ลูกศร - ไม่เหลือใคร

1785 Words
13 [ลูกศร] ไม่เหลือใคร พี่ปริญหันกลับมามองหน้าฉันด้วยสายตาราบเรียบ ถึงแม้ใบหน้าเราจะใกล้กันแค่ไหน แต่สายตาของเขายังนิ่งสนิท แต่เรื่องความหล่อเรื่องนี้ฉันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เขาหล่อมาก ตาของเขาสวยกว่าผู้ชายทุกคนที่ฉันเคยเห็น จมูกโด่งได้รูป และริมฝีปากก็สวยน่าจูบ... ฉันเคลื่อนไปจ้องริมฝีปากคู่นั้น ใช้สมองอันหนักอึ้งนึกถึงสัมผัสที่เคยผ่านมา เคยจูบ เคยงับริมฝีปากล่าง และริมฝีปากคู่นั้นก็เคยมอบความสุขมหาศาลกลางหว่างขาของฉันจนเสียวสะบั้น แต่แล้วริมฝีปากคู่นั้นก็เอ่ยบางสิ่งออกมา... "คำพูดของเธอ น่าเกลียดกว่าอ้วกของเธออีกนะ..." "นี่!" ฉันชี้หน้าเขาทันทีอีกนิดก็เฉียดปลายจมูก แต่ทว่าสายตาเย็นชาคู่นั้นไม่สะทกสะท้านใดๆ เขาแค่เคลื่อนสายตาไปมองปลายนิ้ว และเคลื่อนกลับมามองหน้าฉันโดยไร้ความรู้สึก 'ติ๊ง~' เมื่อประตูลิฟต์เปิดร่างสูงก็หันหลังเดินออกไป แต่ฉันรีบกดปุ่มไว้ยื้อเวลาอีกนิด เพื่อทำเรื่องที่โง่ที่สุดในชีวิตที่เคยทำ ใช่ ฉันกำลังแกล้งเป็นลม... เท้าเริ่มเซไปข้างๆมือทาบผนังลิฟต์ดังปึง! ที่ทำเสียงดังเพื่อให้เขาได้ยิน และเมื่อพี่ปริญยอมหันกลับมาก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง ฉันก็ค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้นที่น่าขยะแขยงนั่น และหลับคอพับลง 'ตึก ตึก ตึก' มีเสียงรองเท้าก้าวเข้ามาในลิฟต์ กลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวเริ่มชัดขึ้น... รวมถึงเสียงลมหายใจที่ถอนออกมาบางเบา มันใกล้จนฉันเดาได้ว่าเขานั่งยองๆลงตรงหน้า และเริ่มโน้มมาหา "จิ้งจก..." "O_O" "กรี๊ดดดดดดดด" ฉันไม่สนสี่สนแปดโผไปหาเขาอย่างรวดเร็วแล้วรีบชักขากลับ นั่งพับเพียบอยู่กลางลิฟต์สวมกอดเขาหน้าแนบอกพลางกวาดตามองรอบๆทั้งกลัวทั้งขนลุก จิ้งจกมันเป็นสิ่งที่ฉันรังเกียจที่สุดในโลก มันอยู่ไหน? คอนโดราคาขนาดนี้ปล่อยให้มีจิ้งจกได้ไง! "มันอยู่ไหน อยู่ไหน บอกมานะ! มันไปไหนแล้ว!" เขาไม่ตอบ มีแค่ฉันคนเดียวที่ทั้งกอดทั้งมองรอบๆไม่วางตา จนสุดท้ายรู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงหันไปมองหน้าพี่ปริญขวับจนสบตากับเขา สองแขนยังกอดอยู่แบบนั้น... ผู้ชายคนเดิมที่คุ้นเคยกัน แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกแปลกๆขึ้นมา... "นี่หลอกฉันเหรอ?" "อย่าทำแบบนี้อีก กลับไปซะ" ว่าจบเขาก็แกะมือฉันออกแล้วลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งฉันนั่งโง่งมอับอายอยู่บนพื้นลิฟต์สกปรกคนเดียวจนประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลงอีกครั้ง สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายฉันก็โมโหฟึดฟัดจำใจลุกขึ้นยืนโซเซ และลากเท้าที่สวมรองเท้าส้นเข็มไปกดลิฟต์ลงไปที่ชั้นหนึ่งซึ่งเป็นชั้นล็อบบี้ 'ติ๊ง~' "คุณลูกศรใช่ไหมครับ" ฉันก้าวออกมาจากลิฟต์เจอกับพนักงานใส่สูทเซ็ตผมเรียบมายืนดักรอ อะไรกัน... นี่ถึงขั้นแบล็กลิสต์กันเลยเหรอ "ใช่ฉันเอง มีอะไร?" "คุณหมอปริญเรียกบริการคนขับรถให้คุณครับ คุณดื่มมาคงขับรถไม่ไหวใช่ไหมครับ..." ฉันลอบหัวเราะเหอะ ก็ไม่ได้ใจด้านใจดำนี่ "ไม่เป็นไรฉันขับได้ ฉันสร่างเมาแล้ว" "เอ่อ... คือ" ความอ้ำอึ้งของพนักงานและสภาพฉันตอนนี้ทำให้ฉันเริ่มหงุดหงิด "นี่ ยืนบื้ออยู่ทำไม? ฉันใช้บริการฝากจอดรถ และรถฉันทะเบียนxxxx ไปขับรถมาฉันจะกลับบ้าน!" "ครับๆ" พนักงานรีบหันกลับและเดินเร็วๆกลับไปที่ล็อบบี้ ก่อนที่จะยกหูโทรศัพท์ประสานงานอย่างร้อนรน ส่วนฉันเดินไปนั่งไขว่ห้างรอที่โซฟา จนสักพักมีคนเอากุญแจรถมาให้ฉัน รถถูกขับมาจอดที่หน้าประตูแล้ว โชคดีที่ยังเช้ามากไม่มีคนพลุกพล่าน ฉันจึงใช้โอกาสนี้รีบสับรองเท้าส้นเข็มที่สมบุกสมบันของตัวเองเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ และรีบขับกลับบ้านทันที แต่... ไม่ถึงบ้าน... •••♡••• โรงพัก "คุณเมาแล้วขับนะครับ รู้ไหมว่ามันอันตราย ดีนะที่ชนตู้ไปรษณีย์ถ้าชนคนขึ้นมา..." "ก็ไม่ชนคนไง ฉันแค่วูบหลับไปแป๊บเดียว จะปรับเท่าไหร่ ค่าเสียหายกี่บาทก็พูดมา" "นอกจากปรับ ตามกฎหมายเราต้องฝากขังคุณหนึ่งวัน หรือไม่ก็จนกว่าคุณจะสร่างเมาครับ" 'ปึง!' ฉันตบโต๊ะจนคนทั้งโรงพักหันขวับมามอง "รู้ไหมว่าฉันลูกใคร" "รู้ครับ รู้ดีเลยครับ คุณลูกศรทายาท ZER Group แต่คุณต้องเข้าใจว่าเราเป็นตำรวจ เกิดเหตุขึ้นแบบนี้เราต้องทำตามหน้าที่ครับ" "จะให้ฉันไปนอนในห้องขังสกปรกๆนั่นฉันทำไม่ได้หรอกนะ! จะเอาเงินเท่าไหร่ว่ามา!" ฉันปวดท้ายทอยเพราะหลับในหักพวงมาลัยไปชนกับตู้ไปรษณีย์ที่ตั้งโง่ๆอยู่ริมถนน ตัวมีแต่คราบไวน์ที่ย้อนออกมาจากคอตัวเอง ถ้าต้องถูกขังในสภาพนี้ฉันจะทำให้โรงพักนี้ฉิบหายวายป่วงเลยคอยดู "แต่กฎหมาย..." "ฉันถาม...