ตอนที่ 6 ข้าเปล่ายั่วยวนท่าน

1517 คำ
ใจของสาวน้อยที่พึ่งเป็นสาวเต็มตัวรู้สึกวาบหวิวแปลก ๆ เมื่อถูกร่างแกร่งนั้นประคองกอดเอาไว้ นางล้มมาทับเขาและรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อนางดันตัวออกกายนางก็ถูกพลิกลงอีกด้าน “อย่าเจ้าค่ะ!!” “ข้าถามเจ้าอยู่นะ เจ้ายั่วยวนบุรุษทั้งเมืองชิงโจวแล้วยังคิดอยากจะยั่วยวนข้าด้วยอีกคนงั้นหรือ ยัยปีศาจน้อยช่างกล้านักนะ” “ปล่อยข้าเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนี้ข้าเปล่ายั่วยวนท่านนะเจ้าคะ ท่านเข้าใจผิดแล้ว” เขาอยากแกล้งนางต่ออีกนิด ใบหน้านั้นเริ่มจะมีน้ำตาแล้วเพียงแต่บางอย่างที่หน้าอกนางซึ่งเปลี่ยนไป คิดไม่ถึงว่าผ่านมาสิบปีมันจะโตขึ้นจนน่าสัมผัสขนาดนี้ “อย่ามองนะ!! ปล่อยข้า!! ฮึก!!” “เจ้าพรวดพราดเข้ามาในนี้เองแต่กลับกล่าวโทษข้า มาในตอนนี้ยังกล้าตะคอกข้า นี่เจ้าคิดว่าตนเองเป็นบุตรสาวสกุลเฉินไปแล้วหรืออย่างไร!!” “ปล่อยนะท่านแม่ทัพหากท่านไม่ปล่อยข้าจะ….” “หยุดนะนั่นเจ้าทำอะไร!!” นางคว้าเครื่องประดับบนศีรษะลงมาพาดคอตัวเองและเริ่มกรีดจนเป็นรอย แม่ทัพหนุ่มถึงกับตกใจและไม่คิดว่านางจะขู่เขาด้วยวิธีนี้ “เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ” “ได้โปรด…ปล่อยข้าไป” นางยกแขนขึ้นมาปกปิดกายเท่าที่จะทำได้ เนื้อที่แนบเข้ากับชุดคลุมบางเบานั้นยากที่จะละสายตาไปได้จริง ๆ สำหรับเฉินจวินเซียวในยามนี้ แต่วันนี้เขาแกล้งนางพอแล้ว ยังมีเวลาอีกมากที่จะทรมานปีศาจน้อยผู้นี้ เขาลุกขึ้นและหันไปคว้าผ้ามาสวมและพึ่งรู้สึกว่ามันตัวเล็กจนแทบจะสวมไม่ได้ ก็แน่ล่ะที่นี่เป็นห้องอาบน้ำของสตรีนี่นา “ผ่านมาสิบปีเจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ยังใช้น้ำตานั่นเรียกร้องความสงสารความเห็นใจไม่หยุด น่ารำคาญ!!” หญิงสาวยังคงนั่งห่อตัวอยู่ที่พื้นห้องอาบน้ำระหว่างที่แม่ทัพหนุ่มเดินออกไปจากห้อง สำหรับลี่หลินเขาเองก็ไม่ต่างไปจากเดิมเท่าใดนัก นอกจากจะหยิ่งยโสและเย็นชาเช่นเดิม คำพูดถากถางและเสียงกระแทกที่เกลียดจับหัวใจซึ่งมีไว้สำหรับนางก็ยังไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด ห้องท่านแม่ทัพ “เอะอะก็ร้องไห้ ข้าเหมือนพญามัจจุราชมากเลยหรืออย่างไรกัน น่าโมโหนัก!!” “ท่านแม่ทัพขอรับ นายท่านให้เรียกขอรับ” “รู้แล้ว เจ้ามาเตรียมเข็มขัดให้ข้าที” “ท่านแม่ทัพหงุดหงิดเรื่องอะไรหรือขอรับ เมื่อครู่เข้าไปอาบน้ำมาแล้ว…” “ช่างเถอะ รีบไปกันเถอะ” “ขอรับ” สองวันถัดมา แม่ทัพเฉินน้อยกลับมาที่เมืองชิงโจวได้สองสามวันแล้ว วันนี้เป็นวันที่เขาตามท่านพ่อเข้าไปยังราชสำนักเพื่อรายงานตัวกับท่านอ๋องและพบปะท่านเจ้าเมืองชิงโจว ในตอนกลับมาจากวังจึงได้ขอตัวเดินกลับไปพักแต่เมื่อเดินผ่านในสวนของจวนก็ต้องสะดุดเข้ากับเสียงพิณที่ไพเราะจนต้องหยุดฟัง “ท่านแม่ทัพ....” เขายกมือขึ้นให้จางเต๋อและจางอี้เงียบเสียงเพื่อจะได้ฟังเพลงที่บรรเลงได้อย่างไพเราะ เมื่อมองไปยังศาลากลางสระบัวก็เห็นว่าผู้ใดเป็นผู้บรรเลง “นึกไม่ถึงว่าจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย” เสียงเพลงบรรเลงยังคงดังอยู่ เขาโบกมือให้องครักษ์ทั้งสองนำของไปเก็บในห้องก่อนเขา และตัวเองจะเดินเข้าไปหวังจะชื่นชมดรุณีน้อยที่เขามักเรียกนางว่าปีศาจเพื่อจะชมเชยเสียหน่อยเมื่อเสียงพิณจบลง “ตรงส่วนท่อนจบของเพลงนี้ ข้าคิดว่าคุณหนูเจียงน่าจะต้องดีดให้ยาวขึ้น ระดับของนิ้วใช้ได้แล้วเพียงแต่ทำนองยังดูขาดอยู่” “ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณชายหย่งที่ชี้แนะ” แม่ทัพหนุ่มชะงักในทันทีและหันไปมอง ที่จริงนางมิได้อยู่เพียงลำพังกับสาวใช้และแม่นม ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่มีท่าทางสุภาพในชุดสีฟ้าอ่อน รวบผมมัดตึงและกำลังสอนนางดีดพิณ มือของเขาและท่าทางนั้นเกือบจะโอบกอดกันอยู่แล้ว จวินเซียวกำหมัดแน่นเพราะความหงุดหงิดอย่างหาที่มาที่ไปไม่ได้ “ปีศาจน้อยเจ้ามันเล่ห์เหลี่ยมเยอะนัก ถึงกับกล้ายั่วยวนบุรุษในจวนของข้าเชียวหรือ!!” เขาเดินเข้าไปพร้อมกับกระแอมเสียงดังจนทั้งสองที่กำลังจับจังหวะในพิณสะดุ้งสุดตัวโดยเฉพาะผู้ที่กำลังมีสมาธิกับพิณจนคุณชายหย่งตรงหน้ารู้สึกแปลกใจ “ทะ ท่านแม่ทัพ” “คุณชาย ท่านกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” “แม่นม เห็นว่าวันนี้ท่านทำขนมเอาไว้ ข้าเองก็อยากกินท่านจะช่วย…” “ได้สิเจ้าคะ ไปเถอะอาหลันไปช่วยข้าเตรียมของ” “แต่ว่า…” แม่ทัพเฉินหันมามองสาวใช้ นางจึงรีบเดินตามแม่นมไปในทันที คุณชาย “หย่งเล่อหาน” หันมามองตามด้วยลี่หลินที่ลุกพรวดขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นเขา “คุณชายหย่ง ท่านผู้นี้คือ…” / ลี่หลิน “ได้ยินชื่อเสียงท่านมานาน วันนี้มีโอกาสได้พบสักทีข้าน้อยหย่งเล่อหานคารวะท่านแม่ทัพเฉิน” ผู้ที่ถูกทักมิได้พูดอะไรเพียงแค่ก็ยกมือขึ้นคำนับตอบไปตามมารยาทเท่านั้น สตรีที่อยู่ข้าง ๆ บัณฑิตหนุ่มนั่นต่างหากที่ขัดใจเขาเพราะนางเอาแต่ก้มหน้าและไม่มองเขาอีกทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้นางคุยกับบุรุษหนุ่มผู้นี้ด้วยสีหน้าแจ่มใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่เคยมีเผื่อแผ่มาให้เขา “คุณชายหย่ง ไม่ทราบว่าท่านเป็นแขกที่จวนขออภัยที่เข้ามารบกวน” “ไม่เลยขอรับข้าน้อยเพียงแค่มาสอนคุณหนูเจียงดีดพิณเท่านั้น ตอนนี้ก็ได้เวลากลับแล้ว คุณหนูเจียงเอาไว้พบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ ข้าจะมาหาพร้อมกับนำพิณมาด้วยตามที่รับปาก” “ขอบคุณคุณชายหย่งเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้า…เดิน…เอ่อ…” สายตาของจวินเซียวทำเอานางพูดตะกุกตะกักจนหย่งเล่อหานจับพิรุธได้ และเขาเองก็เคยรู้มาว่าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าใดนักเขาจึงเป็นฝ่ายออกปากก่อน “ไม่เป็นไรข้าคิดว่าจะแวะบอกลาท่านแม่ทัพเฉินผู้เฒ่าสักหน่อยข้าเดินไปเองจะดีกว่า เช่นนั้นแล้วแม่ทัพเฉินข้าน้อยคงต้องขอตัวก่อน” “เช่นนั้นขออภัยที่ไม่ส่ง” “ขอลา” หย่งเล่อหานเดินจากไปแล้ว ลี่หลินจึงได้หันกลับไปเก็บพิณของนางเพื่อจะได้หลบเลี่ยงสายตาของแม่ทัพหนุ่มที่หันมามองนางและตอนนี้เขาเดินก้าวเข้ามาในศาลาแล้ว “หย่งเล่อหาน…คนผู้นี้มิใช่บัณฑิตอันดับหนึ่งที่เลื่องชื่อหรอกหรือ เขาเป็นบุรุษที่สตรีในเมืองชิงโจวต่างล้วนชื่นชมว่าแต่คนผู้นี้มาโผล่ที่นี่ได้เช่นไรกันนะ” “ท่านแม่ทัพพึ่งจะกลับมาคงจะหิวแล้ว ข้าจะรีบไปช่วยแม่นมเตรียมสำรับ อ๊ะ!!” เขาดึงมือน้อย ๆ ของนางขึ้นมา ตอนเด็ก ๆ เขาก็เคยจับแขนนางครั้งหนึ่งตอนที่แบกนางจากลานฝึกอาวุธมา จำได้ว่าตอนนั้นทั้งแขนและมือของนางเย็นจัดแต่ฝ่ามือกลับร้อนผ่าว ต่างกับตอนนี้ที่มือนางเย็นจัดเพราะความกลัว “ทำไมล่ะ ทีกับผู้อื่นเจ้ากล้าคุยด้วยได้ตามปกติแต่พบข้าทีไรเหตุใดต้องทำท่ารังเกียจถึงเพียงนี้ หรือว่าเจ้าคิดจะหลอกล่อผู้ชายอื่นในจวนของข้างั้นหรือ” “ท่านแม่ทัพ!! เหตุใดท่านจึงได้…กล่าวหาข้ารุนแรงเช่นนี้ ข้ากับพี่เล่อหาน…” “พี่เล่อหาน!! หึ เรียกชื่อได้เต็มปากเต็มคำ นิสัยอยากได้พี่ชายจนตัวสั่นของเจ้านี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ปีศาจน้อยเช่นเจ้ามันขาดความอบอุ่นมากเลยหรืออย่างไรถึงได้เอาแต่เรียกคนโน้นคนนี้ว่าพี่ตลอดเวลา!!” เสียงของเขาตะคอกดังจนนางสะดุ้งอีกครั้ง ลี่หลินกอดพิณเอาไว้แน่นพร้อมกับหยดน้ำตาที่เริ่มไหล นางร้องไห้อีกแล้วช่างน่ารำคาญจริง ๆ เหตุใดพบเขาแล้วนางต้องร้องไห้ตลอดเวลาเช่นนี้ เขามิได้ตั้งใจอยากจะมาหาเรื่องนางเสียหน่อย แต่ว่าในยามนี้ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชมนางแล้วเช่นกัน “เจ้าร้องไห้อีกแล้ว เอะอะก็บีบน้ำตาเจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลเจ้างั้นหรือ ข้ามิใช่เจ้าบัณฑิตหน้าอ่อนนั่น ลูกไม้เช่นนี้ไม่ต้องนำมาใช้กับข้า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม