ผมถอดเสื้อสูทออกอย่างรวดเร็ว จัดการคลุมตัวนับดาวเอาไว้ เธอยังซุกหน้าอยู่กับเบาะไม่พูดอะไร แต่มือน้อยๆ คู่นั้นสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ใจเย็น ไม่มีอะไรหรอก” “อือ” เธอพูดแค่นั้นแล้วขยับสูทของผมขึ้นคลุมหัว ผมยังนิ่งมองนับดาวจนกระทั่งเหมือนยัยตัวเล็กจะสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงลดกระจกลงเพื่อคุยกับผู้หญิงที่เอาแต่ยืนจ้องเราสองคนอยู่อย่างนี้นานแสนนานแล้ว ตั้งแต่ผมผละออกจากนับดาว รอจนเธอหายสั่นก็นับได้ราวๆ สิบนาที ไม่น่าเชื่อว่าคนขี้เสือกยังยืนรอ เหมือนต้องการอะไรบางอย่างจากเรา “มีปัญหาอะไร มายืนแอบมองคนอื่นเขารักกันอยู่ได้” ผมกระแทกเสียงใส่แบบไม่เกรงใจหน้าตาบ้องแบ๊วของเธอสักนิด นั่นเพราะยัยผู้หญิงคนนี้เคยตามมาสารภาพรักกับผมหลายรอบ ครั้งสุดท้ายก็เมื่อคืนที่อุตส่าห์ลงทุนจูบนับดาวเพื่อพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าผมมีแฟนแล้ว ยอมผิดคำพูดของตัวเองที่ว่าจะไม่ทำให้เพื่อนเดือดร้อน แต่ดูเธอสิ ยังมาก่อกวนผมอีก “พะ