เซลีนหาเวลามาเจอครินทร์ที่ห้องทำงานในช่วงสองทุ่ม ทุกอย่างเหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่เลยสักนิด เธอวุ่นวายกับการต้อนรับลูกค้าที่ทยอยมาจนหาเวลาไปเจอครินทร์ไม่ได้ กระทั่งผ่านไปสามสิบนาที เดย์เดินเข้ามาบอกเธอให้นำของว่างไปให้ครินทร์เหมือนทุกครั้ง
นั่นเข้าทางเธอเลย…
ร่างบางจัดแจงทุกอย่างเพื่อนำไปให้ครินทร์ มือเล็กยกเคาะประตูห้องทำงานสองที คนข้างในก็เอ่ยอนุญาตให้เข้าไป เซลีนเดินถือถาดของว่างและเครื่องดื่มเข้าไปช้าๆ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองครินทร์ที่นั่งเอนตัวพิงพนักโซฟาและไขว่ห้างเล่นโทรศัพท์
ครินทร์ละสายตาจากโทรศัพท์ มองเธอด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ยากอ่านออก เซลีนนำของว่างและเครื่องดื่มไปวางลงให้ครินทร์เป็นอันดับแรก ยังคงไม่เข้าประเด็นเรื่องที่คุยค้างไว้ก่อนหน้านี้
“เรา…จะคุยเรื่องที่ค้างไว้ต่อเลยไหมคะ”
“นั่งสิ”
เซลีนวางถาดของว่างลงบนโต๊ะหน้าครินทร์ พยายามไม่สบตาเขานานเกินไป เพราะแค่สบตาก็รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกลืนกินทั้งตัว
“พี่แพมมี่บอกว่า…”
“ไม่ต้องเข้ารายละเอียดลึก ฉันรู้แล้ว” ครินทร์พูดแทรกเซลีนที่ยังพูดไม่จบ “พูดสิ่งที่เธอต้องการมา”
มือเล็กที่วางบนตักบีบเข้าหากันแน่น พลางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะขยับริมฝีปากพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการกับครินทร์ไปตรงๆ
“ตอนนี้แม่เซย์ต้องผ่าตัดด่วนเพราะอาการทรุด หมอบอกว่าผ่ากับไม่ผ่าก็เสี่ยงเหมือนกัน แต่ถ้าผ่าโอกาสรอดยังมี เซย์ไม่มีเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ เซย์รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเกลียด แต่เซย์ไม่มีทางเลือกอื่น”
“เท่าไร”
คำตอบที่ได้รับทำเอาเซลีนแทบหยุดหายใจ ดวงตาคู่สวยที่หลุบมองอย่างอื่นช้อนขึ้นมองเจ้าของคำพูดเมื่อครู่อย่างไม่อยากเชื่อ
“มันเยอะมากนะคะ”
“ฉันถามว่าเท่าไร”
“เกือบหนึ่งล้านค่ะ…”
ครินทร์จ้องมองเซลีนที่ไม่สบสายตาตัวเอง ความร้ายกาจฉายแววออกมาผ่านนัยต์ตาดำขลับ มุมปากหยักกระตุกเหยียดยิ้มเมื่อปลาเริ่มติดเบ็ด
“เธอรู้ไหม ว่าการมาขอความช่วยเหลือ…มันมีราคาต้องจ่าย”
เซลีนชะงัก หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก แต่ยังคงประคองสีหน้าให้เป็นปกติ
“เซย์จะชดใช้ให้แน่นอนค่ะ จะให้เซย์ทำงานหนักกว่าคนอื่นโดยไม่จ่ายเงินก็…”
“ฉันไม่ต้องเงิน” ครินทร์ตัดบทอย่างเฉียบขาด
“ละ…แล้วพี่ครินทร์ต้องการอะไรคะ” เสียงเธอแผ่วเบา พลางลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอไม่สามารถเดาอารมณ์ผ่านสายตาคู่นั้นของเขาได้เลย มันดูว่างเปล่าไปหมดราวกับเขาจงใจซ่อนทุกอย่างจากเธอ
ครินทร์หยัดกายขึ้นเต็มความสูง ร่างสูงเดินอ้อมไปด้านหลังเซลีน มือหนาลากไปตามขอบโซฟา บรรยากาศห้องที่เงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน ทำให้เซลีนได้ยินเสียงมือที่กำลังลากอยู่ขอบโซฟา เธอนั่งตัวเกร็งและแข็งทื่อราวกับรูปปั้น
ก่อนที่มือของเขาจะ…
หยุดลงที่ไหล่บาง หัวใจดวงน้อยพลันไหววูบไปตามสัมผัสนั้น เธอไม่เอ่ยสิ่งใดนอกจากเงียบ คำตอบที่เขาบอกว่า ‘ไม่ต้องการเงิน’ แอบทำให้เธอเผลอคิดว่า หรือจริงๆ แล้วสิ่งที่เขาต้องการ ‘เป็นเธอ’
ใบหน้าคมคายโน้มลงมาใกล้คนตัวเล็ก ริมฝีปากจรดข้างใบหูจนเซลีนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดลงมา เธอนั่งจิกกางเกงทำงานแน่น การกระทำของเขาทำให้เธอแทบลืมหายใจ
“สิ่งที่ฉันต้องการ…คือเธอ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วข้างใบหู ราวกับเสียงลมที่พัดกรรโชกลงมาใกล้จนลำคอของเซลีนสั่นวูบ เธอเงยหน้าขึ้นทันที ความสงสัยตีกันในหัวเต็มไปหมด
“พี่ครินทร์กำลังเล่นอะไรอยู่คะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ ยังคงคิดว่าเขากำลังเล่นตลกอะไรสักอย่างอยู่
“เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง”
“…”
“เงินเกือบล้าน แลกกับการที่เธอมาเป็นของเล่นบนเตียงให้ฉัน…ฉันว่ามันคุ้มออกนะ”
“ซะ…เซย์ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น” เธอสวนกลับ แม้รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรแต่ก็ทนฟังจนวินาทีสุดท้าย
“แล้วเป็นผู้หญิงแบบไหนหืม?” เขาสูดดมกลิ่นหอมคุ้นเคยที่ติดค้างตั้งแต่รอบก่อนเข้ามาเต็มปอด
พรึ่บ!
