“ถ้านอนแล้วจะได้ยินเสียงหรือไง” นั่นปะไร เขากำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง ซึ่งเธอเองมักจะทำตัวไม่ถูกเมื่อเวลาเขาโมโหเอาแบบนี้
“ถอนหายใจแรงแบบนี้ คิดว่าคนอื่นจะหลับลงหรือไง”
“หนูเล็กขอโทษค่ะ”
“มีอะไรเคร่งเครียดนักหนา”
“เปล่าค่ะ”
“โกหก!!!” เหมือนเขาจะหงุดหงิดที่เธอไม่พูดความจริง แต่คนโกหกก็ตัวลีบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงไม่สบอารมณ์นั้น
“อยู่กับฉันมันทรมานมากนักหรือไง ถึงได้นอนถอนใจเฮือกๆ”
“หนูเล็กอยากกลับบ้าน”
“อ้อ... อยากกลับไปหาไอ้เสี่ยนั่นว่างั้นเถอะ”
“แล้วพี่เมฆจะกักหนูเล็กเอาไว้ทำไม ในเมื่อเรื่องของเรามันเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรก”
“อ้อ... แสดงว่าเรื่องของเรามันผิดพลาด เธอก็เลยจะทำทานให้ฉันกินฟรีๆ หรือไง”
“ใช่ เรื่องของเราผิดพลาดตั้งแต่แรก และถ้าพี่เมฆคิดว่าสิ่งที่ผ่านมาเป็นทานก็เชิญคิดไปเลย”
“หงุดหงิดอะไรนักหนา แค่เรื่องอยากจะกลับไปหาไอ้เสี่ยบ้านั่น เลยนอนถอนใจเฮือกๆ”
“พี่เมฆไม่เข้าใจ”
“แล้วจะให้เข้าใจว่ายังไง เมียที่นอนด้วยกันทุกคืน คิดแต่จะไปให้ไกลๆ”
“คนไม่มีเหตุผล”
“ที่ทำดีกับฉันเพราะอยากให้ตายใจ คิดจะหนีอีกใช่ไหม” เมฆาเสียงกร้าว จำได้ว่าเธอเคยคิดหนีไปหลายครั้ง แต่หนีไม่รอด แล้วเขาก็มักแกล้งทำเป็นลืมว่าเธออยากหนี ไม่อยากอยู่กับเขา
“อยากหนีอยู่เหมือนกัน เบื่อคนป่าเถื่อน ไม่มีเหตุผล”
“ฝันไปเถอะ”
“ถ้าหนีได้จะหนี คอยดูแล้วกัน”
“ไม่ต้องหนีหรอก พรุ่งนี้จะพาไปส่งบ้าน ไม่ต้องมานอนถอนใจเฮือกๆ ให้รำคาญใจกันอีก”
พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็ตาโต เธอดีใจในคราแรก ก่อนจะใจหายเหมือนกันเมื่อคิดว่าเขาเริ่มเบื่อเธอแล้วสินะ
“ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้” เขาแดกดัน
“ดีใจมาก ที่จะได้ไปจากที่นี่สักที” เธอเองเมื่อคิดว่าโดนเขาไล่ เธอก็มีศักดิ์ศรี จะอยู่ไปทำไมกัน ในเมื่อไม่มีค่า ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว
“อ้อ... ถ้าดีใจขนาดนั้นก็ช่วยทำหน้าที่เมียให้สมใจผัวก่อนสิ แล้วพรุ่งนี้จะกลับก็กลับไปเลย กลัวมันหายนักใช่ไหมบ้าน” เขากระชากแขนเธอมาหาเต็มแรง ก่อนจะขึ้นคร่อมทับร่างอวบอัดของหญิงสาว ริมฝีปากร้อนซุกไซ้ไม่เบานัก ทำให้ซอกคอขาวขึ้นรอยแดงทันตาเห็น
“อย่าดูดค่ะ คนบ้า เจ็บนะ” เขาดูดจนเธอเป็นรอยแดงเต็มไปหมด เหมือนจะทำเครื่องหมายยืนยันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ทำไมล่ะ ฉันจะทำรอยเอาไว้ให้... ว่าที่ผัวเธอดูไง มันจะได้รู้ว่า... ว่าที่เมียมันไปฟัดกับผู้ชายคนอื่น จะได้ไม่กล้ามายุ่งกับเธอ”
“คนร้ายกาจ”
“ฉันร้ายกาจมากกว่านี้อีก” เขาขบเม้มยอดถันอวบอัด ก่อนจะใช้ฟันครูดเบาๆ จนร่างอวบสั่นสะท้าน
“คนป่าเถื่อน ชาตินี้ขออย่าให้ได้พบได้เจอกันอีกเลย”
“ฝันไปเถอะ พอเบื่อผัวแล้วจะถีบหัวส่งหรือไง อย่าคิดนะว่าชาตินี้จะไม่เจอกันอีก ฉันจะให้เธอจำฉันไปตลอดชีวิต”
เขายิ่งดูดเม้มยอดอกของเธอแรงๆ จนร่างสาวสะท้าน อยากจะต่อต้าน แต่สัมผัสแนบชิดที่คุ้นเคยมานานนับเดือนก็ทำให้เธอทำไม่ได้อย่างใจคิด แม้เขาจะโหดร้าย แต่เธอก็กลับยินยอมพร้อมใจไปกับเขาอย่างไม่น่าให้อภัย
“คนปากร้าย”
“แยกขากว้างๆ สิ จะหนีบเอาไว้ทำไม” เขายิ่งหงุดหงิดเมื่อเธอเอาแต่ปฏิเสธเมื่อเขาขยับแก่นกายเข้าไปแนบชิด ทั้งที่ก่อนหน้าก็เคลิบเคลิ้มไปกับเขาแล้ว
“ออกไปจากตัวหนูเล็กนะ”
“ไม่ออก จะเข้าอย่างเดียวเลย คืนนี้ส่งท้ายหน่อยเป็นไง ไหนๆ ก็จะกลับบ้านแล้ว”
“อ๊าส์... คนร้ายกาจ” หยาดทิพย์ร้องครางเสียงหลงเมื่อเขาฝังกายเข้ามาอย่างหนักหน่วงไร้ความปรานี
“ทำไมอยากไปจากฉันนัก ทรมานหรือไง อยู่ด้วยกันมันทรมานนักหรือไง” เขาโมโหที่เธอเอาแต่ถอนใจ หน้าเครียด คิดแต่เรื่องจะไปจากเขา ไม่เอ่ยปากบอกเล่า พอถามก็บอกว่าเปล่าๆๆ อย่างเดียว แบบนี้ไม่ให้เขาโมโห น้อยใจเมียได้ยังไงกัน
“พี่เมฆไล่หนูเล็กก่อน”
“ตอนไหน” คนไม่ยอมรับความผิดของตัวเองถามเสียงสูง
“ช่างเถอะค่ะ อ๊ะ... อ๊า... พี่เมฆ หนูเล็กเจ็บนะคะ”
“เจ็บสิดี จะได้จำผัวคนนี้ไปตลอดชีวิต”
“คนใจร้าย พูดแล้วห้ามคืนคำ พรุ่งนี้หนูเล็กจะไปจากที่นี่ อ๊ะ... อ๊า...” เธอยิ่งร้องครางด้วยความเจ็บเสียวเมื่อเขากระแทกสะโพกสอบลงมาถี่ยิบเหมือนโมโหเธออย่างหนัก
“จะไปก็ไป แต่ถ้าฉันต้องการขึ้นมา เธอหนีไม่พ้นหรอก พ่อแม่ของเธอก็ไม่มีวันปฏิเสธฉันได้” เขากระแทกร่างสาวจนสั่นคลอน
“คนใจร้าย ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่” เธอนึกห่วงบิดามารดา ถ้าเจอกับเขาเข้า พวกท่านคงเป็นลม เพราะเมฆาไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น แม้แต่พ่อแม่เธอก็คงเป็นแบบนั้นเช่นกัน
“กลัวหรือไง ไม่ว่าใครหน้าไหน กล้าขัดใจฉัน ฉันจัดการไม่เลี้ยง”
“แม้แต่พ่อแม่ของหนูเล็กเหรอคะ” คนใจเสียน้ำตาเริ่มจะปริ่ม ร่างกายสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้นตามระดับความเร็วของสะโพกสอบ
“ไม่ว่าใครหน้าไหน ไม่มีข้อยกเว้น”
เขาพูดเสียงกร้าว ยกขาอวบของเธอพาดที่บ่าแกร่ง ทำให้สะโพกสาวโย้ขึ้น เรือนกายที่สอดประสานกันแนบชิดเข้าหากันจนมิดเม้น ทั้งสองครางพร้อมกันด้วยใบหน้าเหยเก ก่อนจะร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมรักอย่างไม่เกี่ยงงอนอีก และหลงลืมความบาดหมางไปชั่วขณะ
คืนนั้นทั้งคืนเมฆาตักตวงความสุขจากหญิงสาวจนเต็มอิ่ม ก่อนจะปล่อยเธอไปเกือบรุ่งสาง หยาดทิพย์ตื่นขึ้นมาโดยไร้เงาของคนที่นอนเคียงข้างมาตลอดคืน เธอใจหายอย่างประหลาดเมื่ออัปสรมาเคาะประตูเรียก เพื่อถามว่าเธอจะออกเดินทางตอนไหน ในเมื่อเขาอยากให้เธอไป เขาออกปากไล่แล้ว เธอจะอยู่ทำไม เธอไม่ได้นำข้าวของอะไรติดกายมาเลย ดังนั้น จึงไปตัวเปล่าๆ
ขนาดเธอจะไป เขายังไม่สนใจมาส่ง กริชเปิดประตูรถให้เธอเมื่อพาเธอเดินลัดเลาะออกมาจากกระท่อม เธอหันกลับไปมองอย่างใจหาย ก่อนจะตัดใจฝืนกายขึ้นไปนั่งบนรถอย่างร่างไร้วิญญาณ ทำไมถึงไม่ดีใจอย่างที่คิดนะ หญิงสาวคิดมาตลอดทางระหว่างเดินทางกลับบ้าน กริชเองก็ถอนใจหนักๆ เขาเป็นคนพาเธอมาแต่แรก และไม่คิดว่าจะต้องไปส่งเธอกลับแบบนี้ ไม่เข้าใจเลยว่าเจ้านายโมโหอะไร จู่ๆ ก็สั่งให้เขาพาหยาดทิพย์กลับไปส่งบ้าน ทั้งๆ ที่นอนกกกอดกันอยู่เป็นแรมเดือน ประกาศโต้งๆ ว่าหญิงสาวเป็นเมีย ใครก็ห้ามแตะ
“นายครับ ดูคุณหนูเล็กจะอาลัยอาวรณ์กระท่อมกับนายอยู่มากนะครับ ก่อนไปยังหันมองจนสุดตา หน้านี่หงอยเชียว” คนไปส่งกลับมารายงานคนที่กำลังอาละวาดฟาดงวงฟาดงากับลูกน้องจนไม่มีใครเข้าหน้าติด
“เขาอยากไปก็ให้เขาไป คนไม่อยากอยู่จะรั้งเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“นายจะไม่บอกเรื่องที่นายช่วย...” กริชพูดยังไม่ทันจบประโยค เมฆาก็ยกมือขึ้นปรามเอาไว้ไม่ให้พูดต่อ กริชถอนใจเฮือกใหญ่ รักเขาขนาดนี้ ช่วยเขาทุกอย่างยังจะมาปากแข็งอีก
“นายไม่เอ่อ... ไม่ง้อคุณหนูเล็กหน่อยเหรอครับ”
“ถ้าแกเอ่ยชื่อเล่นเมียฉันอีก แกตายไอ้กริช”
“เอ่อ... ครับ”
“ง้อทำไม ปล่อยไปแบบนั้นแหละ จะได้รู้สำนึก”
“ระวังนะครับนาย พ่อแม่คุณหยาดทิพย์จะจับเธอแต่งงานกับใครต่อใครอีก”
“กล้าเหรอวะ พ่อแม่ก็พ่อแม่เถอะ ถ้ากล้าเอาเมียฉันไปใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ใคร ฉันจัดการไม่เลี้ยงแน่” เขาทนไม่ได้จริงๆ ถ้าเธอจะไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น และพ่อแม่ของหยาดทิพย์ก็ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้นด้วย
“นั่นพ่อตาแม่ยายนะครับ”
“ไม่สนโว้ย!” เสียงกร้าวของเจ้านายทำให้กริชหัวหด
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผมทำหน้าที่เสร็จแล้ว”
“หน้าที่แกยังไม่เสร็จ แกไปเฝ้าเมียฉันเลยไป นี่ดันกลับมาทำไม ใครสั่งให้กลับมา”