“เธอทำอะไร”
เสียงดุของพี่เพทายดังขึ้นมา พร้อมทั้งเดินตรงเข้ามาหาฉันด้วย
“หนูกำลังเก็บแก้วที่แตกค่ะ”
ฉันก้มเก็บแก้มที่แตก แล้วฉันก็ไม่ได้หันไปมองดูหน้าพี่เพทายเลย
“เก็บทำไม”
“เก็บไปทิ้งค่ะก็หนูเป็นคนทำแตก”
”ช่วยอยู่เฉยๆ ได้ไหมของขวัญ เธออย่าสร้างแต่ปัญหาให้ฉันได้ไหม“
“แต่หนูก็แค่อยากช่วยนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจทำซะหน่อยค่ะ ทำไมพี่เพทายต้องคอยดุหนูตลอดแบบนี้ด้วยคะ”
ฉันถามเพราะฉันยิ่งพยายามทำดีมากเท่าไร ก็ดูเหมือนว่ามันจะดูแย่ลงตลอดเลย
”แม่บ้านกำลังมาเธอช่วยอยู่เฉยๆ จนกว่าแม่บ้านจะมาถึงได้ไหมของขวัญ“
พี่เพทายเน้นเสียงดุบอกฉัน
“แต่ว่า”
“อย่าให้ฉันต้องเอือมกับเธอไปมากกว่านี้เลย”
“พี่เพทายค่ะหนูแค่ทำแก้วแตก หนูไม่ได้ไปฆ่าใครตายซักหน่อย ทำไมต้องดุหนูขนาดนั้นด้วยคะ”
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วเงยหน้าขึ้นมองดูพี่เพทาย ก่อนที่ฉันจะเห็นพี่เพทายในชุดสีดำทั้งหมด เสื้อสีดำที่แนบกับแผ่นหน้าท้องจนเห็นล่องของซิกแพคเป็นลูกๆ ผสมกับผิวที่ขาว แล้วในหน้าที่หล่อคม จนฉันต้องอ้าปากค้างขึ้น เพราะความหล่อของเพทายที่หล่อมากๆ
”แล้วถ้าแก้วมันทิ่มมือ ฉันไม่ต้องมารักษาเธออีกหรอ“
“หนูดูแลตัวเองได้ก็แล้วกันค่ะ”
“หึ หึ”
เสียงขำในลำคอในขณะที่ใบหน้าของเขาก็ยังนิ่งอยู่
”อุ้ย..!!!”
พี่เพทายพูดยังไม่ทันจะจบ แก้วเจ้ากรรมก็ทิ่มมือฉันจริงๆ
“เฮ้อ……ฉันว่าแล้วไง สร้างแต่ปัญหาให้ฉันไม่เลิก เมื่อไรเธอจะเรียนจบซักที เธอจะได้ไม่ต้องมาอยู่เป็นภาระของฉันอยู่แบบนี้”
“โอ้ย..เจ็บ”
ฉันกำมือตัวเองไว้แล้วเลือดก็ไหลไม่หยุด ฉันเจ็บขนาดนี้พี่เพทายยังด่าฉันไม่เลิก แล้วนี่ฉันเพิ่งจะเปิดเรียนวันแรก แต่พี่เพทายก็อยากให้ฉันจบซะแล้ว ก็คงจะเพราะรำคาญฉันมากนั่นแหละ
”ไหนเอามือมานี่“
พี่เพทายยืนมือมาจะจับที่มือของฉัน แต่ฉันดึงมือออกก่อน
”ไม่ !!!“
”อย่าดื้อของขวัญ“
”ไม่ต้องมายุ่งหนูดูแลตัวเองได้“
”ฉันบอกให้เอามือมานี่“
พี่เพทายยังพยายามดึงมือของฉันไป ก่อนจะเห็นว่าเลือดยังไหลไม่หยุด
”แผลแค่นี้ไม่ตายหรอก“
เขาพูดพร้อมกับกดลงไปที่แผลของฉัน
“โอ้ย..แต่หนูเจ็บนะ !! ”
“อย่าคุณหนูมากนัก อย่าลืมว่าเธอมาที่นี่เพื่อดูแลตัวเอง อย่ามาคาดหวังว่าฉันจะต้องดูแลเธอ”
พี่เพทายพูดอย่างชัดเจน นั่นทำให้ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลย ถ้าไม่ใช่พ่อบังคับฉัน ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะอยากอยู่นี่นี่เหมือนกัน พี่เพทายพูดจบก็ปล่อยมือของฉัน แล้วก็เดินออกไปที่หน้าบ้าน ก่อนจะขับรถออกไปในทันที
“ผู้ชายอะไรปากหมาชะมัด ใครอยากจะคาดหวังกันละชิ..”
ฉันพูดกับตัวเอง พร้อมทั้งมองตามท้ายรถของพี่เพทาย ที่กำลังวิ่งออกจากรั้วบ้านไปด้วย ฉันไม่คิดว่าพี่เพทายจะเป็นผู้ชายที่ปากจัดขนาดนี้ เท่าที่ฉันเคยฟังพ่อของฉันเล่า ในความคิดของฉันพี่เพทายคือผู้ชายที่แสนดี แต่ความจริงแล้วเขาคือผู้ชายที่ปากหมาที่สุด แถมยังด่าเก่งอีกต่างหาย ฉันบ่นเสร็จฉันก็เดินไปหยิบพลาสเตอร์ยามาปิดแผล แต่แผลของฉันมันค่อนข้างลึก พลาสเตอร์ยาแค่อันเดียวปิดแล้วเลือดก็ไม่ยอมหยุด ฉันก็เลยปิดไป 2 อัน ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าห้อง
ก๊อกก๊อกก๊อก !!!
ไม่นานามากฉันก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันคิดว่าเป็นป้าแม่บ้านแน่ ๆ ฉันออกไปเปิดประตูให้ ก่อนที่ฉันจะเห็นร่างสูงของพี่เพทาย ยืนอยู่หน้าประตูห้องของฉัน
”ออกมานี่“
เสียงเรียบนิ่งที่บอกฉัน ฉันคิดขึ้นมาในใจเลยทันที ว่าฉันทำอะไรผิดอีกหรือเปล่า
“ค่ะ”
ฉันรับปากพี่เพทาย แล้วฉันก็เดินตามกลังไปที่โซฟา ฉันมองไปเห็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ วางอยู่ข้างๆ กับพี่เพทาย ฉันไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่เท่าที่เห็นมีสำลีแล้วก็คล้ายๆ ที่หนีบอยู่ในกล่องนั้น ฉันเดาว่าหน้าจะเป็นอุปกรณ์การล้างแผลแน่ๆ เพราะฉันเห็นมีขวดยาสีส้มๆ วางอยู่ข้างๆ ด้วย
”เอามือมานี่“
ฉันกำมือลงหลวมๆ ไปที่แผลของฉัน ก่อนที่ฉันจะก้มลงมองดูมัน
“หือ..”
ฉันส่ายหัวเบาๆ ส่งให้พี่เพทาย
“ฉันบอกว่าเอามือมานี่ไง”
เขาพูดเสียงดังจนฉันต้องสะดุ้งขึ้น
“ค่ะ”
ฉันยื่นมือของฉันที่มีพลาสเตอร์ยาติดอยู่ที่นิ้วให้พี่เพทาย
“ใครเขาให้ติดพลาสเตอร์ยาแบบนี้กัน ไม่เคยเรียนมาหรือยังไง ติดแบบนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มันเปลืองเฉยๆ“
เสียงบ่นที่ฉันแทบจะไม่ได้ยิน เพราะตอนนี้ฉันใจจนใจจ่อ มองดูพี่เพทายกำลังแกะพลาสเตอร์ยา ออกจากนิ้วของฉันอยู่ แล้วเขาก็แกะมันแรงมากด้วย จนฉันต้องดึงมือออก
”หนูเจ็บนะ“
”อยู่เฉยๆ“
”โอ้ย..ไม่เอาหนูไม่ทำ“
”ถ้าเธอไม่อยู่นิ่งๆ ฉันจะบีบมันแรงๆ“
เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉัน แล้วเขาก็มองฉันด้วยสายตาที่บาดคม ก่อนที่เขาจะก้มลงไปแกะพลาสเตอร์ยาต่อ
“พี่เพทายจะทำอะไรคะ หนูไม่แกะหนูเพิ่งจะหายเจ็บไปเมื่อกี้เองอ่ะ ไม่เอาหนูไม่อยากแกะ”
ฉันดึงมือของตัวเองมากุมไว้ แล้วเลือดมันก็เริ่มไหลออกมาอีก
“ของขวัญเธอโตแล้วนะ แค่นี้มันไม่ตายหรอก”
พี่เพทายดึงมือของฉันกลับไป แล้วเขาก็จับมันไว้แน่นมากขึ้น เขาก็คงจะกลัวว่าฉันจะดึงมือออกมาอีกนั่นแหละ เขาแกะพลาสเตอร์ยาออกจนหมด แล้วเขาก็หันไปแกะกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นั่นก่อนจะเทน้ำยาลงไป แล้วก็หนีบสำลีขึ้นมา เช็ดลงไปที่แผลของฉัน
”อร้ายยยยย !!!!! แสบมากพี่เพทายไม่เอาหนูไม่ทำหนูแสบ พอแล้วอร้ายยยย !!!!“
”อยู่เฉยๆ“
”ไม่หนูแสบ“
ฉันแสบมากแล้วฉันก็ดิ้นอยู่บนโซฟา เพราะนี่เป็นวิธีที่ทำให้ฉันหายแสบได้ ใช่หรือเปล่าฉันไม่รู้ฉันรู้แค่ว่ามันทำให้ฉันแสบแผลน้อยลง
“ฉันบอกให้เธออยู่เฉยๆ ของขวัญ”
เสียงดุบอกฉันพร้อมทั้งก้มลงทำแผลไปด้วย
“ฮึอ..หนูเจ็บนี่”
“เจ็บก็ดีต่อไปจะได้ไม่ต้องซุ่มซ่ามแบบนี้อีก”
“ชิ..”
ฉันไม่กล้าเถียงเพราะฉันกลัวว่าพี่เพทายจะทำแรง
“นี่ถ้าเธอไม่ดิ้นมันเสร็จไปนานแล้วนะ ไม่รู้จะดิ้งไปทำไม“
พี่เพทายบอกฉันพร้อมทั้งปิดแผลให้ฉันไปด้วย ฉันแอบมองเขาตอนที่ก้มทำแผลให้ฉัน แล้วฉันก็เห็นรอยสักของเขาที่ต้นแขนด้านใน ที่จริงฉันเห็นไปครั้งนึงแล้วละ ตอนที่ฉันไปหาถุงเท้าแล้วพี่เพทายถอดเสื้ออยู่ แต่ตอนนั้นมันไม่ได้ชัดขนาดนี้ ฉันแอบสังเกตดูก็เห็นว่า เป็นชื่อภาษาอังกฤษ ส่วนชื่อของใครฉันไม่แน่ใจ เพราะฉันเองก็เห็นไม่ทั้งหมด
“แค่นี้แหละ”
พี่เพทายพูดพร้อมกับปล่อยมือของฉัน แล้วเขาก็เดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน
“แล้วพี่เพทายจะไปไหนคะ”
“ไม่ต้องยุ่ง !! แค่ล็อกประตูบ้านดีๆ ก็พอ“
เขาตอบมาแค่นั้นก่อนที่หน้าของฉันจะชาไปทันที
“เอ้าคนถามดีๆ”
ฉันบ่นกับตัวเอง แล้วเขาก็ขับรถออกไปนอกรั้วบ้านเลยทันที
“พ่อคะเมื่อไรหนูจะได้รถซักทีคะ”
ฉันโทรหาพ่อทันทีที่ฉันนึกถึงอาการ ที่ฉันเมารถเมื่อตอนหัวค่ำนี้
”พ่อยังไม่ว่างเลยลูกถ้าว่างแล้วพ่อจะรีบไปทำให้“
”แต่ว่า..“
”เอาน๊าหนูไปกับพี่เพทายเขาก็ดีอยู่แล้วนิ พี่เขาก็จะได้ดูแลหนูด้วย แล้วช่วงนี้เพิ่งจะเปิดเทอม มีอะไรก็จะได้ให้พี่เขาแนะนำด้วย“
”พี่เพทายเนี่ยหรอคะแนะนำหนู“
“พี่เขาเก่งนะลูกพี่เขาสามารถดูแลกิจการที่โน่นได้ แทนพ่อของเขาแบบสบายๆ เลยนะ คุณลุงอนุชาอยู่ดูแลกิจการที่อังกฤษได้ แบบไม่ต้องเป็นห่วงพี่เขาเลยแหละ ลูกต้องเอาพี่เขาเป็นแบบอย่างบ้างนะรู้ไหม”
พ่อของฉันชื่นชมพี่เพทาย ทั้งที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าความจริงแล้วพี่เขาใจร้ายกับฉันแค่ไหน แล้วถ้าฉันพูดไปพ่อก็คงจะไม่เชื่อฉันหรอก เพราะเขามองเห็นแค่ความดีของพี่เพทายไปแล้ว