ว่าจะเอาเท่าไหร่" "ไม่ได้จริงๆครับ" "งั้นคุยกับพ่อฉัน พ่อ..." "ถ้าเป็นคุณเซอร์ ท่านบอกให้ผมทำตามกฎหมายครับ" คุณพ่อ!!! ฉันมีพ่อไปทำไมเนี่ย!!! ความโมโหของฉันทำให้สร่างจากความเมาและความง่วง ฉันกัดฟันถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะคว้ามือถือออกมากดโทรหาคนที่เอ่ยถึงเมื่อกี้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวพร้อมระเบิด CALLING | DAD (ว่าไงลูกศร) "คุณพ่อทำแบบนี้ทำไม ช่วยหนูได้ทำไมไม่ช่วยคะ" (เราไม่ใช่เด็กแล้วนะลูกศร) "คุณพ่อ!" (บอกกับพ่อมาตลอดไม่ใช่เหรอว่าโตแล้ว รับผิดชอบตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ลูกศรต้องรับผิดชอบตัวเอง ทำผิดก็ว่าไปตามผิด) "แต่มันเป็นห้องขังนะ จะไม่ใจร้ายกับลูกสาวที่ทำขึ้นมาหน่อยเหรอ?!" (พ่อต้องวางแล้ว สงบสติอารมณ์แล้วจะรู้ว่าเราทำอะไรผิด) "คุณพ่อ!" พอคุณพ่อตัดสายฉัน ฉันก็โทรไปหาคุณแม่ แต่ท่านไม่รับสายเลย ฉันเชื่อว่าคุณพ่อต้องเป็นคนบงการเมียไม่ให้รับสายอีกคน ส่วนลูกโซ่ยัยนั่นโทรไม่ติดตามนิสัยของนาง ถ้านอนอยู่ยัยนั่นจะเปิดโหมดห้ามรบกวนหนีทุกสิ่งทุกอย่าง ใครตายก็รอตื่นก่อนเถอะถึงจะรับรู้ ส่วนเพื่อนฉันพวกนั้นไม่มีใครรับสายสักคน ที่ดื่มๆกันมาอาจจะเมาและนอนหมดสภาพกันอยู่ ใช่... คุณหนูไฮโซอย่างฉันต้องไปนั่งอยู่ในห้องขังจนกว่าจะสร่างเมา และแอลกอฮอล์เป็นศูนย์... "จะโทรหาใครอีกไหมครับ" ฉันกลอกตามองบนเอนพิงพนักเก้าอี้ ตอนนี้ฉันไม่นึกถึงใครเลยนอกจากเขา ผู้ชายที่อยู่กับฉันทุกสภาพ ผู้ชายที่ไม่เคยว่าที่ฉันเมาเละเทะแต่คอยกวาดล้างเช็ดถู คอยเป็นราชรถขับรถให้ คอยอุ้มฉันขึ้นเตียง เช็ดตัว เช็ดอ้วก ปลุกไปเรียน ไปรับไปส่ง ทำทุกอย่างให้ฉัน... ฉันจึงเข้าไลน์อีกครั้ง มือสั่นใจชาเล็กน้อย ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าไลน์ถูกบล็อกอยู่ แต่ก็อยากพิมพ์ทิ้งไว้... LINE | P.RIN 911 Ls. : share location Ls. : เพราะพี่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปล้างหน้า ฉันเลยหลับในขับรถชนและโดนตำรวจจับ รู้สึกผิดด้วยนะ พี่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ •••♡••• [Special Part] ที่ลูกศรโทรหาน้องสาวไม่ติดเพราะเธอกำลังเร่งโทรหาใครบางคนต่างหาก ก่อนหน้านี้ลูกโซ่แอบฟังพ่อของเธอคุยโทรศัพท์ จนได้ยินบางอย่างเข้า 'เราไม่ใช่เด็กแล้วนะลูกศร' 'บอกกับพ่อมาตลอดไม่ใช่เหรอว่าโตแล้ว รับผิดชอบตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ลูกศรต้องรับผิดชอบตัวเอง ทำผิดก็ว่าไปตามผิด' คนตัวเล็กเกาะขอบประตูชะเง้อเข้าไปในห้องทำงาน พ่อของเธอกำลังวางสายแล้วยกมือนวดหว่างคิ้วอย่างเคร่งเครียด คนเป็นพ่อลำบากใจที่ต้องทำแบบนี้ แต่ก็อยากให้ลูกสาวได้เรียนรู้ถึงผลลัพธ์ที่ทำอะไรตามอารมณ์ตัวเอง "เกิดอะไรขึ้นคะ" คนเป็นแม่ถาม "ลูกศรเมาแล้วขับ ขับรถชนตู้ไปรษณีย์ ตอนนี้โดนตำรวจจับที่ สน.xx" ลูกโซ่ยกมือปิดปาก พร้อมกับแม่ของเธอที่ยกมือทาบอกด้วยความตกใจ แต่ขณะนั้นมือถือที่วางอยู่ก็แผดเสียงดังขึ้นมาจนคนเป็นแม่หันไปมอง และตั้งท่าจะเดินไปรับ แต่ถูกสามีคว้ามือไว้ก่อน "อย่ารับ อยู่เฉยๆ" "อะไรคะ? ลูกเราจะเป็นอะไรไหม ฉันจะไปหาลูกค่ะ ฉันเป็นหมอนะลูกเราเกิดอุบัติเหตุต้อง consult" "ไม่ต้อง ฉันถามตำรวจแล้วลูกศรไม่ได้รับบาดเจ็บ บางอย่างลูกศรต้องเรียนรู้ ลูกเราไม่ใช่เด็กๆที่จะโอ๋ทุกอย่าง ฉันแค่ให้ตำรวจฝากขังไว้สองชั่วโมงเดี๋ยวไปรับ" ฝาแฝดคนน้องรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นและถูกขังไว้สองชั่วโมง ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของเธอกับลูกศรต้องย่อยยับแน่ๆ คนตัวเล็กรีบวิ่งขึ้นบันไดกลับห้อง กดโทรหาคนสำคัญที่อาจจะช่วยได้และทำให้ลูกศรอารมณ์ดีขึ้น ก่อนที่สงครามเย็นจะเกิด (ครับ) "พี่ปริญคะ ช่วยพี่ลูกศรด้วย พี่ลูกศรขับรถชนแถวๆคอนโดพี่ และโดนตำรวจจับด้วยค่ะ พี่ลูกศรต้องการพี่นะคะ" (...) ปลายสายเงียบ "พี่ปริญ ยังอยู่ไหมคะ" (น้องลูกโซ่ รู้เรื่องพี่กับลูกศรด้วยเหรอครับ...) ปริญถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ต่างจากอีกคนที่ร้อนรนยืนไม่ติดเพราะเป็นห่วงพี่สาว "รู้ค่ะ คุณพ่อก็รู้ คุณพ่อกำลังดัดนิสัยพี่ลูกศร ลูกโซ่ไม่อยากให้พี่ลูกศรเข้าไปอยู่ในห้องขัง พี่ปริญช่วยไปดูพี่ลูกศรได้ไหมคะ ประกันออกมาหน่อยนะ ถ้าปล่อยให้ฝากขังแบบนั้นพี่ลูกศรกลับบ้านต้องทะเลาะกับคุณพ่อแน่ๆ พี่ลูกศรต้องหนีกลับอังกฤษอีก และไม่กลับมาอีกแน่ๆ" (...) "พี่ปริญ..." (ขอโทษด้วยครับ พี่คงช่วยอะไรไม่ได้)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD