ครีมเอาเสื้อผ้าออกมาตากในช่วงเที่ยงเพราะเห็นว่าแดดจัด เลยใช้ช่วงเวลานี้ในการซักเสื้อผ้า วันนี้เธอมีเรียนแค่ช่วงเช้าเพียงคลาสเดียวเท่านั้นเลยกลับหอพักเร็วกว่าปกติมาก ส่วนช่วงบ่ายไม่มีเรียนต่อ
ฝ่ามือเล็กหยิบชุดชั้นในลูกไม้สีแดงขึ้นมาแขวนเป็นอันดับสุดท้าย ก่อนจะยกตะกร้าที่ว่างเปล่าไปวางไว้หน้าประตูเพื่อรอเก็บตอนเย็นอีกครั้ง ในตอนที่กำลังจะหมุนตัวกลับเพื่อเข้าไปในห้อง สายตาของเธอก็สบเข้ากับเจ้าของดวงตาคู่คมที่ยืนอยู่อีกฝั่งของระเบียงจนทำคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง
"อ๊ะ! ตกใจหมดเลย" คนตัวเล็กเอามือทาบอกตัวเองเบาๆ เธอไม่ได้สังเกตว่ามีใครยืนอยู่อีกฝั่ง
"ตากเสื้อเหรอ.." น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ร่างกำยำตรงหน้าทำเพียงแค่ยืนพิงกำแพงระเบียง ท่อนบนเปลือยเปล่า ส่วนท่อนล่างสวมเพียงกางเกงขายาวสีดำตัวเดียว ระเบียงห้องกั้นกลางทั้งของเธอและเขาไม่ได้สูงมากนัก สามารถเห็นร่างของกันและกันได้ชัดเจนเมื่อสังเกตกันอย่างจริงจัง
"อืม พี่ยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วเหรอ" คนตัวเล็กเอ่ยถามตามความสงสัย เพราะดูเหมือนเขาจะไม่ตกใจที่เห็นเธอแม้แต่น้อย
"ก็สักพัก พี่เห็นเราตากผ้าเพลินๆ เลยไม่อยากกวนน่ะ" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่คมคล้ายกำลังมองสำรวจร่างกายของเธอ ตั้งแต่ใบหน้าไล่ต่ำลงมายัง..เนินอกขาวผ่องของคนตัวเล็กที่ล้นทะลักออกมาจากเสื้อสายเดี่ยวสีขาว แต่ตรงจุดนั้นมีสร้อยที่ประดับด้วยจี้เกียร์ที่เธอได้มาจากคืนนั้น
"นี่สร้อยของพี่หรือเปล่า" คนตัวเล็กที่คิดว่าเขามองสร้อยของตัวเองเอ่ยถามขึ้น
"อืม" น้ำเสียงนั้นผะแผ่ว เขากวาดสายตามองตรงจุดนั้นที่คนตัวเล็กคาดว่าเป็นจี้เกียร์ ก่อนที่ดวงตานั้นจะเงยขึ้นสบกับเธอ
"พี่ให้เราเหรอ วันนั้นเราลืมถามน่ะ"
เธอลืมถามเขาตั้งแต่วันที่ทายาให้ แล้วก็ไม่ได้มีโอกาสให้ยืนคุยกันนานๆ แบบนี้อีกเลย
"เปล่า พี่ไม่ได้ให้เธอ แต่คืนนั้นเธอขอพี่ก็เลยให้.." พี่พายุตอบไม่เต็มเสียงนัก
เธอขอเขางั้นเหรอ.. จำแทบไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันห้อยอยู่บนคอของเธอแล้วนี่สิ เหมือนตัวสร้อยจะแพงด้วยนะ อีกอย่างการขอของแพงจากเขาแบบนี้มันก็เกินไป เพราะเธอกับเขาถือว่าไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นสักหน่อย
"อ่า เราขอโทษ ถ้าพี่อยากได้คืนเดี๋ยวเราจะคืนให้" คนตัวเล็กตั้งท่าจะยกมือขึ้นแตะสร้อยบนคอของตัวเอง แต่ร่างกำยำกลับเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
"ไม่เป็นไร ปกติพี่ก็ไม่ได้ชอบใส่สร้อยอะไรขนาดนั้น ถ้าเราอยากได้พี่ก็จะให้"
น้ำเสียงนั้นจริงจัง แต่เธอคิดว่ามันไม่ควรยังไงก็ไม่รู้ ยิ่งเป็นเกียร์สัญลักษณ์ประจำคณะที่พวกเขาจะให้คนรักในอนาคต เธอก็ยิ่งเกรงใจ
"แต่มันสำคัญไม่ใช่เหรอ เกียร์พวกนี้พี่ต้องเอาไปให้แฟนพี่ดิ" คนตัวเล็กเอ่ยแย้ง เพราะเธอเคยได้ยินมาแบบนั้น การให้เกียร์ก็เหมือนกับการให้ใจ
"ตอนนี้พี่ไม่มีแฟน พี่อยากให้ใครก็ได้ และตอนนี้พี่อยากให้เธอ"
ร่างกำยำเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม คนตัวเล็กที่ได้แต่มองหน้าเขาก็ถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ในอกมันคันยุบยิบไปหมด
"ขอบคุณค่ะ พี่จะเอาเงินไหม ดูเหมือนตัวสร้อยมันจะแพงมาก.." บางทีถ้าเธอขอซื้อต่อเขา อาจจะรู้สึกเกรงใจน้อยลงก็เป็นได้ แต่ไม่ทันได้เอ่ยจบประโยคดีด้วยซ้ำ เขาก็เอ่ยแทรกเธอขึ้นมาเสียก่อน
"มานี่หน่อย" ร่างกำยำไม่พูดเปล่ายังกระดิกนิ้วชี้เรียกคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปใกล้เขาที่ยืนอยู่อีกฝั่งของระเบียง
"หือ?" คนตัวเล็กครางแต่กลับก้าวเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย ในตอนนี้มีเพียงระเบียงปูนกั้นเพียงไม่กี่เซนติเมตรที่กั้นกลางระหว่างสองร่าง ขอบระเบียงสูงเพียงเอวของเธอเท่านั้น และนั่นก็ทำให้คนพี่สามารถเอื้อมมือมาจับเธอได้อย่างง่ายดาย
"เหมือนตรงสร้อยมันจะหลวมไปหรือเปล่า พี่ปรับให้" ฝ่ามือหนาเอื้อมเข้าหา ปลายนิ้วสัมผัสกับต้นคอของเธอให้ความรู้สึกร้อนฉ่าตรงส่วนนั้น
"..." คนตัวเล็กยืนนิ่งให้เรียวนิ้วขยับยุบยับอย่างไม่มีหลักการตรงต้นคอของเธอ
"เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้พี่หน่อย พี่มองไม่ถนัด" เขาเอ่ยเสียงแผ่วอยู่ตรงหน้าผากของเธอ ตอนนี้เธอคิดว่าเราก็อยู่ใกล้กันมากแล้วนะ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะให้เธอยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้กว่านี้อีก
ลมหายใจของเธอแทบสะดุดเมื่อปลายจมูกสัมผัสเข้ากับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของเขา ผิวกายเขาหอมละมุนราวกับลูกกวาด เป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่เธอไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากใครมาก่อน และเขามักจะตัวหอมแบบนี้เสมอเวลาที่เจอกันในลิฟต์ จนเผลอสูดเข้าปอดหนักๆ อย่างลืมตัว
"..." คนตัวเล็กเม้มปากข่มอารมณ์ประหม่าที่ตีรวนขึ้นมายังอก เธอใจเต้นกับเขา..
เนิ่นนานนับหลายนาทีที่มือเขาเอาแต่ยุกยิกอยู่กับซอกคอของเธออยู่อย่างนั้น จนเขาผละเรียวนิ้วออกจากซอกคอเธออย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะจัดทรงผมให้คนตัวเล็กอย่างเบามือ
"ถ้าจะถอดออก ตะขออยู่นี่นะ แต่ไม่ถอดก็ดีแล้ว พี่ไม่ค่อยอยากให้เราถอด" ที่เขาบอกว่าสร้อยนี้ถอดยังไงก็เพราะเผื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ฉุกเฉินยังไงเธอจะได้ถอดมันออก
แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากให้ถอดหรอก
"อ่า ขอบคุณค่ะ.." คนตัวเล็กพึมพำเสียงแผ่ว รู้สึกเห่อร้อนไปทั้งใบหน้า