผ้าที่เขาสวมติดตัวเอาไว้ ในนั้นมีทั้งอาวุธและหีบไม้สีน้ำตาลเข้ม เมื่อเขาหยิบและเปิดออกมาในนั้นมีปิ่นทองที่ถูกทำขึ้นจากช่างฝีมือแดนเหนือแสงเงาสะท้อนจากปิ่นทองประดับมุกและทับทิมระย้าสีแดงถูกยกขึ้นมา “สิบปีแล้วปีศาจน้อย ข้าชดใช้ให้เจ้าโดยถูกส่งมาอยู่แดนไกลนานถึงสิบปีเชียวนะ จากนี้ถึงคราวข้า...แก้แค้นเจ้าบ้างแล้ว” ปิ่นนกยูงประดับถูกวางกลับไปในกล่องไม้ที่รองด้วยผ้ากำมะหยี่สีม่วงหรูหราและปิดลง เขาห่อเก็บอีกครั้งก่อนจะล้มตัวลงนอนและนึกถึงคำพูดขององครักษ์ของเขาเมื่อครู่ “นางงดงามจนได้สมญานามว่าธิดาบุปผาเซียน มีชายหนุ่มหลายคนเตรียมมอบของขวัญให้นางในวันทำพิธี…” “ต่อให้เจ้างดงามเพียงใดเจ้าก็ยังคงเป็นปีศาจน้อยของข้าอยู่ดี ข้าปล่อยให้เจ้าเสพสุขในจวนสกุลเฉินมานานกว่าสิบปีแล้ว ได้เวลาที่เจ้าจะต้องชดใช้คืนข้าบ้างแล้วปีศาจน้อย” สองวันถัดมา / เมืองชิงโจว ขบวนกองทัพของแม่ทัพคนใหม่ของเมืองชิงโจวที่ควบตำแหน่งท่านแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินชิงโจวค่อย ๆ เคลื่อนพลเข้ามาในเมืองที่ถูกประดับตกแต่งด้วยดอกเบญจมาศสีเหลืองไปทั่วเมืองตั้งแต่ประตูทางเข้า บุรุษหนุ่มในชุดเกราะสีเงินอาชาสีขาวค่อย ๆ นำกองทัพเข้าเมือง “เขาอยู่นั่นเจ้าค่ะคุณหนู” “คนผู้นั้นหรือคือท่านแม่ทัพเฉิน แม่ทัพคนใหม่ของเมืองชิงโจว” “หลี่หนิงฮวา” บุตรีของใต้เท้า “หลี่เจา” ชะเง้อมองตามขบวนกองทัพที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าเมืองมาอย่างช้า ๆ แต่ใบหน้าของท่านแม่ทัพคนใหม่นั้นตราตรึงใจสตรีทั่วเมืองชิงโจวเพราะความรูปงามและสง่า ท่วงท่าที่บังคับบังเ**ยนอยู่นั้นมากไปด้วยเสน่ห์ อีกทั้งวันนี้แม่ทัพหนุ่มยังผูกรวบขึ้นสวมกวานสีเงินปล่อยหางม้ายาวอยู่ด้านหลัง ใบหน้าที่รูปงามดุจรูปปั้นในอารามหลวงยิ่งทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างชื่นชม “ช่างรูปงามยิ่งนัก” “ท่านแม่ทัพเจ้าคะ” “นั่นผู้ใดกัน” “ดูเหมือนจะเป็นบุตรของขุนนางกรมขุนนางนะขอรับ ชื่ออะไรนะ…” “คุณหนูหลี่ บุตรสกุลหลี่ขุนนางกรมขุนนางขอรับ” “อ้อ งั้นหรือ” “ท่านแม่ทัพ ดูเหมือนว่านางจะเตรียมช่อดอกเบญจมาศมาด้วย หรือว่า…นางคิดจะโยนให้กับท่าน” “ไร้สาระ รีบไปเถอะ” “เอ่อ ขอรับ” “อ้าว!! เหตุใดจึงวิ่งผ่านไปรวดเร็วนักเล่า ข้ายังไม่ทันได้โยนดอกไม้ไปให้เขาเลย” “คุณหนูเจ้าคะ จะลองไปที่หน้าจวนสกุลเฉินดูดีหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่เอาหรอก ถึงอย่างไรก็ต้องมีงานเลี้ยงต้อนรับอยู่แล้ว เอาไว้พบกันในวันนั้นจะดีกว่าข้าเป็นสตรีก็ต้องเก็บตัวหน่อยเจ้าว่าหรือไม่เล่า” “เจ้าค่ะ ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ” “แต่ว่า!!…ที่นั่นยังมีเจียงลี่หลิน เหตุใดข้าถึงลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปได้นะ” “แต่ว่าคุณหนูเจ้าคะ เห็นว่าท่านแม่ทัพไม่ชอบหน้าคุณหนูผู้นั้นนี่เจ้าคะ ถึงขั้นเกลียดเลยนะเจ้าคะ” “จริงหรือ!! เป็นไปได้เช่นไรกันแล้วทำไมพวกเขาถึงต้องเกลียดกัน” “คือเรื่องนี้….” นับว่าสาวใช้ของหลี่หนิงฮวาเตรียมการมาเป็นอย่างดีและเล่าเรื่องในสกุลเฉินให้นางฟังจนนางเริ่มยิ้มออกมาได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะไม่เคยรู้ว่าสกุลเฉินมีบุตรชายที่เก่งกาจเช่นนี้อยู่ก็ตาม แต่ในเมื่อวันนี้ได้เห็นแม่ทัพเฉินน้อยแล้วนางก็ยิ่งรู้สึกว่าชอบเขา “เขาช่างเหมาะสมกับข้ายิ่งนัก ทั่วเมืองชิงโจวนี้ไม่มีบุรุษใดที่ต้องตาต้องใจข้าเท่าเขาอีกแล้ว” “คุณหนู แล้วคุณชายหย่งเล่าเจ้าคะ” “เฮ้อ แม้ว่าจะรูปงามแต่คุณชายหย่งเป็นบัณฑิตที่เอาใจยากเมื่อเทียบกับแม่ทัพเฉินผู้นี้แล้วเขาน่าสนใจกว่ามากนัก ขอเพียงครั้งนี้ไม่มีเจียงลี่หลินมาวุ่นวาย บุรุษผู้นี้ไม่พ้นต้องเป็นเขยสกุลหลี่เป็นแน่” หลี่หนิงฮวามองตามขบวนกองทัพที่มุ่งตรงไปยังจวนแม่ทัพเฉินพร้อมกับรอยยิ้มที่คาดหวังอยู่ไม่น้อยว่านางจะต้องเป็นสตรีในดวงใจท่านแม่ทัพคนใหม่แห่งเมืองชิงโจวผู้นี้อย่างแน่นอน จวนสกุลเฉิน “มาแล้วเจ้าค่ะ มาแล้ว ๆ” “ท่านแม่ทัพมาถึงแล้ว” “หลินเอ๋อร์ พี่เจ้ามาแล้วรีบ ๆ ออกไปรอต้อนรับเร็วเข้า” “จะ…เจ้าค่ะท่านป้า” ลี่หลินที่ยืนถือช่อดอกเบญจมาศสีเหลืองและขาวที่นางทำขึ้นมาด้วยตนเองด้วยมือที่สั่นและหัวใจที่เต้นรัวดุจกลองศึก เสียงอาชาของบรรดากองทัพค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้พร้อมกับธงสีแดงขาวที่มีสัญลักษณ์ราชสีห์ของสกุลเฉินอยู่ “คุณหนูเจ้าคะ เหตุใดท่านถึงได้ตัวสั่นเช่นนี้เจ้าคะ” “คุณหนู ท่านยืนไหวอยู่หรือไม่เจ้าคะ” “แม่นม ข้า…. ข้ายังไหวอยู่” “เหตุใดท่านจึงได้หายใจแรง หอบถี่เช่นนี้เจ้าคะคุณหนู ท่านคงมิได้…. แม่นมแย่แล้วอาการหอบของคุณหนูกำเริบหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่ ๆ ข้าไม่ได้เป็นอะไร จริง ๆ นะไม่ต้องห่วง ขบวนกองทัพมาถึงแล้ว ท่านป้ากับท่านลุง…” “รีบไปเถอะเจ้าค่ะ นายท่านทั้งสองอยู่หน้าจวนแล้ว” “ได้สิ ข้าไป ข้า…ไม่เป็นไร” เจียงลี่หลินค่อย ๆ เดินก้าวออกไปด้านหน้าจวน เฉินฮูหยินดึงนางมายืนใกล้ ๆ เมื่อขบวนม้าสีขาวเข้ามาใกล้ และเพียงอึดใจเดียว บุรุษหนุ่มรูปร่างกำยำก็ลงจากหลังอาชาที่สง่างามลงมาพร้อมกับคำนับให้กับทั้งสอง “เฉินจวินเซียว คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” “ลูกแม่!! เจ้ากลับมาแล้วจริง ๆ ไหนมาให้แม่ดูหน้าเจ้าให้ชัด ๆ หน่อยเซียวเอ๋อร์ของแม่ จากกันนับสิบปีไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นมารูปงามเช่นนี้ เจ้าสบายดีหรือไม่เจ็บไข้ได้ป่วยบ้างหรือเปล่า เจ้าไม่ค่อยตอบจดหมายของแม่จนแม่ใจคอไม่ดีเลย” “แม่ของเจ้าบ่นทุกวันหากว่าเจ้าไม่กลับมาเห็นทีพวกเราคงได้อพยพไปที่เมืองเหนือเพื่อไปอยู่กับเจ้าที่โน่นเป็นแน่” “ท่านพ่อ ขออภัยจริง ๆ ขอรับทางเหนือตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเท่าใดนัก อากาศก็กำลังดีเพียงแต่ว่าการขนส่งและกว่าที่ข้าจะได้รับจดหมายอาจจะล่าช้าไปบ้างก็เท่านั้น ข้าสบายดีขอรับ” “ยอดเยี่ยมเหลือเกินเจ้ากลับมาครั้งนี้จะไม่กลับไปแล้วใช่หรือไม่” “ฮูหยิน ลูกเราได้รับยศแม่ทัพแล้วจากนี้จะไปที่ใดได้ก็ต้องอยู่ในเมืองชิงโจวสิ” “ท่านแม่ ลูกอกตัญญูไม่ได้อยู่ดูแลท่าน ตลอดสิบปีนี้ท่านสบายดีหรือไม่ ได้ข่าวว่าท่านไม่สบายบ่อยครั้ง” “แม่ไม่เป็นอะไรเลยเจ้าดูแม่สิ แม่ยังแข็งแรงดีทุกอย่างนี่หากไม่ได้หลินเอ๋อร์คอยดูแลก็คงแย่ นางน่ะเก่งสารพัดทั้งจัดยาให้และคอยดูแลสุขภาพทั้งท่านพ่อเจ้าและแม่ เจ้าดูนี่สิชุดนี้นางก็เป็นผู้ตัดเย็บและปักผ้าด้วยตัวเอง งดงามหรือไม่เล่า” “ขอรับ งดงาม…...ยิ่งนัก” “หลินเอ๋อร์มานี่เร็ว ๆ สิรีบมาทักทายพี่เขาหน่อย เจ้าอุตส่าห์ตื่นเพื่อจัดเตรียมของต้อนรับพี่ของเจ้าด้วยตนเองเอาไว้ตั้งมากมายมิใช่หรือ” สตรีตัวเล็กในชุดสีม่วงอ่อนที่ขับกับผิวขาวของนางแม้จะดูบอบบางแต่นางสูงขึ้นมากแล้วจากความทรงจำของเขาในครั้งก่อน ช่อดอกเบญจมาศในมือของนางสั่นเล็กน้อยเมื่อเดินเข้ามาหาเขา ใบหน้าที่คุ้นเคยแต่ในเวลานี้เติบโตขึ้นจนเป็นสตรีที่งดงาม แม้แต่จางเต๋อและจางอี้ก็อดตกตะลึงในความงามนั้นไม่ได้ แน่นอนว่า รวมถึงแม่ทัพหนุ่มอย่าง “เฉินจวินเซียว” ที่มองนางราวกับตกอยู่ในภวังค์อยู่สักพักเช่นกัน “เจียงลี่หลินคารวะท่านแม่ทัพเฉิน ยินดีต้อนรับท่านกลับสู่เมืองชิงโจวเจ้าค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม