ลุ่มหลงกลิ่นนิกา 4

1397 Words
ทางด้านนิกาหลังจากอาบน้ำเสร็จก็นั่งทาครีมบำรุงผิวอยู่บนบ้าน ขณะป๊อบนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนฟูก ส่วนโปรดลงไปอาบน้ำข้างล่าง ในเวลาที่หญิงสาวทั้งสองคนจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ จู่ ๆ ไฟก็ดับลงทำให้บ้านมืดสนิท “กรี๊ด!” ทำเอาทั้งสองตกใจสะดุ้งโหยง ป๊อบที่นอนอยู่รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งกอดนิกาแนบแน่นด้วยความตกใจ ส่วนนิกาเมื่อได้สติก็รีบเอ่ยบอกป๊อบที่ถือโทรศัพท์อยู่ “แกเปิดแฟลชโทรศัพท์หน่อย” ป๊อบได้ยินเช่นนั้นก็รีบทำตามที่เพื่อนบอกทันที พอบนบ้านมีแสงสว่างขึ้นมาบ้าง นิกาจึงหันไปมองป๊อบที่พูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น “แก เราลงไปหาโปรดข้างล่างกันเถอะ” ขณะดวงตากวาดมองรอบข้างด้วยความหวาดกลัว “ไปสิ” จากนั้นทั้งสองก็ดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปยังบันได โดยที่ป๊อบนั้นกอดแขนนิกาแน่น ส่วนร่างเล็กก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนเป็นคนขี้กลัวมาก ขณะเดินไปยังบันได ป๊อบก็กวาดสายตามองรอบบ้านด้วยความหวาดระแวง เพราะบรรยากาศมันวังเวงจนน่าขนหัวลุก ไม่นานดวงตาเธอก็สบกับชายแก่ที่อยู่ในกรอบรูปติดยังผนังบ้าน ก็ทำเอาป๊อบไรขนลุกชูชันอย่างไร้เหตุผล เธอจึงรีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่น จากนั้นก็เดินลงไปข้างล่างทันที... เมื่อเท้าเหยียบบันไดขั้นสุดท้ายป๊อบก็รีบวิ่งไปหาโปรด ที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี จากนั้นก็ถามแฟนหนุ่มของเธอด้วยใบหน้าเป็นห่วง “ตัวเองเป็นอะไรไหม?” “เค้าไม่เป็นอะไร ตัวเองล่ะ?” “ไม่เป็นไร แต่ตกใจมากเลย” ป๊อบเดินเข้าไปหาโปรดด้วยท่าทีออดอ้อน เพราะเมื่อครู่เธอตกใจมากจริง ๆ คนเป็นแฟนเห็นเช่นนั้นก็รีบปลอบขวัญ “ไม่เป็นไรแล้วนะ เค้าอยู่นี่แล้ว” นิกายืนมองเพื่อนทั้งสองปลอบขวัญกันโดยไม่พูดอะไร ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาภายในบ้านทั้งสามจึงหันมอง พอรับรู้เป็นผู้ใหญ่มั่นกับแพรวก็มองด้วยความโล่งอก ทางด้านแพรวเมื่อเห็นนิกาและเพื่อน ๆ ของเธอยืนอยู่ข้างล่าง พอพ่อเธอจอดรถเรียบร้อยก็รีบเดินเข้าไปหา พร้อมเอ่ยถามด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วง “เป็นอะไรกันไหมคะ?” “ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ตกใจนิดหน่อยค่ะ” นิกาที่หายจากอาการตกใจก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ “เดี๋ยวก็ชินค่ะ เพราะที่นี่ไฟดับบ่อยมากค่ะ” “ดับทุกวันเลยเหรอคะ?” “ไม่ทุกวันค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อยก็จะดับเกือบทุกวันค่ะ” สิ้นบทสนทนาของแพรวและนิกา ป๊อบกับโปรดก็อดเป็นห่วงนิกาไม่ได้ หากทั้งสองกลับแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร ส่วนคนตัวเล็กก็กังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ย่อท้อที่จะอยู่ต่อเพราะตัดสินใจแล้ว “ครูกับเพื่อนกินข้าวกันยังคะ?” “ยังเลยค่ะ” “งั้นไปกินข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวดึกก่อน” แพรวเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เพื่อให้ทั้งสามคนคลายกังวลกับเรื่องที่พบเจอ “ค่ะ” จากนั้นนิกากับเพื่อนของเธอก็เดินตามแพรวไปยังครัวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ใหญ่มั่นเดินถือตะเกียงออกมาจากครัวพอดี นิกาจึงเอ่ยชวนเจ้าของบ้านตามมารยาท “ทานข้าวค่ะผู้ใหญ่” “ครูกับเพื่อน ๆ กินก่อนเลย เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน” “ค่ะ” หลังจากทั้งสี่คนเดินเข้ามาในครัวที่มืดสลัว มีเพียงแสงสว่างรำไรจากตะเกียงที่ผู้ใหญ่มั่นเป็นคนจุดเท่านั้น จู่ ๆ ไฟที่ดับสนิทก็สว่างจ้า นิกาจึงเงยหน้าขึ้นมองหลอดไฟ ขณะหูฟังป๊อบพูดด้วยท่าทีดีใจ “เย่! ไฟมาแล้ว” “รีบกินข้าวกันเถอะค่ะ เผื่อไฟดับอีก” นิกาได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้าไปช่วยแพรวตักข้าวใส่จาน แล้วยื่นให้เพื่อนของเธอทั้งสอง เมื่อเรียบร้อยทั้งสี่คนก็นั่งกินข้าวและพูดคุยกันภายในครัวขนาดเล็ก กระทั่งอิ่มนิกาก็เก็บจานไปล้าง แม้แพรวจะเอ่ยห้ามแล้วก็ตาม ทว่าอีกคนก็ยังดื้อรั้นด้วยความเกรงใจ ส่วนป๊อบนั้นก็เข้าไปช่วยนิกาจะได้เสร็จเร็ว ๆ หลังจากทำอะไรเสร็จทั้งสามก็ขึ้นไปบนบ้านเพื่อเตรียมตัวเข้านอน... ทางด้านแพรว ขณะเดินลงบันไดกำลังจะไปอาบน้ำ พอได้ยินคนเป็นพ่อที่นั่งสูบยาเส้นใต้ถุนบ้านเอ่ยถามจึงหันไปมอง “บอกพวกครูให้นอนแยกชายหญิงแล้วใช่ไหมลูก?” “บอกแล้วจ้ะพ่อ” “ดีแล้ว อาบน้ำเสร็จก็รีบขึ้นบ้านนะ พ่อก็จะไปนอนแล้ว” “จ้ะ” จากนั้นแพรวก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จก็เดินขึ้นบ้านแล้วปิดประตูให้แน่นหนา พอเห็นนิกานอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในมุ้งกับป๊อบ ส่วนโปรดนั้นนอนที่มุ้งอีกหลังข้าง ๆ กัน ก็ถอนหายใจแผ่วเบาจากนั้นก็เอ่ยถามทั้งสามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “ร้อนกันไหมคะ? แพรวจะได้เปิดหน้าต่างให้ค่ะ” “ไม่ร้อนเลยค่ะครูแพรว” คนขี้กลัวอย่างป๊อบรีบตอบทันควัน ลำพังแค่นี้เธอยังไม่กล้าหลับตาเลย ถ้าเปิดหน้าต่างอีกเธอคงนอนตาแข็งทั้งคืนแน่ ในขณะที่นิกากับโปรดฟังเงียบ ๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป “ค่ะ ถ้ามีอะไรหรือต้องการอะไร เคาะห้องเรียกแพรวได้ตลอดเลยนะคะ” “ขอบคุณค่ะครูแพรว” นิกาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มขณะความรู้สึกอิ่มเอมใจ ที่คนในบ้านหลังนี้ใจดีกับเธอและเพื่อน ๆ มาก “ยินดีค่ะ ให้แพรวปิดไฟให้เลยไหมคะ?” “ปิดเลยก็ได้ค่ะ” สิ้นเสียงนิกาแพรวก็เดินไปปิดไฟ ทำให้บนบ้านมืดลงทว่าก็ไม่ได้สนิท เพราะยังมีแสงไฟจากห้องนอนของแพรวเล็ดลอดออกมา และแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ของทั้งสามที่มองเห็นเพียงรำไร ทางด้านป๊อบเมื่อแพรวเดินเข้าไปในห้องนอนแล้ว ก็หันมองนิกาที่นอนอยู่ด้านข้าง พอเห็นเพื่อนเอาแต่นอนมองรูปดอกไม้ ที่ถ่ายจากบ้านเรือนไทยตั้งแต่ขึ้นมาบนบ้าน ก็อดพูดไม่ได้ “สงสัยแกจะชอบดอกไม้นี้มากนะ ฉันเห็นนอนดูไม่หยุดเลย” “ใช่” “มันหอมขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ไม่ใช่แค่หอมนะ แต่หล่อมากด้วย” “หือ! ดอกไม้บ้านแกที่ไหนหล่อวะ?” ป๊อบถึงกับขมวดคิ้วถามด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ ส่วนนิกาที่หลุดปากพูดก็รีบแก้ตัว “ฉันหมายถึงสวยงามน่ะ” พูดจบร่างเล็กก็นอนตะแคงข้างหันหลังให้เพื่อนทันที จากนั้นก็ดูดอกไม้ที่อยู่หน้าบ้านอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต ป๊อบจึงเลือกไม่สนใจเบี่ยงสายตามองห้องนอนของแพรวและผู้ใหญ่มั่นอีกครั้ง ก่อนจะกระซิบบอกนิกาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แกฉันขอไปนอนเล่นกับโปรดแป๊บนะ” “แกจะไปทำไม ครูแพรวบอกให้เราแยกนอนกันแกจำไม่ได้เหรอ” “แค่นอนเล่นแป๊บเดียวไม่เป็นไรหรอก” “อือ งั้นก็รีบไปรีบมา” เพราะไม่รู้จะห้ามเพื่อนยังไง นิกาจึงได้แต่ตอบด้วยความจำยอม “โอเค” พูดจบป๊อบก็รีบเปิดมุ้งขึ้นแล้วคลานไปยังมุ้งของโปรด จากนั้นก็นอนเล่นกับแฟนหนุ่มของเธอ นิกาที่มองอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ กับอาการคลั่งรักของเพื่อนทั้งสองคน ทว่าก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะลำพังเธอแค่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ถึงหนึ่งนาที ยังรำพึงถึงเขาขนาดนี้เลย นิกาจึงเลือกไม่สนใจ นอนเลื่อนดูภาพถ่ายในหมู่บ้านต่อ กระทั่งทนกับความง่วงไม่ไหวจึงหลับไปในที่สุด เช่นเดียวกับป๊อบและโปรด หลังจากนอนคุยกันสักพักก็เผลอหลับด้วยความเหนื่อยล้ากันทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD