กลิ่นเครื่องแกงหอมตลบอบอวลไปทั่วห้องครัวในบ้านจงพิทักษ์ โดยมีแม่ครัวใหญ่คือจงอร และมีลูกมือเป็นลูกสาวสุดสวย แต่ไม่ค่อยชอบแต่งตัวจนต้องบ่นว่าจะขายไม่ออกวันนี้ถึงแต่งตัวสวยได้ แต่กลับมาขลุกอยู่แต่ในครัวไม่ยอมออกไปช่วยคุณย่าสร้อยระย้าเหมือนอย่างที่รับปากท่านไว้
“อ้อนไปข้างนอกเถอะลูก กลิ่นเครื่องแกงติดผมหมดแล้ว” อ้อนรักไม่ใช่คนขี้เหร่อะไร เพียงแต่ไม่ค่อยแต่งตัวก็เท่านั้น แต่เมื่อแต่งเข้าจริง ๆ ก็สวยหวานน่ารักเช่นเดียวกัน
สมัยสาว ๆ จงอรแต่งจัดจ้านยิ่งกว่าลูกสาวเสียอีก นึกในใจว่าสาวสมัยนี้ทำไมถึงไม่รักสวยรักงาม แต่มอง ๆ แล้วก็เห็นมีเพียงลูกสาวของเธอเท่านั้น
“จ้ะแม่...เสร็จแล้ว” เธอผัดเครื่องแกงให้แม่แล้วก็ส่งต่อให้แม่จัดการ ส่วนตัวเองออกไปด้านนอกช่วยคุณย่าสร้อยระย้าที่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมาช่วยดูความเรียบร้อยในงานและเผื่อท่านเรียกใช้
งานแต่งของรามสูรกับปลายฝนจัดที่กลางสนามหญ้าหน้าบ้าน มีกินเลี้ยงเย็นหลังเข้าพิธีเช้ากับญาติสนิทและเหล่าเพื่อน ๆ ของเขาที่เธอเคยเห็นหน้าเห็นตาอยู่บ้าง ภายในงานประดับตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี โดยเป็นดอกไม้ที่เจ้าสาวชื่นชอบอย่างกุหลาบขาว เจ้าบ่าวก็พร้อมเนรมิตให้สวยสมใจ
หญิงสาวเดินมาในโซนที่จัดไว้สำหรับถ่ายรูปมีภาพในอิริยาบถต่าง ๆ ของรามสูรและปลายฝน แต่ดวงตาคู่สวยของเธอที่มองภาพเหล่านั้นด้วยแววตาเคลือบด้วยน้ำใสบาง ๆ เป็นฟิล์มแต่มันไม่ได้หยดลงมา
‘อยากเป็นพี่ปลายฝนจัง’ ความคิดของเธอตอนนี้มีเพียงอิจฉาคนที่ได้ครอบครองหัวใจของเขาไป ซึ่งเธอไม่อาจจะเอื้อมได้ถึง
คำว่าหมาเห่าเครื่องบินเห็นจะใช้ได้สำหรับเธอ ได้แค่เห่าแต่ไม่มีสิทธิ์สัมผัสหรือเอื้อมถึงเครื่องบินที่อยู่บนท้องฟ้า
“อะ...อ้าว...พี่ก็นึกว่าเพื่อนเจ้าสาวที่ไหน...น้องอ้อนรักนี่เอง วันนี้สวยเป็นพิเศษจนพี่คิดว่าเจ้าสาวเสียแล้ว” ชัยวัฒน์หรือพี่เล็กเอ่ยขึ้น เขาเป็นหนึ่งในเพื่อนปากหมาของพี่ราม เพราะแค่เอ่ยมาก็เสี่ยงตีนเจ้าสาวแล้วไหมล่ะ
“พี่เล็ก...อย่าหางานให้อ้อนค่ะ” ใบหน้าบูดส่งไปให้คนที่ยิ้มกว้างพร้อมกับรู้สึกสนุกที่แหย่เธอให้โกรธได้
“ล้อเล่นครับ...ตอนแรกพี่ยอมรับเข้าใจผิดว่าเราเป็นแฟนไอ้รามเสียอีก ดีนะมันบอกน้องข้างบ้าน”
น้องข้างบ้าน...!
