ทางด้านนิกาหลังจากอาบน้ำเสร็จก็นั่งทาครีมบำรุงผิวอยู่บนบ้าน ขณะป๊อบนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนฟูก ส่วนโปรดลงไปอาบน้ำข้างล่าง ในเวลาที่หญิงสาวทั้งสองคนจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ จู่ ๆ ไฟก็ดับลงทำให้บ้านมืดสนิท
“กรี๊ด!”
ทำเอาทั้งสองตกใจสะดุ้งโหยง ป๊อบที่นอนอยู่รีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งกอดนิกาแนบแน่นด้วยความตกใจ ส่วนนิกาเมื่อได้สติก็รีบเอ่ยบอกป๊อบที่ถือโทรศัพท์อยู่
“แกเปิดแฟลชโทรศัพท์หน่อย” ป๊อบได้ยินเช่นนั้นก็รีบทำตามที่เพื่อนบอกทันที พอบนบ้านมีแสงสว่างขึ้นมาบ้าง นิกาจึงหันไปมองป๊อบที่พูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
“แก เราลงไปหาโปรดข้างล่างกันเถอะ” ขณะดวงตากวาดมองรอบข้างด้วยความหวาดกลัว
“ไปสิ”
จากนั้นทั้งสองก็ดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปยังบันได โดยที่ป๊อบนั้นกอดแขนนิกาแน่น ส่วนร่างเล็กก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนเป็นคนขี้กลัวมาก ขณะเดินไปยังบันได ป๊อบก็กวาดสายตามองรอบบ้านด้วยความหวาดระแวง เพราะบรรยากาศมันวังเวงจนน่าขนหัวลุก
ไม่นานดวงตาเธอก็สบกับชายแก่ที่อยู่ในกรอบรูปติดยังผนังบ้าน ก็ทำเอาป๊อบไรขนลุกชูชันอย่างไร้เหตุผล เธอจึงรีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่น จากนั้นก็เดินลงไปข้างล่างทันที...
เมื่อเท้าเหยียบบันไดขั้นสุดท้ายป๊อบก็รีบวิ่งไปหาโปรด ที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี จากนั้นก็ถามแฟนหนุ่มของเธอด้วยใบหน้าเป็นห่วง
“ตัวเองเป็นอะไรไหม?”
“เค้าไม่เป็นอะไร ตัวเองล่ะ?”
“ไม่เป็นไร แต่ตกใจมากเลย” ป๊อบเดินเข้าไปหาโปรดด้วยท่าทีออดอ้อน เพราะเมื่อครู่เธอตกใจมากจริง ๆ คนเป็นแฟนเห็นเช่นนั้นก็รีบปลอบขวัญ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ เค้าอยู่นี่แล้ว”
นิกายืนมองเพื่อนทั้งสองปลอบขวัญกันโดยไม่พูดอะไร ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาภายในบ้านทั้งสามจึงหันมอง พอรับรู้เป็นผู้ใหญ่มั่นกับแพรวก็มองด้วยความโล่งอก
ทางด้านแพรวเมื่อเห็นนิกาและเพื่อน ๆ ของเธอยืนอยู่ข้างล่าง พอพ่อเธอจอดรถเรียบร้อยก็รีบเดินเข้าไปหา พร้อมเอ่ยถามด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วง
“เป็นอะไรกันไหมคะ?”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ตกใจนิดหน่อยค่ะ” นิกาที่หายจากอาการตกใจก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ
“เดี๋ยวก็ชินค่ะ เพราะที่นี่ไฟดับบ่อยมากค่ะ”
“ดับทุกวันเลยเหรอคะ?”
“ไม่ทุกวันค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อยก็จะดับเกือบทุกวันค่ะ” สิ้นบทสนทนาของแพรวและนิกา ป๊อบกับโปรดก็อดเป็นห่วงนิกาไม่ได้ หากทั้งสองกลับแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร ส่วนคนตัวเล็กก็กังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ย่อท้อที่จะอยู่ต่อเพราะตัดสินใจแล้ว
“ครูกับเพื่อนกินข้าวกันยังคะ?”
“ยังเลยค่ะ”
“งั้นไปกินข้าวกันเถอะค่ะ เดี๋ยวดึกก่อน” แพรวเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ เพื่อให้ทั้งสามคนคลายกังวลกับเรื่องที่พบเจอ
“ค่ะ” จากนั้นนิกากับเพื่อนของเธอก็เดินตามแพรวไปยังครัวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ใหญ่มั่นเดินถือตะเกียงออกมาจากครัวพอดี นิกาจึงเอ่ยชวนเจ้าของบ้านตามมารยาท
“ทานข้าวค่ะผู้ใหญ่”
“ครูกับเพื่อน ๆ กินก่อนเลย เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน”
“ค่ะ”
หลังจากทั้งสี่คนเดินเข้ามาในครัวที่มืดสลัว มีเพียงแสงสว่างรำไรจากตะเกียงที่ผู้ใหญ่มั่นเป็นคนจุดเท่านั้น จู่ ๆ ไฟที่ดับสนิทก็สว่างจ้า นิกาจึงเงยหน้าขึ้นมองหลอดไฟ ขณะหูฟังป๊อบพูดด้วยท่าทีดีใจ
“เย่! ไฟมาแล้ว”
“รีบกินข้าวกันเถอะค่ะ เผื่อไฟดับอีก”
นิกาได้ยินเช่นนั้นก็รีบเข้าไปช่วยแพรวตักข้าวใส่จาน แล้วยื่นให้เพื่อนของเธอทั้งสอง เมื่อเรียบร้อยทั้งสี่คนก็นั่งกินข้าวและพูดคุยกันภายในครัวขนาดเล็ก กระทั่งอิ่มนิกาก็เก็บจานไปล้าง แม้แพรวจะเอ่ยห้ามแล้วก็ตาม ทว่าอีกคนก็ยังดื้อรั้นด้วยความเกรงใจ ส่วนป๊อบนั้นก็เข้าไปช่วยนิกาจะได้เสร็จเร็ว ๆ
หลังจากทำอะไรเสร็จทั้งสามก็ขึ้นไปบนบ้านเพื่อเตรียมตัวเข้านอน...
ทางด้านแพรว ขณะเดินลงบันไดกำลังจะไปอาบน้ำ พอได้ยินคนเป็นพ่อที่นั่งสูบยาเส้นใต้ถุนบ้านเอ่ยถามจึงหันไปมอง
“บอกพวกครูให้นอนแยกชายหญิงแล้วใช่ไหมลูก?”
“บอกแล้วจ้ะพ่อ”
“ดีแล้ว อาบน้ำเสร็จก็รีบขึ้นบ้านนะ พ่อก็จะไปนอนแล้ว”
“จ้ะ”
จากนั้นแพรวก็รีบไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เมื่อเสร็จก็เดินขึ้นบ้านแล้วปิดประตูให้แน่นหนา พอเห็นนิกานอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในมุ้งกับป๊อบ ส่วนโปรดนั้นนอนที่มุ้งอีกหลังข้าง ๆ กัน ก็ถอนหายใจแผ่วเบาจากนั้นก็เอ่ยถามทั้งสามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ร้อนกันไหมคะ? แพรวจะได้เปิดหน้าต่างให้ค่ะ”
“ไม่ร้อนเลยค่ะครูแพรว” คนขี้กลัวอย่างป๊อบรีบตอบทันควัน ลำพังแค่นี้เธอยังไม่กล้าหลับตาเลย ถ้าเปิดหน้าต่างอีกเธอคงนอนตาแข็งทั้งคืนแน่ ในขณะที่นิกากับโปรดฟังเงียบ ๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ค่ะ ถ้ามีอะไรหรือต้องการอะไร เคาะห้องเรียกแพรวได้ตลอดเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะครูแพรว” นิกาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มขณะความรู้สึกอิ่มเอมใจ ที่คนในบ้านหลังนี้ใจดีกับเธอและเพื่อน ๆ มาก
“ยินดีค่ะ ให้แพรวปิดไฟให้เลยไหมคะ?”
“ปิดเลยก็ได้ค่ะ”
สิ้นเสียงนิกาแพรวก็เดินไปปิดไฟ ทำให้บนบ้านมืดลงทว่าก็ไม่ได้สนิท เพราะยังมีแสงไฟจากห้องนอนของแพรวเล็ดลอดออกมา และแสงจากหน้าจอโทรศัพท์ของทั้งสามที่มองเห็นเพียงรำไร
ทางด้านป๊อบเมื่อแพรวเดินเข้าไปในห้องนอนแล้ว ก็หันมองนิกาที่นอนอยู่ด้านข้าง พอเห็นเพื่อนเอาแต่นอนมองรูปดอกไม้ ที่ถ่ายจากบ้านเรือนไทยตั้งแต่ขึ้นมาบนบ้าน ก็อดพูดไม่ได้
“สงสัยแกจะชอบดอกไม้นี้มากนะ ฉันเห็นนอนดูไม่หยุดเลย”
“ใช่”
“มันหอมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่ใช่แค่หอมนะ แต่หล่อมากด้วย”
“หือ! ดอกไม้บ้านแกที่ไหนหล่อวะ?” ป๊อบถึงกับขมวดคิ้วถามด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ ส่วนนิกาที่หลุดปากพูดก็รีบแก้ตัว
“ฉันหมายถึงสวยงามน่ะ”
พูดจบร่างเล็กก็นอนตะแคงข้างหันหลังให้เพื่อนทันที จากนั้นก็ดูดอกไม้ที่อยู่หน้าบ้านอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หัวใจดวงน้อย ๆ พองโต ป๊อบจึงเลือกไม่สนใจเบี่ยงสายตามองห้องนอนของแพรวและผู้ใหญ่มั่นอีกครั้ง ก่อนจะกระซิบบอกนิกาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“แกฉันขอไปนอนเล่นกับโปรดแป๊บนะ”
“แกจะไปทำไม ครูแพรวบอกให้เราแยกนอนกันแกจำไม่ได้เหรอ”
“แค่นอนเล่นแป๊บเดียวไม่เป็นไรหรอก”
“อือ งั้นก็รีบไปรีบมา” เพราะไม่รู้จะห้ามเพื่อนยังไง นิกาจึงได้แต่ตอบด้วยความจำยอม
“โอเค”
พูดจบป๊อบก็รีบเปิดมุ้งขึ้นแล้วคลานไปยังมุ้งของโปรด จากนั้นก็นอนเล่นกับแฟนหนุ่มของเธอ นิกาที่มองอยู่ก็ได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ กับอาการคลั่งรักของเพื่อนทั้งสองคน ทว่าก็พูดอะไรมากไม่ได้ เพราะลำพังเธอแค่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ถึงหนึ่งนาที ยังรำพึงถึงเขาขนาดนี้เลย นิกาจึงเลือกไม่สนใจ นอนเลื่อนดูภาพถ่ายในหมู่บ้านต่อ กระทั่งทนกับความง่วงไม่ไหวจึงหลับไปในที่สุด
เช่นเดียวกับป๊อบและโปรด หลังจากนอนคุยกันสักพักก็เผลอหลับด้วยความเหนื่อยล้ากันทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว…