กลางคืนในวันเดียวกัน
ภายในห้องนอนนั้นเงียบสนิท ร่างบางนั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟาปลายเตียง ระหว่างนั้นก็เปิดอะไรต่อมิอะไรดูเรื่อยเปื่อยจากไอแพดที่ธีร์ได้ซื้อเอาไว้ให้เผื่ออยากหาอะไรทำแก้เบื่อ และขณะเดียวกันเขาก็กำลังอาบน้ำอยู่ ไม่นานนักเขาก็เดินออกมา
"อาบน้ำอีกรอบไหมพี่ ผมจะเปิดน้ำอุ่นให้"
"ไม่ล่ะ ขี้เกียจเดินน่ะ"
"ผมอุ้มได้นะครับ" ธีร์มองหน้าภรรยาแสนสวยที่กำลังเล่นไอแพดอยู่ด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ เธอเหลือบตาขึ้นมองนิดหน่อยและได้สบตากับเขา แต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขา
"ดูอะไรอยู่ครับ"
"อยากหางานทำน่ะ แก้เบื่อ"
"งานอะไรครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้"
"ก็งานทั่วไป ที่มันทำอยู่กับที่ได้ ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องส่งของ ฉันว่าจะรับงานแปลภาษากับทำชีสรายงาน นายว่ามันดีไหม?"
"งั้นทำให้ผมสิครับ เดี๋ยวผมให้เงินเอง"
"....." ได้ยินอย่างนั้นขนมหวานก็ถอนหายใจออกมา ทำแบบนั้นมันเหมือนทำงานซะที่ไหน เพราะยังไงเงินเขาก็ให้เธอทุกเดือนอยู่แล้วนี่นา สู้รับทำให้แบบฟรีๆ มันไม่ดูดีกว่าเหรอ
"ทำไมล่ะครับ ผมก็แค่เสนอไง ผมจะได้ทำงานบริษัทอย่างเดียว ไม่ดีเหรอครับ"
"แล้วปกตินายทำงานยังไง?"
"ก็ใช้เงินครับ มีเงินซะอย่าง จัดการได้ก็ให้เงินจัดการ" ธีร์บอก
"งั้นฉันจะคิดดูก่อนละกัน นายก็ลองเอางานมาให้ฉันดูก่อน แล้วฉันจะพิจารณาอีกทีว่าจะทำให้ดีไหม"
"ครับ"
ธีร์พยักหน้ารับ เขาแต่งตัวเสร็จพอดี ก่อนจะเดินเข้ามาหาขนมหวานที่ยังนั่งอยู่บนโซฟา มือหนาสัมผัสกับหน้าท้องนูนอย่างอ่อนโยน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร
"ลูกดิ้นแรงไหมครับ"
"ตัวเด็กยังไม่โตเลย ถึงดิ้นก็แทบไม่รู้สึกหรอก"
"จะว่าไป เพราะท้องแรกหรือเปล่า บวกกับพี่ตัวเล็กด้วย ท้องก็เลยน้อยตาม" ธีร์จับซ้ายจับขวาท้องน้อยๆ ของขนมหวาน เพ่งมองจนตาแทบจะถลนออกมา เพราะขนมหวานยังท้องไม่ใหญ่เท่าไหร่ สองฝ่ามือของเขาประกอบเข้าหากันก็ปิดท้องของเธอได้มิดแล้ว
"หมอก็บอกแบบนั้นนี่ แต่ถ้าน้ำหนักเด็กตามเกณฑ์ แข็งแรง ปกติทุกอย่าง ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก"
"พี่คิดชื่อลูกไว้หรือยัง อยากให้ลูกชื่อเหมือนผม หรือเหมือนพี่"
"ฉันยังไม่ได้คิด" ขนมหวานตอบ เพราะยังมีเวลาอีกมากในการเตรียมตัวต่างๆ เรื่องชื่อลูกก็ไม่น่ายากอะไรหรอก เพราะเธอไม่ใช่คนถือเรื่องชื่ออะไรขนาดนั้น ชื่อเพราะน่าฟัง พ่อแม่ชอบ ก็น่าจะพอแล้วล่ะนะ
"พี่ขนม"
"อะไร?"
"จำได้ไหมว่าผมจะบอกอะไรพี่"
"ฉันจำได้ บอกมาสิ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน"
"ผมตั้งใจจะบอกพี่เพราะไม่อยากปิดบัง ไม่อยากให้พี่รู้ทีหลัง หรือรู้จากคนอื่น ผมไม่อยากให้พี่มองว่าผมมองข้ามพี่ มีอะไรไม่ยอมบอก ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรบอกพี่เลยก็เถอะ"
"ร่ายยาวอะไรขนาดนี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า" ขนมหวานใจคอไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรทำไมผู้ชายที่ชอบพูดเล่นพูดจายียวนกวนประสาทเธอถึงได้จริงจังขึ้นมาแบบน่ากลัว
"พี่เคยได้ยินเรื่องมาเฟียหรือเปล่า"
"ก็...เคยนะ เคยได้ยินในทีวีไง หรือไม่ก็พวกละคร"
"ครับ"
"ถามทำไม?"
"บอกไปก็คงเหมือนละคร แต่ผมอยากให้พี่รู้ไว้ ว่าผมคือมาเฟีย"
"!!!" มันอาจจะดูเหนือความคาดหมายไปหน่อย ดูเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ยาก แต่ถ้าลองเรียบเรียงเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นมันก็มีความเป็นไปได้แบบเกินครึ่งเลย ทั้งเรื่องที่เขาจัดการแทนเธอทุกอย่าง เรื่องงานของเธอ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาจัดการได้โดยที่ไม่ต้องเป็นคนอยู่ตรงจุดนั้นเลย "แล้วยังไง นายบอกฉันทำไมล่ะ"
"บอกแล้วไงครับ ผมจะไม่โกหกพี่ ผมจะบอกพี่ทุกอย่าง ผมไม่อยากให้พี่รู้ทีหลัง"
"ทำไมนาย...ถึงดีกับฉันขนาดนี้"
"ก็เพราะพี่คือคนที่ผมรัก"
"......" ขนมหวานพูดไม่ออก คำพูดมันจุกอยู่ในลำคอ สำหรับเธอคงเรียกว่ารักได้ไม่เต็มปากหรอก เพราะเพิ่งรู้จักกันเอง และความสัมพันธ์มันก็ได้มาโดยการบีบบังคับ ทำให้เธอนั้นไม่มีที่จะไป ทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้มาอยู่ที่นี่กับเขา
ส่วนเรื่องมาเฟียที่เขายอมรับ ก็นับถือเหมือนกันที่เขายอมพูดตรงๆ เพราะบางคนใช่ว่าจะกล้าพูดแบบนี้ เธอเองก็ยอมรับเหมือนกันว่าตกใจ เพราะคำว่ามาเฟียในหัวคิดของเธอมันค่อนข้างจะรุนแรงพอสมควรเลย ถ้าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ น่ะนะ
ฆ่าคน ทำงานผิดกฎหมาย ค้ามนุษย์ ยาเสพติด หรืออีกหลายๆ อย่าง ที่มาเฟียมักทำกัน
"พี่กลัวผมไหม"
"ฉะ ฉันแค่ตกใจน่ะ"
"ผมอยากให้พี่รู้เอาไว้ว่า ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายพี่ ไม่ต้องกลัวนะครับ"
"ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ งานที่นายทำมันเป็นงานผิดกฎหมายใช่ไหม"
"ก็ไม่เชิงขนาดนั้นครับ"
"อายุเท่านี้เอง ทำไมถึงอยากเป็นมาเฟียล่ะ ทำไมถึงไม่เป็นแค่นักศึกษาธรรมดา แล้วก็ใช้ชีวิตธรรมดา มันอันตรายไม่ใช่เหรอ?"
"ชีวิตผมก้าวเข้ามายุ่งกับคำว่ามาเฟีย ตั้งแต่พ่อของผมยังมีชีวิตอยู่แล้วครับ"
"นายไม่กลัวเหรอ?"
"ไม่รู้สิครับ เมื่อก่อนไม่กลัว แต่ตอนนี้เริ่มกลัว"
"ทำไมล่ะ?"
"กลัวว่าถ้าวันหนึ่งต้องตาย ผมจะไม่ได้อยู่กับพี่ จะไม่ได้เจอหน้าลูกอีก ผมไม่อยากให้พี่มีผัวใหม่"
"โว๊ะ!" ขนมหวานเผลอร้องอุทานออกมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งที่กำลังคุยแบบซีเรียสกันอยู่นะเนี่ย แต่เขากลับพูดแบบนั้นออกมาได้ กลัวแบบไหนกัน
"ผมพูดจริงนะครับ ผมไม่อยากให้พี่มีผัวใหม่"
"งั้นก็สัญญาสิ นายห้ามเป็นอะไร นายต้องมีชีวิตอยู่เพื่อลูกของนาย ฉันไม่ขออะไรมากหรอก"
"ได้สิครับ พี่ขนมขอทั้งที ทำไมผมจะให้ไม่ได้ ขอมากกว่านั้นก็ได้นะครับ" ธีร์ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แต่มากกว่านั้นก็คือสายตาของเขา ที่กำลังมองเธออย่างหื่นกระหาย ถึงจะมีเซ็กซ์กันแต่ก็ใช่ว่าจะทำแบบนั้นกันบ่อย และเธอก็รู้ว่าเขาต้องพยายามกดอารมณ์ของตัวเองมากแค่ไหน
"อย่ามาทำโรคจิตแถวนี้นะ!"
"เสียดายจังเลยนะครับ พี่ท้องอยู่ เลยทำอะไรไม่ได้มาก กระแทกแรงก็ไม่ได้ เดี๋ยวกระเทือนถึงลูก" ชายหนุ่มพูดกระซิบข้างหู พร้อมกับใช้ปลายจมูกคลอเคลียไปกับลำคอของเธอ ให้พอได้สัมผัสกันอย่างเบาๆ แต่เธอกลับรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก และก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้สักเท่าไหร่เลย
"ดะ ดึกแล้ว นอนกันดีกว่า ฉันง่วงแล้ว"
"พี่ไม่โกรธผมแล้วใช่ไหม"
"ฉันจะโกรธนายเรื่องอะไรอีก"
"ก็ไม่รู้สิครับ พี่ชอบทำหน้าตึงๆ ใส่ผม เวลาเราเจอกัน เวลาเราคุยกันพี่ก็คุยเหมือนไม่อยากคุยกับผม"
"มันก็ปกติของฉันไหม นายคิดว่าฉันจะเป็นผู้หญิงสายหวาน พูดจาคะขาจ๊ะจ๋าหรือไง"
"แบบนั้นก็ดีนะครับ เพราะดี"
"แหวะจะอ้วก ฉันไม่พูดอะไรแบบนั้นหรอก มันไม่ใช่ฉัน" ขนมเถียงกลับในทันที เธอไม่ค่อยชอบทำอะไรที่มันไม่เป็นตัวเองสักเท่าไหร่ ยิ่งต้องฝืนทำอะไรแบบนั้นเธอยิ่งทำไม่ลง
"ให้ผมนวดขาให้ไหมครับ จะได้นอนสบายขึ้น"
"ไม่เป็นไร นายก็นอนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาปรนนิบัติฉันอีกหรือไง"
"มันก็เป็นหน้าที่ของสามีไม่ใช่หรือครับ"
"ฉันไม่เห็นคนอื่นเขาทำกันเลย"
"ก็ช่างหัวคนอื่นสิครับ ผมจะทำใครจะทำไม"
"นอนเถอะ ฉันไม่ปวดขาหรอก"
"ครับ"
@เช้าวันต่อมา
ขนมหวานตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือเธอไม่เห็นธีร์อยู่ในห้องนี้ด้วย ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน น่าแปลกที่เขาไม่อยู่ ทั้งๆ ที่ตื่นเช้ามาเธอจะต้องเจอหน้าเขาเป็นคนแรกตลอด
ด้านล่าง...
"ตื่นแล้วเหรอครับพี่" เสียงหนุ่มนุ่มนวลเอ่ยทักหญิงสาวที่เดินเข้ามาในห้องอาหาร ขณะที่เขากำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าให้กับเธออยู่
"นายทำอะไรของนาย"
"เตรียมโจ๊กให้พี่ไงครับ พี่น่าจะชอบ"
"ทำเป็นด้วยหรือไง"
"ก็พอทำได้ครับ ส่วนเรื่องรสชาติแม่บ้านเป็นคนจัดการ"
"นี่โลกจะถล่ม ฟ้าจะทะลายหรือไงกัน นายถึงเข้าครัวเนี่ย"
"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่อยากทำให้พี่"
"วันนี้ทำงานหรือเปล่า" ประโยคนี้เธอเอ่ยถามเขาอยู่ทุกวัน จนไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องถามแบบนี้ซ้ำๆ เหมือนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว
"เข้าครับแต่สายๆ"
"....."
"นั่งลงก่อนสิครับ เดี๋ยวผมตักโจ๊กให้"
"โอเค"
จากนั้นขนมหวานก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวประจำของเธอ ก่อนที่ธีร์จะรีบจัดแจงอาหารเช้าสำหรับเธอให้อย่างพิถีพิถัน ที่คนชอบพูดกันว่า 'สามีที่ดูแลภรรยาประหนึ่งเจ้าหญิง' มันเป็นอย่างนี้เองสินะ ถึงชีวิตของเธอมันจะพลิกผันเหมือนกับหนูตกถังข้าวสารก็เถอะ
"กินเยอะๆ นะครับ"
"ขอบใจ"
"เรื่องงานที่พี่คุยกับผมเมื่อคืน ถ้าพี่จะทำผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ขอแค่มันไม่หนักเกินกำลังคนท้องก็พอ"
"มันคงไม่หนักอะไรหรอก ฉันแค่อยากหาอะไรทำแก้เบื่อ จะให้นั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง อยู่เฉยๆ มันก็ดูน่าเบื่อเกินไป"
"ผมเข้าใจครับ"
"ส่วนงานของนาย ถ้าอยากให้ทำก็เอามาได้เลยนะ ฉันไม่คิดเงินหรอก ทำให้ฟรี ถือซะว่าเป็นของแถมจากเงินเดือนที่นายให้ฉันทุกเดือน"
"นี่ผมได้สิทธิพิเศษเกินกว่าคนอื่นหรือเปล่าครับเนี่ย"
"ถึงฉันจะไม่ชอบที่นายเอาแต่บังคับ แต่ก็คงต้องขอบคุณที่นายดูแลฉันดีขนาดนี้ และฉันก็คงต้องหาอะไรตอบแทนบ้างแค่นั้นเอง"
"ขอบคุณนะครับพี่ขนม"
"กินขึ้นเถอะ เดี๋ยวโจ๊กก็เย็นหมดพอดี"
"คร้าบ~"
พอได้พูดอะไรที่มันเป็นทางการแบบนี้แล้วก็รู้สึกเขินอยู่นิดหน่อย เพราะปกติเจอหน้าเขาก็ชอบมีเรื่องกันตลอดเลย แต่พอได้พูดอะไรที่จริงจังขึ้นมาเธอกลับทำตัวไม่ถูกซะงั้น รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้กลายเป็นภรรยาของเขาจริงๆ เลย