ถ้อยคำแสนธรรมดาแต่เจ็บปวด เหมือนปลุกเธอให้ตื่นจากโลกความฝัน...ฝันที่จะได้ครองคู่กับเขา ฝันที่จะยืนข้างเขาในทุกความสำเร็จ ฝันที่จะมีครอบครัวกับเขา มีลูกที่น่ารัก
แต่วันนี้ฝันสลายลงไปแล้ว
ที่จริงเขาจำกัดเธอเป็นเพียงแค่น้องข้างบ้านนานแล้ว แต่เธอดันอยากอาจเอื้อมไปสัมผัสเขา แต่ว่าคว้าได้แค่อากาศ
“แล้วพี่เล็กไม่ไปช่วยพี่รามเหรอคะ” เธอเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้เขาตอกย้ำมากมันเจ็บปวด
“ไม่ล่ะไม่ใช่ช่างแต่งหน้า วันนี้ปล่อยให้มันหล่อฉายเดี่ยวไปแล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปจะกลบรัศมีเจ้าบ่าวเสียหมด”
อ้อนรักฟังคำยกยอตัวเองของชัยวัฒน์แล้วก็แบะปากมองบน หลงตัวเองที่หนึ่งก็เพื่อนพี่รามคนนี้ ไม่รู้ว่าคบกันได้ยังไง
“ยกหางตัวเอง!”
“แล้วพี่ไม่หล่อตรงไหน น้องอ้อนมองหน้าพี่ชัด ๆ แล้วบอกพี่ให้รู้หน่อยสิครับ” สายตาประกายวิบวับส่งไปให้อ้อนรักที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ตรงซุ้มถ่ายรูป แต่เมื่อเห็นเจ้าบ่าวเดินมาหญิงสาวกลับสับขาเลี่ยงหลบไปเสียอย่างนั้น
“อ่าว...น้องอ้อนไปไหนครับ” สาวสวยของเขารีบวิ่งหลบไปอีกฝั่งไม่ให้เจ้ารามเห็นเธอ แล้วก็สร้างเสียงหัวเราะขบขันให้กับชัยวัฒน์เพื่อนของรามสูรอย่างยิ่ง
“ไอ้เล็ก...เมิงทำอะไรอยู่”
“ดูเด็กมึงขี้อายชะมัด แต่งตัวซะสวยรีบวิ่งไปโน่นแล้ว” รามสูรมองตามมือเพื่อนที่ชี้ไปตามไอ้ตัวเล็กที่วิ่งเล่นอยู่บ้านเขามาตั้งแต่เด็กแล้วก็ยิ้มขำ
“มึงห้ามจีบอ้อน...น้องกู” เมื่อเห็นดวงตาของเพื่อนแล้วเขาก็ไม่ไว้ใจ
“เอ้าไอ้นี่หวงก้างว่างั้น”
“มึงเลว...เดี๋ยวทำน้องกูเสียใจ”
“กล้าพูดมากเพื่อนรัก...พ่อแสนดี...กูจะคอยดูว่าดีแตกเมื่อไหร่” ชัยวัฒน์แม้เป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ชอบหลีหญิงแต่เขาก็ไม่เคยทำใครเสียใจ เพราะไม่เคยจริงจังกับใคร
แต่ดูเหมือนเพื่อนเขานี่สิ มันจะไม่รู้ว่ายายเด็กอ้อนรักนั่นน่ะ แอบรักมันอยู่ คิดแล้วก็ส่ายหน้า
“แล้วมึง เจ้าสาวไปไหนใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว” วันนี้เขายังไม่เห็นเจ้าสาวแม้แต่เงา ไม่รู้ว่าไปแต่งหน้าที่ไหนรถติดมาไม่ทันหรือเปล่า
“เดี๋ยวคงมา ฝนอยากแต่งหน้าที่คอนโดเพราะเขานอนบ้านกูกลัวตื่นเต้นนอนไม่หลับ”
คนที่เมียกำลังจะหายไปแบบกะทันหันนั้นยังยิ้มดีใจเพราะใกล้ถึงฤกษ์แต่งแล้ว วันนี้เขาและปลายฝนจะได้ลงหลักใช้ชีวิตคู่กันเสียทีหลังจากดูใจกันมาสองปี และคิดไว้ว่าจะให้เธอทำงานอีกไม่นานแล้วลาออกมาอยู่บ้านเป็นแม่บ้านคอยเลี้ยงลูก ๆ ของเขาเต็มตัว
