ตอนที่ 11 ตัวร้าย ปะทะ พระเอก

1745 คำ
“แล้วทำไมถึงปวดข้อเท้าได้ล่ะ” ภายในร้านอาหาร ทั้งคู่ไม่ได้ออกไปไหนและเลือกที่จะกินที่ร้านภายในโรงพยาบาล เราสองคนสั่งอาหารเสร็จแล้ว เธอนั่งตรงข้ามกับเขา “เมื่อวันก่อนอิงขาพลิกค่ะ แต่คุณหมอตรวจดูแล้วไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ” เสียงหวานตอบออกไป อาคิน พระเอกนิยายเรื่องเล่ห์รักคุณหมอไร้ใจ นิยายที่เธอทะลุเข้ามา อีกฝ่ายรับบทเป็นพระเอก และเป็นคนที่เธอต้องทำให้บอกรักให้ได้ภายในสองเดือน อาคินและอิงดาว ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก พ่อของอิงดาวเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ ส่วนพ่อของอาคินเป็นหมออยู่ที่นี่ และพ่อของอาคินยังเป็นเพื่อนสนิทพ่ออิงดาวพ่วงด้วยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย เด็กทั้งสองจึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่นับถือกันเป็นพี่น้องที่ค่อนข้างสนิท อาคินมองอิงดาวเป็นน้องสาว ส่วนอิงดาวก็มองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดี ทว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เพราะเธอต้องมองอาคินใหม่ ‘ทำให้อาคินบอกรักเธอให้ได้’ หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายยังโสด อาคินและแพรไหมยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้ารอให้นานกว่านี้ เส้นเรื่องเดิมของนิยายอาจจะดำเนินต่อไป “แล้วเราเป็นยังไงบ้าง หลังจากหมั้นแล้วย้ายไปอยู่บ้านคุณทศวรรษก็หายเงียบจากพี่ไปเลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยแกมหยอกล้อ วันที่มีพิธีหมั้น อาคินก็ไปเป็นสักขีพยาน เขารู้จักกับทศวรรษ คู่หมั้นของน้องสาวก็วันนั้น แต่ทั้งเขาและทศวรรษก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอีก “ก็...” “...” “ไม่ค่อยดีค่ะ” “อ้าว ทำไมล่ะ” “อิงอาจจะถอนหมั้นเร็ว ๆ นี้” “อะไรนะ?” อาคินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าอิงดาวรักคู่หมั้นคนนี้มาก “มีอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกันเหรอ?” “ก็...ทะเลาะกันทุกวันค่ะ” “...” “พี่ทศไม่ได้รักอิง เขามีคนที่รักอยู่แล้วค่ะ” “แย่จริง” อาคินขมวดคิ้วแน่น พลางถอนหายใจและมองใบหน้าหวานอย่างเห็นใจ และอิงดาวที่ตัดสินใจบอกแบบนั้นออกไปก็เพราะว่าเธอต้องการให้อาคินรับรู้ว่าอีกไม่นานเธอจะโสดแล้ว การที่เธอจะเข้าหาเขา ตัวเธอเองก็ต้องไร้พันธะใด ๆ ซะก่อน แผนการแยบยลมาก! “แล้วพี่คินมีคนรักหรือยังคะ” เป็นจังหวะที่อาหารยกมาเสริฟพอดี อาคินยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำถามจากเธอ “เวลานอนพี่ยังไม่ค่อยมีเลย จะเอาเวลาไหนไปหาแฟนล่ะ” เขาตอบตามความจริง ตอนนี้เขาโสดสนิท และยังไม่รู้สึกชอบใครเลยสักคน “อ๋อออ งั้นเราสองคนก็โสดเหมือนกันสิคะ” ใบหน้าน่ารักยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ทว่าน่าเอ็นดู แก้มใสที่ขึ้นสีแดงของเธอทำให้คุณหมอหนุ่มหลุดยิ้มออกมา เขาสบตากับดวงตากลมโต “นั่นสิ...เราสองคนโสดเหมือนกันเลย” “...” อิงดาวรู้สึกว่าสายตาคู่คมของเขาที่จ้องมองมามีประกายบางอย่างทำให้เธอรีบก้มหน้าหยิบช้อนส้อมมาไว้ในมือ สองแก้มร้อนเผ่าไปหมด เช่นเดียวกับอาคินที่หลุดขำให้กับความน่ารักของคนตัวเล็ก ที่ผ่านมา ปกติอิงดาวจะไม่ค่อยพูดเล่นอะไรแบบนี้กับเขา เธอจะเปรียบเสมือนนางพญาที่สวยสง่าและสูงส่งซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ทว่าตอนนี้อิงดาวที่เขาเห็นดูเปลี่ยนไป แก้มใส ๆ ที่แดงระเรื่อกับดวงตากลมไร้เดียงสา... มันทำให้อาคินหุบยิ้มไม่ได้ตลอดมื้อนี้เลย 19.00 น. “หวานเจี๊ยบ หนูอิงไปไหน ได้บอกไว้หรือเปล่า” คุณนายละมัยเข้าไปในห้องครัวด้วยตัวเองเพื่อจะถามหาว่าที่ลูกสะใภ้ หลังจากรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายไม่อยู่บ้าน “อ๋อ บอกค่ะ คุณอิงดาวบอกว่ารู้สึกเจ็บข้อเท้าเลยอยากไปหาหมอ แต่ก็ไม่ยอมให้คนขับรถไปส่งนะคะ ยืนยันว่าจะเรียกรถไปเอง” หวานเจี๊ยบ สาวใช้คนสนิทของคุณนายละมัยพูดจีบปากจีบคอ ส่งผลให้คนที่ได้ยินแบบนั้นยกมือทาบอก “ตายแล้ว ทำไมถึงไม่บอกกันสักคำ แล้วเจ็บข้อเท้าแบบไหน เจ็บยังไง เจ็บมากหรือเปล่า ทำไมถึงออกไปเอง แล้วตาทศล่ะทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ไปเป็นเพื่อนน้อง!” “นั่นไงคะ คุณทศวรรษ” คุณนายละมัยหันมองตามนิ้วชี้ของหวานเจี๊ยบก็เห็นเจ้าลูกชายตัวดีกำลังเดินลงบันไดจากชั้นสอง ท่าทางเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกทั้งที่ใกล้จะถึงมื้อค่ำ ส่งผลให้คุณนายละมัยเร่งฝีเท้าไปหาลูกชายทันที “ตาทศ ลูกจะไปไหนป่านนี้น่ะ” ทศวรรษหยุดสองเท้า หันมองมารดานิ่ง ๆ “ผมนัดเพื่อนครับ” “หนูอิงอยู่ที่โรงพยาบาล น้องเจ็บข้อเท้า” นัยน์ตาคมราบเรียบ ราวกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรนอกจากสมน้ำหน้าในใจ “ก็ดีแล้วหนิครับ” “ตาทศ พูดแบบนี้ได้ยังไง ที่น้องเจ็บเป็นเพราะตกน้ำเมื่อวันก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วถ้าคุณนายดวงดาวรู้ว่าลูกสาวเขาต้องไปหาหมอคนเดียว แม่จะตอบว่ายังไง แค่ดูแลลูกเขาไม่ดีจนหนูอิงตกน้ำ แค่นี้แม่ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว” คุณนายละมัยร่ายหยาวเหยียด ทศวรรษถอนหายใจเสียงดัง สายตาที่เรียบนิ่งก่อนหน้านี้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง “แม่จะให้ผมทำยังไงครับ?” “ตามน้องไปที่โรงพยาบาลหน่อย แม่โทรไปก็ไม่รับสาย” “...” “เถอะหน่าตาทศ น้องเป็นคู่หมั้นของลูกนะ” คำก็คู่หมั้น สองคำก็คู่หมั้น ทศวรรษอยากจะอาเจียนคำนี้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ร่างสูงตวัดสายตาหงุดหงิดไปทางอื่น ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถ แทรกตัวเข้าไปนั่งภายในรถยนต์คันหรูของตัวเอง มือหนาทุบลงบนพวงมาลัยอย่างอดกลั้น รู้แบบนี้เขาปล่อยให้อิงดาวจมน้ำตายตั้งแต่เมื่อวาน ไม่น่ากระโดดลงไปช่วยให้รอดมาเป็นความน่ารำคาญแบบนี้หรอก ประกายโทสะแล่นปราดผ่านดวงตาดุดัน ก่อนจะขับรถออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ด้วยความเร็ว ตู๊ด... มือหนาถือโทรศัพท์แนบหูก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าประตูของโรงพยาบาลที่เลื่อนเปิดออก จนตอนนี้ทศวรรษก็ยังติดต่ออิงดาวไม่ได้ แต่เขามั่นใจว่าเธอต้องมาที่โรงพยาบาลของบิดาตัวเอง เพราะปกติเจ็บป่วยอะไรอิงดาวก็ไม่เคยไปใช้บริการที่อื่น ครั้งนี้ทศวรรษไม่รู้ว่าตัวเองเดาถูกหรือเปล่า แต่เขาจะโทรแค่สายนี้เป็นสายสุดท้าย ไม่สามารถติดต่อเลขหมาย... ชายหนุ่มลดมือถือลงก่อนจะกดเข้าแชทของมารดา เขาถ่ายรูปภายในโรงพยาบาลและส่งไป ก่อนจะพิมพ์ข้อความต่อท้าย ‘ผมมาแล้ว แต่หนูอิงของแม่ไม่รับสาย แม่คงไม่ให้ผมเดินหายัยนั่นทั่วโรงบาลหรอกนะครับ’ ทศวรรษปิดมือถือและทำท่าจะหมุนตัวออกจากที่นี่ ทว่าสายตาไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวร่างเล็กที่เดินเคียงคู่กับผู้ชาย มองไกล ๆ ยังเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าหวาน นัยน์ตาดุดันหรี่ลงประเมินทั้งสองตรงหน้า อิงดาว และผู้ชายที่เดินอยู่ข้างเธอก็คืออาคิน ทศวรรษเคยเจออาคินวันพิธีหมั้นเมื่อหกเดือนก่อน เขาไม่ได้สนใจสักนิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นญาติโกโหติกาฝ่ายไหนของคู่หมั้นตัวเอง ทว่าวันนี้ทศวรรษมาเจอเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นแต่ไม่รับสายเขาที่กระหน่ำโทรเข้าไปเป็นสิบ แถมท่าทางระริกระรี้กระหนุงกระหนิงนั่นส่งผลให้ขายาวก้าวฉับ ๆ ไปยังสองคนนั้นทันที “อิงก็อยากไปค่ะ เอาไว้วันหลังเราไปกันดีไหมคะ” “ได้สิ ถือว่าสัญญาแล้วนะ” หัวข้อสนทนาคือสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียง อิงดาวพยายามหาเรื่องคุยและดันคุยถูกคออย่างน่าเหลือเชื่อ เธอรู้สึกว่าอาคินก็มีสัมพันธ์ที่ดีตอบกลับมา เราสองคนพึ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จและเขาต้องขึ้นเวรต่อ อาคินเลยจะเดินมาส่งอิงดาวที่หน้าทางออกของโรงพยาบาล แต่จู่ ๆ เสียงทุ้มติดแข็งกระด้างก็ดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสอง “อยู่นี่นี่เอง คุณคู่หมั้น” อิงดาวและอาคินหันไปมองตามต้นเสียง ก็พบกับร่างกำยำของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบตึง คิ้วเข้มของเขาขมวดเล็กน้อยทว่ามุมปากกลับยกยิ้มร้ายกาจ อิงดาวเบิกตากว้างที่เจอทศวรรษที่นี่ “พี่ทศ” เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ก่อนจะหันมองอาคินและเอ่ยขึ้น “อิงไปก่อนนะคะพี่คิน” “อืม ถึงบ้านแล้วไลน์บอกพี่ด้วย อย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาด้วยล่ะ” “ค่ะ” อาคินมองคนเด็กกว่า ก่อนจะหันมองคนที่สูงพอกันซึ่งกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ ก่อนหน้านี้อาคินไม่ได้รู้สึกชอบหรือเกลียดคู่หมั้นของอิงดาว ทว่าวันนี้เขาคงต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้อีกฝ่ายกำลังยืนจ้องหน้าเขาด้วยสายตากวนเบื้องล่างอย่างชัดเจน รังสีร้ายกาจแผ่ซ่านออกมาไม่ปิดบังราวกับจะหาเรื่องกันทั้งที่อาคินไม่ได้ทำอะไรให้ ทว่าคุณหมอหนุ่มไม่ได้ใส่ใจ เขาหันไปส่งยิ้มให้อิงดาวอีกครั้งและหมุนตัวออกไปจากตรงนี้ หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างของพระเอกพลางถอนหายใจเบา ๆ คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี ต้องขอบคุณเสียงปริศนาที่ยื่นข้อเสนอให้เธอเข้าหาอาคิน ไม่ใช่— “มองตามผู้ชายคนอื่นตาละห้อย กลัวไม่รู้เหรอว่าอยากมีชู้” ไม่ใช่ตัวร้ายนิสัยเสียอย่างทศวรรษ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม