ภริดายิ้มเอ็นดูเจ้าเด็ก พอเห็นเขากระตือรือร้นอยากให้เธอทำให้ หญิงสาวก็ไม่เล่นตัวให้เสียเวลา ภริดาปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วก้มลงไปหาความใหญ่โตที่ตั้งตรงแข็งขึงทันที
“อ่า...พี่ดาครับ” เวทิศครางเสียงแตกพร่า เขาเงยหน้า หลับตา สูดลมหายใจลึก ปากนุ่ม ๆ ลิ้นเล็ก ๆ ของพี่ดาทำให้เขาเสียวไปทั้งลำ
เวทิศกดศีรษะพี่ดาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างลูบไล้ไปตามเนื้อตัวสาว ปบ่อยกายปล่อยใจ ให้พี่ดาจัดการดขาจนแตกซ่านใส่ปากเธอ
ภริดาดูดกลืนน้ำรักสีขาว เลียรอบลำกายแกร่ง ดูดดุนหัวถอกทนทู่ แล้วจุ๊บเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจูบคางของเจ้าเด็ก
“ขับรถไหวมั้ย”
เวทิศสูดลมหายใจลึก เขาก้มลงพูดคลอเคลียปากอิ่ม
“ไหวสิครับ และตอนนี้ผมอยากกลับถึงห้องให้เร็วที่สุด”
เวทิศจัดระเบียบอาภรณ์ท่อนล่างให้เรียบร้อย เขาตั้งใจขับรถตรงดิ่งกลับคอนโด เขาอยากทำอะไรกับพี่ดาอีกเยอะแยะ และอะไรที่เขาอยากทำนั้น ก็มีแต่เรื่องสนุกแสนเสียวและโคตรเร้าใจ
ทว่าในวันที่เราจินตนาการถึงสิ่งที่อยากทำอย่างมีความสุข ก็อาจจะมีเรื่องที่ทำให้เราไม่ได้ทำอย่างจินตนาการไว้โดยที่เราคาดไม่ถึง...
เมื่อเวทิศขับรถกลับมาถึงคอนโด และถอยรถเข้าช่องจอดเรียบร้อยแล้ว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ชายหนุ่มจึงรับสายด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย เพราะหากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย ในช่วงเวลาตีสองตีสามแบบนี้ คนที่โทรหาเขาตอนนี้ก็คงไม่โทรมา
เรื่องราวที่คนปลายสายแจ้งให้เขาทราบ ทำให้สีหน้าและน้ำเสียงของเวทิศไม่ค่อยดีเท่าไร หลังจากวางสายแล้ว เขาหันมาบอกภริดาว่า
“พี่ดาครับ...ผมคงนอนด้วยไม่ได้แล้วนะครับ”
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า มีอะไรจะให้พี่ช่วยก็บอกได้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ดาพักผ่อนเถอะ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
เวทิศดับเครื่องยนต์แล้วส่งกุญแจรถให้หญิงสาว เขาเปิดประตูรถ แต่ยังไม่ทันลงจากรถ ภริดาก็เรียกรั้งไว้ก่อน
“เดี๋ยว...เวจะไปยังไง เอารถพี่ไปสิ”
“ผมจะกลับแท็กซี่ครับ”
“เอารถพี่ไปดีกว่า”
“ไม่เป็นไรครับ เผื่อพรุ่งนี้ธุระไม่เรียบร้อย ผมอาจจะไม่ได้ไปหาพี่ดาที่ร้าน เดี๋ยวพี่ดาจะไม่มีรถใช้ ผมไปก่อนนะครับ”
เวทิศรีบร้อนลงจากรถ เขาเปิดประตูด้านหลังคนขับ หยิบกระเป๋าสะพายและกีตาร์ลงจากรถ
“ผมไปก่อนนะครับ” เวทิศบอกอีกครั้ง ก่อนจะปิดประตูด้านหลังคนขับ แล้วรีบเดินออกไปจากลานจอดทันที
ภริดาเอี้ยวตัวหันไปมองเจ้าเด็กของเธอ มองแผ่นหลังกว้างที่ห่างออกไปทุกที
เกิดคำถามมากมายขึ้นในหัว...เขาไปไหน มีธุระอะไร หรือเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมเขาถึงไม่ยอมบอกเธอ
อันที่จริงแล้ว เธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาด้วยซ้ำ มีแต่เขาที่รู้จักเธอทุกอย่าง ทั้งร้าน บ้าน ญาติพี่น้อง และผองเพื่อน
ภริดาขมวดคิ้วครุ่นคิด...เพราะเธอไม่ถาม เขาเลยไม่บอก หรือเพราะเขาต้องการปิดบังบางอย่างไว้ เขาจึงไม่บอกเล่าเรื่องราวของเขาให้เธอรับรู้
“วันนี้พายุต้องเข้าแน่ ๆ พี่ดากลับบ้าน”
ภากร...น้องชายวัย 27 ปีของภริดาเอ่ยแซวพี่สาว
“พูดมาก ไอ้คนเมียทิ้ง” ภริดาเบ้ปากดูแคลน
“ทิ้งแล้วก็กลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ ก็ยังดีกว่าคนไม่มีแฟน” ภากรไม่ยอมถูกว่าฝ่ายเดียว เขาเหน็บแนมเอาคืนพี่สาว
“สาธุ...ขอให้เมียแกงอนแล้วหอบผ้าหอบผ่อนหนีกลับบ้านอีก” ภริดาหรือจะยอมให้น้องว่าเฉย ๆ เรื่องเถียงกับน้องชายนี่ เธอถนัดนักล่ะ และเธอก็ไม่เคยเถียงแพ้
“บ้านอยู่ใกล้แค่นี้ รั้วบ้านก็ติดกัน หนีไปเถอะ ยังไงผมก็ตามเจอ แล้วพี่ดาล่ะ...ตามหาว่าที่สามีเจอหรือยัง หรือว่าเขายังไม่เกิด”
“ไอ้...”
“พี่ดาขา คิดถึงจังเลยค่ะ”
ไข่มุกเดินออกมาจากครัว พอเห็นพี่ดากลับมาบ้าน เธอก็โผเข้ากอดพี่สามีด้วยความคิดถึง
ไข่มุก...ภรรยาของภากร เป็นน้องสาวบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เธอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 2 ภากรและไข่มุกแต่งงานกันตั้งแต่ปีที่แล้ว
“พี่ก็คิดถึงน้องมุกจ้ะ”
ภริดาโอบกอดน้องสะใภ้ด้วยความรักใคร่เอ็นดู เธอรักไข่มุกเหมือนดังว่าเป็นน้องสาวจริง ๆ
“คืนนี้ไข่มุกนอนกับพี่นะจ๊ะ พี่มีเรื่องจะเมาท์”
ไข่มุกคลายอ้อมแขนออกจากพี่ดา เธอยิ้มแหยให้พี่สามี แล้วหันไปมองหน้าสามี
“ไม่ได้ครับ ผัวกับเมียต้องนอนด้วยกัน คนไม่มีผัวก็เชิญนอนคนเดียวไปเลยครับ”
ภากรคว้าเอาภรรยามากอดอย่างหวงแหน
ภริดาเบ้ปากใส่
“ทีตอนนั้นล่ะผลักไส มาตอนนี้หวงยังกะอะไร หมั่นไส้”
ก็จะไม่ให้หมั่นไส้ได้อย่างไร ตอนที่ต้องแต่งงานกับน้องมุกเพราะเกิดเรื่องเข้าใจผิด ทำให้ทุกคนคิดว่า ภากรและไข่มุกมีอะไรกันแล้ว พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายจึงจับทั้งสองแต่งงานกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว เจ้าสาวควรจะเป็นมรกต...พี่สาวของไข่มุก แต่เรื่องราวก็กลับตาลปัตรไปหมด กว่าจะเข้าใจกัน กว่าทุกอย่างจะลงตัว น้องมุกก็บอบช้ำไม่น้อย แล้วตอนแรกน้องชายของเธอไม่ได้รักน้องมุก แต่พอรักแล้วก็ติดน้องและหวงน้องจนน่าหมั่นไส้