เด็กป๋า -05- มีเรื่อง

1305 Words
@เวลาผ่านไป #มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง "หนูดี...ทำไมนั่งหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ" เพื่อนสนิทอย่างเฌอเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับหย่อนก้นนั่งลงข้างๆ มองดูสีหน้าของเพื่อนสนิทที่ไม่รับแขกอยู่ "ไม่รู้สิ เหนื่อยยังไงก็ไม่รู้อ่ะ" "คิดถึงพ่อเหรอ?" "คงใช่มั้ง พ่อหายไปตั้งหลายปีแล้วเนาะ" "แล้วทำไมไม่ลองให้ป๋าจ้างนักสืบดูล่ะ บางทีอาจจะเจอตัวพ่อของหนูดีก็ได้นะ" "เราบอกป๋าไปแล้วล่ะ แต่ว่าป๋าก็ไม่รับปากเหมือนกันว่าจะเจอตอนไหน" "น่าแปลกอะ อยู่ดีๆ พ่อของหนูดีก็พาหนูดีไปส่งไว้กับเพื่อนของตัวเอง แล้วก็หายสาบสูญไปเลย" ไม่ใช่แค่เพื่อนของเธอที่รู้สึกแปลกใจ ตัวเธอเองก็รู้สึกแปลกใจไม่ต่างกันที่อยู่ดีๆ ผู้เป็นพ่อเอาลูกสาวสุดรักสุดหวงแหนไปทิ้งเอาไว้กับเพื่อนสนิทที่เป็นมาเฟีย แล้วตัวเองก็หายไปเลย "ถ้าเป็นเฌอ...จะตามหาพ่อไหม" "เราต้องรู้ก่อนอะว่าพ่อไปอยู่ที่ไหน แต่ถ้าพ่อหายตัวไปแบบนี้เราก็ต้องตามหาอยู่แล้ว" "...." หนูดีไม่อยากคิดไปไกลเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าพ่อของเธอเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง จะยังอยู่หรือว่าเสียไปแล้วก็ไม่มีใครรู้เลย "หนูดีๆ" "หือ?? เสียงใครน่ะ" เธอกรอกตามองหาต้นเสียงที่เรียกชื่อของเธอ ก่อนจะพบเข้ากับกษะเพื่อนผู้ชายคนนึงของเธอ "แฮ่กๆๆๆ หนูดี" "เป็นอะไรไปกษะ ทำไมถึงวิ่งมาแบบนั้นล่ะเดี๋ยวก็ล้มเอาหรอก" "ไปดูเหมยเร็ว เหมยกำลังมีเรื่องทะเลาะกับเพื่อนอยู่หลังมหาวิทยาลัย รีบไปเร็วกำลังตะลุมบอนกันเลยเราห้ามก็ไม่มีใครฟัง" กษะพูดด้วยน้ำเสียงที่หอบแฮกเพราะวิ่งมาไกล "ห๊ะ!?" "รีบไปกันก่อนเถอะหนูดี" "อื้อๆ" หนูดีและเฌอรีบวิ่งไปยังทางด้านหลังของมหาวิทยาลัย และก็ได้เห็นเหมยกับเพื่อนที่อยู่ต่างคณะกำลังตบตะลุมบอนกันอยู่อย่างไม่มีใครยอมใคร ซึ่งเหมยก็มีเพื่อนหลายคนอยู่อีกคณะนึงเหมือนกัน "เอายังไงดีอ่ะเฌอ เราไปตามอาจารย์ดีไหม" หนูดีเสนอขึ้นมา "จะดีเหรอถ้าไปตามอาจารย์มีหวังได้เดือดร้อนกันหมดนี่แน่" "แล้วเราจะทำยังไงได้ล่ะ ห้ามแล้วไม่มีใครฟังเลย ถ้าอาจารย์มาเห็นเองจะพากันซวยกันหมดนะ" หนูดีเธอไม่เคยมีประวัติเสียหรือมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใครในมหาวิทยาลัยเลย เธอเป็นเด็กเรียนดีเรียนเก่งแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะมีใครชอบไปซะหมด "หยุด!! พอ! พอได้แล้ว! พอสิ! ฉันบอกให้พอไงไม่ได้ยินเหรอ!?" เฌอตะโกนเข้าไปท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีใครหยุดฟังเสียงของเธอเลย ดูเหมือนว่าเสียงของเธอจะเป็นแค่ลมพัดผ่านหูเท่านั้น "น้ำเฌอ น้ำช่วยได้" "ใช่ๆๆๆ น้ำช่วยได้" เฌอหนูดีเดินหาถังไปตักน้ำตรงร่องเล็กๆ ก่อนจะเอาไปสาดใส่กลุ่มคนที่กำลังชุลมุนวุ่นวายกัน และน้ำก็ช่วยได้จริงๆ ทุกคนหยุดและหันมามองที่เฌอและหนูดีด้วยท่าทางที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก "ระ เราขอโทษนะ แต่เราพยายามห้ามพวกเธอแล้วพวกเธอไม่หยุดเอง ถ้าอาจารย์มาเห็นมันจะวุ่นวายไปกันใหญ่นะ ทางที่ดีอย่ามีเรื่องกันในมหาลัยเลยดีกว่า" เธอพูดออกไปอย่างใจเย็น "จิ๊ ฉันฝากไว้ก่อนนะอีเหมย คราวหน้าเจอกันข้างนอกมึงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่" "มึงก็มาดิคิดว่ากูกลัวเหรอ!?" เหมยตะโกนท้าทายกลับ "เหมยพอแล้ว" เฌอรีบเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิท พร้อมกับมองสำรวจดูร่างกายของเหมยว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า เพราะเธอถูกพวกนั้นรุมทำร้ายมากกว่าที่จะเรียกว่าทะเลาะวิวาทแบบสมน้ำสมเนื้อ "ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่พวกเธอรู้ได้ยังไง?" "กษะไปบอกน่ะว่าเธอกำลังทะเลาะกันอยู่" หนูดีตอบ "ไอ้กษะ!" "เฮ้ย ฉันเป็นห่วงแกนะเว้ย ดูสภาพแกสิถ้าหนูดีกับเฌอไม่มาห้ามแกจะเป็นแบบไหนรู้หรือเปล่า" "เสือกไม่เข้าเรื่องนะ!" "ใจเย็นก่อนนะเหมย กษะเป็นห่วงเรานั่นแหละถึงได้ไปตามให้เราสองคนมาช่วยเหมย ที่กษะพูดก็ถูกถ้าเราห้ามไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ ถ้าอาจารย์ไม่เห็นมันจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่านี้นะ" "เกิดอะไรขึ้นเหมยทำไมถึงไปทะเลาะกับนักศึกษาคณะนั้นได้ เคยมีปัญหากันมาก่อนเหรอ?" เฌอถาม "อื้ม ตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมแล้ว ฉันมีเพื่อนอยู่อีกคณะนึงก็อยู่คณะเดียวกับพวกนั้นแหละ พวกมันเอาฉันไปนินทาพูดถึงเสียๆ หายๆ ฉันก็เลยโมโหน่ะ" "เขาอยากจะพูดอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ ถ้าเราโมโหก็แปลว่าเรายอมรับว่าเราทำแบบนั้นจริงๆ" หนูดีพูด "ฉันไม่ได้ใจเย็นแบบแกนะหนูดี ว่าฉันฉันพอรับได้แต่ถ้าลามปามไปถึงพ่อแม่ฉันฉันรับไม่ได้หรอก" "ไม่เป็นไรนะ ไปทำแผลกันก่อนดูสิมีเลือดออกด้วย" "อื้ม" เฌอและหนูดีพยุงเหมยกลับไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำของพวกเธอ ก่อนที่หนูดีจะหยิบเอาพลาสเตอร์แปะแผลออกมาจากกระเป๋า และแป๊ะไปตามส่วนที่มีรอยแผล "ทำไมเธอทำเหมือนฉันเป็นเด็กเลยเนี่ย พลาสเตอร์แปะแผลลายปิกาจูเนี่ยนะ?" "น่ารักดีออก" "ยัยหนูดี กระเป๋าเธอก็ลายคิตตี้ พลาสเตอร์แปะแผลเธอยังซื้อลายปิกาจูมา อะไรจะขนาดนั้น" "ก็เราชอบนี่มันน่ารักดี" "อย่าไปเถียงเถอะเหมย เธอก็รู้ว่าเถียงหนูดีไปแล้วก็ไม่ชนะอยู่ดี" "นั่นสิ" "กลับบ้านไปก็อย่าเพิ่งให้แผลมันโดนน้ำนะ เดี๋ยวจะอักเสบเอา ถ้าจะแกะก็เอาแอลกอฮอล์หรือน้ำเกลือมาล้างแผลก่อนนะ แล้วค่อยแปะพลาสเตอร์เข้าไปใหม่" "แผลแค่นี้เธอทำอย่างกับว่าแผลมันใหญ่มากอย่างนั้นแหละ แค่ฉันหายใจเข้าออกมันก็หายเจ็บแล้วหนูดี" "...." เธอทำหน้าบึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเพื่อนพูดออกมาแบบนั้น "แต่ก็ขอบใจมากนะที่เป็นห่วงฉัน" "ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว เราออกไปรอป๋าที่หน้ามหาลัยก่อนนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้" "จ้า เจอกันพรุ่งนี้นะ" "อื้ม.." หนูดีลุกขึ้นหยิบกระเป๋าสะพายลายคิตตี้ของตัวเองเดินออกไปรอป๋าลัวร์ที่หน้ามหาวิทยาลัยตามปกติของเธอ ไม่นานรถเก๋งหรูคันสีดำก็มาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งอยู่ในรถ "เรียนหนักเหรอหน้าบึ้งเชียว?" "เปล่าค่ะ" "แล้วเป็นอะไรไหนบอกป๋าซิ" "เพื่อนของหนูดีมีปัญหากับเพื่อนอีกคณะนึงอีกแล้วค่ะ เห็นเพื่อนเจ็บตัวแล้วหนูดีรู้สึกไม่ดีเลย" "ทำยังไงได้ล่ะ เราห้ามเพื่อนแล้วเพื่อนก็ไม่ฟังนี่" "นั่นน่ะสิคะ" "ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเลยตามเลย" "ถ้าสมมุติว่าหนูดีไปมีเรื่องแบบนั้นบ้าง ป๋าจะปกป้องหนูดีไหมคะ?" "แน่นอนอยู่แล้ว ป๋าก็ต้องปกป้องคนของป๋าสิ" "อืม...ขอบคุณมากนะคะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD