EP. 1 คืนฝนตกกับเธอที่ไม่ควรมีตัวตนอยู่ตรงนี้

1491 Words
เสียงฟ้าร้องคำรามสะเทือนหุบเขา สายฝนเทกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าสะอื้นให้กับคืนที่เงียบงัน ในเมืองเชียงใหม่ที่ผู้คนกำลังเร่งรีบกลับบ้านกัน หลังร้านรวงปิดตัวลง… มีร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่นยังคงเปิดไฟอยู่เพียงลำพัง “อบเชย & นลิน” ป้ายไม้สลักชื่อร้านแขวนไว้อย่างเรียบง่าย ข้างในอบอวลไปด้วยกลิ่นขนมปังสดใหม่และอบอุ่นจากเตาอบ หญิงสาวร่างบางคนหนึ่งกำลังเช็ดเคาน์เตอร์อย่างเงียบงัน ขณะที่เสียงหัวเราะเล็ก ๆ ดังมาจากเด็กชายตัวน้อยที่กำลังระบายสี ในมุมเด็ก ของร้าน มีโต๊ะไม้เตี้ย ๆ วางกล่องสีไม้ ดินสอ และกระดาษเปล่า เด็กน้อยในวัยประมาณห้าขวบ นั่งอยู่บนเบาะกลม ลากดินสอระบายสีลงบนภาพวาดซูเปอร์ฮีโร่ที่เขาเพิ่งจินตนาการขึ้น เขาไม่ได้เสียงดังวุ่นวายเหมือนเด็กวัยเดียวกันทั่วไป แต่กลับนิ่ง เงียบ และมีสายตาเฉียบคมอย่างน่าเอ็นดู ริมฝีปากเล็กเม้มแน่นตอนเขาตั้งใจ นลินแอบมองลูกจากหลังเคาน์เตอร์ ดวงตาเธอนุ่มลึก เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน เด็กชายคนนั้น คือโลกทั้งใบของเธอ “ปรีย์” เป็นชื่อที่เธอเลือกเอง หลังจากตัดสินใจหนีมาใช้ชีวิตที่นี่ เด็กชายขี้อายแต่ฉลาดเกินวัย เป็นคนเดียวที่ปลุกยิ้มจากริมฝีปากของเธอได้เสมอ ในวันที่ความเศร้ารุมเร้า เขาคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอลุกขึ้นมาอบขนมต่อในทุกเช้า "นลิน" แม่หม้ายสาววัย 29 ปี ผู้กวาดความสดใสและรอยยิ้มหายไปพร้อมกับการจากไปของสามีเมื่อสองปีก่อน เธอเก็บตัวและใช้ชีวิตเงียบ ๆ เพื่อลูกชายเพียงคนเดียว โลกของเธอถูกตัดขาดจากแสงสี...จนกระทั่งเขาเดินเข้ามา เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น “ร้านนี้ยังไม่ปิดใช่ไหม?” เสียงทุ้มต่ำ ห้าวลึก ดังขึ้นพร้อมเงาร่างสูงใหญ่ในชุดสูทดำเปียกฝน เขายืนพิงประตูไม้บานเก่าพลางปลดกระดุมเสื้อคลุมตัวนอก หยดน้ำฝนหยดจากเรือนผมดำขลับเป็นเงา นลินเงยหน้าขึ้น แล้วหัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะ ผู้ชายคนนี้หล่อเหลาราวภาพในฝัน มีประกายอันตรายแผ่ซ่านจากดวงตาสีเทาคมเข้ม เขาดูไม่ใช่คนที่ควรจะมาหลงทางเข้าร้านเบเกอรี่ในซอยเปลี่ยวนี้ โดยเฉพาะในคืนที่ฝนตกแบบนี้ สายตาของเขากวาดมองทั่วร้านเพียงครู่เดียว ก่อนจะสะดุดอยู่ที่...เธอ นลินในวันนี้ สวมเพียงเสื้อคอกลมแขนยาวสีครีมกับกระโปรงผ้าลินินธรรมดา ผมยาวถูกรวบไว้หลวม ๆ ด้านหลังอย่างไม่ประณีต แต่สิ่งที่เธอไม่เคยรู้เลย คือเธอสวยในแบบที่ “ไม่ต้องพยายาม” ผิวขาวอมชมพูที่ไม่แต่งเติม ริมฝีปากระเรื่อธรรมชาติ และแววตาเศร้าแต่เด็ดเดี่ยวของเธอ ทั้งหมดนั้นรวมกันกลายเป็นภาพของผู้หญิงที่ ‘เคยมีใครครอบครอง’ และ ‘เคยถูกทำร้าย’ แต่น่าแปลก ความบอบบางนั้นกลับทำให้เธอดูแข็งแกร่ง และน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน ลีอองมองเธอเหมือนภาพในความฝัน “ขออะไรอุ่น ๆ หน่อย” เขาเอ่ย ก่อนจะเดินตรงมานั่งที่โต๊ะโดยไม่รอฟังคำตอบ นลินรีบจัดการเสิร์ฟโกโก้ร้อนใส่แก้วเซรามิกอย่างเรียบร้อย หัวใจยังเต้นแรงจากแรงดึงดูดที่ไม่รู้ที่มา เขารับแก้วไปถือไว้ในมือหนา แล้วพูดโดยไม่มองหน้าเธอ และในขณะที่เขายกแก้วโกโก้ขึ้นจิบ เขาเหลือบไปเห็นเด็กชายตัวน้อยหันมามองเขาอย่างสงสัย ดวงตาของเด็กคู่นั้น คล้ายมีบางอย่างเฉียบคมเกินเด็กวัยเดียวกัน “ลูกชาย?” “ค่ะ...” นลินตอบเสียงแผ่ว พลางหันไปมองลูกชายตัวน้อยที่กำลังเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ชายแปลกหน้า เขาหรี่ตานิดหนึ่ง ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าเธอ เขายอมรับในใจว่าเด็กคนนี้ได้แววตาแม่มาเต็ม ๆ และในขณะที่บรรยากาศเริ่มจะอึดอัด เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า… “เธอควรปิดล็อคร้านให้เร็วกว่านี้ ซอยนี้ไม่ปลอดภัย” “ฉันไม่เคยมีปัญหาอะไร” นลินเถียงเบา ๆ พลางเบือนหน้าหนีสายตานั้น “แสดงว่าเธอไม่รู้ว่ากำลังอยู่ในเขตของใคร” นลินชะงัก เงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มตาอีกครั้ง และนั่นเองที่เธอเห็นรอยสักบาง ๆ ตรงข้อมือข้างขวาของเขา สัญลักษณ์นั้นคุ้นๆ เหมือนเธอเคยเห็นในข่าวใต้ดิน ในแฟ้มคดีของอดีตสามี และในฝันร้ายของเธอ ชายตรงหน้าที่เธอไม่เคยเจอ คือ "ลีออง เดล รอสโซ" ชื่อที่พวกนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างพากันหวาดกลัว ลูกชายเพียงคนเดียวของ ลูเชียโน เดล รอสโซ มาเฟียเก่าจากอิตาลี ผู้มีชื่ออยู่ในแฟ้มเฝ้าระวังระดับสูงขององค์กรข่าวกรองนานาชาติ แม่ของเขาคือ วิภา อภิรดี หญิงไทยผู้เคยเป็นเจ้าของโรงแรมหรูบนดอยสุเทพในอดีต หญิงสาวผู้ล่วงลับไปพร้อมข่าวฉาวคดีฟอกเงินเมื่อยี่สิบปีก่อน ลีอองเกิดที่เนเปิลส์ แต่โตในฮ่องกง และกลับมา “ฝังราก” ที่ประเทศไทยในฐานะผู้นำคนใหม่ของเครือข่ายใต้ดินระดับภูมิภาค เขาสานต่ออำนาจของตระกูลเดล รอสโซ ผ่านการคุมกลุ่มธุรกิจสีเทาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังขยายอิทธิพลจากฮ่องกงเข้าสู่ไทยอย่างแนบเนียน เขาไม่ได้แค่ “เป็นมาเฟีย” เขาคือศูนย์กลางของขั้วอำนาจใหม่ ที่ไร้ศัตรู...ยกเว้นอดีต นลินจ้องเขาอย่างตื่นตะลึงอยู่ในใจ แม้ภายนอกยังสงบ เธอจำได้ว่าเห็นชื่อเขาในแฟ้มของสามีผู้ล่วงลับ ในหมวดเดียวกับคำว่า "ผู้ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว" แต่ตอนนี้ เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ในร้านของเธอ พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น และสายตาที่เหมือนรู้จักเธอดีเกินไป และเธอรู้ว่าตั้งแต่วินาทีที่เขาเหยียบเข้ามา โลกของเธอจะไม่มีวันกลับไป “เรียบง่าย” ได้อีกเลย เขายกโกโก้ขึ้นจิบ แล้วพูดขึ้นเบา ๆ ขณะจ้องหน้าเธอด้วยแววตาอ่านใจ “ฉันไม่ชอบให้ใครมาจ้องพิจารณาฉัน…โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่ยังไม่รู้จักฉันดี” เสียงฟ้าผ่าลั่นอีกครั้ง นลินยืนนิ่งอยู่กลางร้าน เพียงไม่นานลีอองลุกขึ้นจากโต๊ะหลังจากจิบโกโก้ร้อนหมดแก้ว เขาเดินไปที่ประตูโดยไม่หันกลับ ร่างสูงสง่าในชุดสูทเปียกฝน คล้ายจะละลายหายไปกับเงาสลัวนอกหน้าต่าง แต่ก่อนที่มือเขาจะเอื้อมแตะลูกบิดประตู… “คุณลุงครับ! ลืมเสื้อคลุมครับ!” เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นพร้อมฝีเท้าเล็ก ๆ วิ่งตามมา นลินสะดุ้งตกใจ เธอหันไปทันเห็น ปรีย์ หอบเสื้อคลุมเปียกน้ำ ที่ถูกพาดทิ้งไว้บนพนักเก้าอี้ วิ่งไปทางชายแปลกหน้าด้วยรอยยิ้ม “ปรีย์! อย่าไป!” เสียงนลินดังขึ้นอย่างร้อนรน ขณะที่รีบก้าวออกจากหลังเคาน์เตอร์ แต่ไม่ทัน...เด็กชายตัวน้อยถึงตัวลีอองแล้ว เขาเงยหน้ามองชายร่างใหญ่ด้วยดวงตาใสซื่อ มือเล็ก ๆ ยื่นเสื้อคลุมให้ด้วยความตั้งใจ “คุณลุงเปียกฝน ถ้าไม่ใส่ เดี๋ยวไม่สบายครับ” ลีอองชะงักไปชั่วอึดใจ เขาก้มมองเด็กชายตรงหน้า หัวใจของเขาสั่นสะเทือนอย่างแปลกประหลาด ชายที่เคยชินกับการคุกคาม ปืน และความเงียบ กลับรู้สึกเหมือนถูกเจาะเข้าไปถึงด้านในสุดของตัวตน โดยเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง ที่ไม่รู้จักคำว่า “กลัว” เขาย่อตัวลง รับเสื้อคลุมจากมือเล็ก ๆ และสบตากับปรีย์ใกล้ ๆ เป็นครั้งแรก ดวงตาคู่นั้นคล้ายใครบางคน คล้ายกับผู้หญิงที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ คล้ายกับหัวใจบางส่วนของเขา ที่เคยตายไปนานแล้ว “ขอบใจนะ...ตัวเล็ก” เขาเอ่ยเสียงเบา ก่อนยกมือขึ้นลูบผมของปรีย์เบา ๆ อย่างอ่อนโยนจนนลินที่ยืนมองถึงกับพูดไม่ออก นลินยืนแข็งทื่อ เธอไม่เคยให้ปรีย์เข้าใกล้คนแปลกหน้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ากลับไม่ใช่ภาพของอันตราย หากเป็นภาพที่ทำให้เธอรู้สึก...กลัวอีกอย่างหนึ่งแทน กลัวว่า...ลูกชายเธอจะเผลอผูกพันธ์กับคนที่ไม่ควร และตัวเธอเอง...ก็อาจกำลังจะเป็นเช่นเดียวกัน ลีอองลุกขึ้น ยิ้มมุมปากบาง ๆ ให้เด็กชาย ก่อนเปิดประตูออกจากร้าน ทิ้งกลิ่นโคโลญอ่อน ๆ และบางอย่างที่ยังตกค้างอยู่ในหัวใจของทั้งแม่และลูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD