5. อิสระที่ตามหา=หลงทาง

1192 Words
5 ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปเที่ยวข้างนอก แต่ก็ยังไม่เช้าเท่าคนทำงาน เพราะตอนนี้แทซันไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ก็เพิ่งรู้ว่าเขาทำงานหนักขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อวานกลับดึกซะขนาดนั้น การเป็นศิลปินนี่ไม่ง่ายเลยเนอะ "เมเบลใช่มั้ย" "คะ?"ฉันชะงักเท้า มองหน้าผู้ชายที่เดินเข้ามาหา เขารู้จักชื่อฉันได้ไง ปาปารัสซี่รึเปล่า ตอนนี้ฉันต้องวิ่งใช่มั้ย? แต่ก่อนที่ฉันจะคิดไปไกล พี่เขาก็อธิบายให้ฉันเข้าใจเสียก่อน "แทสั่งให้มาช่วยเลือกเสื้อผ้า" "...."ฉันนิ่งไปเลยเมื่อรู้ความจริง นี่ฉันแต่งตัวแย่มาก ถึงขั้นส่งคนมาช่วยเลือกเลยเหรอ เหอะๆ ฉันขึ้นรถไปกับเขาคนนั้น และได้รู้ชื่อว่าเขาชื่อยอซู เป็นสไตลิสต์ ห้างสรรพสินค้า พี่เขาแนะนำการเลือกเสื้อผ้าให้ฉัน เหมือนตอนนี้ฉันกำลังเข้าคอร์สเรียนการแต่งตัวเลย แต่มันก็ไม่ค่อยเข้าหัวเท่าไหร่ฉันไม่ใช่สายนี้นี่ พี่ยอซูเลยจัดการเลือกให้ทั้งหมด แต่.... "คืนได้มั้ย มันแพงไป"ฉันถามพี่ยอซู เมื่อพนักงานแจ้งราคา ลมแทบจับกันเลยทีเดียว "ไม่แพงหรอกสำหรับบัตรแบล็คการ์ดใบนี้" "แบล็คการ์ด?" "บัตรไม่จำกัดวงเงิน ใช้ๆไปเถอะ"พี่เขาขยิบตาให้ ก่อนจะดึงบัตรจากมือฉันส่งให้พนักงาน พี่เขาพาฉันเข้าร้านนี้ออกร้านนั้นเป็นว่าเล่น ซื้อทั้งเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้า เครื่องสำอาง ครบจบในวันเดียว จากที่ฉันคิดจะออกมาเที่ยวเล่นคาเฟ่ชิลๆ กลับไม่ใช่ เหอะๆ ขำแห้งวนไปสิ ฉันกลับมาที่เพนท์เฮาส์ในเวลาเย็นด้วยความเมื่อยล้า เพราะพี่ยอซูจับฉันเปลี่ยนชุดเป็นว่าเล่นเลย แต่ดีพี่ยอซูไม่ใช่ชายแท้ พวกเราเลยสนิทกันเร็ว แต่วันนี้หมดเยอะมาก แทซันจะว่ารึเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะยึดบัตรคืนในวันเดียวเลยก็ได้ แต่พี่ยอซูที่เขาส่งมา เป็นคนเลือกทั้งหมดเองนะ วันต่อมา ถึงเวลาที่ฉันจะออกไปเที่ยวเล่นคนเดียว ไม่ต้องไปซื้อเสื้อผ้าแล้ว ฉันแต่งตัวด้วยชุดใหม่ที่ซื้อมาเมื่อวาน ก่อนจะออกจากเพนท์เฮาส์หรู แต่!!! ฉันไม่ได้ไปคนเดียวอีกแล้ว มีคนคอยตามประกบ ขับรถไปส่งถึงที่ ฉันอยากไปไหนพวกเขาพาไปหมด มันก็ดีหรอกแต่มันอึดอัดนี่ ฉันอยากได้อิสระ! "ไม่ต้องตามมานะคะ เมเบลอยากไปตรงนู้นคนเดียว"ฉันบอกผู้ชายชุดดำ แล้วออกตัวเดิน แต่พวกเขาก็ตามมาอยู่ดี "ไม่ได้ครับ" "ทำไม?"ฉันหยุดเดิน ทำหน้ายุ่งหันไปถาม พวกเขาจะตามติดฉันทุกฝีก้าวแบบนี้ไม่ได้นะ "คุณแทสั่งไว้ครับ" เหอะ! นี่เหรอที่บอกว่าอยากไปไหนก็ไป ไม่ได้ขัง แล้วนี่คืออะไร! กลัวฉันพูดเรื่องแต่งงานรึไงกัน ฉันสัญญาแล้วนี่ว่าไม่พูดคือไม่พูด อีกอย่างฉันจะไปพูดไปบอกใคร! "งั้นก็กลับกันเถอะค่ะ" ฉันหงุดหงิดมาก กลับมารอเขาที่เพนท์เฮาส์ ต้องคุยให้รู้เรื่อง! ฉันนั่งรออย่างอาจหาญ เตรียมคำพูดไว้มากมาย แต่พอเจอหน้าเขาเท่านั้นแหละหดเหลือสองนิ้ว ก็ดูสายตานิ่งๆ ที่มองมาสิ "ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย"ฉันเดินเข้าไปหา ไม่กล้าสบตาเขาเลย ทั้งที่แต่ก่อนฉันสัญญากับตัวเองว่า ถ้าได้เจอเขาสักครั้ง จะบอกชอบและจ้องมองเขาให้ได้มากที่สุดแท้ๆ "...."เขาเงียบไม่พูด แต่ก็ไม่เดินหนี นี่คือรับฟังใช่มั้ย "ไม่ให้คนตามได้มั้ย อยากไปคนเดียว"ฉันใจกล้าพูดออกไปด้วยน้ำเสียงอันเบา ก็กล้าพูดแต่ไม่กล้าพูดเสียงดัง ก็ดูหน้าตานิ่งๆ ของเขาสิ น่ากลัวจะตาย ไม่เหมือนในทีวีเลย "อือ"เขามองฉันด้วยหางตา ก่อนตอบในลำคอ และเดินเข้าห้องนอนไป "^^"ฉันยืนฉีกยิ้มกว้าง ก็ไม่ได้แย่นี่ เขาตกลงง่ายๆ ฉันก็กังวลกลัวว่าเขาจะด่าว่าเรื่องมากเสียอีก วันต่อมาฉันลองออกไปข้างนอก และก็เป็นไปตามนั้น ไม่มีใครมายุ่งกับฉันเลย ฉันใช้แผนที่ในมือถือ เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ อิสระที่ตามหามานาน "ลั้นลาๆ"ฉันฮัมเพลง เดินเที่ยวเล่น มองผู้คนตึกรามบ้านช่อง ดูต้นไม้ไปเรื่อย ขึ้นรถเมล์ไปลงร้านคาเฟ่ที่ดูมาเมื่อคืน เที่ยวคนเดียวก็สนุก เงินก็มีให้ใช้ไม่จำกัดด้วย วันนี้ฉันไม่กินข้าวเลย เข้าคาเฟ่อย่างเดียว กินเค้ก ไอติม ของหวานจนพุงกางเลย 17.00น. เที่ยวเล่นสนุกจนลืมดูเวลา ดูนาฬิกาอีกทีก็ถึงเวลากลับแล้ว ฉันใช้แผนที่ในมือถือนำทางกลับไปที่เดิม แต่.... "ตอนมาไม่ใช่ทางนี้นี่"ฉันมองถนนและตึกรอบๆ ที่ไม่รู้สึกผ่านหูผ่านตาเลย และไม่เหมือนในมือถือด้วย ยิ่งเดินก็ยิ่งหาทางออกไม่เจอ "ที่นี่ที่ไหน GPSถูกตำแหน่งมั้ยเนี่ย"ฉันบ่นกับตัวเอง พยายามหาทางออก แต่ยิ่งเดินก็รู้สึกว่ามันจะลึกเข้าไป จะกลับทางเดิมก็จำไม่ได้ มีซอยเต็มไปหมด ปึก!! "ว้าย!!!"ฉันร้องตกใจ เมื่ออยู่ๆ ก็มีคนเดินมาชน ทำให้มือถือร่วงตกพื้น กลิ้งลงไปตามทางที่ลาดชัน "^¥€%#_£^"เขาพ่นภาษาที่ฉันฟังไม่ออกใส่ พร้อมกับเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางอันน่ากลัว และกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง "อย่าเข้ามานะ!"ฉันตะโกนใส่เขา แล้วหาจังหวะวิ่งหนี ไม่ลืมที่จะเก็บมือถือ จากนั่นวิ่งไม่คิดชีวิต จากที่ฟ้าสว่างๆ ก็เริ่มมืด แต่ดีที่มีไฟถนน แต่กลับไม่มีผู้คน ฉันวิ่งมาที่ไหนก็ไม่รู้ ยิ่งหลงทางหนักไปอีก "ทำไมถึงซวยขนาดนี้เนี่ย!!!"ฉันอยากจะด่าตัวเอง เมื่อยกมือถือขึ้นมาดู แล้วพบว่าหน้าจอมันแตกละเอียดมองไม่เห็นอะไรเลย มีแค่แสงสีขาวดำ "แล้วจะทำยังไง"ฉันตัดพ้อด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ มองไปรอบๆ ความกลัวเริ่มก่อตัวมากขึ้น น้ำตาคลอเบ้า และค่อยๆ ไหล เมื่อหมดหนทาง "ฮือออ อึกๆ ฮือออ"ฉันปล่อยโฮด้วยความกลัว พยายามคิดหาวิธีเอาตัวรอด ฉันลองเอานิ้วจิ้มๆ มือถือดู ปรากฏว่ามันยังใช้ได้ เพราะมีเสียงทุกครั้งที่สัมผัส เพียงแค่หน้าจอมองไม่เห็น ฉันเริ่มมีความหวัง หลับตาลงคิดภาพตำแหน่งต่างๆ ในหน้าจอมือถือ ว่าแป้นตัวเลขโทรออกอยู่จุดไหน ก่อนจะลองสุ่มกดดู และดีที่ฉันจำเบอร์แทซันที่คุณลุงให้ไว้ได้ กดไปใจก็เต้นไป ขอให้กดถูกตำแหน่งทั้งหมดนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD