ปลอบใจด้วยคามเสียว

2380 Words
พลอยใสขยับตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา สองแขนชูขึ้นเหนือศีรษะเป็นการบิดขี้เกียจ ดวงตาที่ปิดสนิทลืมขึ้นมองเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน ค่อยๆ ใช้สมองคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในค่ำคืนที่ผ่านมา เมื่อวานเธอทะเลาะกับพ่อ ถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน เลยออกมาดื่มที่สถานบันเทิง มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งพาเธอออกมาจากร้าน โชคดีที่อาเมฆกับอาหมอกมาทันเวลา จากนั้นทั้งสองคนก็พาเธอมาที่บ้าน และเธอกับอาทั้งสอง... ตายแล้ว พลอยใสดีดตัวลุกขึ้นสลัดผ้าห่มทิ้งรีบลงจากเตียงนอน ทว่ายังก้าวขาได้ไม่กี่ข้าวก็เจ็บแปลบที่รูจีบด้านหลัง และยังรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่างกาย จนต้องทรุดตัวลงนั่งที่พื้นห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออก จากคนที่อยู่ด้านนอกพอดิบพอดี “เอ้า!! ไปนั่งที่พื้นทำไมคะ” หมอกเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้ามาประคองคนที่นั่งอยู่ที่พื้นให้ลุกขึ้นมา พาหญิงสาวเดินกลับมานั่งที่เตียงนอน “อะ อาหมอกคะ เมื่อ...เมื่อคืนนี้อา...อากับพลอย...” ทำไมถึงรู้สึกว่าลำคอมันตีบตันจนพูดอะไรไม่ออก อีกทั้งยังหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อคิดว่าต้องเอ่ยถามอะไรออกไปต่อจากนี้ และเหมือนหมอกจะเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาว มือหนาถือวิสาสะวางลงบนหลังมือบางและบีบเบาๆ “เอาเป็นว่าหนูไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า จะได้ออกมากินข้าวเช้ากัน พี่เมฆกำลังทำอยู่ข้างล่าง เสื้อผ้าอาเตรียมไว้ให้แล้วอยู่ในห้องน้ำ อาลงไปรอข้างล่างนะคะ” หมอกไม่อยากอยู่ในพลอยใสอึดอัด จึงเลือกที่จะลงไปรอหญิงสาวที่ชั้นล่างในห้องนั่งเล่นแทน เมื่อประตูห้องปิดลงพลอยใสก็ผ่อนลมหายใจออกมา ไม่รู้ว่าโล่งอกหรือว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ แม้อาหมอกจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่การที่อาหมอกบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน มันก็หมายความว่า สิ่งที่เธอคิดคือเรื่องจริงอย่างนั้นใช่หรือไม่ แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดี แต่ที่แน่ๆ เธอไม่มีวันอยู่เป็นภาระของอาเมฆกับอาหมอกแน่นอน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็ปล่อยมันไป ถือว่าเกิดจากความประมาทไม่ระวังตัวของเธอเอง หรือหากคิดเพื่อปลอบใจตัวเอง ดีซะอีกที่เป็นอาสองคนนี้ ไม่ใช่ผู้ชายแปลกหน้ากลุ่มนั้น ทว่าสิ่งที่พลอยใสตั้งใจไว้เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อหลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งสามคนก็ได้ย้ายมานั่งที่ห้องรับแขก พลอยใสได้เอ่ยถึงเจตนาของตัวเองอย่างชัดเจน ว่าไม่ต้องการรบกวนอาทั้งสอง ส่วนเรื่องเมื่อคืนก็ไม่ต้องการให้อาทั้งสองมารับผิดชอบหรือรู้สึกผิดอะไร แต่สิ่งที่ชายหนุ่มทั้งสองตอบกลับมาก็คือ... “อาไม่อนุญาตให้พลอยไปอยู่ที่อื่น เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้อันตรายเกินไป” เสียงเข้มของเมฆเอ่ยขึ้น ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาเรียบเฉยยามเอ่ยในเรื่องสำคัญ ผิดกับตอนอยู่บนเตียงที่แปลงร่างเป็นคนอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด “จริงด้วย อาก็เห็นด้วยกับพี่เมฆนะครับ ว่าพลอยไม่ควรออกไปอยู่คนเดียวมันอันตรายเกินไป อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า” ปลอดภัยจากคนอื่น แต่ไม่ปลอดภัยจากคุณอาทั้งสองน่ะสิไม่ว่า “แต่พลอย...” “หรือจะให้อาโทรบอกคุณพงษ์ ว่าพลอยอยู่ที่นี่” “อย่านะคะอาเมฆ พลอยไม่อยากให้พ่อรู้ว่าพลอยอยู่ที่ไหน ในเมื่อพ่อกล้าไล่พลอยออกจากบ้าน พ่อก็ไม่ต้องรู้หรอกว่าพลอยจะเป็นตายร้ายดียังไง อีกอย่างป่านนี้พ่อคงมีความสุขกับเมียกับลูกใหม่ไปแล้วล่ะค่ะ ไม่มีพลอยอยู่ในบ้านคอยขวางหูขวางตา” น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือ น้ำตาเอ่อคลอดวงตา เมื่อคิดถึงภาพที่ตัวเองเปรียบเสมือนส่วนเกินของคนในบ้าน ตั้งแต่มารดาเสียไป บิดาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลงภรรยาใหม่จนไม่สนใจเธอด้วยซ้ำ หมอกที่นั่งอยู่ข้างพลอยใส ก็อดไม่ได้ที่จะดึงหญิงสาวเข้ามาโอบกอดปลอบประโลม สัมผัสอบอุ่นที่ได้รับจากอ้อมกอดของหมอก ทำให้คนที่ไม่ได้ถูกโอบกอดแบบนี้นานหลายปีอ่อนแอลงอย่างไม่น่าเชื่อ น้ำตาที่คลอในคราแรกไหลอาบลงบนแก้มเนียนทั้งสองข้าง “พ่อไม่รักพลอย” เอ่ยบอกอู้อี้อยู่กับอกกว้าง หมอกและเมฆหันมองหน้ากันด้วยความสงสาร “ไม่เอาน่า ไม่ร้องนะครับคนเก่งของอา ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกตัวเองหรอกนะคะ” หมอกยังคงทำหน้าที่เอ่ยปลอบคนเสียใจ พลอยใสก็ส่ายหน้าแย้งออกมา “ก็พ่อพลอยไงคะ ที่ไม่รักพลอย” ใบหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตาเงยขึ้นมองหมอก ดวงตาเคลือบหยาดน้ำตาช่างน่ารังแกนักในความคิดของชายหนุ่ม “อาหมอกกับอาเมฆอย่าบอกพ่อนะคะว่าพลอยอยู่ที่นี่ ถ้าอาสองคนบอก พลอยจะหนีไปให้ไกลเลยค่ะ” หันมามองหน้าเมฆบ้าง คนอะไรพูดขู่ได้น่ารักชะมัดในความคิดของเมฆ ชายหนุ่มจึงขยับเข้าใกล้หญิงสาว “ครับ อาสองคนสัญญาว่าจะไม่บอกคุณพงษ์ว่าพลอยอยู่ที่นี่ แต่พลอยก็ต้องทำตัวน่ารักกับอาสองคน รู้ไหมครับเด็กดี... ดูซิเนี่ย น้ำตาเปื้อนแก้มหมดเลย เดี๋ยวอาเช็ดให้นะครับ” ไม่ได้ใช้มือเช็ดอย่างที่พลอยใสเข้าใจ ริมฝีปากหยักจุมพิตลงบนแก้มเนียนใส ค่อยๆ ขยับจูบซับน้ำตาออกจากใบหน้าหญิงสาวเชื่องช้า เรียวลิ้นสากแลบลิ้นออกมาเลียน้ำตาอย่างไม่รังเกียจ ส่วนคนถูกเช็ดน้ำตานั่งนิ่งเพราะตกใจ ครั้นพอได้สติจะผลักใบหน้าของเมฆของห่าง หมอกที่โอบกอดไว้ ก็เลื่อนมือขึ้นมาเคล้นคลึงเต้างามผ่านเนื้อผ้าทั้งสองข้าง สร้างความกระสันรัญจวนให้หญิงสาวจนต้องแอ่นหน้าอกขึ้นสู้มือ และเงยหน้าให้เมฆซุกไซ้ลำคอขาว “อืม...” “ปล่อยตัวตามสบายนะคะคนเก่ง เดี๋ยวอาสองคนจะปลอบหนูเอง คุณพ่อไม่รักหนูไม่เป็นไร เดี๋ยวอาสองคนจะรักหนูเอง” หมอกเอ่ยบอกเสียงพร่า พาให้หัวใจคนฟังสั่นไหวเต้นระส่ำ หมอกประคองใบหน้าสวยเงยขึ้นรับจูบจากตน ส่วนเมฆเมื่อเห็นน้องชาย ทำหน้าที่มอบความเคลิบเคลิ้มให้พลอยใส ด้วยรสจูบเร่าร้อน ชายหนุ่มจึงทำหน้าที่มอบความเสียวซ่านให้บ้าง มือหนาลูบไล้แขนเรียวขึ้นมายังหน้าอกอวบใหญ่ บีบเคล้นลงไปหนักๆ ทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะสอดมือเข้าไปในชายเสื้อ เพื่อสัมผัสความอวบใหญ่นุ่มพอดีของหญิงสาว ดึงชั้นในขึ้นไปกองไว้เหนือเต้างาม นิ้วแกร่งสะกิดยอดอกรัวเร็ว จนเริ่มแข็งเป็นไตขึ้นมา “อื้อ...” พลอยใสร้องครางประท้วง เมื่อสติที่ลอยไปไกลหวนกลับเข้ามา ว่าเธอไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจให้คุณอาทั้งสองอีก มือบางยันแผ่นอกกว้างของเมฆไว้ แต่ไม่รู้ยันไปยันมาเช่นไร จึงเป็นลูบไล้อกแกร่งเสียอย่างนั้น ความต้องการไหลพล่านไปทั่วร่างงาม บดจูบแลกลิ้นกับหมอกเร่าร้อน แอ่นหน้าอกให้เมฆบีบเคล้นตามอารมณ์ปรารถนา ที่กระจายไปทั่วอณูของร่างกาย ลืมความถูกต้อง เหมาะสม ควรไม่ควรไปจนสิ้น ในเมื่อชีวิตตอนนี้แม้แต่บิดายังไม่ต้องการ ไล่ออกจากบ้านอย่างไม่เหลียวแล พลอยใสคิดว่าชีวิตต่อจากนี้เป็นของเธอ เธอจะทำตัวเช่นไรก็ไม่ต้องกังวล ว่าจะทำให้ใครไม่สบายใจหรือเป็นห่วงอีกต่อไป ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามการปลุกเร้าของคุณอาทั้งสอง ทำตัวให้ร่านสมกับที่บิดากล่าวหาบ้างจะเป็นไร เมื่อพลอยใสเริ่มคล้อยตามมีอารมณ์ร่วม สองพี่น้องก็ไม่รั้งรอที่จะมอบความสุขและความเสียวให้หญิงสาว “ให้อาทำให้หนูมีความสุขนะครับ” หมอกเอ่ยชิดใบหูเล็ก บีบขยำเต้างามอย่างมันมือ ทั้งบีบทั้งเขี่ยยอดอก “อารับรองว่าพลอยต้องชอบ เชื่อใจอาสองคนนะครับ” เมฆเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แพรวพราว พลอยใสพยักหน้ารับ เมื่อคืนเธอทั้งเมาทั้งถูกยานั่นเล่นงาน แต่ตอนนี้เธอมีสติครบถ้วน อยากรู้เหมือนกัน ว่าความรู้สึกที่ร่วมรักกับผู้ชายสองคนพร้อมกันมันเป็นยังไง “อื้อ...” เสียงหวานร้องคราง เมื่อกายสาวถูกมือหนาของเมฆ ที่ขยับตัวลงไปนั่งที่พื้นด้านล่างลูบไล้ และคลึงนิ้วลงบนกายสาวผ่านเนื้อผ้า จากนั้นสองพี่น้องก็จับพลอยใสลอกคราบ ให้เหลือเพียงร่างบางขาวเนียนเปลือยเปล่า ก่อนทั้งคู่จะจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน พลอยใสเริ่มหายใจติดขัด เมื่อเห็นร่างกำยำของคุณอาทั้งสองเต็มตา แม้อายุจะเข้าสี่สิบปีแล้วก็ตาม ทว่ายังดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยมัดกล้าม แต่ที่ทำให้ติ่งเนื้อสั่นระริกอย่างคนร่าน ก็คงเป็นแท่งเนื้อลำใหญ่สีน้ำตาลที่กำลังแข็งขึงนี้ต่างหาก เพียงเท่านี้ความเสียวก็แล่นไปทั่วร่าง โดยเฉพาะกายสาวที่หลั่งน้ำหวานเปียกเยิ้ม เพื่อรอให้ทั้งคู่ได้ตักตวงดื่มกิน ร่างบางถูกหมอกอุ้มนั่งบนตัก ขาเรียวสองข้างถูกจับแยกออกกว้าง เพื่อให้เมฆที่เข้ามานั่งตรงกลางหว่างขา ได้เล่นสนุกกับหอยหวานที่อ้าปากรอแล้วในตอนนี้ “อ้ะ...อ่อย...อาเมฆ...อืม” เสียงหวานสั่นพร่า ตาโตฉ่ำหวานเต็มไปด้วยไฟร่าน เมื่อเมฆกรีดนิ้วลงบนรอยแยกและคลึงติ่งเนื้อของเธออยู่ในขณะนี้ “ครับคนสวย...หอยหนูสวยมากเลยครับ ตัวใหญ่ชะมัด รูก็น่ารักสีชมพูเชียว” พลอยใสยอมรับว่าตัวเองเสียวซ่านกับประโยคของเมฆที่เอ่ยมา และยิ่งเสียวจนต้องแอ่นทั้งสะโพกและหน้าอก เมื่อถูกหมอกบีบบี้หัวนมทั้งสองข้าง “อ่อย... อาขา...พลอย...อี้...อาพลอยเสียว” “เดี๋ยวหนูได้เสียวมากกว่านี้อีกค่ะ” พูดจบ เมฆก็โน้มใบหน้าลงต่ำเข้าหาหอยหวาน จมูกโด่งสูดดมความหอมของเนื้อสาวเข้าเต็มปอด ลิ้นสากแลบออกมาเลียริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่เห็นหน้าคร่าตามานาน กำลังถูกน้องชายมอบจูบหวานปนเผ็ดร้อนให้อย่างดูดดื่ม เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังหยาบโลน เต้างามสีขาวอวบใหญ่ถูกหมอกบีบเคล้นจนเนื้อปลิ้นออกมาตามง่ามนิ้ว ช่างเป็นภาพสวยงามชวนมีอารมณ์เสียจริง “อาจะเลียให้ดิ้นเลยนะ” นิ้วแกร่งแหวกกลีบแคมสองข้างออกกว้าง เผยรูรักที่ยังเป็นสีชมพูสด ด้านในตอดรัดตุบๆ ก็ยิ่งเกิดความต้องการ หากเป็นไปได้อยากเอาแท่งเนื้อที่แข็งขึงชี้เด่อยู่ตอนนี้เสียบเข้าไปซะ แต่ก็ต้องข่มใจไว้ “อื้อ...” พลอยใสสะดุ้งเฮือก เมื่อลิ้นสากปาดเลียขึ้นลงลงบนติ่งเนื้อที่ยื่นออกมา ไล่ลิ้นเลียต่ำลงมายังรอยแยกที่อ้าออกจากนิ้วที่แหวกเปิดทาง ปาดลิ้นกินน้ำหวานที่ไหลรินเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะเปลี่ยนละเลงเข้าใส่ติ่งเนื้อรัวเร็ว นิ้วแกร่งก็กดลึกเข้าไปทักทายด้านในที่เยิ้มไปด้วยน้ำหวาน ยิ่งเห็นหญิงสาวร่อนสะโพกรับลิ้นที่ตวัดไล่เลียก็ยิ่งได้ใจ ระรัวนิ้วเข้าใส่จนเกิดเสียงแจะๆ “อ้ะ...อื้อ...ซี้ด” ใบหน้างามก้มมองเมฆตาหวานฉ่ำ เมื่อความเสียวที่เมฆมอบให้มากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบขาดใจ “เสียวเหรอคะเด็กดี” หมอกเอ่ยถามยิ้มๆ จับมือบางมารูดรั้งแท่งเนื้อของตัวเองบ้าง “ค่ะ เสียว พลอย...อื้อ...” พลอยใสร้องคราง เมื่อเต้างามถูกหมอกก้มลงดูดกินมูมมาม ทั้งดูด ทั้งเลีย ทั้งดึงยอดอกให้ยืดออกมา จนร่างกายของเธอร้อนรุ่มแทบหลอมละลายลงกับโซฟา มือบางเร่งจังหวะรูดรั้งกายใหญ่ของหมอกเร็วมากขึ้น ทว่ายิ่งเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนหมอกจะแกล้งเธอด้วยการดูดนมแรงขึ้นเท่านั้น “อ้ะ...อ่อย...เสียว...อาขา...พลอย...” “อร่อยจริงๆ หนูพลอยของอา” หมอกพึมพำกับเต้างาม ดูดดึงหัวนมพลอยใสยืดขึ้นมาและปล่อยลงไป พลอยใสสะท้านเสียววูบวาบสะบัดหน้าด้วยความทรมาน มองดูเมฆปาดเลียลงบนร่องเสียวของตัวเองย้ำๆ เลยขึ้นมายังติ่งเนื้อบวมเบ่งก็ยิ่งเสียวแทบเสร็จ ร่างกายร้อนรุ่มเหมือนจะแตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ ในอีกไม่ช้า “อ้ะ...อืม...อาเมฆ อาหมอก...อ้ะ...อี้...พลอยเสียวจะเสร็จ...ไม่ไหว...” ได้ยินแบบนี้เมฆก็เร่งจังหวะนิ้วกระแทกเข้าใส่รูสวาทเร็วขึ้น จนเกิดเสียงดังแจะๆ หมอกก็ละเลงลิ้นเข้าใส่ยอดอกเร็วๆ พลอยใสแอ่นทั้งหอยสู้กับนิ้วของเมฆ แอ่นทั้งอกสู้กับลิ้นของหมอก ร่างกายเกร็งสะท้าน เมื่อความเสียวใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกไม่ไกล “อ้ะ...อี้...อ่อย...เสียว...ไม่ไหว...ตะ แตก...อ้าย” สุดท้ายสองพี่น้องก็พาพลอยใสเดินทางไปมายังวิมานแสนหวานได้สำเร็จ น้ำหวานในกายแตกทะลักออกมาสู่ลิ้นและปากของเมฆ ที่กำลังดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนหมอกก็ไล่เลียชิมยอดอกแสนหวานไม่ผละห่างไปไหน ดั่งร่างกายของหญิงสาวคืออาหารจานโปรดที่อร่อยถูกปาก จนไม่อยากหยุดกิน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD