ณ โต๊ะอาหาร
ขณะที่ครอบครัวของธีร์และครอบครัวของเพื่อนแม่เขา กำลังนั่งทานอาหารพร้อมกันอยู่ ทุกอย่างดูปกติสำหรับเขามาก
ปกติที่ว่าหมายถึง แม่ของเขาพูดอวยลูกชายทุกอย่าง ตบท้ายด้วยการบอกว่า ลูกชายโสด ถ้าจะหาลูกสะใภ้ก็จะหาแบบดีๆ มีชาติตระกูล หรือเป็นไฮโซ เหมือนกำลังปูทางให้ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่สำหรับเขาไม่เลย มันมีแต่เรื่องน่าเบื่อเต็มไปหมด
ยกเว้นอาหารฝีมือของแม่นม สำหรับเขาก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วล่ะ
"นี่ตาธีร์ยังจำน้องได้อยู่หรือเปล่า เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ยังวิ่งเล่นด้วยกันอยู่เลย"
"เหรอครับ ไม่เห็นจะจำได้ ผมถูกส่งไปอยู่โรงเรียนชายล้วนตั้งนาน ที่นั่นไม่มีผู้หญิงนะครับ"
ทั้งๆ ที่แม่ก็กำชับดิบดีแล้วว่าอย่าพูดหรือทำอะไรที่เป็นการหักหน้ากัน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นจริงๆ แค่พูดไปตามตรง พูดความจริง ก็เท่านั้นเอง
สิ้นสุดประโยคของเขาบรรยากาศภายในห้องทานอาหารก็ดูแปลกไปในทันที มันกลายเป็นความอึมครึม ความน่าอึดอัด
"ทำไมแม่ไม่บอกไปตามตรงเลยล่ะครับ ว่าชวนเพื่อนแม่มากินข้าว เพียงเพราะอยากให้ผมกับลูกสาวของเพื่อนแม่ดูตัวกัน เห็นแม่ทำแบบนี้บ่อย แต่ผมก็ไม่สนใจใครสักคน คนนี้...ผมก็ไม่สนใจ"
เขาพูดพร้อมกับเหลือบมองไปที่หญิงสาวเสี้ยววินาที แต่เขาไม่ได้ดูถูกเธอ แค่กำลังจะบอกว่าต่อให้เธอจะสวยดูดีก็ยังไม่ใช่สเปกของเขาอยู่ดีนั่นแหละ และต่อให้แม่ของเขาแนะนำลูกสาวของเพื่อนคนนั้นคนนี้ให้รู้จักนับร้อยคน เขาก็ไม่สนใจอยู่ดี
"ตาธีร์!"
"พูดให้ไงครับ จะได้ไม่ต้องหวังลมๆ แล้งๆ กัน"
"เอ่อแหะๆ ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคุณพี่ เด็กสมัยใหม่ก็แบบนี้แหละค่ะ ยังไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักกันหรอก เดี๋ยวทำความรู้จักกันไป อยู่ใกล้ชิดกันไป คุยกันมากขึ้น เดี๋ยวก็กระชับความสัมพันธ์กันเอง" เพื่อนของแม่พูดขึ้น
"พี่ธีร์ลองทานอันนี้ดูสิคะ ดูน่าอร่อยนะ" หญิงสาวตักอาหารใส่จานให้พร้อมกับยิ้มหวานๆ หลังจากที่แม่ของตัวเองพูดจบ เหมือนอยากจะสานสัมพันธ์กับเขาจริงๆ
"......" ธีร์ได้แต่มองด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเขี่ยอาหารที่หญิงสาวตักมาให้นั้นไปไว้ข้างจาน และก็ไม่ได้กินต่อ
การกระทำของเขามันทำให้หญิงสาวถึงกับหน้าเสียไปในทันที
แต่ไม่ใช่เพราะเขารังเกียจอะไรหรอก เป็นเพราะเขาไม่ถูกกับของที่เธอตักมาให้มากกว่า เธอเรียกง่ายๆ ว่าไม่กิน
ครืด ~
มือหนาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดดูข้อความที่ถูกส่งเข้ามา ซึ่งมันเป็นข้อความจากลูกน้องคนสนิท
xxx: ได้เรื่องแล้วครับคุณธีร์
พอได้อ่านข้อความนี้เขาก็ลุกพรวดขึ้นทันที และเตรียมตัวที่จะเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร
"ขอโทษนะครับ พอดีผมมีงานด่วนต้องรีบไปทำ ทานกันตามสบายเลยนะครับ"
"เดี๋ยวสิลูก นานๆ ได้เจอกับเพื่อนของแม่นะ อยู่ต่ออีกหน่อยสิ"
"ผมมีงานด่วนครับแม่" เขาพูดเสียงเน้นเสียงของตัวเอง เพื่อให้รู้ว่าเขากำลังจริงจัง ไม่ควรจะมาขัดในตอนนี้เลย
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกมาในทันที เขาไม่ได้สนใจอะไรแล้วล่ะ นอกจากเรื่องที่กำลังจะได้รู้จักลูกน้องต่อจากนี้ ในหัวสมองของเขามันมีแต่เธอเต็มไปหมด นอกจากเธอแล้วไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถทำให้เขาสนใจได้มากเท่านี้มาก่อนเลย
ตู๊ด ~
( ครับคุณธีร์ )
"มาหาฉันที่เพ้นท์เฮ้าส์ ฉันกำลังรีบกลับ"
( ได้ครับ )
ชายหนุ่มขับรถเร็วยิ่งกว่าตอนมาเสียอีก เรียกได้ว่าเหยียบคันเร่งแทบจะจมเท้า เพราะเขาใจร้อนที่จะรู้เรื่องของเธอเอามากๆ ไม่นานนักเขาก็มาถึงเพ้นท์เฮ้าส์ของตัวเอง ซึ่งลูกน้องคนสนิทก็มารออยู่ที่นี่ก่อนหน้าแล้ว
"ได้เรื่องว่ายังไง"
"เธอไปฝากครรภ์คนเดียวครับ ไม่ได้มีพ่อเด็กไปด้วย เธอไม่ได้แจ้งไว้ครับ ส่วนอายุครรภ์ก็ 6-7 สัปดาห์ครับ"
"มีอะไรอีกบ้าง"
"เธอเคยปรึกษาหมอเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ครับ"
"อะไรนะ!" เขาร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ นี่แสดงว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะท้องตั้งแต่แรกอยู่แล้วงั้นเหรอ
"แต่หมอบอกว่าเธอไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ครับ เธอก็เลยไม่ได้ทำ"
"ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย"
"คุณธีร์ให้สืบทำไมครับ ผู้หญิงคนนี้...อาจจะท้องกับคนอื่นก็ได้นะครับ"
"......" พอได้ยินอย่างนั้นธีร์ก็หันมองลูกน้องคนสนิทตาเขียวปั๊ด ชนิดที่ว่าโกรธมากๆ ที่พูดแบบนี้ เด็กคนนั้นต้องเป็นลูกของเขาสิ!
"เอ่อ...ผมหมายถึง เธออาจจะมีอะไรกับแฟนเก่าของเธอก็ได้นะครับ"
"ก็ไหนว่าเลิกกันไปแล้ว"
"ก็ไม่แน่นะครับ ไม่อย่างนั้นเธอจะขอยุติการตั้งครรภ์ทำไม"
"อาจจะเป็นลูกของฉันก็ได้"
"แต่มันก็เป็นไปได้ยากนะครับ"
"ทำไม!?"
"ขอโทษที่ถามละลาบละล้วงนะครับ วันนั้นคุณธีร์ได้ป้องกันหรือเปล่าครับ ถ้าป้องกันก็ยากนะครับที่เธอจะท้องกับคุณธีร์"
"ป้องกัน...แต่ถุงแตก"
"คะ ครับ..."
ลูกน้องถึงกับทำตัวไม่ถูกซึ่งมันก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้ ที่เด็กในท้องอาจจะเป็นลูกของเจ้านายตัวเองจริงๆ
"แล้วเธอยังติดต่อกับแฟนเก่าอยู่ไหม"
"ไม่แล้วนะครับ ไม่เห็นเจอกันเลย"
"......" ธีร์ได้แต่ครุ่นคิด เด็กในท้องของเธอมีส่วนที่อาจจะเป็นลูกของเขา เพราะวันที่เจอกันที่โรงพยาบาลเธอมีทีท่าตกใจมากๆ ที่ได้เห็นหน้าของเขา ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอคงตกใจที่ได้มาเห็นผู้ชายที่มีอะไรกันไป อาจจะกำลังเขินอายอยู่ แต่พอมาเป็นแบบนี้เขากลับไม่คิดอย่างนั้นแล้ว
"คุณธีร์จะให้ผมทำยังไงต่อไปครับ"
"คอยตามดูเธอไปก่อน มีเรื่องอะไรต้องรีบรายงานฉัน แล้วก็อย่าให้ไอ้แฟนเก่ามันมายุ่งเด็ดขาด"
"แล้วเรื่องเด็กในท้อง.."
"ลูกของฉันเอง!" พูดอย่างมั่นใจ และเขาก็เชื่อด้วยว่าเด็กคนนั้นจะต้องเป็นลูกของเขาจริงๆ ไม่ใช่ลูกของแฟนเก่าอะไรนั่นหรอก
"ผมว่าควรตรวจ DNA นะครับ"
"ทำไมต้องตรวจ"
"ก็เพื่อความแน่ใจไงครับ"
"ฉันทำเอง เอาเอง กี่ครั้งฉันจำได้ แล้วฉันจะไม่มั่นใจได้ยังไงวันนั้นคือลูกของตัวเอง"
"คือผม..."
"นี่แกกำลังดูถูกว่าที่นายหญิงของแกอยู่นะ"
"ผมขอโทษครับ"
"ต่อไปเธอจะเป็นนายหญิงของแก ช่วยให้เกียรติเธอด้วย"
"ครับคุณธีร์"
ตอนนี้เขาไม่เชื่อคำพูดของใครแล้วล่ะ เขาเชื่อแค่ความมั่นใจของตัวเอง เด็กในท้องของเธอต้องเป็นลูกของเขาอย่างแน่นอน เพราะท่าทีที่เธอแสดงออกในวันนั้นมันทำให้เขาเริ่มมั่นใจ
"คุณธีร์ครับ"
"อะไร?" ชายหนุ่มชะงัก ขณะที่กำลังจะจุดบุหรี่สูบ
"คนท้องและเด็กทารกไม่เหมาะกับบุหรี่นะครับ"
"......" เขาเงียบก่อนจะดึงบุหรี่ออกจากปากอย่างหงุดหงิด
"ถ้าคิดจะเป็นพ่อของเด็กในท้องของผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับ"
"แกคิดว่า...เธอจะให้ฉันยอมรับไหมวะ"
"ก็ไม่รู้สิครับ เธอได้บอกอะไรบ้างไหมครับ"
"ไม่ได้บอก ไม่พูดอะไรเลย เจอกันวันนั้นยังไล่ด้วยซ้ำ"
"ถ้าอย่างนั้นผมก็คิดว่า...เธอคงไม่ต้องการให้คุณธีร์ไปยอมรับเด็กในท้องหรอกครับ"
"แล้วไงวะ สนด้วยหรือไง แค่เป็นลูกของฉันก็พอแล้ว เพราะยังไงฉันก็จะมีสิทธิ์ในตัวของเด็กในฐานะพ่ออยู่ดี"
"จะรับเธอมาอยู่ที่นี่เหรอครับ"
"แน่นอน"
"ดูเธอไม่ง่ายเลยนะครับ"
"แบบนี้แหละ ที่ฉันชอบ เพราะความไม่ง่ายเนี่ยแหละ มันเลยท้าทายให้ฉันอยากได้ขึ้นมา"
"จะเอามาเป็นของเล่นอีกเหรอครับ คงไม่ดีมั้งครับ"
"ใครบอก ก็เอามาเป็นแม่ของลูกไงวะ!"
******************
@ทางด้านของขนมหวาน
ช่วงเวลาหลังเลิกงานเธอกำลังจะกลับบ้านของตัวเองตามปกติ แต่ทว่ากลับมีผู้ชายตัวสูงใหญ่ร่างกำยำมาขวางทางของเธอเอาไว้ไม่ให้เธอเดินต่อ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรแต่เห็นท่าทีขึงขังของผู้ชายคนนั้นแล้ว รู้ได้ทันทีว่าเขาหมายตาเธออยู่
"มะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"มีคนเชิญให้ไปคุยที่รถครับ" เสียงนั้นพูดทุ้มต่ำ และค่อนข้างน่ากลัว
"ไม่ไปค่ะ!"
"เชิญครับ"
"ฉันไม่ไป"
สีหน้าของขนมหวานเริ่มตื่นตระหนก เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าคือใคร และเขามาเพื่ออะไร ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ มือเล็กกระชับกระเป๋าสะพายส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นปกป้องท้องน้อยของตัวเองที่ข้างในนั้นมีลูกน้อยของเธออยู่ตามสัญชาตญาณคนเป็นแม่
"เชิญเถอะนะครับ"
"บอกแล้วไงว่าไม่ไป หลีกไปนะคะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย!!"
ปึก!
ขณะเดียวกันก็มีคนลงมาจากรถ เธอหันไปมองด้วยความตกใจและกลัว แต่พอได้เห็นว่าคนที่ลงมาจากรถเป็นใครเธอยิ่งตกใจมากกว่าเดิมอีก
ไม่คิดว่าจะเป็นเขา
"ทำไมหน้าซีดแบบนั้น" ชายหนุ่มรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง
"อือ..."
"เข้าไปนั่งในรถก่อน มีแอร์เย็นอยู่ น่าจะดีขึ้น"
เธอถูกเขาประคองเข้าไปทั้งที่เธอควรขัดขืนเขาสิ แต่ร่างกายมันกลับไม่มีแรงเอาซะเลย เธอถูกพาเข้าไปในรถอย่างง่ายดาย ร่างกายก็ไม่มีแรงเอาดื้อๆ เหมือนคนที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปแบบไม่มีสาเหตุ
"คนของฉันพูดไม่ดีกับเธอเหรอ?"
"อึกอือ..."
"ขอโทษนะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง"
"มีอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย" ขนมหวานถามแบบพึมพำเบาๆ เพราะจู่ๆ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา
"มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ เรื่องของลูก..."
"!!!"
"เธอท้อง ทำไมถึงไม่บอกกันเลย"
"ทำไมต้องบอก ฉันกับคุณเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย"
"ต้องให้ย้ำ?"
"คิดจะทำอะไร?" ขนมหวานเบิกตากว้าง ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวหนีทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีแรง
"ก็ทำเหมือนกับตอนที่ทำให้เธอท้องไง"
"หยุดนะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะ...อืมม"
"ขนมหวาน!"
ขณะที่กำลังนั่งเถียงกับเขาร่างกายของเธอมันก็กำเริบขึ้นมาอีกรอบแล้ว รู้สึกพะอืดพะอม เหม็นอะไรยังไงก็ไม่รู้ ร่างกายไม่มีแรงแม้แต่จะเอ่ยปากเถียงกับเขา
"อย่าเข้ามาฉันเหม็น!"
"ขอโทษ แพ้ท้องหนักเลยเหรอ?"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด ฉันจะได้กลับ"
"บ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง"
"ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้"
"อย่าดื้อได้ไหม ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ"
"แล้วยังไง เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกคุณ ทำไมต้องเป็นห่วงด้วย"
"ฉันเป็นพ่อเด็ก"
"หึ ! เอาอะไรมามั่นใจ?"
"ก็มั่นใจไง ฉันคือพ่อ ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธยังไง ฉันก็ยังจะเป็นพ่อเด็กอยู่วันยังค่ำ เข้าใจไหม?"
"......" ขนมหวานถอนหายใจแรง เธอไม่อยากจะพูดมากเลย เพราะทุกครั้งที่อ้าปากคุยกับเขามันก็รู้สึกพะอืดพะอมเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ในคอ มันอยากจะอาเจียน ทั้งที่ปกติเธอไม่ได้แพ้ท้องหนักอะไรขนาดนี้เลย แต่พอมาเจอหน้าเขามันกลับเป็นมากซะงั้น
หรือเป็นเพราะเขาคือพ่อของเด็กในท้องของเธอหรือเปล่า ถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนี้
"บ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง"
"อย่าพูดได้ไหม จะอ้วก!"
"โอเค..."
เขาไม่ได้พูดกับเธอต่อ แต่หันไปบอกกับลูกน้องคนสนิทแทน ให้หาพิกัดบ้านของเธอและขับรถพาเธอกลับ ไม่นานนักก็มาถึงบ้านไม้สองชั้นหลังนึง ที่อยู่ในซอยแคบๆ ดูเหมือนจะเป็นซอยเปลี่ยวด้วย ขับรถมาก็ไม่ค่อยมีบ้านคนสักเท่าไร ส่วนมากจะเป็นป่ามากกว่า มันเป็นหมู่บ้านที่ไม่ค่อยมีใครอยู่แล้ว เพราะคนส่วนมากย้ายออกไปอยู่ในตัวเมืองกันหมด
"อือ..."
"ถึงบ้านแล้วนะ"
"ขอบใจ"
"เดี๋ยวสิ..."
"อะไรอีก ไม่ต้องถามหาของกินนะ ที่บ้านไม่มี"
"ขอเข้าไปหน่อยสิ"
"บ้านเก่าจะตาย จะเข้ามาเพื่อ?"
"อยู่ที่บ้านหลังนี้คนเดียว?"
"อยากรู้ไปทำไม"
"ก็อยากรู้ในฐานะสามี ในฐานะพ่อของลูกในท้องไง"
"นี่คุณ..!!"
ทุกครั้งที่หัวใจเต้นแรง ทุกครั้งที่พยายามจะใช้เรี่ยวแรงหรือจะตะเบ็งเสียงพูดอะไรสักอย่าง เธอมักจะมีอาการเวียนหัวและพะอืดพะอมร่วมด้วยจนไม่มีแรงไปทุกทีเลย และก็ได้เขานั่นแหละที่เข้ามาประคอง เพราะเธอยืนแทบไม่ไหวเลย
"กุญแจบ้านอยู่ไหน เดี๋ยวพาเข้าไป"
"ในกระเป๋า"
ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวเข้าไปข้างในโดยที่ให้ลูกน้องคนสนิทนั้นเป็นคนนำทางไปเปิดประตู ร่างสูงกำยำก้าวเข้าไปในบ้านไม้เก่าๆ อย่างระมัดระวัง ถึงภายนอกจะดูเก่าทรุดโทรม ภายในก็ยังคงดูดีและสะอาดสะอ้านน่าอยู่ แถมบรรยากาศดีอีกด้วย
ขนมหวานถูกวางลงบนโซฟาไม้ที่เป็นมรดกตกทอดจากยาย ก่อนที่เจ้าของร่างสูงกำยำจะย่อตัวนั่งลงเพื่อพูดคุยกับเธอ
"อยู่บ้านคนเดียวจริงๆ เหรอ?"
"ถ้าใช่แล้วจะทำไม พ่อแม่ตายหมดแล้วไง"
"ตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ จะอยู่คนเดียวไปได้ยังไง"
"ที่ผ่านมาฉันก็อยู่ได้มาโดยตลอด ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย"
"ต่อจากนี้ฉันจะมาอยู่ด้วย"
"บะ บ้า! พูดอะไรแบบนั้น"
"ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อฉันเป็นพ่อของลูกเธอ ทำไมจะมาอยู่ด้วยไม่ได้"
"ฉันยังไม่ทันพูดเลยว่าใช่หรือเปล่า ก็ทึกทักเอาเองแล้วว่าเป็นพ่อ ไม่คิดบ้างหรือไงว่าฉันจะสำส่อนมีอะไรกับผู้ชายไปทั่ว"
"ไม่คิด.." ตอบแบบหน้าตาย
"นี่คุณ!"
"งั้นเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยละกัน ในตู้มีอะไรบ้าง กับข้าวเหลือไหม"
"หยุดนะ..." ขนมหวานพูดเบาๆ พึมพำแบบเบามาก เธอหมดแรงอีกแล้ว
"เดี๋ยวแกกลับไปเอาเสื้อผ้าของฉันนะ แล้วเอามาที่นี่ แล้วก็หาแม่ครัวฝีมือดีๆ สักคนมาด้วย มาไว้คอยทำอาหารเช้ากลางวันเย็น อ้อ...แม่บ้านด้วยนะ คอยมาทำความสะอาดด้วย"
"ได้ครับคุณธีร์"
"นี่คุณ! โอ๊ย! เป็นบ้าไปแล้วหรือไง มาทำอะไรในบ้านของฉันเนี่ย"
"ต่อจากนี้เธอไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ และก็ไม่ต้องทำงานบ้านด้วย"
"จะบ้าหรือไง ถ้าฉันไม่ทำงานแล้วฉันจะเอาเงินไหนใช้!?"
"สามีเธอรวย อยากได้เท่าไหร่ก็ขอมาสิ 10 ล้าน 100 ล้าน ฉันมีให้เธอหมดแหละ เซ็นเช็คให้ตอนนี้เลยก็ได้"
"......" ขนมหวานถอนหายใจแรง เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังเผชิญกับอะไรอยู่ เขาที่เจอกันแค่ครั้งสองครั้งเอง และนี่ก็เป็นครั้งที่สามที่ได้เจอกัน ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้ ทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาเลย ถึงจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาจากเพื่อนที่สืบเรื่องให้ แต่เธอก็ยังไม่เคยรู้จักตัวตนของเขาจริงๆ
"แพ้ท้องมากไหม..."
ชายหนุ่มเดินกลับมาก่อนจะย่อตัวนั่งลงข้างๆ หญิงสาว ที่ยังคงอยู่ในอาการมึนงง และพะอืดพะอม
"ต้องไปหาหมอทุกวันหรือเปล่า?"
"ไม่..."
"เดี๋ยวฉันเปลี่ยนหมอให้นะ ไปฝากครรภ์กับหมอที่ฉันรู้จัก เขาเป็นหมอด้านนี้โดยเฉพาะทาง จะได้คอยช่วยดูแลลูกของเรา"
"เฮ้อ...ฉันไม่รู้เลยนะว่าคุณเป็นคนแบบไหน ต้องการอะไรจากฉันกันแน่?"
"ก็ไม่ได้ต้องการอะไร ก็ฉันทำเธอท้อง ก็ต้องรับผิดชอบ มันก็ถูกแล้วนี่"
"ไม่ ไม่ถูกสักนิด ฉันท้องกับแฟนเก่า"
"อ้อ...เหรอ ช่างมันดิ เดี๋ยวจับมันทุบหัวฉันก็ได้กลายเป็นพ่อคนเดียวแล้ว"
"โอ๊ยคุณ! เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
คนอื่นเขามีแต่พลาดทำผู้หญิงท้องแล้วไม่อยากจะยอมรับ บ้างก็ให้ไปทำแท้ง บ้างก็ไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้ผู้หญิงเผชิญชะตากรรมฝ่ายเดียว แต่เธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย พยายามยัดเยียดความเป็นพ่อมาเนี่ยนะ!