bc

50% of you รักน่าจะเป็น

book_age16+
365
FOLLOW
1.6K
READ
others
drama
comedy
sweet
like
intro-logo
Blurb

ว่ากันว่ามุนษย์มีโอกาสเพียง 50% ที่จะเจอกับสิ่งที่เรียกว่า...ความรัก

เรื่องราวของ "เพียงพอ" นักศึกษาสัตวแพทย์ปีหนึ่งที่บังเอิญได้มารู้จักกับ "ทรงโปรด" รุ่นพี่แพทยศาสตร์ปีสาม เจอกันครั้งแรกก็เกิดเรื่องวุ่นๆ จนน้องเพียงไม่ชอบหน้าพี่โปรดซะแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าวันนึงเพียงพอจะต้องย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้า แบบนี้แล้วชีวิตแมวน้อยอย่างน้องเพียงที่ต้องเข้าไปอยู่ในรังสิงโตของพี่โปรดจะวุ่นวายแค่ไหนนะ

chap-preview
Free preview
Prologue
Prologue Tul_Tullatorn : เพียงครับ วันนี้รบกวนเอาเอกสารมาให้พี่ที่คณะด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ นะยุ่งมากเลย ไม่อย่างนั้นพี่คงไปเอากับเพียงเองแล้ว นี่คือข้อความจากไลน์ที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอของผมตอนนี้ แล้วมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแทบจะสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรดในแทบจะทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถเมล์ของมหาวิทยาลัยที่ผมนั่งมาด้วย คณะแพทยศาสตร์ ข้อความที่ปรากฏอยู่บนป้ายชื่อของตึกคณะที่ผมกำลังยืนอยู่ตรงหน้า Pieng : เพียงถึงแล้วนะครับพี่ตุลย์ กำลังจะเอาเข้าให้นะครับ ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้ม Tul_Tullatorn : ขอบคุณมากนะครับคนเก่ง พี่รออยู่ที่หน้าร้านถ่ายเอกสารข้างในตึกนะครับ Pieng: รับทราบครับผม Tul_Tullatorn : แฟนใครเนี่ยน่ารักที่สุดเลย Pieng : ส่งสติ๊กเกอร์เขิน ทั้งๆ ที่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าไอ้ร้านถ่ายเอกสารที่พี่ตุลย์ว่านั้นมันอยู่ส่วนไหนของตึกคณะแพทยศาสตร์นี่ แต่ก็เอาเถอะครับ ยังไงซะมาจนถึงตึกคณะแพทย์ฯ แล้วกลับการแค่หาร้านถ่ายเอกสารมันคงจะไม่เกินความสามารถที่มีอันน้อยนิดของผมหรอก…มั้ง ว่าแล้วผมก็กระชับสายสะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองพร้อมออกแรงกอดเจ้าซองเอกสารสีน้ำตาลที่พี่ตุลย์ลืมเอาไว้ตอนที่ไปส่งผมครั้งก่อนไว้แน่น เงยหน้าทอดสายตามองไปตามทางเดินยาวก่อนจะออกแรงก้าวเท้าเดินด้วยความเร็วจนเหมือนกึ่งวิ่ง “ขอโทษนะครับ” ประโยคเดิมที่ผมพูดซ้ำอยู่อย่างนั้นเมื่อต้องเจอกับจำนวนประชากรของนักศึกษาแพทย์ที่ดูเหมือนจะมีจำนวนมากซะเหลือเกินในเวลาที่ผมกำลังรีบแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการฝ่าฝูงชนจำนวนมากตามทางเดินเข้ามาแต่ถ้าหากเป็นการทำเพื่อพี่ตุลย์แล้วละก็ต่อให้มีอุปสรรค์แค่ไหนผมก็ทำได้อยู่แล้ว จนกระทั่ง… “อ๊ะ!” ผมชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง และด้วยความที่ไม่ทันระวังบวกกับแรงกระแทกอย่างแรง สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมเซล้มจนลงมานั่งกองอยู่กับพุ่มไม้ข้างทางแบบนี้ “โอ้ย! เจ็บชะมัดเลย” ผมบ่นกับตัวเองเสียงเบา ยกมือข้างที่รับแรงกระแทกเมื่อกี้ขึ้นมาดูก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ โชคยังดีที่ไม่เป็นแผลอะไร นึกว่าจะต้องเลือดตกยางออกซะแล้ว “เป็นอะไรไหม” น้ำเสียงทุ้มที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงนั้นก็พบเข้ากับร่างสูงของใครอีกคนที่ตอนนี้กำลังทำหน้าและส่งสายตานิ่งๆ มองมาทางผม ดูไม่มีความเป็นมิตรเอาซะเลย… นั้นคือสิ่งที่หัวผมกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ และเมื่อคิดได้แบบนั้นผมที่มีอารมณ์โกรธในตอนแรกก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นหาทางทำยังไงก็ได้ที่จะไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดดีกว่า ตัวใหญ่กว่าผมตั้งเยอะถ้ามีเรื่องกันผมคงโดนอีกคนยำจนเละแน่ “ถามทำไมไม่ตอบ” อีกคนถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังและดูดุดันขึ้นจนผมสะดุ้ง พึ่งจะสังเกตเห็นผมสีทองของอีกคนที่ตอนนี้มันช่างตอบรับกับใบหน้าดุดันนั้นจนผมต้องแอบกลัว “ยังไม่ตอบอีก” “ครับๆ” “ครับอะไร” วุ้ย! ทำไมดุจังวะ จะโดนฆ่าหมกข้างทางไหมเนี่ยผม “ก็พี่ถามผม” ผมตอบกลับเสียงเบา เบาแบบเบามากๆ อย่าว่าแต่มองหน้าเลยตอนนี้ผมไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอีกคนด้วยซ้ำ “แล้วจะตอบได้ยังละที่ถาม” “ตอบครับ ตอบได้แล้ว” ผมพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ไม่ได้เป็นอะไรครับ เจ็บมือนิดหน่อย” พอพูดจบอีกคนก็ขยับเข้ามาใกล้ ผมตกใจจนต้องถอยหลังหนีแต่ลืมตัวไปว่าตัวเองตอนนี้กำลังนั่งกองอยู่กับพุ่มไม้ข้างทางอยู่นี่น่า “อ๊ะ! อย่าครับอย่า!” ผมร้องเสียงหลงเลย จู่ๆ ไอ้พี่ผมทองมันก็ขยับเข้ามาใกล้แถมยังคว้าข้อมือผมไปจับไว้อีก “อย่าอะไรมึง ก็แค่จะขอดูมือ” อีกคนว่า “จะดูทำไมครับ ผมไม่ได้เป็นอะไร” “ก็ตอนแรกมึงว่าเจ็บไม่ใช่หรือไง เอามือมานี่” อือออ พี่มันแรงเยอะชะมัดเลย ผมพยายามจะขัดขืนพยายามจะดึงข้อมือของตัวเองกลับแล้วนะแต่อีกคนก็ยิ่งออกแรงดึงมากขึ้น จากตอนแรกที่ข้อมือผมไม่ค่อยจะเจ็บเท่าไหร่ในตอนนี้จะเริ่มเจ็บขึ้นมาเพราะพี่มันนี่แหละ คนอะไรหน้าโหดแล้วยังโหดจริงอีก “ก็ไม่มีแผลอะไร” อีกคนว่าพลางกวาดสายตามองตามข้อมือและต้นแขนของผมข้างที่อีกคนพึ่งได้ชัยชนะจากการออกแรงขัดขืนของผมเมื่อกี้นี้ “ก็ผมบอกพี่แล้ว” ผมทำหน้ามุ่ย ดึงแขนตัวเองกลับมาก่อนที่จะยกมืออีกข้างขึ้นลูบวนไปมาตรงข้อมือของตัวเอง คนอะไรก็ไม่รู้ดุก็ดุแถมยังแรงเยอะชะมัด “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” อีกคนยืนขึ้นหลังพูดจบ ยิ่งได้มาเห็นใกล้ๆ แบบนี่แล้วไอ้พี่ผมทองนี่ดูสูงชะมัดเลย แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปสนใจอยู่แล้ว “…” “…” แล้วบรรยากาศก็เข้าสู่โหมดที่น่าอึดอัดซะงั้น ก็อยู่ๆ ไอ้พี่โหดผมทองนี่ก็ยื่นมือมาทางผมเฉยเลย ผมก็รู้แหวะว่าไอ้การที่ผมกำลังนั่งกองอยู่กับพุ่งไม่ข้างทางแบบนี้แล้วอีกคนที่ยืนอยู่ส่งมือมามันหมายความว่ายังไง แต่ถึงจะเข้าใจก็เถอะ คนที่อยู่ด้วยแล้วให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาซะเลยแบบนี้ใครจะไปยอมให้จับมือกันล่ะ “ส่งมือมา” อีกคนพูดเสียงเข้ม “ไม่เป็นไรครับผมลุกเองได้” “ดื้อ” “…” เอ้า! อะไรอ่ะโดนว่าซะงั้น “เชี่ย!” ผมร้องอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ จังหวะที่ผมกำลังจะพยุงตัวเองให้ลุงขึ้นยืนนั้น ไอ้เจ้ากระเป๋าสะพายเจ้ากรรมของผมดันไปเกี่ยวกับกิ่งไม้เข้าตอนไหนก็ไม่รู้ ที่นี้ก็เลยกลายเป็นว่าพอผมจะลุกขึ้นยืนก็เลยเหมือนถูกแรงดึงให้กลับมานั่งกองอยู่กับพื้นเหมือนเดิม “ซุ่มซ่ามจริง” “อะไรเล่า ก็กระเป๋าผมมันติดนี่” ผมเถียงกลับอย่างเหลืออด คนยิ่งเจอแต่เรื่องซวยๆ อยู่ยังจะมาคอยแต่จะว่ากันอยู่ได้ ตอนนี้บรรยากาศรอบตัวเงียบลงไปอีกครั้ง อีกคนพอโดนผมเถียงกลับก็เงียบไปไม่ได้พูดอะไร ผมเห็นว่าพี่เขาดูนิ่งลงไปเลยไม่รู้ว่าจะโกรธหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่มีเวลาสนใจหรอกเพราะตอนนี้ผมต้องพุ่งความสนใจว่าส่วนไหนของกระเป๋าผมมันไปติดกับกิ่งไม้อยู่เนี่ย แกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออกสักที “ติดอะไรเนี่ย” ผมบ่นอุบด้วยอาการหงุดหงิด “ไหน มานี่” “ผมแกะเองได้” “อย่าดื้อ” “…” ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นเถียง แต่ภาพที่เห็นก็ทำให้ผมตกใจจนจนแทบสะดุ้ง ไอ้พี่ผมทองจอมโหดย่อตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับผมแถมยังจู่โจมเข้ามาใกล้จนหน้าของเราจะติดกันอยู่แล้ว ตึก…ตึก… ตึก…ตึก… ทำไมอยู่ๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาเอาดื้อๆ แบบนี้ ก็ผมยังไม่เคยมองหน้าใครในระยะประชิดแบบนี้มาก่อนเลยนี่ ขนาดกับพี่ตุลย์ผมยังไม่เคยเลยนะ “พี่จะทำอะไรอ่ะ” ผมรีบร้องห้ามพร้อมยกมืออีกข้างที่ว่างขึ้นดันหน้าอกของอีกคนที่เริ่มจะขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง “หึ!” พี่มันส่งเสียงในลำคอ ผมเห็นด้วยนะว่าตอนนี้พี่มันกำลังทำหน้ายิ้มพอใจอยู่ด้วย “ผมร้องให้คนช่วยจริงๆ นะ อย่า…อย่านะไอ้บ้า!” ทั้งๆ ที่ขู่ไปแล้วว่าจะร้องให้คนช่วยแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้สนใจอะไรที่ผมขู่เลยด้วยซ้ำ ที่หนักไปกว่านั้นไอ้พี่มันยังขยับเข้ามาใกล้อีก จนสุดท้ายสิ่งเดียวที่ผมเลือกทำคือการหลับตาปี๋แล้วพยายามเบี่ยงคอหลบให้ได้มาที่สุด “ก็แค่นี้” น้ำเสียงราบเรียบของอีกคนดังขึ้นพร้อมๆ กับความรู้สึกว่าอีกคนได้ขยับตัวออกไปห่างผมแล้ว ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองก็พบว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ เฮ้อ… ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าไอ้พี่บ้านั้นจะทำอะไร…เอ่อ…บ้าๆ ในที่แบบนี้ซะอีก “ชื่อเพียงพอเหรอ” “…” ถึงตอนนี้ผมยิ่งตกใจหนักกว่าเก่า พี่มันรู้จักชื่อผมได้ไงวะเนี่ย พอเงยหน้าขึ้นมองเท่านั้นแหละถึงบางอ้อเลยผม ภาพที่เห็นคือตอนนี้พวงกุญแจของผม พวกกุญแจที่เป็นรูปตุ๊กตาใส่ชุดนักศึกษา พวกกุญแจที่พี่ตุลย์ซื้อให้ผมตอนเข้ามหาวิทยาลัยได้ ตอนนี้พวกกุญแจนั้นกำลังอยู่ในมือของไอ้พี่ผมทองจอมดุที่ตอนนี้เป็นขี้ขโมยด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าพี่มันรู้จักชื่อผมได้ไง ก็ในพวงกุญแจนั้นมีชื่อผมติดอยู่ด้วยนะสิ “ชื่อมึงนี่แม่ง” คนพูดทำท่าเหมือนจะหัวเราะ “เอาของผมคืนมาเลยนะ” เท่านั้นแหละครับผมรีบลุกขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปจะคว้าแย่งเอาพวกกุญแจของผมกลับคืนมาให้ได้ ต้องรีบเอาคืนมาก่อนที่พี่มันจะขำกับชื่อผมไปมากกว่านี้ “เอาของผมคืนมา” ผมร้องยำประโยคเดิม มือก็พยายามจะคว้าแย่งเอาพวกกุญแจคืนมาให้ได้ แต่ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันเหลือเกินของผมกับพี่มัน สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นคือพี่มันก็ยืนเฉยๆ แล้วชูมือขึ้นสูง ส่วนผมก็กลายเป็นคนที่ทั้งเขย่ง ทั้งกระโดนแต่ก็ยังแย่งเอาพวกกุญแจของตัวเองกลับมาไม่ได้อยู่ดี “ทำไมต้องมาแกล้งผมด้วย” ผมส่งสายตาค้อนอย่างไม่พอใจ “เฮ้ยอะไร แค่นี้จะร้องไห้แล้วเหรอ” “ก็พี่นั้นแหละมาแกล้งผมทำไม” “แกล้งที่ไหนกูช่วยมึงต่างหาก” “ช่วยผม?” “ก็ใช่ไง” “ช่วยผมตรงไหน” “ก็แล้วเมื่อกี้ไอ้เด็กบื้อที่ไหนล่ะที่นั่งกองอยู่กับพุ่มไม้” “ก็…” กำลังจะอ้าปากเถียงแต่พอนึกขึ้นได้ความอายมันก็เข้ามาแทนที่จนผมเถียงไม่ออก “กูก็แค่ช่วยแกะพวกกุญแจของมึงที่มันเกี่ยวกับพุ่มไม้ออกให้ แบบนี้แล้วกูแกล้งมึงที่ไหน” “ก็…ก็พี่ล้อชื่อผมอ่ะ” “กูบอกแล้วเหรอว่ากูล้อชื่อมึง” อีกคนถามกลับ “ก็ยังไม่ได้บอก” ถึงตอนนี้ผมตอบเสียงเบา “แต่พี่ทำเหมือนจะหัวเราะนี่” “หัวเราะก็ไม่ได้” พี่มันเลิกคิ้วถาม “ไม่ได้ครับ” ผมมุ่ยหน้า “เด็กเอ้ย!” “โอ้ย!” ผมร้องเสียงหลงพร้อมยกมือขึ้นถูวนไปมาตรงหน้าผาก “พี่ดีดหน้าผากผมทำไมเนี่ย” “หมั่นไส้” “…” “ก็แค่จะบอกว่าชื่อมึงมันน่ารักดี” “…” “เงียบทำไม นี่กูพูดจริง” “ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน” “ถ้าหมายถึงเจ้าของชื่อน่ะก็ใช่ ที่กูบอกว่าน่ารักน่ะมันแค่ชื่ออย่างเดียวคนไม่เกี่ยว” “นี่พี่!” “ฮ่าๆ มึงนี่เวลาโกรธแล้วตลกดีนะ ทำหน้าขู่เหมือนแมว” มาว่าผมเป็นแมวอีก ถ้าผมเป็นแมวนะพี่มันก็ต้องเป็นสิงโตแหละ ก็เล่นย้อมผมจนสีทองแบบนั้นนี่ แถมยังชอบทำหน้าดุๆ ใส่คนอื่นอีก เป็นสิงโตไปนั้นแหละดีแล้ว ไอ้พี่สิงโตจอมโหดเอ้ย! “เงียบๆ ไปแอบด่ากูในใจเปล่าเนี่ย” อ้าว! รู้ทันซะงั้น แต่ใครจะไปยอมรับกันล่ะ “ผม…ผมไม่ได้ด่าพี่ซะหน่อย” ผมโกหก “อย่าให้รู้ว่าด่า” ไม่พูดเปล่าแต่อีกคนโน้มตัวเข้ามาใกล้จนผมต้องถอยหนี “โดนจับตีก้นแน่” “…” สมแล้วที่พี่มันเป็นสิงโตจอมโหดอ่ะ ผมรีบยกมือขึ้นผลักออกของอีกคนให้ออกห่าง “ถ้าพี่ตีก้นผม ผมจะร้องให้คนช่วยจริงๆ ด้วย” “เหอะ ใครจะมาช่วยมึง นี่คณะกูตีก้นมึงแล้วจับหมกข้างตึกก็ไม่มีใครเห็นแล้ว” “…” “ล้อเล่นนิดเดียวทำหน้าเป็นหมาหงอยไปได้ เอาไป ไอ้เด็กขี้ฟ้อง” ว่าจบอีกคนก็ยื่นพวกกุญแจคืนมาให้ ผมรีบคว้าเอาไว้แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งสายตาไม่พอใจไปให้ ดูเหมือนพี่มันจะไม่ได้สนใจสายตาของผมสักเท่าไหร่แถมยังยิ้มกวนๆ กลับมาให้ผมอีก “ขอบคุณครับ” “พูดให้มันจริงใจหน่อย” “ขอบคุณครับบบบ” คราวนี้ผมลากเสียงประชด “หึ!” อีกคนกระตุกยิ้ม “พี่ยิ้มอะไร” “ยิ้มให้แมว” “…” ถึงตอนนี้ผมยิ่งต้องมุ่ยหน้าใหญ่ ทำไมผมจะไม่รู้ละว่าพี่มันหมายถึงผม แต่ผมไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรกับพี่มันหรอก แถมตอนนี้พี่ตุลย์ก็คงจะรอเอกสารอยู่ด้วย ทางที่ดีผมรีบไปจากตรงนี้ดีกว่า คิดได้แบบนั้นผมรีบสำรวจสิ่งของของตัวเองว่าอยู่ครบไหมก่อนจะออกแรงกระชับกระเป๋าสะพายของตัวแน่นอีกครั้ง “ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อน พอดีผมมีธุระต้องรีบไป” รีบกล่าวขอบคุณออกไปแล้วก้าวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่รอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดหรือตอบอะไรกลับมาเลย “เดี๋ยว!” แต่แล้วเสียงเรียกที่ดังข้นก็เรียกให้ผมต้องหยุดและหันกลับไปมอง “ครับ?” “มึงเรียนที่นี่เหรอ” “เอ่อ เปล่าครับ” “แล้วมาทำอะไรที่คณะกู” “ก็…ผมเอาเอกสารมาส่งให้…” “เข้าใจแล้ว” “…” พูดไม่ทันจบเลยอีกคนก็แทรกขึ้นมาซะก่อน จะบอกสักหน่อยว่ามาหาแฟน ไอ้พี่สิงโตมันจะได้ไม่แกล้งผมอีกเพราะถ้าแกล้งผมจะฟ้องพี่ตุลย์แน่ๆ แต่ก็ไม่ทันได้พูด “เอาเป็นว่ายังไงก็เดินดีๆ แล้วกัน อย่าซุ่มซ่ามไปเดินชนใครเอาอีกละ” “…” “ไอ้แมวดื้อ” พูดจบอีกคนก็ทำแค่เพียงส่งยิ้มพอใจให้ผมก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป ส่วนผมที่ยืนอยู่ตรงนี้กำลังมุ่ยหน้าอย่างไม่พอใจ ใช่ครับผมไม่พอใจมากๆ พึ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกแท้ๆ มาเรียกผมว่าแมวดื้อได้ยังไง แมวดื้อที่ไหนกันเล่า ตัวเองนั้นแหละที่เป็นสิงโตน่ะ ไอ้สิงโตจอมโหดเอ้ย!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.8K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.7K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook