พลอยชมพูทำงานประจำที่บริษัทของเหมันต์ ด้วยความบังเอิญหรือโชคชะตาฟ้าลิขิตก็ไม่รู้ เมื่อวันหนึ่งเธอขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกันกับผู้บริหาร นั่นก็คือเหมันต์ แล้วเกิดลิฟท์ค้างกระทันหัน ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนที่กลัวความมืดอยู่แล้ว ทำให้เธอนั่งสั่นด้วยความตกใจ
วันนั้นพลอยชมพูทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่เหมันต์รีบโทรแจ้งฝ่ายซ่อมบำรุง เพื่อมาจัดการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดอันตรายกับคนที่ติดอยู่ในลิฟท์ หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็หันหน้ามามองผู้ร่วมชะตากรรม ก่อนที่จะพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั่งสั่นอยู่ที่พื้นด้วยความหวาดกลัว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณ” เหมันต์เอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเป็นโรคกลัวความมืดค่ะ เดี๋ยวถ้าลิฟท์ใช้งานได้ ฉันก็หายแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ” พลอยชมพูพยายามอธิบายให้ชายหนุ่มฟังด้วยเสียงสั่น
เมื่อทราบดังนั้น ชายหนุ่มจึงหยิบมือถือของเขาขึ้นมา ก่อนที่จะเปิดแสงแฟลชเพื่อเป็นแสงไฟให้กับหญิงสาว นั่นทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความขอบคุณ
“คราวนี้ไม่มืดแล้วครับ ลุกขึ้นเถอะ ผมติดต่อช่างแล้ว อีกไม่นานลิฟท์คงสามารถใช้งานได้” ชายหนุ่มประคองร่างบางของหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืนด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ พอได้เห็นหน้าเธอเท่านั้น เขาก็ต้องตะลึงในความสวยของเธอ ไม่น่าเชื่อว่าที่บริษัทของเขามีพนักงานที่สวยขนาดนี้
“ขอบคุณนะคะ” พลอยชมพูยิ้มเจื่อน เธอรู้สึกอายที่ปล่อยให้เขาซึ่งเป็นคนแปลกหน้า เห็นเธอในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบ จังหวะนั้นเอง ไฟในลิฟท์ก็ติดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากันราวกับต้องมนต์
การติดในลิฟท์วันนั้น มันเป็นการเริ่มต้นสานสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ เหมันต์ให้เลขาของเขาสืบจนทราบว่าหญิงสาวอยู่แผนกอะไร ก่อนที่เขาจะเริ่มตามจีบเธอ และด้วยความประทับใจในครั้งแรกที่เจอกัน ผสมกับความอ่อนโยนของเหมันต์ มันทำให้พลอยชมพูตัดสินใจยอมคบกับเขาจนได้
แต่สิ่งที่เธอต้องทำตั้งแต่ต้น นั่นก็คือความสัมพันธ์ของเขาและเธอต้องเป็นความลับ เพราะคนอื่นจะมองไม่ดี หากว่าซีอีโอของบริษัท มาคบกับพนักงานตัวเล็กๆ อย่างเธอ นั่นเลยทำให้หญิงสาวติดบ่วงแห่งความรักมาจนถึงทุกวันนี้ และไม่รู้ว่าหญิงสาวต้องรออีกนานแค่ไหน แต่เธอก็ยังเต็มใจที่จะรอ