คนใจง่าย

2467 Words
ครบรอบสามเดือนระหว่างความสัมพันธ์ของคนทั้งสาม วันนี้สองหนุ่มจึงพาพลอยใสออกมาดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรู พร้อมทั้งเซอร์ไพรส์หญิงสาวด้วยการขอเป็นแฟนไปก่อน เพราะไม่อยากเร่งรัดพลอยใสมากเกินไป ทั้งสามคนจึงสวมแหวนประกาศสถานะให้กันและกัน ความหวานชื่นทำให้หัวใจของคนทั้งสามอิ่มเอมด้วยความสุข จวบจนตลอดการรับประทานอาหาร แต่ก็มีมารมาผจญ ทำให้ความสุขของชายหนุ่มสองคนหมดลง เมื่อมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีลูกครึ่งเข้ามาทักทายพลอยใส ในระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเดินไปยังลานจอดรถเพื่อกลับบ้าน “คิดถึงจังเลย เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม” หนุ่มหล่อเอ่ยถาม เมื่อผละร่างบางออกจากอ้อมกอด แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือหญิงสาวออกจากมือตัวเอง ทำเอาสองพี่น้องคิ้วกระตุกกันยกใหญ่ ใบหน้าที่หล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครบัดนี้เรียบเฉย แววตาที่มองไปยังชายหนุ่มคนนั้น แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง โดยเฉพาะหมอกที่เป็นคนเก็บอารมณ์ไม่เก่งสักเท่าไหร่ “สบายดี แล้วเวลล่ะสบายดีไหม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” “สบายดี สวยขึ้นหรือเปล่าเนี่ย” ว่าพร้อมกับยื่นมือมาจับแก้มนุ่มของพลอยใสเล่น “อะแอ่ม” คนเก็บอาการไม่เก่งอย่างหมอกถึงกลับกระแอมออกมา พลอยใสจึงนึกขึ้นได้ว่ามีสองหนุ่มอยู่ด้านหลัง “อาเมฆ อาหมอกคะ นี่เวลค่ะเพื่อนพลอย ตอนที่เรียนอยู่ต่างประเทศ” สองพี่น้องฝืนยิ้มที่แทบจะเป็นแยกเขี้ยวส่งให้ผู้ชายที่ชื่อเวล ส่วนเวลก็ยิ้มรับและกล่าวทักทายกลับไป แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกว่ารู้สึกว่าผู้ชายสองคนนี้ มองตัวเองด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” “เช่นกันครับ” เมฆตอบกลับ เพราะดูจากสีหน้าน้องชายแล้ว ไม่อยากสนทนากับชายตรงหน้าเท่าไหร่ “แล้วเวลมาทำอะไรที่นี่เหรอ” ยัง... คนถูกหึงหวงยังไม่รู้ตัว ยังคงสนทนากับเวลต่อ จนหมอกต้องหายใจเข้ายาวๆ และผ่อนออก จะไม่ไหวแล้วโว้ย!! “มาทำธุระน่ะ ดีใจมากที่ได้เจอพลอยที่นี่ โลกกลมชะมัด เรายังคิดเลยว่าจะโทรหาพลอย” “แต่ก็ไม่ได้โทรปะ” แสร้งโกรธไม่จริงจัง และแน่นอนว่าคนถูกโกรธ จึงยกมือขึ้นโยกศีรษะของพลอยใสเล่น ทำให้สองพี่น้องถึงกลับชักสีหน้าไม่พอใจ สองมือกำเข้าหากันแน่นกรามบดกันจนเป็นสันนูนขึ้นมา “เวลนี่ยังไง ทำไมชอบเล่นหัวอยู่เลย ผมยุ่งหมดแล้วเห็นไหม” “ไหนๆ เดี๋ยวเราลูบให้” “พลอย” ในที่สุดหมอกก็ทนไม่ไหวเอ่ยแทรกเข้ามา ทำให้มือของเวลที่ยกขึ้นจะลูบผมให้พลอยใสชะงักไป “คะ” พลอยใสหันมามองเจ้าขอเสียง “กลับหรือยังคะ ถ้าหนูจะคุยต่อ อาจะได้ไปรอที่รถ” ไม่ใช่จะไปรอ แต่หมอกเดินหน้าบึ้งไปแล้วต่างหาก เมฆที่ยืนรออยู่จึงเดินตามน้องชายไป ปล่อยพลอยใสให้อยู่กับเพื่อนสองต่อสอง “เอ้า! ไปกันหมดเลยเหรอ” “พลอยเราว่าสองคนนั้นเขาไม่ชอบเรานะ” “ทำไมคิดงั้น" "สายตามันฟ้องไง เหมือนเขาหวงพลอยหึงพลอยเลยอะ เป็นอะไรกัน คงไม่ใช่อาหลานธรรมดาใช่ไหม” “เวลอะ” หลักฐานบนหน้ามันแดงแจ๋ชัดเจนขนาดนี้ เวลก็คงไม่ต้องการคำตอบแล้วล่ะ “งั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวผัวจะงอน ร้ายนะเนี่ยมีผัวสองคน ทำยังไงวันหลังมากระซิบบอกกันบ้างนะ เขาอยากมีผัวสองคน” “เวล!!” มือบางฟาดลงบนต้นแขนแกร่งของเพื่อนชายที่ไม่แท้ “เราไปดีกว่า เดี๋ยวถูกงอน” “ไปเถอะ แล้วค่อยคุยกัน อ๋อ! สองคนนั้นไม่ธรรมดาใช่ไหม ทั้งใหญ่ทั้งยาวเลยใช่ปะ” กระเซ้าเย้าแหย่เพื่อนสาวที่หน้าแดงระเรื่อ “เวล!! ไปแล้ว บายนะ” “เทคแคร์” เมื่อพลอยใสขึ้นมานั่งบนรถ บรรยากาศภายในรถช่างเงียบเหงาชวนอึดอัดอย่างไรไม่ทราบ พาให้หญิงสาวทำตัวไม่ถูกขึ้นมา นี่อย่าบอกนะว่าสองคนนี้โกรธเธอจริงๆ “อาเมฆ อาหมอกขา ทำไมเงียบล่ะคะ” เงียบ!! ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนทั้งสอง มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ในขณะที่รถกำลังแล่นบนท้องถนนเท่านั้น “โกรธพลอยเหรอคะที่พลอยคุยกับเวล พลอยกับเวลเป็นเพื่อนกันจริงๆ นะคะ” “เหอะ!! เพื่อนแบบไหนถึงได้กอดกัน จับมือกัน จับแก้มกัน ลูบหัวกันแบบนั้น” คนอารมณ์เสียยังไม่สามารถปรับอารมณ์ได้อย่างหมอกก็เอ่ยแย้งกลับ ภาพที่พลอยใสกับเวลกอดกัน จับมือกัน ยังลอยวนเข้ามาในหัวไม่จางหาย พาให้อารมณ์คุกรุ่น “ก็เพื่อนไงคะ ตอนอยู่เมืองนอกเราก็ทำแบบนี้” พูดความจริงออกไปทุกคำ ตอนที่เธออยู่กับเวลที่ต่างประเทศก็ทำกันแบบนี้ แต่พลอยใสคงไม่รู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยออกมานั้นไปสะกิดต่อมหึงของคนฟังเข้าอย่างจัง อารมณ์ที่พยายามปรับให้เย็นลงก็ปะทุขึ้นมา “เป็นผู้หญิงทำไมไม่รู้จักหวงเนื้อหวงตัวบ้าง ทำไมถึงได้ปล่อยให้ผู้ชายถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ คิดบ้างหรือเปล่าว่าคนอื่นจะมองยังไง” หมอกยังคงสาดอารมณ์ใส่คนที่นั่งอยู่ด้านหลัง จนคนฟังเริ่มจะไม่พอใจขึ้นมาเหมือนกัน กับการที่หมอกไม่มีเหตุผลแบบนี้ “พลอยไม่แคร์หรอกนะคะ ว่าใครจะมองยังไง” “ถ้าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะกอด จะจูบ หรือจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ ง่ายกับทุกคนไปหมดเลยสิ” คนฟังเจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนน้ำตารื้นขอบตา มือบางกำเข้าหากันแน่นจนเล็บเข้าไปในเนื้อ กับประโยคดูถูกของหมอกที่เอ่ยทำร้ายจิตใจ “พอได้แล้วหมอก” เมฆที่ปล่อยให้น้องชายพูดอะไรไม่น่าฟังออกมามากมายก็เอ่ยปราม ก่อนที่เรื่องจะบานปลายมีปากเสียงกันมากกว่านี้ “ก็มันจริงนี่ครับพี่เมฆ ขนาดต่อหน้ายังจับมือถือแขนกอดกัน เล่นหัวหยิกแก้มกันขนาดนี้” “หมอกพี่บอกให้หยุด” เสียงสั่งเสียงเข้ม “สำหรับอา พลอยคงเป็นผู้หญิงง่ายคนหนึ่งสินะ แต่ไม่แปลกหรอกค่ะที่อาจะคิดแบบนี้ เพราะกับอาพลอยก็ยังง่ายเลย พลอยมันก็ง่ายกับผู้ชายทุกคนอย่างที่อาหมอกว่านั่นแหละ” ความอ่อนแอไหลที่พยายามกลั้นไว้ไหลอาบแก้มลงมา พลอยใสรีบเช็ดมันทิ้งไปและกลั้นมันไว้ หันหน้ามองไปนอกหน้าต่าง คนที่หึงจนเลือดขึ้นหน้า เมื่อได้ยินสิ่งที่พลอยใสเอ่ยออกมาก็เหมือนจะรู้สึกตัว ยิ่งมองหญิงสาวผ่านกระจกมองหลัง เห็นพลอยใสกำลังนั่งเช็ดน้ำตาตัวเอง ความรู้สึกก็วิ่งเข้ากระแทกหัวใจ “หนูพลอย อาหมอกไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นนะครับ” เมฆเอ่ยบอก หันมองหญิงสาวก็สงสาร เหลือบสายตามองน้องชายเป็นเชิงตำหนิที่พูดอะไรไม่รู้จักคิด “พลอยอาขอโทษ” พลอยใสหลับตาลง ไม่อยากฟังอะไรจากคนทั้งสองอีกแล้วโดยเฉพาะหมอก เธอไม่ได้โกรธสิ่งที่หมอกเอ่ยออกมาหรอก ก็เธอง่ายอย่างที่เขาว่าจริงๆ แต่เธอแค่ผิดหวังแค่นั้นเอง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองคนบอกว่ารักเธอ อยากดูแลเธอ แต่เธอไม่คิดว่าความคิดลึกๆ ที่เขามีต่อเธอคือ.... เธอก็แค่ผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อรถจอดสนิทลงที่หน้าบ้านพลอยใสก็ลงจากรถ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องครัวเปิดตู้เก็บบรั่นดี หยิบออกมาหนึ่งขวดเพื่อดื่มให้เมา คืนนี้จะได้นอนหลับสบายไม่ต้องรับรู้อะไร เพราะหากให้ขึ้นไปนอนตอนนี้เธอคงนอนไม่หลับแน่ เมฆเดินตามร่างบางเข้ามา ยืนมองคนที่ยกแก้วบรั่นดีดื่มราวกับน้ำเปล่า ก็เดินเข้ามาหาดึงแก้วออกจากมือบางที่กำลังจะยกขึ้นดื่มอีกครั้ง “พอได้แล้วครับ เดี๋ยวก็เมากันพอดี” “พลอยอยากเมา เอาคืนมา” ดึงแก้วออกจากมือหนา แต่เมฆกลับไม่ยอมปล่อย “อาเมฆ เอาแก้วมา” “ไม่ครับ อาไม่อยากให้หนูดื่ม มันไม่ดีต่อสุขภาพ” พลอยใสไม่คิดฟัง ไม่ให้เธอเทใส่แก้ว ก็ยกขวดกระดกเลยก็ได้ “เห้ย!! พลอย” เมฆร้องตกใจรีบดึงขวดเหล้าออกจากพลอยใส “เอามานี่นะ” แว้ดใส่เมฆอย่างลืมตัว ยื่นมือจะไปคว้าขวดบรั่นดีกลับคืนมา แต่เมฆกลับเบี่ยงตัวหลบทัน “ไม่ได้ครับ อาขอคุยกับพลอยก่อนนะครับ อาขอโทษ อาไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นให้พลอยเสียใจ” หมอกที่เพิ่งเดินเข้ามา หลังจากเอารถไปจอดที่โรงจอดรถก็รีบเอ่ยขอโทษพลอยใส “พลอยไม่อยากฟัง เอาเหล้ามา พลอยจะกิน ถ้าอาไม่ให้พลอยกินที่นี่ พลอยออกไปกินข้างนอกก็ได้” ว่าแล้วก็เดินออกมา หมอกจึงรีบเดินเข้ามาขวางไว้ เมฆที่เป็นห่วงหญิงสาวจึงรีบเอ่ยอนุญาตออกไป “โอเคครับ อาให้หนูกินก็ได้” สุดท้ายสองพี่น้องก็ต้องยอมพลอยใสตามที่หญิงสาวต้องการ เพราะไม่อยากให้เธอออกไปนอกบ้าน นั่งมองหญิงสาวดื่มที่ห้องรับแขกไปเงียบๆ ร่วมชั่วโมงที่พลอยใสนั่งดื่ม แอลกอฮอล์ที่เดิมเข้าไปก็เหมือนกำลังจะออกฤทธิ์ พาให้สารในสมองทำงานวุ่นวาย สติสตังเริ่มเลือนหาย มีความมึนเมาเข้ามาแทนที่ สุดท้ายก็เอ่ยในสิ่งที่ใจคิดออกมา “ทำไมไม่มีใครรักพลอยเลยสักคน พลอยดูแย่ในสายตาทุกคนขนาดนั้นเลยเหรอ ไหนบอกว่ารักพลอยไง แล้วทำไมถึงคิดว่าพลอยง่ายกับใครก็ได้ หรือเป็นเพราะว่าพลอยง่ายกับอาเหรอ มันเลยทำให้อาคิดแบบนั้น หรือว่าจริงๆ แล้วอาไม่ได้รักพลอยหรอก แค่พูดให้พลอยตายใจ เพื่อจะได้เก็บพลอยไว้รองรับอารมณ์เหรอ แหวนนี่ก็แค่ห่วงมัดตัวพลอย หลอกพลอยให้ตายใจ ไปไหนจากอาไม่ได้ใช่ไหม” พลอยใสนั่งมองแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วตัวเองผ่านม่านน้ำตา นั่งกอดเข่าซบหน้าลงกับเข่าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา เมฆกับหมอกหันมองหน้ากัน สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาคือความรู้สึกผิด และขอโทษที่ทำให้พลอยใสเสียใจ โดยเฉพาะหมอกที่ปล่อยให้อารมณ์มีอิทธิพลมากกว่าเหตุผล เผลอพูดจาทำร้ายความรู้สึกพลอยใสเข้า ชายหนุ่มสองคนจึงขยับเข้าไปนั่งข้างพลอยใสคนละฝั่ง “พลอย อาหมอกขอโทษนะครับ อาแค่หึงพลอย หวงพลอยจนขาดสติ ที่เห็นพลอยสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้น อาหวงพลอย อาไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้พลอยเสียใจเลยนะ” มือหนาลูบหลังบางของพลอยใสเป็นการปลอบ “เราสองคนพี่น้องรักพลอยจริงๆ นะครับ” พลอยใสเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายสองคนที่นั่งอยู่ข้างเธอคนละฝั่ง “อาเมฆกับอาหมอก ชอบพลอยตรงไหนเหรอคะ... ถ้าให้พลอยเดา คงเป็นเพราะพลอยสวย หุ่นดี ใจง่าย ยอมอาสองคนแบบง่ายโคตรๆ และยังให้อาเอาทั้งรูหน้าและรูหลังใช่ไหม ฮ่าๆๆ ... พลอยโง่ขนาดนี้ อาจะไม่รักได้ยังไง จริงไหมคะ” พลอยใสหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ให้ความโง่เขลาของตัวเอง แต่ผู้ชายสองคนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ใช่อย่างนั้นนะพลอย” เมฆพยายามจะอธิบาย แต่พลอยใสกลับพูดแทรกขึ้นมาก่อน “อาอยากมีอะไรกับพลอยไหมคะ เราเข้าห้องเชือดกันดีไหม” “ไม่ครับ อาจะไม่รังแกพลอย” หมอกเอ่ยบอก พลอยใสย่นจมูกใส่ หันหน้ามาหาเมฆแทน “อาเมฆขา ขาหมอกไม่อยากรังแกพลอย อาเมฆรังแกพลอยได้ไหมคะ พลอยอยากให้อาเมฆรังแกพลอยแรงๆ เลยค่ะ” ไม่ใช่แค่พูด แต่หญิงสาวขยับตัวขึ้นนั่งบนตักแกร่งของเมฆ ยกมือคล้องลำคอชายหนุ่ม ขยับสะโพกคลึงวนบดเบียดกับตัวตนที่ยังหลับใหลอย่างยั่วยวน “หนูพลอย ไม่เอาน่า” เมฆร้องปราม เพราะหากพลอยยังยั่วบดสะโพกอยู่แบบนี้ เขาอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และรังแกเธอตอนเมาก็เป็นได้ “ทำไมคะ ไม่รักพลอยแล้วเหรอ รังเกียจพลอยแล้วเหรอ” นัยน์ตาหวานสั่นระริก น้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า เมื่อเมฆปฏิเสธเสียงเข้ม เมฆเห็นแล้วก็ใจหาย รีบโอบกอดหญิงสาวไว้ ลูบหลังบางปลอบประโลม “ไม่ใช่ครับ อาไม่ได้รังเกียจหรือไม่รักหนูนะ” ดวงตากลมโต นัยน์ตาแดงก่ำ เงยหน้าขึ้นจากอกมองเมฆสายตาหวานเชื่อม ไม่รู้เพราะเมาหรือเพราะกำลังมีอารมณ์ปรารถนากันแน่ แววตาถึงได้หวานขนาดนั้น “ถ้าอย่างนั้น อาเมฆก็ต้องรักพลอยนะคะ” “ครับ อาจะพลอย” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการคนเมาก็หันมาหาหมอกบ้าง “อาหมอกล่ะคะ รักพลอยไหม” “รักสิครับ อารักพลอย” พลอยใสยื่นมือไปประคองใบหน้าของหมอกด้วยรอยยิ้มหวาน “งั้นเรามารักกันนะคะ สามคนผัวเมีย” สองพี่น้องหันมองหน้ากันอย่างชั่งใจ พลอยใสในตอนนี้อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ ถูกแอลกอฮอล์ครอบครองไปมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ หากเขาสองคนทำอะไรลงไป จะแน่ใจได้ยังไงว่าเมื่อตื่นขึ้นมาพลอยใสจะไม่งอนหรือโมโหให้อีก แต่ถ้าเขาสองคนปฏิเสธ แน่นอนว่าพลอยใสต้องไม่ยอมแน่ๆ และอาจจะโกรธมากกว่านี้ หรือเสียใจมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ “หนูแน่ใจใช่ไหมครับ ที่จะให้อาสองคนรักหนูแรงๆ” เมฆถามย้ำ แม้จะรู้เต็มอกว่าคนเมาจะตอบว่ายังไงก็ตาม “ค่ะ รักพลอยพร้อมกันเลยนะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD