"ยังเหลือตรงไหนอีกไหม?" อดัมมายืนถามข้างโซเฟีย หลังจบพิธีทำบุญเมื่อช่วงเช้าพวกแม่บ้านและคนงานรีบจัดการทำความสะอาดรอบพื้นที่
แต่เขายังไม่เห็นเธอไปนั่งพัก เพราะมัวตามเช็ครายละเอียดอย่างที่ดาริณสั่งงานไว้ ซึ่งตอนนี้พวกท่านเดินทางไปสนามบินแล้ว
"เหลือแค่ไปเคลียร์ค่าของไม่กี่อย่างค่ะ แต่เดี๋ยวโซเฟียค่อยไปดีกว่า" ตอนนี้เธอยังติดช่วยงานแม่บ้าน ยังต้องเก็บสิ่งของวางระเกะระกะไม่เป็นที่ เผื่อไม่มีใครรู้ตำแหน่งเดิมของพวกนั้น
"แล้วดอกไม้ตะกร้านี้ล่ะ จะทิ้งไหมพี่จะให้คนมาช่วยยก"
"ไม่ทิ้งเด็ดขาดนะคะ มันยังไม่ช้ำเลย...น่าจะเอามาใส่แจกันตั้งโชว์ได้อีกหลายวันเลยค่ะ" ร่างบางรีบเดินไปยังตะกร้าไม้สานสูงระดับเกือบถึงเอว เธอยังเห็นดอกลิลลี่สีขาวสดใสราวกับวันแรกที่เก็บมา ดูเหมาะจะใส่แจกันโทนสีทองอร่ามเข้ากับโซนห้องนั่งเล่น
"ทำอย่างที่บอกก็ได้"
"ว่าแต่เอกสารของโรงบ่มไวน์ คุณวินเนอร์อ่านหมดหรือยังคะ พรุ่งนี้มันถึงกำหนดส่งบริษัทเข้ามาตรวจเช็คแล้ว" นอกจากคอยช่วยงานในคฤหาสน์แล้ว โซเฟียยังมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการของโรงงานผลิตไวน์ ในเครือของครอบครัววินเนอร์
ถึงแม้จะไม่อยากเจอหน้าเขาอีก ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องร่วมงานกัน ต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้เป็นมืออาชีพ
"พี่ก็กำลังตามให้อยู่นะ แต่คุณชายคงจะติดเรื่องขนส่งต่างประเทศเลยไม่ว่างอ่าน"
"หื้ม...งานของโซเฟียก็สำคัญนะคะ ขืนไม่ส่งเขาพรุ่งนี้ โรงงานเราจะไม่ได้รับรางวัลที่สุดของปีนะ" เธอรีบจัดการนำดอกไม้ใส่แจกัน ไล่ความสูงแล้วแซมด้วยเดซี่เล็กๆ น่ามอง
"กำหนดพรุ่งนี้ใช่ไหม?" อดัมถาม
"ใช่ค่ะ เอางี้ดีกว่า..เดี๋ยวโซเฟียเอาเอกสารไปที่โรงงานด้วยเลย ไหนๆ ก็จะไปเคลียร์ค่าของทำบุญแล้ว"
"ให้คนตามไปด้วย" อดัมเอ่ยเตือน
"ทุกคนกำลังยุ่งกันหมดอย่าไปเพิ่มงานดีกว่าค่ะ แต่โซเฟียฝากพี่อดัมเอาแจกันไปไว้ที่หน่อยนะ เผื่อคนอื่นมาชนมันหล่นแตก"
"ได้ ระวังตัวด้วยล่ะ" คนพูดมองตามหลังร่างบางอย่างเสียดายความรู้สึกนึงในใจ ก่อนจะโน้มตัวนำแจกันดอกไม้ไปวางที่ตำแหน่งของโซเฟียบอก
ตึก! ตึก! ตึก!
"หื้ม...." เสียงฝีเท้าสะท้อนรับกับปลายเท้าเล็ก ส่งสัญญาณให้รู้ว่ามีคนลอบติดตามเธอมาห่างๆ
โซเฟียพยามตั้งสติและจับผิดสัญชาตญาณอันตรายนั้น โชคดีที่เคยฝึกวิชาป้องกันตัวไว้บ้างจากกลุ่มบอดี้การ์ด
"....." เธอยังต้องเดินไปไกลอีกก้าว กว่าจะถึงโรงบ่มไวน์ทางด้านหลังคฤหาสน์ แต่รอบพื้นที่จะเริ่มเข้าสู่ไร่องุ่น เลยไม่ค่อยมีคนตรวจความปลอดภัยเท่าไหร่นัก
"โซเฟีย..." เสียงเรียกของสตรีมีอายุ ทำเจ้าของชื่อเริ่มลังเลชะลอฝีเท้าเดินให้ช้าลง
"โซเฟียลูกแม่...."
"คุณเรียกฉันหรอคะ?" ร่างบางรีบมองตามต้นกำเนิดเสียง พบหญิงวัยห้าสิบปีกว่าร้องไห้อาบเต็มสองแก้ม
"ลูกแม่...จำแม่ไม่ได้จริงๆ น่ะเหรอ?"
"คุณเป็นแม่โซเฟีย..?" เสียงหวานเอ่ยยากเย็น เธอจำท่านไม่ได้เลยสักนิดตามประสาเด็กอายุห้าขวบ นับตั้งแต่วันที่มาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้
สิ่งนึงที่ยังหลงเหลือในความคิดคือ ภาพที่หญิงสาวมาส่งเธอให้อยู่ในการอุปการะของดาริณแค่เท่านั้น
"แม่เองไงโซเฟีย ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ไม่มีวันไหนเลยที่แม่ไม่คิดถึงลูก...แม่อยู่ไม่ได้ใจแทบขาดเหลือเกิน" เดซี่โผกอดลูกสาวแน่น
"คุณเป็นแม่โซเฟียจริงๆ ใช่ไหม ทำไมถึงไม่ติดต่อมาบ้างเลย" ข้อความหลากหลายพร้อมความสับสน ทำร่างบางยังยืนนิ่งปล่อยให้เดซี่โอบกอดเพียงคนเดียว
"ลูกก็รู้ว่ากฏหมายที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ขืนแม่ติดต่อมายุ่งอีก...ลูกจะโดนอะไรบ้าง แม่ทำไม่ได้หรอก"
"แล้วแม่เพิ่งมาทำไมตอนนี้คะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?" เธอจับแขนผู้ที่กล่าวอ้างว่าเป็นมารดา สำรวจใบหน้าท่านก็คับคล้ายผู้หญิงเมื่อหลายปีก่อน
"แม่รู้ว่ามันจะถึงกำหนดปล่อยตัวลูกแล้ว เราจะได้เป็นอิสระ กลับไปใช้ชีวิตกันแม่ลูกสักที"
"คุณพูดเรื่องจริงทั้งหมดใช่ไหม ไม่ได้หลอกให้โซเฟียดีใจไปเองใช่หรือเปล่า?" พอรับรู้ว่าอย่างน้อยเธอจะไม่เหลือตัวคนเดียวหลังออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ รอยยิ้มกว้างก็เกิดบนใบหน้าสวย รีบโอบกอดเดซี่เสมือนว่าท่านคือโลกทั้งใบที่รอเจอ
"แม่ไม่ได้หลอกลูกเลยนะโซเฟีย แม่ตั้งใจมารับเราจริงๆ"
"โซเฟียดีใจจังเลย แค่รู้ว่าแม่ไม่เคยลืมโซเฟีย มันก็ดีมากขนาดไหนแล้ว"
"แต่โซเฟียต้องสัญญากับแม่ก่อนนะ ห้ามบอกใครว่าเราเพิ่งเจอกันจนกว่าจะถึงกำหนดปล่อยตัวลูกนะ"
"ทำไมคะ?" เธอผละอ้อมกอดมามองหน้าเดซี่
"เพราะยังไม่หมดเวลาของกฏหมาย แม่อาจจะถูกจับตัวก่อนเราได้ไปใช้ชีวิตสองคนแม่ลูกนะโซเฟีย"
"ได้ค่ะ โซเฟียจะไม่บอกใคร แม่เชื่อใจแล้วต้องมารับโซเฟียจริงๆ นะคะ" เธอรีบกระชับอ้อมกอดอีกครั้ง มันรู้สึกดีเกินคำบรรยายพอได้รู้ว่ามีมารดาสายเลือดตัวเอง ยังรักและคิดถึงเธออยู่ตลอดหลายปี