“เออ...กูว่าโทรหาหน่อยดีกว่าใกล้เวลาเต็มทีแล้ว” อีกแค่ชั่วโมงเดียวแต่ยังไม่เห็นเงาเจ้าสาวเลยมันแปลกไปหน่อยหรือเปล่า ชัยวัฒน์เริ่มตงิดใจชอบกล ที่จริงเจ้าสาวควรจะมาบ้านเจ้าบ่าวนานแล้ว แม้ว่าจะไม่มีพิธีแห่ขันหมากเพราะบ่าวสาวไม่ชอบ เพียงแต่พิธีการอื่นยังไม่ได้ถูกตัด
“เออ...กูโทรแล้ว” แม้ว่าจะกังวลใจ แต่เจ้าบ่าวก็พยายามทำใจดีสู้
ก่อนแต่งแทบไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างเป็นเขาที่จัดการเอง เพราะเธอติดงานและลาไม่ได้ เขาเองก็เข้าใจดี
....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
รามสูรใจสั่นเมื่อโทรไปหลายสายก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าสาวของตนได้
[คอนโด...ปลายฝัน]
“อดัม...คุณปล่อยฉันไปเถอะฉันต้องไปแต่งงาน” ปลายฝนที่อยู่ในชุดไทยพร้อมจะไปงานแต่ง แต่เมื่อเปิดประตูมาก็พบเข้ากับหนุ่มเศรษฐีอาหรับที่เธอเคยเดตด้วย แต่ทว่าเขากลับคิดจริงจังกับเธอ จนรู้ว่าเธอมาแต่งงานและก็มาดักฉุดเธอหมายจะให้กลับไปกับเขา
“ไม่...คุณต้องกลับไปกับผม”
………
รามสูรใจเต้นระรัวขึ้นทุกขณะที่ติดต่อปลายฝนไม่ได้ ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 20 นาทีแล้ว
“รามลูกหนูฝนติดปัญหาอะไรไหม...แขกผู้ใหญ่รอกันเต็มไปหมดแล้ว”
“คุณย่าครับ...เลื่อนออกไปเป็น 10 โมงนะครับ ผมจะไปดูปลายฝนที่คอนโด” เขากำโทรศัพท์แน่น สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวเธอเกิดอุบัติเหตุ
“ให้คนอื่นไปดูดีไหมลูก...รามอยู่ทางนี้ดีกว่า”
ชัยวัฒน์เริ่มกังวลใจแทนเพื่อน แล้วก็อาสาไปเองเมื่อคุณย่าพูดขึ้น จนเวลาเลยฤกษ์แต่งงานไปแล้ว เงาของเจ้าสาวก็ยังไม่โผล่มาที่งานแต่ง
อ้อนรักที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นสีหน้าของรามสูรเครียดแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปหา กลัวเขาจะไล่ส่งออกมาจึงทำได้แค่ยืนอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ
เวลาผ่านไปจนสุดท้ายคุณย่าสร้อยระย้าแจ้งแก่แขกว่ายกเลิกงานแต่งงาน เพราะเจ้าสาวเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน แต่ทว่าเจ้าบ่าวกลับไม่ได้ไปหาเจ้าสาวเรียกเสียงซุบซิบนินทาไม่ขาดปาก
อ้อนรักมองรามสูรแล้วเป็นห่วงความรู้สึกของเขาเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อพี่เล็กกลับมาก็รีบปรี่เข้าไปหา
“พี่เล็กเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ”
“เจ้าสาวไม่สะดวกใจจะแต่งงานแล้ว”
“พูดเป็นเล่น” อ้อนรักที่ไม่อยากเชื่อว่านี่คือความจริง เธอแอบเห็นเขารักกันหวานชื่นมาหนึ่งครั้งแล้วจะเป็นไปได้อย่างไรกัน มิใช่ว่า...
“พูดจริง...เห้อ...สงสารก็แต่ราม” ชัยวัฒน์พูดแค่นั้นก็จากไป เขาต้องไปให้กำลังใจเพื่อน
จงอรต้องตักอาหารที่ทำเสียมากมายแจกแขกที่กำลังเดินทางกลับตามคำสั่งของคุณสร้อยระย้า โดยมีลูกมือคืออ้อนรักลูกสาวตัวน้อย
“อ้อนไปดูพี่รามแล้วหรือยัง”
“ยังเลยจ้ะแม่”
“ไปดูพี่เขาเสียหน่อยลูก” จงอรสงสารรามสูรที่รักเหมือนลูกเหมือนหลาน มีเรื่องคราวนี้ไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นรามสูรชายหนุ่มแสนร่าเริงที่หยอกเอินลูกสาวของเขาอยู่บ่อยครั้งหรือเปล่า
“ไม่กล้าเข้าไปเลยแม่” อ้อนรักบอกตามตรง ต่อให้สนิทกันแค่ไหน พักหลังมาเธอก็พยายามที่จะอยู่ให้ห่างเขาไว้ เพราะกลัวใจตัวเอง และกลัวว่าปลายฝนจะคิดมากเรื่องเธอและเขา
“ไปเถอะลูกไปให้กำลังใจพี่เขา” จงอรเข้าใจลูกสาวดี พี่ชายคนสนิทคนนี้มีผลต่อจิตใจของลูกสาวเธอมาก แต่เล็กก็คุยเล่นปรึกษากันมาทุกเรื่อง ตอนแรกก็คิดว่ารามสูรจะจีบลูกสาว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เห็นเป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอด ก็เลยคิดว่าคงคิดเพียงพี่น้องกระมัง
แต่แม่ลูกสาวนี่สิคิดไปไกลจนเธอแอบกังวลใจอยู่บ้าง เมื่อรามสูรประกาศว่าจะแต่งงาน ลูกสาวก็ไม่ได้เศร้าอย่างที่คิด จึงเบาใจได้
อ้อนรักวางมือจากในครัวเดินเข้าไปหาคุณย่าสร้อยระย้าที่นั่งดมยาดมอยู่ในห้องรับแขก เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่มันเกิดไปแล้วก็ต้องยอมรับมันให้ได้
“คุณย่าคะ...ขอขึ้นไปหาพี่รามหน่อยได้ไหมคะ” เสียงหวานของอ้อนรักเอ่ยขออนุญาต เพราะขึ้นไปข้างบนแม้จะเคยอยู่บ้างตอนที่พี่รามเรียกไปติวหนังสือ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
“ขึ้นไปดูพี่เขาหน่อยเถอะลูกหนูอ้อน” สร้อยระย้าบอกกับเด็กสาว ดูจากสีหน้าคงเป็นห่วงรามไม่ใช่น้อย ให้เขาขึ้นไปปลอบใจกันดีกว่า
“ขอบคุณค่ะ”