“ต๊าย...พี่หล้าขอโทษน๊า พอยยขวัญพูดแบบนี้แล้วเหมือนพี่หล้าใส่เกือกเรื่องเพื่อนยังไงก็ไม่รู้”
ขวัญเรือนรีบโบกไม้โบกมือทันควัน
“ไม่ใช่ค่ะ ขวัญไม่ได้ว่าพี่หล้านะคะ แต่คิดว่าขวัญเองไม่กล้าถามแก เพราะที่จริงขวัญก็อยากรู้เหมือนกันนั่นล่ะค่ะ ว่าแต่...พี่หล้าทำส้มตำเผ็ด ๆ มาให้ขวัญถุงนึงนะ”
“เผ็ดขนาดพริกร้อยเม็ดรึเปล่าคะน้อง”
“ถ้าจะเผ็ดขนาดนั้นขวัญกินพริกกับน้ำส้มดีกว่าไหมคะพี่หล้าขา”
“โอเคๆ...เดี๋ยวพี่หล้าจัดให้”
แล้วพรหล้าก็ลงมือตำส้มตำแบบเผ็ดสะเด็ดให้ขวัญเรือนที่คิดเรื่องของเชอรี่ว่าป่านนี้อาจจะเอาส้มตำไปให้พ่อผัวก็เป็นได้ เชอรี่เป็นน้องสะใภ้ของเสกที่หน้าตาดีและรูปร่างอวบอัดไม่แพ้หล่อน ผิวขาวเหมือนหยวกและหน้าตาเหมือนนางแบบญี่ปุ่น น่ารักเหมือนเด็กสาววัยกระเตาะ ที่สำคัญหล่อนเป็นคนช่างฉอเลาะเพราะเห็นหล่อนชอบเอาใจสันต์ บ่อยครั้งที่ขวัญเรือนเห็นเชอรี่ซื้อของนั่นนี่ไปฝาก
ดูเหมือนเป็นคนชอบเอาใจจนบางครั้งหล่อนเองก็ยังนึกอายเพราะไม่ค่อยได้ซื้ออะไรฝากพ่อผัว นึก ๆ ไปสันต์จะว่าหล่อนใจแคบหรือเปล่าไม่รู้ แต่หล่อนก็ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ทั้งกวาดบ้านถูบ้านทำกับข้าว ซักผ้าให้เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปเอาใจอย่างใกล้ชิดเหมือนน้องสะใภ้ของเสก
พอได้ส้มตำกับของที่ซื้อครบหมดทุกอย่างขวัญเรือนจึงรีบกลับไปที่บ้านและเมื่อไปถึงก็เห็นรองเท้าของเชอรี่วางอยู่หน้าประตูบ้านแต่ข้างในเงียบกริบ หญิงสาวเดินเข้าไปในครัวแล้ววางถุงใส่ส้มตำบนโต๊ะ หันไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาทำท่าจะเปิดออกดื่มก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากชั้นบน ขวัญเรือนชะเง้อมองก็คิดว่าคงเป็นเสียงของเชอรี่คุยกับพ่อผัวอยู่กระมัง หล่อนเบ้ปากและพุดกับตัวเองว่า
“แหม...นังเชอรี่นี่มันเก่ง ช่างเอาใจพ่อสามีซะเหลือเกิน สงสัยซื้อของกินมาแล้วเอาไปฉอเลาะพ่อผัวล่ะสิท่า...ชิ!...ไอ้เรามันไม่ใช่คนลิ้นยาวซะด้วย ไอ้เรื่องเลียแข้งเลียขาให้คนอื่นทำไปเถอะ...เฮ้อ!..เมื่อไหร่พี่เสกจะกลับมาน๊า หลายวันละ คิดถึงจริง ๆ เหง๊าเหงา”
หล่อนวางขวดน้ำลงแต่ก่อนจะหันกลับไปที่ถุงใส่ของก็พึ่งนึกได้ว่าต้องกลับไปที่ห้องเพราะเมื่อครู่ไม่ได้หยิบโทรศัพท์ติดมือไป กลัวว่าเสกจะโทรมาหาเดี๋ยวไม่เจอจะหาว่าหล่อนออกไปเที่ยว ว่าแล้วหญิงสาวก็ทิ้งถุงส้มตำไว้ก่อนแล้วกุลีกุจอขึ้นบันได แต่พอก้าวขึ้นไปไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องของสันต์ ขวัญเรือนหยุดกึกและเงี่ยหูฟังเพราะเสียงนั้นไม่ใช่เสียงพูดคุยกันธรรมดา
“อาส์...พ่อสันต์ขา...ซี๊ดดดด...อูยยยย...อาส์”
เสียงแหบกระเส่าที่ดังออกมาทำให้ขวัญเรือนเปลี่ยนจากเดินด้วยการลงส้นฝีเท้าธรรมดาเป็นย่องเงียบไปหยุดที่หน้าประตูห้องพ่อผัวซึ่งหล่อนนึกเอะใจที่บานประตูเปิดแง้มเอาไว้ หล่อนรวบรวมสติเพราะเสียงนั้นยิ่งใกล้ก็ยิ่งฟังชัดมากขึ้นทุกที หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปที่ช่องเล็ก ๆ ของบานประตูที่เปิดแง้มแล้วถึงกับตาค้างแทบจะอุทานออกมาด้วยความตกใจดีที่เอามืออุดปากไว้ทันเพราะภาพที่เห็นข้างในคือน้องสะใภ้สาวนั่งคร่อมบนตักของพ่อผัว
หล่อนไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าสักชิ้น อวดรูปร่างอวบอิ่มทั้งเต้านมอวบใหญ่และบั้นท้ายงอนเด้ง เชอรี่หันหน้าเข้าหาสันต์ที่นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวกำลังซุกไซ้หน้าเฟ้นฟอนกับร่องเต้าที่เบียดชิด เขาครอบปากบนป้านสีชมพูกลืนหัวนมของหล่อนเข้าไปเต็มปากเต็มคำ ดูดเม้มจนน้ำลายเยิ้มหยดเต็มหัวนมของสะใภ้สาวที่ครางเสียงสั่นและแหงนหน้าขึ้นพร้อมทั้งซู๊ดปากทำเสียงเหมือนกินของเผ็ดเข้าไป
“ซี๊ดดดด....อาส์....อูยยยย....ซี๊ดดดด....อ๊อย...พ่อสันต์ขา...อ๊าส์...อ๊าส์...”
นี่มันอะไรกันเนี่ย!...ขวัญเรือนคิดจนหัวแทบแตกและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าเชอรี่ น้องสะใภ้ที่ชอบเอาอกเอาใจพ่อผัว ที่แท้ที่หล่อนเข้ามาในห้องนี้บ่อย ๆ ก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอะไร แต่เข้ามาเพื่อเล่นสยิวกับพ่อของสามีหล่อนนี่เอง ขวัญเรือนคิดอย่างเสียวไส้ หล่อนนึกไม่ถึงว่าน้องสะใภ้จะกล้าหาญชาญชัยถึงขนาดแอบเล่ยเสียวกับพ่อของสังข์ ก็ผัวหล่อนต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดบ่อย เลยทำให้เชอรี่เหงาหงอยหรือยังไง แต่ที่น่าตกใจคือสันต์เองก็ดูท่าทางมีความสุขกับเรือนร่างของสะใภ้เล็กที่เขาตะโบมจูบจับลูบคลำไปทั่วเนื้อตัวขาวผ่อง
บทที่ 4
“อะไรกันเนี่ย...อึย...ฉันตาฝาดไปแน่ๆ”
ขวัญเรือนพูดกับตัวเองและขยี้ตาเบา ๆ แต่เมื่อลืมตาก็พบว่าทุกอย่างที่หล่อนเห็นตรงหน้ามันคือความจริง และเป็นความจริงชวนเสียวชวนตื่นเต้น เชอรี่แอบเล่นสวาทกับใครไม่เล่นดันมาเล่นสนุกกับพ่อผัวตัวเอง หล่อนร้องครางเสียงกระเส่าและแอ่นร่างเพื่อให้พ่อผัวดูดปลายเต้าได้ถนัดถนี่ ปากของสันต์ที่ล้อมรอบด้วยหนวดและเคราเสียดสีกับเนื้ออ่อนบนป้านสีชมพูรอบหัวนม ทำให้เชอรี่จักจี้และเสียวซ่านไปพร้อมกัน
“โอววว...พ่อสันต์จ๋า...ซี๊ดดดด...หนูไม่เคยเจอใครเด็ดอย่างพ่อสันต์เลย กี่หนกี่ทีก็เด็ดตลอด”