“แล้วทำไมถึงปวดข้อเท้าได้ล่ะ”
ภายในร้านอาหาร ทั้งคู่ไม่ได้ออกไปไหนและเลือกที่จะกินที่ร้านภายในโรงพยาบาล เราสองคนสั่งอาหารเสร็จแล้ว เธอนั่งตรงข้ามกับเขา
“เมื่อวันก่อนอิงขาพลิกค่ะ แต่คุณหมอตรวจดูแล้วไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ”
เสียงหวานตอบออกไป
อาคิน พระเอกนิยายเรื่องเล่ห์รักคุณหมอไร้ใจ นิยายที่เธอทะลุเข้ามา อีกฝ่ายรับบทเป็นพระเอก และเป็นคนที่เธอต้องทำให้บอกรักให้ได้ภายในสองเดือน
อาคินและอิงดาว ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก พ่อของอิงดาวเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ ส่วนพ่อของอาคินเป็นหมออยู่ที่นี่ และพ่อของอาคินยังเป็นเพื่อนสนิทพ่ออิงดาวพ่วงด้วยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย เด็กทั้งสองจึงรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่นับถือกันเป็นพี่น้องที่ค่อนข้างสนิท อาคินมองอิงดาวเป็นน้องสาว ส่วนอิงดาวก็มองเขาเป็นพี่ชายที่แสนดี
ทว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป เพราะเธอต้องมองอาคินใหม่
‘ทำให้อาคินบอกรักเธอให้ได้’
หญิงสาวรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายยังโสด อาคินและแพรไหมยังไม่ได้รักกัน แต่ถ้ารอให้นานกว่านี้ เส้นเรื่องเดิมของนิยายอาจจะดำเนินต่อไป
“แล้วเราเป็นยังไงบ้าง หลังจากหมั้นแล้วย้ายไปอยู่บ้านคุณทศวรรษก็หายเงียบจากพี่ไปเลยนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยแกมหยอกล้อ วันที่มีพิธีหมั้น อาคินก็ไปเป็นสักขีพยาน เขารู้จักกับทศวรรษ คู่หมั้นของน้องสาวก็วันนั้น แต่ทั้งเขาและทศวรรษก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอีก
“ก็...”
“...”
“ไม่ค่อยดีค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“อิงอาจจะถอนหมั้นเร็ว ๆ นี้”
“อะไรนะ?”
อาคินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เพราะใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าอิงดาวรักคู่หมั้นคนนี้มาก
“มีอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกันเหรอ?”
“ก็...ทะเลาะกันทุกวันค่ะ”
“...”
“พี่ทศไม่ได้รักอิง เขามีคนที่รักอยู่แล้วค่ะ”
“แย่จริง”
อาคินขมวดคิ้วแน่น พลางถอนหายใจและมองใบหน้าหวานอย่างเห็นใจ และอิงดาวที่ตัดสินใจบอกแบบนั้นออกไปก็เพราะว่าเธอต้องการให้อาคินรับรู้ว่าอีกไม่นานเธอจะโสดแล้ว การที่เธอจะเข้าหาเขา ตัวเธอเองก็ต้องไร้พันธะใด ๆ ซะก่อน
แผนการแยบยลมาก!
“แล้วพี่คินมีคนรักหรือยังคะ”
เป็นจังหวะที่อาหารยกมาเสริฟพอดี อาคินยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำถามจากเธอ
“เวลานอนพี่ยังไม่ค่อยมีเลย จะเอาเวลาไหนไปหาแฟนล่ะ”
เขาตอบตามความจริง ตอนนี้เขาโสดสนิท และยังไม่รู้สึกชอบใครเลยสักคน
“อ๋อออ งั้นเราสองคนก็โสดเหมือนกันสิคะ”
ใบหน้าน่ารักยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ทว่าน่าเอ็นดู แก้มใสที่ขึ้นสีแดงของเธอทำให้คุณหมอหนุ่มหลุดยิ้มออกมา เขาสบตากับดวงตากลมโต
“นั่นสิ...เราสองคนโสดเหมือนกันเลย”
“...”
อิงดาวรู้สึกว่าสายตาคู่คมของเขาที่จ้องมองมามีประกายบางอย่างทำให้เธอรีบก้มหน้าหยิบช้อนส้อมมาไว้ในมือ สองแก้มร้อนเผ่าไปหมด เช่นเดียวกับอาคินที่หลุดขำให้กับความน่ารักของคนตัวเล็ก
ที่ผ่านมา ปกติอิงดาวจะไม่ค่อยพูดเล่นอะไรแบบนี้กับเขา เธอจะเปรียบเสมือนนางพญาที่สวยสง่าและสูงส่งซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ทว่าตอนนี้อิงดาวที่เขาเห็นดูเปลี่ยนไป แก้มใส ๆ ที่แดงระเรื่อกับดวงตากลมไร้เดียงสา...
มันทำให้อาคินหุบยิ้มไม่ได้ตลอดมื้อนี้เลย
19.00 น.
“หวานเจี๊ยบ หนูอิงไปไหน ได้บอกไว้หรือเปล่า”
คุณนายละมัยเข้าไปในห้องครัวด้วยตัวเองเพื่อจะถามหาว่าที่ลูกสะใภ้ หลังจากรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายไม่อยู่บ้าน
“อ๋อ บอกค่ะ คุณอิงดาวบอกว่ารู้สึกเจ็บข้อเท้าเลยอยากไปหาหมอ แต่ก็ไม่ยอมให้คนขับรถไปส่งนะคะ ยืนยันว่าจะเรียกรถไปเอง”
หวานเจี๊ยบ สาวใช้คนสนิทของคุณนายละมัยพูดจีบปากจีบคอ ส่งผลให้คนที่ได้ยินแบบนั้นยกมือทาบอก
“ตายแล้ว ทำไมถึงไม่บอกกันสักคำ แล้วเจ็บข้อเท้าแบบไหน เจ็บยังไง เจ็บมากหรือเปล่า ทำไมถึงออกไปเอง แล้วตาทศล่ะทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ไปเป็นเพื่อนน้อง!”
“นั่นไงคะ คุณทศวรรษ”
คุณนายละมัยหันมองตามนิ้วชี้ของหวานเจี๊ยบก็เห็นเจ้าลูกชายตัวดีกำลังเดินลงบันไดจากชั้นสอง ท่าทางเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกทั้งที่ใกล้จะถึงมื้อค่ำ ส่งผลให้คุณนายละมัยเร่งฝีเท้าไปหาลูกชายทันที
“ตาทศ ลูกจะไปไหนป่านนี้น่ะ”
ทศวรรษหยุดสองเท้า หันมองมารดานิ่ง ๆ
“ผมนัดเพื่อนครับ”
“หนูอิงอยู่ที่โรงพยาบาล น้องเจ็บข้อเท้า”
นัยน์ตาคมราบเรียบ ราวกับสิ่งที่ได้ยินไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรนอกจากสมน้ำหน้าในใจ
“ก็ดีแล้วหนิครับ”
“ตาทศ พูดแบบนี้ได้ยังไง ที่น้องเจ็บเป็นเพราะตกน้ำเมื่อวันก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วถ้าคุณนายดวงดาวรู้ว่าลูกสาวเขาต้องไปหาหมอคนเดียว แม่จะตอบว่ายังไง แค่ดูแลลูกเขาไม่ดีจนหนูอิงตกน้ำ แค่นี้แม่ก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว”
คุณนายละมัยร่ายหยาวเหยียด ทศวรรษถอนหายใจเสียงดัง สายตาที่เรียบนิ่งก่อนหน้านี้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง
“แม่จะให้ผมทำยังไงครับ?”
“ตามน้องไปที่โรงพยาบาลหน่อย แม่โทรไปก็ไม่รับสาย”
“...”
“เถอะหน่าตาทศ น้องเป็นคู่หมั้นของลูกนะ”
คำก็คู่หมั้น สองคำก็คู่หมั้น
ทศวรรษอยากจะอาเจียนคำนี้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ร่างสูงตวัดสายตาหงุดหงิดไปทางอื่น ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถ แทรกตัวเข้าไปนั่งภายในรถยนต์คันหรูของตัวเอง มือหนาทุบลงบนพวงมาลัยอย่างอดกลั้น
รู้แบบนี้เขาปล่อยให้อิงดาวจมน้ำตายตั้งแต่เมื่อวาน ไม่น่ากระโดดลงไปช่วยให้รอดมาเป็นความน่ารำคาญแบบนี้หรอก
ประกายโทสะแล่นปราดผ่านดวงตาดุดัน ก่อนจะขับรถออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ด้วยความเร็ว
ตู๊ด...
มือหนาถือโทรศัพท์แนบหูก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าประตูของโรงพยาบาลที่เลื่อนเปิดออก จนตอนนี้ทศวรรษก็ยังติดต่ออิงดาวไม่ได้ แต่เขามั่นใจว่าเธอต้องมาที่โรงพยาบาลของบิดาตัวเอง เพราะปกติเจ็บป่วยอะไรอิงดาวก็ไม่เคยไปใช้บริการที่อื่น ครั้งนี้ทศวรรษไม่รู้ว่าตัวเองเดาถูกหรือเปล่า แต่เขาจะโทรแค่สายนี้เป็นสายสุดท้าย
ไม่สามารถติดต่อเลขหมาย...
ชายหนุ่มลดมือถือลงก่อนจะกดเข้าแชทของมารดา เขาถ่ายรูปภายในโรงพยาบาลและส่งไป ก่อนจะพิมพ์ข้อความต่อท้าย
‘ผมมาแล้ว แต่หนูอิงของแม่ไม่รับสาย แม่คงไม่ให้ผมเดินหายัยนั่นทั่วโรงบาลหรอกนะครับ’
ทศวรรษปิดมือถือและทำท่าจะหมุนตัวออกจากที่นี่ ทว่าสายตาไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวร่างเล็กที่เดินเคียงคู่กับผู้ชาย มองไกล ๆ ยังเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าหวาน นัยน์ตาดุดันหรี่ลงประเมินทั้งสองตรงหน้า
อิงดาว และผู้ชายที่เดินอยู่ข้างเธอก็คืออาคิน
ทศวรรษเคยเจออาคินวันพิธีหมั้นเมื่อหกเดือนก่อน เขาไม่ได้สนใจสักนิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นญาติโกโหติกาฝ่ายไหนของคู่หมั้นตัวเอง ทว่าวันนี้ทศวรรษมาเจอเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นแต่ไม่รับสายเขาที่กระหน่ำโทรเข้าไปเป็นสิบ แถมท่าทางระริกระรี้กระหนุงกระหนิงนั่นส่งผลให้ขายาวก้าวฉับ ๆ ไปยังสองคนนั้นทันที
“อิงก็อยากไปค่ะ เอาไว้วันหลังเราไปกันดีไหมคะ”
“ได้สิ ถือว่าสัญญาแล้วนะ”
หัวข้อสนทนาคือสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดใกล้เคียง อิงดาวพยายามหาเรื่องคุยและดันคุยถูกคออย่างน่าเหลือเชื่อ เธอรู้สึกว่าอาคินก็มีสัมพันธ์ที่ดีตอบกลับมา เราสองคนพึ่งจะกินมื้อเย็นเสร็จและเขาต้องขึ้นเวรต่อ อาคินเลยจะเดินมาส่งอิงดาวที่หน้าทางออกของโรงพยาบาล แต่จู่ ๆ เสียงทุ้มติดแข็งกระด้างก็ดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสอง
“อยู่นี่นี่เอง คุณคู่หมั้น”
อิงดาวและอาคินหันไปมองตามต้นเสียง ก็พบกับร่างกำยำของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบตึง คิ้วเข้มของเขาขมวดเล็กน้อยทว่ามุมปากกลับยกยิ้มร้ายกาจ อิงดาวเบิกตากว้างที่เจอทศวรรษที่นี่
“พี่ทศ”
เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ก่อนจะหันมองอาคินและเอ่ยขึ้น
“อิงไปก่อนนะคะพี่คิน”
“อืม ถึงบ้านแล้วไลน์บอกพี่ด้วย อย่าลืมกินยาให้ตรงเวลาด้วยล่ะ”
“ค่ะ”
อาคินมองคนเด็กกว่า ก่อนจะหันมองคนที่สูงพอกันซึ่งกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ ก่อนหน้านี้อาคินไม่ได้รู้สึกชอบหรือเกลียดคู่หมั้นของอิงดาว ทว่าวันนี้เขาคงต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้อีกฝ่ายกำลังยืนจ้องหน้าเขาด้วยสายตากวนเบื้องล่างอย่างชัดเจน รังสีร้ายกาจแผ่ซ่านออกมาไม่ปิดบังราวกับจะหาเรื่องกันทั้งที่อาคินไม่ได้ทำอะไรให้ ทว่าคุณหมอหนุ่มไม่ได้ใส่ใจ เขาหันไปส่งยิ้มให้อิงดาวอีกครั้งและหมุนตัวออกไปจากตรงนี้
หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างของพระเอกพลางถอนหายใจเบา ๆ
คนอะไรทั้งหล่อ ทั้งนิสัยดี ต้องขอบคุณเสียงปริศนาที่ยื่นข้อเสนอให้เธอเข้าหาอาคิน ไม่ใช่—
“มองตามผู้ชายคนอื่นตาละห้อย กลัวไม่รู้เหรอว่าอยากมีชู้”
ไม่ใช่ตัวร้ายนิสัยเสียอย่างทศวรรษ