“ให้หนูเล็กลงไปนั่งที่เก้าอี้ไหมคะ พี่เมฆหนักแย่” เธอพยายามไม่ทิ้งน้ำหนักตัวบนตักเขามากนัก
“คนให้นั่งยังไม่บ่นสักคำ”
เขายิ่งรัดเอวเธอเข้าไปหา กลิ่นกายของเขาผสมกับกลิ่นเหงื่อและกลิ่นความเป็นชายทำให้เธอหัวใจเต้นแรง เดาได้ไม่ยากว่าเขาคงไปตรวจไร่และทำงานกลางแจ้งมาไม่นาน แต่น่าแปลกที่เธอไม่ได้นึกรังเกียจกลิ่นกายของเขาสักนิด กลับยิ่งชอบ มันกระตุ้นอารมณ์บางอย่างในกายอย่างประหลาดล้ำ
“กินข้าวเสร็จอยู่ที่นี่กับพี่ ไม่ต้องกลับไปหรอก”
“แต่หนูเล็กเอาจักรยานมานะคะ”
“ค่อยให้ไอ้กริชมันเอากลับไป ตอนกลับก็กลับกับพี่” เขาสรุปเสร็จสรรพ เธอขนลุกทันทีเมื่อคิดว่าเขาจะพาเธอขี่ม้าอีก เธอไม่ชอบมันเลยสักนิด เพราะมันหวาดเสียวเหลือเกิน
หยาดทิพย์ชะงักเมื่อเห็นหน้าคนงานเหมือนกลัวอะไรสุดขีด ขณะคุยอยู่กับเธอ พอเหลียวกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นใบหน้าถมึงทึงของคนขี้หวงยืนหน้าบึ้งตึงบอกบุญไม่รับอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก หญิงสาวรีบก้มหน้าถอยหนี แต่ช้ากว่ามือแกร่งที่มาดึงเอาไว้
“ไปคุยกับมันทำไม”
“หนูเล็กแค่ถามเรื่องผลผลิตในไร่”
“เป็นหน้าที่ที่ต้องรู้เหรอ”
“เอ่อ...”
“แค่รู้ว่าผัวอยากได้อะไรก็พอแล้ว” เขาหน้าบึ้งกว่าเก่า
“พี่เมฆต้องการอะไรล่ะคะ” เธอถามกลับไป นิ่วหน้าเมื่อโดนบีบต้นแขนจนเจ็บ เขาเป็นคนขี้หึงและขี้หวงมาก เธอไม่เคยคิดว่าจะมีสามีแบบเขามาก่อน มันน่าอึดอัดน้อยซะที่ไหน
“อยากให้เมียเอาใจ อยากให้เมียรัก เมียหลง เมียตามใจ เมียอยู่ในโอวาท”
“เยอะจัง” คนฟังตาโตก่อนจะบ่นอุบ
“มาได้แล้ว จะยืนให้คนงานเดินมาจีบอีกกี่คน” เขาทำเสียงดุ ก่อนจะลากมือเธอเดินไปยังบ้านพักที่รับประทานข้าวกันเมื่อชั่วโมงก่อน
“พี่เมฆขา...” หยาดทิพย์ร้องครวญครางอยู่บนเก้าอี้นวมเนื้อนุ่มตัวใหญ่ของเมฆา เขากำลังขยับสะโพกลงโทษเธออย่างดุดันแสนเร่าร้อน ยัดเยียดข้อหาว่าเธอไปคุยกับคนงานให้เขาไม่ชอบใจ พูดง่ายๆ คือเขาหึง คนขี้หึงก็มักหาเรื่องรังแกเธออยู่เรื่อย
“ขา...” เขาขานรับเสียงต่ำทุ้มลึก เบียดกายเข้าหาเธอพร้อมกับเสียงหอบฟืดฟาดที่ฟังดูเหมือนกำลังหักโหมกับอะไรสักอย่างที่หนักหน่วง
“พี่เมฆ... อื้อ...” หยาดทิพย์เกาะบ่าแกร่งเอาไว้ เกร็งร่างสะท้านอยู่ภายใต้ร่างของเขา ก่อนที่เขาจะตามติดขยับเข้าออกฝังกายในร่างเธอถี่กระชั้นจนคำรามลั่น
หญิงสาวหน้าแดงเพราะกลัวจะมีคนได้ยิน เธอกับเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงสองคน รอบบ้านพักอาจจะมีคนงานเดินผ่านไปผ่านมา มันน่าอายน้อยซะที่ไหน ในเมื่อบางทีเธอก็เห็นคนงานมองเธอยิ้มๆ ในระหว่างที่เมฆากำลังยุ่งกับการสั่งงาน ความคิดของเธอสะดุดลง เมื่อเขาอุ้มเธอพาไปยังห้องน้ำ เหตุผลคือเหงื่อของเขาและเธอออกเยอะเหลือเกิน จากกิจกรรมในร่มที่สูบแรงกำลังไปจนหมด ทุกวันเธอจะหมดแรงอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไหนจะยามค่ำคืนอีกยาวไกลที่เขาไม่เคยละเว้นการตักตวงความสุขจากกิจกรรมรัก บางครั้งก็เหมือนจะชิน แต่เธอก็ยังละอายเกินไป เนื่องจากเธอไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงเขาจะดูมีท่าทีหวงและห่วง แต่ก็ไม่มีอะไรมั่นใจในชีวิตให้เธออย่างที่ควรจะเป็น จะให้เธออยู่แบบนี้กับเขาไปตลอดชีวิตคงไม่ได้หรอก ไหนจะครอบครัวของเธออีก
ความคิดของหยาดทิพย์หยุดชะงักลงอีกครั้ง เมื่อเขาแนบชิดร่างร้อนผ่าวมาทางด้านหลัง น้ำจากฝักบัวไหลรดชโลมกายพร้อมๆ กับมือหนาที่ลากไล้ไปตามเรือนร่างเพื่อถูสบู่ให้เธอ หญิงสาวถอนใจเฮือกด้วยความรู้สึกผ่อนคลายยามเขาลูบไล้และนวดไปตามเรือนร่างเปลือยเปล่า
“อ๊าส์...” เสียงหวานร้องครางเมื่อเขากดนิ้วกลางยาวใหญ่เข้าไปในช่องทางรักของเธอ ศีรษะเล็กๆ พิงกับบ่ากว้าง ปรือตามองสบเขาในกระจกตรงหน้า เมฆาจับมือเล็กๆ ของเธอมาปรนนิบัติเขาด้วยการรูดไล้ไปตลอดลำกาย ความร้อนผ่าวเอิบซ่านไปทั่วอณูเนื้อ แล้วความต้องการที่มากล้นก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบคลึงไปตามปทุมถันอวบอิ่ม สะกิดยอดถันจนแข็งเป็นไต เขารู้จุดอ่อนของเธอดี สะกิดปุ่มสวาทจนเธอครางซี้ดสะดุ้งวาบจนเขาต้องรวบเอาไว้
“หนูเล็กจ๋า...” เขากระซิบเสียงทุ้มต่ำล้ำลึกด้วยอารมณ์เสน่หา
“จ๋า... พี่เมฆ” เธอขานรับด้วยอารมณ์ที่พาไปเช่นกัน
เมฆาก้มลงดูดกลีบปากอวบอิ่ม เขาจับมือเธอไปถูไถตรงกลีบผกากรองฉ่ำหวาน เพียงแค่นิ้วสัมผัสหยาดทิพย์ก็ร้อนซู่ไปทั่วร่าง มือของเขากำกับมือของเธอให้ทำตาม เมฆาปิดน้ำฝักบัวที่อาบไล้ไปทั่วเรือนร่าง เขาหมุนร่างเธอให้หันมาประจันหน้า ก่อนจะถอยหลังไปยืนมองภาพเรือนร่างอวบอัดเปลือยเปล่า ละอองน้ำพร่างไปทั่วกายสาว เขายกนิ้วขึ้นกัดเบาๆ มิอาจละสายตาจากภาพเบื้องหน้าได้
หยาดทิพย์สะเทิ้นอายเมื่อสบนัยน์ตาคู่คมของเขา เธอใช้มือนุ่มปกปิดส่วนบนส่วนล่างที่เปลือยเปล่า ก้มหน้างุดจนร่างสะท้าน
“หนูเล็กของพี่” เมฆาครางเสียงแหบพร่า เขาเดินเข้าหา ก่อนจะกระซิบบางอย่างที่ริมหูของเธอ หยาดทิพย์เงยหน้าขึ้นอย่างอายแสนอาย เธอส่ายหน้าไปมาแก้มแดงปลั่ง
“สิครับคนดีของพี่เมฆ” คำหวานของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกใจแกว่ง ร่างสูงใหญ่ถอยไปยืนมองอยู่ไม่ไกลนัก สายตาของเขาสะกดเธอดั่งมนตร์ชั้นยอด
หยาดทิพย์ค่อยๆ เกลี่ยนิ้วไปตามกลีบผกากรองแสนสวย เพียงแค่เธอสัมผัสยอดกระสัน เขาก็แตะลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก เธอเองก็เสียววาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่เคยสัมผัสส่วนนั้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทำไมพออยู่ต่อหน้าเขา เธอถึงได้รู้สึกแปลกประหลาดเช่นนี้
เมฆาเดินเข้ามาหา ก่อนจะยกเธอให้นั่งที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากว้างขวางแล้วแยกแบะกลีบกายของเธอออกจากกัน ก่อนจะถอยห่างให้เธอจัดการกับร่างกายอวบอัดที่เขาแสนจะหลงใหล
คนไม่เคยทำและไม่เคยคิดจะทำหน้าแดง แก้มร้อนเห่อลามไปถึงใบหูและลำตัว แต่นั่นกลับยิ่งน่ามองสำหรับเมฆายิ่งนัก เขาเลื่อนมือไปรูดไล้ลำกายแกร่งของตนเอง ขณะมองเธอเหมือนจะกลืนกิน หยาดทิพย์ทอดสายตามองเขาอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะแซะนิ้วอวบนุ่มไปตามกลีบกายสาวจนเห็นเนื้อในแดงฉ่ำหยาดเยิ้ม
เมฆาเร่งมือที่รูดกายแกร่งให้เร็วขึ้น เขามองเธอจ้วงนิ้วเข้าไปในซอกกายจนมิดเม้นแล้วครางอูวว์... ออกมาลั่นห้องน้ำ ก่อนจะผวาเข้าหาร่างอวบที่แยกขารอคอยเขาอยู่ก่อนแล้ว
“พี่เมฆ อ๊าส์...” หยาดทิพย์หยัดสะโพกรับความร้อนแรงของเขาแทบไม่ทัน เธอจิกมือกับบ่าแกร่งของเขา เมฆาสอดมือเข้าใต้ข้อพับขา ก่อนจะพาเธอเดินไปรอบห้องน้ำ กระแทกเธอไปกับผนังห้อง ประตู จนหยาดน้ำหวานไหลซึมหยาดเยิ้มชโลมกายชายให้เขาสามารถพาตัวเองเข้าออกในโพรงเนื้ออันแสนคับแคบได้สะดวกยิ่งขึ้น
“เมียจ๋า...” เมฆาร้องครางอย่างชอบใจ ยิ่งนับวันเขาก็ยิ่งจะหลงใหลเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น วันไหนไม่ได้กอดหอมร่างนุ่มนิ่มอวบอัดนี้ เขาคงจะแทบคลั่ง
กว่าพายุรักจะผ่านพ้นไปก็กินเวลาอาบน้ำไปมากโข เขาจับเธอแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนเด็กชายเอาแต่ใจ อยากแต่งตัวให้ตุ๊กตาตัวโปรดของตัวเอง ก่อนจะพาเธอกลับกระท่อม งานที่เหลือได้มอบหมายให้หัวหน้าคนงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมฆารู้ว่าเธอกลัวการขี่ม้า แต่เขาก็อยากให้เธอคุ้นชิน ร่างสูงส่งเธอขึ้นไปบนหลังม้าก่อนจะตามขึ้นไป ร่างอวบผวาแนบชิดมาทางด้านหลัง เขาหัวเราะชอบใจโอบเธอเอาไว้ ก่อนจะให้ม้าเดินเหยาะๆ กลับกระท่อมไม่ได้ควบเร็วเหมือนก่อนหน้า
“เป็นโรคกลัวความสูงหรือไง”
“ก็... ค่ะ” เธออยากบอกเขาว่ากลัวตั้งแต่เด็ก
“ทำไมถึงกลัวล่ะ”
“เคยตกจากเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นน่ะค่ะ” เธอตอบเขาเสียงอ่อย ตอนนั้นพ่อกับแม่หาว่าเธอไม่ระมัดระวัง ซึ่งเธอไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นเลยจริงๆ