ราเมศทำให้ฉันเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉา นอกจากบ้านรวยแล้วเขาก็ยังทรีตฉันราวกับผู้หญิงโชคดีที่ได้คนรักแสนดีอย่างราม แต่เมื่อเวลาผ่านไปสี่เดือนจนจบภาคเรียนที่หนึ่งปีสอง ชีวิตฉันและเขาก็เปลี่ยนไป
ฉันหยิบสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกเมื่อเดือนกันยายน ปี XXXX ขึ้นมาโทรหาเขาในช่วงปิดภาคเรียน แต่เขากลับไม่รับสายฉัน
“รามไปไหนนะ ทำไมไม่รับสาย”
เขาบอกว่ากลับบ้านไปเมื่อสามวันก่อน แล้วฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลย ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและฉัน คนในมหาวิทยาลัยนั้นรู้ดี เพราะเป็นวิทยาเขตที่ต่างจังหวัดมีเพียงสามคณะ คือ วิศวกรรมศาสตร์ การจัดการอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมเกษตร แต่ละคณะมีสาขาย่อยอีกหลายสาขา มีตึกเรียน ห้องสมุดและสิ่งจำเป็นครบครันเหมือนวิทยาเขตในเมืองหลวง แต่ที่ได้เปรียบกว่าคืออากาศที่แสนบริสุทธิ์เท่านั้นเอง
@ช่องแชตรามสุดที่รัก
มิ้นต์ : รามอยู่ไหนจะกลับมาคอนโดเมื่อไหร่ เราไม่ค่อยสบาย (18:00 3 oct)
มิ้นต์ : รามเราเวียนหัวคลื่นไส้ สติกเกอร์ร้องไห้ (20:00 3 oct)
มิ้นต์ : รามเราอ้วกจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า ส่งพร้อมภาพนั่งพิงชักโครก (04:00 4 oct)
ฉันส่งข้อความหาเขาตั้งแต่ฉันสบายดีจนฉันเริ่มป่วย และรู้สึกร่างกายตัวเองไม่เหมือนเดิม ที่สำคัญประจำเดือนฉันมาไม่ปกติสองเดือนแล้ว ฉันคิดว่าเป็นผลจากการแพ้ยาคุม แต่วันนี้อาการหนักกว่าทุกครั้ง
นอกจากเขาไม่อ่านแล้วก็ยังไม่ตอบอีกด้วย ฉันนึกถึงเพื่อนสนิทของรามอีกคนคือยักษ์ ที่จริงเขาชื่ออัศแต่ตัวเขาสูงใหญ่ เพื่อนเลยให้ฉายาว่ายักษ์ของ sec. การจัดการอุตสาหกรรมเอกการผลิต
เธอไม่ต้องให้อะไรฉัน เพราะฉันไม่เคยต้องการแค่ให้ฉัน อยู่ข้างเธอเรื่อยไป ♫ ♬ ♪ ?!! (เสียงดนตรีรอสาย)
ฉันกดเบอร์ของยักษ์แล้วเปิดลำโพงเพราะไม่มีแรงจะยกมือขึ้นแนบหูแล้ว
“ฮัลโหล” เสียงงัวเงียราวกับปลายสายยังอยู่ในอาการนอนหลับ เพราะมันยังเช้าตรู่ แม้ว่ายักษ์จะเคยหม้อสาวด้วยการพาไปตักบาตรตอนเช้าในวันหยุด แต่เมื่อได้เสียจนพอใจและเลิกรา ยักษ์ผู้ตื่นเช้าก็กลายเป็นยักษ์นอนดึกตื่นสาย ปิดเทอมไม่กลับบ้าน เพราะไม่อยากโดนแม่บ่น
“ยักษ์เหรอ เรามิ้นต์นะ”
“อื้อ...มิ้นต์มีอะไรเหรอ โทรมาแต่เช้า” ยักษ์พูดไปหาวไป ทำเอาฉันอดเกรงใจไม่ได้ แต่ว่าฉันติดต่อรามไม่ได้หลายวันแล้วตั้งแต่เขากลับบ้าน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า
“ยักษ์รู้ไหมตอนนี้รามอยู่ไหน เราไม่สบายอยากให้รามพาไปหาหมอสักหน่อย แต่ว่าเราติดต่อไม่ได้มาหลายวันแล้ว” มิ้นต์บอกไปตามตรง
ระหว่างฉันกับรามไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน จะว่ารามมีคนอื่นก็ไม่ใช่ตลอดเวลาเขาเปิดเผยกับฉันทุกเรื่อง ไม่ว่าอยู่ไหนทำอะไร ยกเว้นแต่เขาไม่เคยแนะนำฉันให้กับครอบครัวเขารู้จัก ฉันเองก็รู้ว่าเราทั้งคู่ยังไม่พร้อมและเป็นแค่นักศึกษา แต่เรื่องที่บ้านเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรฉันไม่เคยรับรู้เลย
“อ้าวรามไม่ได้บอกเหรอว่าไปอังกฤษ นึกว่ารู้แล้วเสียอีก อ้อ แล้วมันย้ายไปเรียนที่โน้นเลยนะ มันทำเรื่องโอนย้ายไปเรียนแล้วด้วย”
ยักษ์จากที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นกลายเป็นตื่นเต็มตา เพราะรามไม่ได้บอกมิ้นต์ ที่เป็นแฟนที่มันหวงนักหวงหนา จนใครมองก็เอาแต่หึงแล้วก็ลากเมียมันขึ้นเตียงทุกครั้ง
“อ้าวเหรอ” เสียงฉันเบาหวิวแทบมีแต่ลมออกมา มือจากที่ไม่มีแรงอยู่แล้วทิ้งตกเหมือนคนหมดลมหายใจเสียอย่างนั้น จากที่นั่งพิงชักโครก ก็ทรุดลงนอนกับพื้นห้องน้ำ ก่อนจะวางสายยักษ์เพื่อนรักของรามไป
“มิ้นต์ มิ้นต์ เดี๋ยว ไม่สบายเป็นอะไร แล้วไปหาหมอไหมเดี๋ยวเราไปรับ”
ไร้เสียงตอบรับจากปลายสายทำให้คนที่ตะโกนถามว้าวุ่น
ฉันนอนที่พื้นห้องน้ำ ปล่อยให้น้ำตาร่วงเผาะออกมาอย่างรู้สึกเจ็บปวดใจ ราวกับมันกำลังจะแหลกสลาย รามไปไม่ลาฉันสักคำ ไม่บอกไม่พูดอะไรเลย เขาทำเหมือนรักฉันมาก กระทั่งคอนโดก็ให้ฉันอยู่ทั้งคีย์การ์ด แต่เขาไม่อยู่แล้ว เหลือแต่ห้องว่างเปล่า เขาไปไกลแสนไกล
“รามเราไม่ดีตรงไหน เธอถึงไปไม่บอกเรา เราแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” พูดไปพร้อมน้ำตาที่หลั่งรินออกมา ฉันเป็นของเขาง่าย ๆ แค่คำหวานเพียงคำเดียว แล้วเขาก็ทิ้งฉันแค่วันเดียวเช่นกัน
ฉันถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าฉันพลาดตรงไหนเหรอ
ฉันไม่ดีตรงไหน
หรือฉันจนเหรอ
แล้วถ้ารามชอบคนรวยแล้วจะยอมคบฉันทำไม
ให้ความหวังแล้วทิ้งกันง่าย ๆ เลยเหรอ
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง มีเสียงเคาะประตูที่หน้าห้อง ฉันลุกขึ้นด้วยรอยยิ้ม แล้ววิ่งไปเปิดประตู คิดว่ายักษ์น่าจะล้อฉันเล่นแน่ ๆ แต่ว่า...
“ยักษ์หรอกเหรอ” ฉันพูดด้วยสีหน้าผิดหวังสุด ๆ รอยยิ้มแห้งเหี่ยวราวกับต้นไม้ขาดน้ำ
“มิ้นต์เป็นอะไรทำไมหน้าซีด ไป ไปหาหมอ”
คงมีแค่ยักษ์แหละมั้งที่เป็นห่วงฉัน คนที่ฉันรักอย่างรามไม่เคยห่วงฉันเลย