เซลีนดีดตัวขึ้นจากโซฟา เริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกคนแสดงออกมาชัดเจนว่าต้องการอะไร จังหวะที่เขาสูดกลิ่นตรงซอกคอทำไรขนอ่อนเธอลุกซู่ มิหนำซ้ำหัวใจยังสั่นไหวจนยากควบคุม
“เซย์ขอเปลี่ยนจากข้อเสนอนั้น เป็นทยอยใช้หนี้เป็นเงินได้ไหมคะ”
“…”
“เซย์…ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ค่ะ” เธอไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าเอาร่างกายเข้าแลกเงิน การมาขอให้เขาช่วยไม่ได้คิดว่าเขาจะยื่นข้อเสนอบนเตียงมาให้ “ขอร้องนะคะ ช่วยเปลี่ยนข้อเสนอเป็นการให้เซย์ใช้หนี้เป็นเงินแทนเถอะค่ะ”
ครินทร์กระตุกยิ้มมุมปาก ทีแรกคิดว่ามันจะง่ายเพราะเซลีนดูต้องการเงินมาก ทว่าเขากลับคิดผิด นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกสนใจเธอมากยิ่งขึ้น
อะไรที่ได้มายากๆ มันน่าตื่นเต้นเสมอ
“หว่า ถ้างั้นก็ต้องขอโทษที่ทำให้เธอผิดหวัง เงินน่ะ ฉันมีเยอะแล้ว ฉันแค่ต้องการอะไรที่มันแตกต่างจากสิ่งที่มี”
“…”
“ประตูอยู่ตรงนั้น เดินออกไปได้ ถ้าเธอเลือกที่จะไม่รับข้อเสนอ” ดวงตาคมเข้มปรายมองไปยังประตูห้องทำงานที่ปิดสนิท ก่อนจะขยับริมฝีปากพูดต่อ “แต่โอกาสมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
เซลีนยืนนิ่ง ราวกับกำลังถูกอีกคนกดดันให้เลือกรับข้อเสนอนั่น เธอมองประตูห้องทำงานสลับกับเขา
‘แม่คุณเป็นเนื้องอกที่ก้านสมองอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ด้วยยา แต่จากการสแกนล่าสุด พบว่าเนื้องอกมีการขยายขนาดกะทันหันครับ ทำให้กดทับต่อมสำคัญหลายจุด และมีภาวะเลือดคั่งร่วมด้วย’
‘เราต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ถ้าเรารอ อาการอาจทรุดหนักกว่านี้ และเราจะหมดโอกาสแม้แต่จะเสี่ยง’
คำพูดขอหมอในวันนั้นฉายเข้ามาในหัว ย้ำเตือนว่าเธอช้าไม่ได้อีกแล้ว ชีวิตของแม่กำลังรอเงินจำนวนนี้เพื่อการผ่าตัด หากเธอเลือกเดินออกไป…ทุกอย่างจะเป็นอย่างไรกันนะ
“เซย์ขอเวลาได้ไหมคะ”
“แล้วทำไมฉันต้องรอเธอ?”
“ซะ…เซย์ขอแค่ก่อนร้านปิดในวันพรุ่งนี้ค่ะ”
“ฉันให้เวลาแค่ก่อนร้านเปิด” เสียงเข้มยื่นคำขาด เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อรอใคร การที่เขายอมให้สิทธิ์นั้นก็เพราะอยากเอาคืนเซนต์ หากเซลีนไม่มีประโยชน์ อย่าคิดว่าเขาจะเหลียวแล
“ค่ะ”
“ไปทำงานต่อได้แล้ว” เขาละสายตาจากเซลีนแล้วเดินออกไปยืนสูบบุหรี่มุมประจำ เสียงปิดประตูทำให้รู้ว่าเธอออกไปแล้ว
เขามั่นใจว่าเซลีนต้องคลานกลับมาหาอย่างแน่นอน…