ครั้งเดียวก็เอียนแล้ว

1371 Words
“สรุปเมื่อคืนแกกับเขาเอากันทั้งคืน” “ฉันพูดตอนไหนว่าเอากันทั้งคืน” “จวบจนรุ่งสาง คืออะไร? อย่ามาแสร้งพูดเป็นกลอนสุนทรภู่ ฉันไม่เก็ทมุก” ปานชีวาตกใจไม่น้อยเมื่อลัลน์ลลิตเล่าให้ฟังว่าเธอประสบอุบัติเหตุ แต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวตกอกตกใจมากกว่าอุบัติเหตุก็คือเรื่องบนเตียงระหว่างลัลน์ลลิตกับพ่อหนุ่มพลเมืองดีนั่น ที่ลากกันมากินตั้งแต่บ่ายยันตีสาม “ฉันไล่แล้ว นายนั่นไม่ยอมกลับ จะเสียบจะเสียบท่าเดียว ก็เลยจัดให้ซะเลย” ลัลน์ลลิตเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ แม้แท้จริงแล้วแอบนึกย้อนกลับไปหลายคำถามที่เขาถามเธอ "อะไรกันที่ทำให้คุณคิดแค่นั้น หมายถึงต้องการแค่เซ็กซ์แต่ไม่อยากสานสัมพันธ์" “เป็นความสัมพันธ์ที่แสนหวานแต่เคลือบด้วยยาพิษสินะครับ” ไร้สาระสิ้นดีตรงที่เธอดันคิดตามคำถามเขาด้วย “เหอะ เชื่อเธอเลย” ปานชีวาส่ายหน้าน้อยๆ แต่ลัลน์ลลิตไม่สนใจเธอเอาแต่ยิ้มอย่างมีความสุข “แล้วนี่มีแรงออกไปไหนมั้ย ฉันจะชวนออกไปกินข้าว” “บ้า ทำไมจะไม่มีแรงล่ะแกก็พูดไป แล้วดูสภาพห้องสิ ก็ต้องออกไปให้แม่บ้านมาทำความสะอาด” ลัลน์ลลิตหยักหน้าไปทางข้าวของเครื่องใช้ที่กระจัดกระจาย จากการร่วมรักกับชรัญธรเมื่อคืน ที่นอนของเธอเละเทะไปด้วยน้ำรัก ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน วางกระจัดกระจาย เพราะหลังจากที่เขาออกไปซื้อยามาให้เธอ พอกลับมาก็ขอซ้ำเธออีก จะโทษเขาก็ไม่ได้ก็เธอเองที่ยอมปล่อยตามเลย ภาพที่ทั้งสองเมคเลิฟกันในห้องยังคงตราตรึงอยู่ในใจลัลน์ลลิตไม่จางหายไป “เละขนาดนี้อย่าลืมให้ทิปแม่บ้านหนักๆล่ะ” “ค่า...งั้นวันนี้ไปเดินซื้อของหน่อยมั้ย ฉันเพิ่งได้ปันผลหุ้นตัวที่ถืออยู่มาอยากได้อะไรเดี๋ยวฉันเลี้ยง” “แม่พระมาก คุณเพื่อนเลิฟ” ปานชีวาบอกและเดินเข้ามาช่วยรวบผมยาวๆ ของลัลน์ลลิตขึ้นมัด แต่ก็ต้องปล่อยลงตามเดิม “อะไรดาว ทำไมไม่มัดล่ะ” “แกไปนอนกับแดร็กคูล่ามาหรือไง ฉันว่าปล่อยผมลงเถอะ” “บ้าเอ๊ย! ฉันบอกแล้วนะว่าไม่ให้ทำรอยอ่ะ” ลัลน์ลลิตสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อนึกขึ้นได้ว่าชรัญธรขบกัดเธอไปทั่วทั้งตัว ยิ่งเธอเก็บเสียงคราง เขายิ่งทำรุนแรงขึ้นราวกับต้องการลงโทษเธอ คิดว่าละมุนที่ไหนได้เขามันพวกซาดิสม์และเซ็กซ์จัดแบบสุดๆ “แต่แกก็ยอมให้เขาทำนะ” “แฮะ..ตอนนั้นมันมัวแต่เสียวอยู่ เลยไม่ได้คิด” ลัลน์ลลิตยักไหล่ ทำท่าทะเล้นแบบกวนๆ “งั้นก็ยอมรับสภาพ ทำลอนแบบเกาหลีไปก็จบ” “ค่า เพื่อน” @ ห้างCT “ลัลน์กระเป๋าใบนี้โอเคมั้ยแก” ปานชีวาสะพายกระเป๋าทรงชอปปิง โพสต์ท่าหน้ากระจกหันไปทางลัลน์ลลิตที่กำลังง่วงอยู่กับการเลือกกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ ช่วยกันตัดสินใจว่าจะเอาสีไหนดี “แกจะไปเที่ยวทะเลเหรอ” “ก็ใช่สิยะ หยุดยาวเดือนหน้าครอบครัวฉันจะไปบ้านพักตากอากาศที่หัวหิน แกไปด้วยกันสิ” “ไม่ล่ะ ขี้เกียจ” “อ้าว แม่ฉันให้ชวนแกด้วยนะ แต่เมื่อเช้ามัวแต่ตกใจเลยลืมชวน” “งั้นเดี๋ยวค่อยว่ากัน เกรงใจ แม่อุตส่าห์ชวน” “ดีมาก ว่าแต่กระเป๋านี้...” “ถ้ามันต้องใช่ก็จัดประหยัดทำไม” “เยี่ยมยอด” ปานชีวายกนิ้วโป้งให้ลัลน์ลลิตจากนั้นก็หันไปสั่งพนักงานขาย ว่าให้เตรียมกระเป๋าโดยที่เธอไม่ลืมที่จะซื้อเผื่อลัลน์ลลิตด้วย สักพักต่อมา “หิวแล้วอ่ะ กินโอมากาเสะกันมั้ย” “ไม่อ่ะ ฉันขี้เกียจรอ” ลัลน์ลลิตบอกพลางลูบท้องป้อยๆ ดวงตาคู่สวยกวาดมองหาร้านอาหารที่เธออยากกิน “กินอาหารญี่ปุ่นมั้ย” “หืม...ร้านนั้นเหรอ” “ใช่ มีโปรคู่รักด้วยนะ มาคู่มีส่วนลดด้วย ว้าว...” ลัลน์ลลิตชี้ไปทางป้ายโปรโมชั่นสีหวานแหววหน้าร้าน “เดี๋ยวนะ แกจะตื่นเต้นทำไม ในเมื่อเราโสดทั้งคู่” “อ้าว ก็ตื่นเต้นให้คนมีคู่อิจฉาไงยะ” ลัลน์ลลิตยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็กอดแขนปานชีวากึ่งดึงกึ่งลากเข้าไปภายในร้านอาหารที่ว่า “พูดไม่เคลียร์อีกแล้ว” “ปลาดาวแกก็สังเกตดูดิ มาเป็นคู่ก็จริงแต่ก็ไม่ได้เป็นคู่ที่มีความสุขเสมอไปนะ ดูคู่นั้นดิ กำลังเถียงกันว่าจะเอาโปรอะไร” หญิงสาวพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะริม ที่ผู้หญิงกำลังกอดอกหน้างอ ส่วนผู้ชายก็บ่นและชี้นิ้วลงบนเมนูยิกๆ ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ “ส่วนคู่นั้นผู้ชายน่าจะไม่ชอบอะไรสักอย่าง โวยวายใหญ่เลยว่าสั่งมาทำไม” “เออ จริงด้วย ดูวุ่นวายมากกว่าจะเป็นคู่รักนะ” “เพราะฉะนั้นอยู่โสดแบบฉันกับแกดีแล้ว” “อย่าหนีฉันไปมีผัวก็แล้วกัน” ปานชีวาเบะปากเล็กน้อยแต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มในเวลาต่อมา จากนั้นทั้งคู่ก็สั่งอาหารในเมนูที่แพงที่สุดในร้านกับพนักงานที่เดินเข้ามาบริการ “ปลาดาวเข้าห้องน้ำกันมั้ย” ลัลน์ลลิตเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทานอาหารเสร็จ แต่ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของปานชีวาก็ดังขึ้นพอดี “เดี๋ยวตามไปนะ ขอคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อน แม่น่าจะให้พี่วาฬมาเอาของที่ฉัน” “อืม” เมื่อเห็นว่าห้องน้ำว่างไร้ผู้คนก็รีบเดินเข้าห้องน้ำ แต่ระหว่างที่ลัลน์ลลิตจะผลักประตูห้องน้ำเข้าไปก็มีเสียงหนึ่งเรียกเอาไว้จากทางด้านหลัง “สวัสดีครับน้องลัลน์” “เอ่อ สวัสดีค่ะ” เธอหันตอบกลับเสียงเรียบ จำได้ดีว่าเขาคือผู้ชายที่เธอวันไนท์สแตนด์ด้วยเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ตามสไตล์คือเธอไม่อยากสานต่อและเขาก็เพิ่งหมั้นไปด้วย “มาชอปปิงเหรอคะ” ดนัยเดินเข้ามาซึ่งลัลน์ลลิตก็ก้าวถอยหลังรักษาระยะห่างไปสองก้าว “ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ นิ้วเรียวยกขึ้นเกลี่ยผมยาวๆ ให้สะบัดไปทางด้านหลังอย่างนึกรำคาญ “ทำไมน้องลัลน์ไม่รับสาย ไม่ตอบไลน์พี่เลยคะ รู้มั้ยว่าพี่คิดถึง” “ไม่ว่างค่ะ” “ไม่ว่างแต่มีเวลามาชอปปิงนะคะ” “ชอปปิงก็เป็นธุระค่ะ” "น้องลัลน์คะ คืนนี้ไปค้างคืนกับพี่นะคะ" ดนัยยังไม่ละความพยายามและในที่สุดก็เข้าประเด็นสักที "สำหรับพี่เจมส์แค่ครั้งเดียว ลัลน์ก็เอียนแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ” ลัลน์ลลิตเดินหนีเพราะไม่อยากเสวนากับผู้ชายที่ตนไม่ถูกชะตาด้วย ทั้งเจ้าชู้ ชอบเบ่ง คุยโว คืนนั้นถ้าไม่เมาเธอคงไม่มีทางยอมขึ้นเตียงกับเขา นึกแล้วก็อดหงุดหงิดให้ตัวเองไม่ได้ “เดี๋ยวสิคะ พี่มีเรื่องจะคุยกับน้องนะ มานี่!” ทว่าดนัยกลับไม่ยอมให้เธอจากไปง่ายๆ มือหนาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก แล้วกระชากเธอให้เข้าไปในห้องน้ำผู้ชายจากนั้นก็กดล็อกประตู หมับ! “อ๊ะ! ปล่อยนะคะพี่เจมส์” “พะ...พี่เจมส์จะทำอะไร หลบไปนะ” ลัลน์ลลิตดันตัวชายหนุ่มออกแต่เขาไม่ปล่อยให้เธอหนีไปกลับดันให้ถอยหลังเข้าไปลึกถึงห้องน้ำชั้นใน ไม่คิดว่ายามนี้ห้องน้ำในห้างหรูจะไร้ซึ่งผู้คน จนเปิดโอกาสให้ผู้ชายกักขฬะอย่างดนัยได้ล่วงเกินหญิงสาวโดยที่ไม่มีใครทันสังเกตเห็น “กรี๊ดดดด ปล่อยนะ ช่วย อือ!” ลัลน์ลลิตดีดดิ้นไปพร้อมๆ กับร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับถูกดนัยใช้มือสากปิดปากของเธอแน่นจนแทบไม่มีเสียงเล็ดลอด จากนั้นก็ลากเข้ามาภายในห้องน้ำใช้เท้าถีบประตูอย่างแรงจนมันปิดลง ปัง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD