สะใภ้มือใหม่ในบ้านวิปริต
ตอน งานวันเกิด
เรือนร่างที่เพรียวสวยก้าวขึ้นรถเบนซ์สีขาวและขับออกจากคฤหาสน์หรู เลาะไปตามถนนส่วนตัวที่โค้งลงจากเขาไปยังเมืองใหญ่
ขณะขับรถภริดามองกระจกมองหลังก็เกิดนึกสัย
พวกเค้าเป็นเจ้าของภูเขาทั้งลูกเลยรึยังไงกัน?
แล้วคุณปู่รู้วันเกิดเราได้ยังไงนะ?
"ช่างมันเถอะ ฟังเพลงดีกว่า" พูดจบมือน้อยก็กดปุ่มเล่นเพลงสากล เสียงไวโอลีนและนักร้องสาวช่างไพเราะจับใจ รถป้ายแดงก็ขับง่ายดีมาก แต่รู้สึกว่าไม่คุ้นชินเพราะคันใหญ่กว่าอีโคคาร์มาก
ภริดาจอดที่บริษัทขนส่งพัสดุและยกกล่องเสื้อผ้าลงไปส่งให้กับมูลนิธิแห่งนึง จากนั้นไปนั่งที่ร้านกาแฟและสั่งเค้กกับเอสเปรสโซ่เย็นมานั่งกินเงียบๆเพื่อฉลองวันเกิดคนเดียว
เมื่อหยิบมือถือมาเปิดโซเชี่ยลก็ไม่พบข้อความแอปปี้เบิร์ดเดย์จากสามีและญาติๆของเค้าเลย ความรู้สึกว้าเหว่แบบนี้ทำให้ภริดารู้สึกดีกับคุณปู่
ออกจากร้านกาแฟก็ขับไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อตัดผมและทำเล็บนวดหน้า จวบจนเย็นย่ำรถเบนซ์ค่อยๆเคลื่อนกลับขึ้นมายังเนินเขา
เมื่อผ่านประตูหน้ารั้วยามสองคนก็โค้งคำนับ
รถเลื่อนจากเนินต่ำขึ้นมาเกือบถึงลานน้ำพุและรูปปั้นคุณปู่ริมสระ
"จัดงานอะไรกัน" ภริดาเอ่ยเมื่อเห็นโต๊ะเรียงรายบนพื้นหญ้า มีเวทีและวงดนตรีฝรั่งล้วนๆที่กำลังบรรเลงเพลงสากลแบบสดๆ
บ่งบอกถึงรสนิยมหรูหราของแขกเหรื่อนับร้อยๆที่อยู่บนลานกว้าง
แก๊ก! ๆ ๆ ๆ รองเท้าส้นสูงก้าวเดินเข้ามาในงานแบบงงๆ
จู่ๆพลุนับสิบๆลูกก็แหวกอากาศลอยขึ้นฟ้า ตูม! ๆ ๆ ๆ มันระเบิดกลายเป็นดอกไม้ไฟหลากสีที่สว่างไสวบนท้องฟ้ายามพลบค่ำ
สิ้นเสียงพลุวงดนตรีคลาสสิคเปลี่ยนจากเพลงช้าเป็นเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์
ประตูคฤหาสน์เปิดออกดั่งประตูท้องพระราชวัง สามีรักในชุดสูทนักธุรกิจเข็นรถเข็นอาหารที่มีเค้กเจ็ดชั้นก้อนโตออกมายืนตรงหน้า
ครอบครัวของเค้าก็เดินตามหลังมาติดๆ มีแม่และพ่อสามี พี่เขยและน้องเขย
"ตัดเค้กซิจ๊ะ" แม่ผัวยื่นมีดอันยาวใส่มือน้อย
แปะ! ๆ ๆ ๆ แขกในงานลุกยืนปรบมือเกรียวกราว แต่ละคนดูเป็นผู้ดีมีเงินทั้งหมด น่าจะเป็นเพื่อนไฮโซของพ่อและแม่สามี
ภริดาสับเค้กด้วยมือที่สั่นเทา สาวรับใช้รีบวิ่งมาช่วยประคองแขนเธอเพื่อหั่นเค้กเป็นชิ้นๆ อีกคนถือถาดเค้กชิ้นแรกวิ่งขึ้นไปส่งให้คุณปู่ที่ชั้นบน
สาวใช้อีกสิบกว่าคนถือถาดเค้กที่เพิ่งหั่นลงจานเดินเสิร์ฟให้ผู้คนในงานจนทั่วถึงกัน
เมื่อเสร็จพิธีเเจกเค้กก็มีบ๋อยเดินเสิร์ฟไวน์
วงดนตรีบรรเลงเพลงเร็ว ชายหญิงต่างก็ร้องตามอย่างสนุกสนาน บ้างก็ลุกเต้น สาวหลายคนยืนหมุนและร้องรำ
ครอบครัวสามีนั่งตรงโต๊ะใหญ่ที่สุดหน้าเวที มองบนโต๊ะมีแต่อาหารฝรั่ง
"ทำไมจัดงานวันเกิดใหญ่เท่างานแต่งเลยคะ" ภริดาถามสามีที่นั่งข้าง
"ก็คุณเป็นสะใภ้บ้านนี้นะ" ภารตะ
"ก็นั่นแหละค่ะ สะใภ้บ้านนี้มันต้องพิเศษสุดกว่าใครเหรอคะ ฉันไม่ชินเลย" ภริดาบ่นแล้วยกไวน์แดงซด อึก! ๆ
"ผมบอกแล้วไงว่าถ้าผ่านพิธีแล้วมันดีต่อคุณ ถึงคุณจะไม่เข้าใจก็เถอะ"
สามีตอบขณะที่ก้มหั่นสเต็กในจานเมียรักแล้วจิ้มด้วยส้อมป้อนใส่ปากของเธอ
งั่ม! ๆ ๆ ๆ คนสวยตาโตเมื่อสเต็กมันอร่อย เข้ากับไวน์แดงดีเหลือเกิน อร่อยจนลืมถามสามีต่อ
"กินเยอะๆนะครับพี่สะใภ้" น้องเขยที่นั่งขนาบอีกข้างเอ่ย เมื่อภริดาหันมามองก็เห็นเค้ากำลังก้มหน้าก้มตาหั่นปลาทูน่าบลูฟินที่บ๋อยสองคนเพิ่งยกมาเสิร์ฟ
"นี่กินแพงขนาดนี้เลยหรือคะ" สุดสวยรีบหันขวับมากระซิบสามี ที่เธอตกใจก็เพราะเคยเห็นในสารคดีอาหารว่าทูน่าตัวใหญ่ราคาหลักล้าน
"ไม่แพงหรอกครับถ้าเพื่อลูก เอ๊ย! เพื่อพี่สะใภ้คนสวยของผมน่ะ" น้องเขยกลับตอบแทนสามี
ฉับ! ๆ ๆ มือของเค้าจับมีดยาวราวกับดาบ หั่นเฉือนปลาเป็นชิ้นใหญ่แล้วเอามาใส่จาน จากนั้นใช้มีดเล็กกว่าเฉือนบางพอดีคำ
"อ้าปากสิครับ" น้องเขยหันมาสั่ง เค้าใช้มีดช้อนเนื้อทูน่าสีแดงอมชมพูแล้วยกมาจ่อที่ข้างแก้มซ้าย
"อ้าปากสิคุณ เรวตะมันทุ่มซื้อปลามาเพื่อคุณเลยนะ" สามีกระซิบที่แก้มขวา
"แต่มัน มีดนะคะ" ภริดาเหลียวมองสามีและน้องเขย
"อ้อขอโทษครับ พอดีผมชินกับการฟันดาบใช้ดาบน่ะ" หนุ่มหล่อตอบแล้วใช้มือเปล่าหยิบเนื้อปลาที่ปลายมีด ค่อยๆบรรจงยกมาป้อนตรงใบหน้าสวย
อ้าาา! ภริดาเงยหน้าเรียวขาวขึ้นเหมือนเด็ก พอเธออ้าปากแล้วน้องเขยก็ยัดป้อนเข้ามาทั้งนิ้วทั้งปลา
ยังไม่ทันได้เคี้ยวก็รับรู้ถึงรสชาติปลาดิบที่อร่อย ความบางนุ่มของเนื้อทำให้รู้สึกว่ามันกำลังละลายอยู่ในปากเมื่อโดนลิ้น
จุ๊บ! ภริดาเผลอดูดนิ้วมือของน้องเขยจนน้ำลายเหนียวเลอะติด
หิ! ๆ ๆ เรวตะยิ้มเจ้าเล่ห์ เค้ายกมือกลับไปดูดนิ้วที่เลอะน้ำลายพี่สะใภ้ดังจุ๊บ ๆ
ทำเอาภริดาเสียวในอกวาบๆหวามๆ ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเงยมองใบหน้าอันหล่อเหลา แถมเค้ากำลังดูดกินน้ำลายของเธอด้วยแววตาที่หื่นแบบสุดๆ
ปั่ง! ๆ ๆ ๆ แม่สามีตบโต๊ะเมื่อเห็นพี่สะใภ้กับน้องเขยสบตากันค้างเติ่งจนแขกโต๊ะข้างๆหันมามอง
"กินกันได้แล้วน่ะ กินเยอะๆนะลูกสาว" คุณแม่เอ่ย ทุกคนรีบก้มหน้าก้มตากินดื่ม
ภริดายกไวน์ซดไปหลายแก้วเพื่อย้อมใจ เธอรู้สึกว่าไม่ดีที่เผลอไปดูดนิ้วของน้องชายสามีตัวเอง
"เชิญมอบของขวัญวันเกิดได้เลยนะครับ" นักร้องประกาศ
แขกไฮโซทยอยถือกล่องของขวัญมายื่นให้กับภริดาและสามี ทุกคนต่างก็อวรพรให้มีลูกแล้วเดินกลับไปนั่งกินดื่ม คนใหม่ก็ถือของขวัญเข้ามาให้อีก
กล่องของขวัญมันเยอะจนถือไว้ไม่หมด รับแล้วก็ต้องวางบนพื้นหญ้า สาวใช้หลายคนเห็นก็วิ่งมาหยิบแล้ววิ่งเอากลับเข้าไปกองไว้ในห้อง พวกหล่อนวิ่งเรียงกันเป็นแถว กลับไปกลับมา
"ถ้าน้องมีลูกนะ พี่จะออกแบบและสร้างบ้านให้ลูกของน้องเลย" พี่เขยที่นั่งตรงข้ามเอ่ย
"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ ฮิ! ๆ" ภริดาเมาหน้าแดง เธอกล้าพูดและลืมความอับอายไปแล้ว
"ต้องสิ ลูกของเรา เอ๊ย! ของภารตะทั้งคน" พี่เขยก็หลุดปากเพราะเค้าดื่มทั้งเหล้านอกและไวน์มั่วไปหมด หน้าหล่อๆแดงก่ำ
"ยกไม่พักเลย แสดงว่าหนูภริดาดื่มเป็นนะเนี่ย" พ่อสามีเอ่ยทักและลุกขึ้นยืนเพื่อรินไวน์ใส่แก้วให้สะใภ้ด้วยตัวเอง
"ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องรินหรอกค่ะ" ภริดาเอ่ยและเอนกายมาพิงสามี
"ต้องสิ ไวน์นี่ปี84 พ่อต้องรินเองนะ หวงนะไวน์เก่า ถ้าไม่ใช่งานลูกสาวสุดสวยคนนี้ไม่ยกมาเปิดแน่" พ่อผัวยกขวดไวน์และอวดทุกคน
ฮ่า! ๆ ๆ แปะ! ๆ ๆ ๆ ทุกคนที่โต๊ะหัวเราะและปรบมือให้พ่อ
ภริดายกไวน์ในมือป้อนให้สามีจิบครึ่งนึงแล้วยกกลับมาซดที่เหลือจนหมดแก้ว
"ไวน์ขวดนั้น ราคาเท่าไรคะ" เธอหันไปถามพ่อสามี
"หนึ่งแสน" พ่อตอบ
แค่ก! ๆ ๆ ๆ ภริดาสำลักจนไวน์ไหลออกปาก
ฮ่า! ๆ ๆ ๆ ทุกคนหัวเราะลั่น "เบาๆสิคุณ แขกเยอะนะ" สามีกระซิบหู
"เอางี้ ๆ ถ้าหนูภริดาชอบไวน์ เดี๋ยวพ่อจะไปเอาขวดที่เก่ากว่านี้มาเปิดให้ชิม"
"แต่ขอใครไปช่วยยกพ่อยกมาได้ไหม พ่อไม่อยากให้คนรับใช้เข้าไปในห้องเก็บไวน์" พ่อสามีเอ่ย
"หนูไปเองค่ะ" ภริดาลุกยืนโซซัดโซเซ
"ป่ะ ไปเอาของแพงมากินกัน" พ่อผัวเอ่ยเหมือนวัยรุ่น จากนั้นเดินมาจับมือลูกสะใภ้ จูงเธอเดินตามหลัง
เวลาที่พูดเล่นช่างดูเป็นกันเองและเข้าหาง่าย ผิดกับตอนเงียบที่ดูรวยหรูและเข้าหายาก
ไวน์! ๆ ๆ ๆ ทุกคนปรบมือเชียร์เสียงดัง โดยเฉพาะสามีมาดนักธุรกิจ