@โรงอาหารกลาง มหาวิทยาลัยA
"ยัยครีมเมื่อวันก่อนทำไมแกถึงเข้าคลาสสาย ฉันลืมถามแกไปเลย มัวแต่จดหัวข้อรายงานของพวกเรา" ยัยนิดาเอ่ยถามคนตัวเล็กพลางตักไอติมที่พึ่งจะซื้อมาเมื่อครู่เข้าไปในปากด้วย
ได้ยินยัยนิดาถามถึงเหตุผลการมาสาย คนตัวเล็กถึงกับหมดอารมณ์ที่จะกินของหวานตรงหน้าทันที
"เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะมีรถชนกัน" เรื่องรถชนไม่ใช่ประเด็นที่เธอจะพูดถึงมันเลย แต่เป็นอีกเรื่องต่างหากที่ทำเธอเสียเวลาชีวิตมาก "แล้วแกรู้ปะ ว่าไอ้พี่คิมมันตามมาจีบฉันอีกแล้ว!"
"พี่เทคแกน่ะเหรอ นี่พี่มันยังไม่หยุดตามแกอีกเหรอ"
ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าพี่คิมตามจีบเธอมาตั้งแต่ปี 1 จวบจนเธอขึ้นปี 2 ก็ยังคงตามไม่เลิก ปัญหานี้มันทำให้เธอหาแฟนไม่ได้!!
อีกทั้งหน้าฟีตของพี่คิมยังโพสรูปเธอพร้อมบรรยายอย่างกับเธอกับเขามีความสัมพันธ์ที่พิเศษมันน่าโดนทุบ!
"ฉันไม่รู้จะทำไงแล้วเนี่ย" คนตัวเล็กโอดครวญใหญ่ ไม่ใช่ว่าพี่คิมไม่หล่อแต่มันไม่โดนใจหลายๆ เรื่องนี้สิ
"หรือแกลองคบกับพี่คิมดู อาจดีก็ได้" จู่ๆ ยัยเพื่อนตัวดีกลับโพล่งประโยคที่ทำให้ช้อนในมือเธอร่วงลงบนโต๊ะในทันที
"งั้นฉันขอกลั้นใจตาย"
"ฮาๆ ฉันแค่แกล้งแกเล่นเท่านั้น" ยัยนิดามันใช่เวลาไหม ดูนี่สิขนแขนเธอลุกซู่ไปหมดแล้ว
"แกมันนิสัยไม่ดี ฉันไม่ขำด้วยแล้ว พี่คิมมันตามฉันไม่เลิกแน่ๆ อ่า :("
ไม่โดนตามตื๊อแบบเธอคงไม่รู้ว่ามันปวดหัวแค่ไหน เธอจะเป็นโรคประสาทตายได้เลยนะ
"งั้นแกอยากหาใครสักคนที่ไว้ใจให้แกล้งมาเป็นแฟนแกปะ" นิดาเอ่ยถามคนตัวเล็กอีกครั้ง ในคราแรกก็นึกว่าเพื่อนสาวจะพูดจาเอาตลกเหมือนอย่างเคย แต่ในตอนนี้สายตาของนิดากลับดูจริงจังขึ้น
'แกล้งเป็นแฟนเธอเหรอ..' ปัญหาคือ...
"แต่จะใคร? ฉันไม่รู้จักใครเลยนะ" ในมหาลัยนี่เธอรู้จักแค่นิดาคนเดียวที่สนิทด้วย แต่ไม่ได้สนิทกับคนอื่นโดยเฉพาะผู้ชาย
และยัยนิดากลับเอ่ยขึ้นต่อจากนั้น
"พี่ชายฉัน..."
"แกมีพี่ชายด้วยเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยรู้" คนตัวเล็กทำสีหน้าตกใจเล็กน้อย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่ายัยนิดามีพี่ชาย
"ก็แกไม่เคยถามนี่นาจะให้ฉันบอกทำไมเนี่ย"
"มันก็จริง" ปกติเธอไม่ค่อยถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเท่าไหร่นัก
ว่าแต่พี่ชายของยัยนี่จะนิสัยเป็นไง ถ้าแย่กว่าพี่คิมเธอไม่หนีเสือปะจระเข้เลยเหรอ
"สนใจปะ พี่ชายฉันเรียนอยู่คณะวิศวะปี 4 มหาลัยเดียวกับพวกเรานี่แหละ"
"ฉันเกรงใจ อย่าไปรบกวนพี่ชายแกเลย" อันที่จริงเธอค่อนข้างกลัวต่างหาก หนุ่มวิศวะมันไว้ใจได้ที่ไหน โดยเฉพาะวิศวะมหาลัยพวกเราเนี่ย ชื่อเสียงเรื่องเสือผู้หญิงกระฉอกไปทั่ว เธอเจ็บแล้วจำกับผู้ชายคณะนี้! :(
"แกไม่ต้องเป็นห่วง พี่ชายฉันเป็นผู้ชายสุภาพ ไม่คิดเกินเลยกับผู้หญิงแน่นอน (?) แถมหล่อด้วยนะ" เหมือนยัยนี่จะรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
เธอเล่าให้เพื่อนฟังทุกอย่างนั่นแหละยกเว้นเรื่องไปค้างกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้เมื่อสัปดาห์ก่อน... ถ้าบอกไปเธอโดนสวดยับแน่นอน
"ยัยนิ แกโฆษณาใหญ่เลยนะ นี่จะหาแฟนให้พี่ชายหรือไง" คนตัวเล็กเบะปากให้เพื่อนไปอีกครั้ง โฆษณาสรรพคุณอย่างกับหาผู้หญิงให้พี่ชายแนะ
"ไม่หาจ๊ะ รายนั้นคงตายด้านเรื่องผู้หญิงไปละ ไม่เคยเห็นพี่มันพาใครเข้าบ้านเลยสักคน"
หึ! ผู้ชายแบบนี้คงมีแต่พระสงฆ์แล้วล่ะ แต่โทษทีเธอไม่สนหนุ่มวิศวะหน้าไหนทั้งนั้นในตอนนี้
"แกอย่าเอาปัญหาของฉันไปให้พี่ชายแกเลย ให้เขาอยู่อย่างสงบเถอะ.." เธอบอกปัดๆ ไปอีกครั้ง ไม่อยากรบกวนมันคือข้ออ้างเท่านั้นแหละ แต่เธอเหม็นเบื่อผู้ชายคณะนั้นต่างหาก :(
"ฮาๆ นั่นสิพี่มันคงด่าฉันยับแน่ๆ อ่า"
"สมควรไหมล่ะ พี่ชายแกยังไม่เคยเห็นหน้าฉันเลย ไม่เคยรู้จักเขาจะมาช่วยทำซากอะไร" อันนี้ก็หนึ่งเหตุผล พี่ชายของยัยนิดาจะหาเหาใส่หัวทำไม อยู่สบายไม่ดีกว่างั้นเหรอ
อีกทั้งไม่รู้ว่าเขาจะยอมช่วยหรือเปล่านี่สิ เธอมันคนแปลกหน้าสำหรับพี่ชายของนิดานี่นา
แต่ยัยนี่กลับยกมือขึ้นมาโบกมือให้เธอหน่อยๆ
"โนๆ จ๊ะ ฉันเคยให้พี่ชายดูรูปแกแล้ว แต่เป็นรูปตั้งแต่ปีหนึ่งโน้น" ยัยนี่พลางทำสีหน้ากรุ้มกริ่มให้เธออย่างทะเล้น
แฮ่ม! ไหนบอกไม่หาแฟนให้พี่แต่เอารูปเธอไปให้พี่ชายดูเนี่ยนะ!! มันน่าโดนตีนัก
"พี่ชายแกชมฉันว่าสวยปะ" คนตัวเล็กเอ่ยทีเล่นทีจริง อย่างน้อยก็น่าจะชมว่าเธอสวยหน่อย อุตส่าห์ภูมิใจกับหน้าตาที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
แต่ยัยนี่กลับ....
"ไม่อ่า พี่บอกเฉยๆ ฮาๆ"
"หึ่ย! นิสัยไม่ดี! :(" คนตัวเล็กหน้างอใหญ่ บอกเธอหน้าตาเฉยๆ มันก็เกินไป อย่างน้อยก็บอกว่าเธอน่ารักหน่อยก็ยังดี
พี่ชายของยัยนิดาติดแบล็คลิสต์ของเธอแล้ว!
เวลา 17.30 นาที @หน้ามหาวิทยาลัยA
ครีมเช่าหออยู่ซอย 8 ถัดจากมหาลัยเธอเพียงแค่สิบกิโลเท่านั้น มันถือว่าไม่ใกล้และไม่ไกลจนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นในช่วงเย็นก็เป็นช่วงที่รถติดมากที่สุดของวัน เธอต้องมารอรถเมล์เพื่อกลับหอแบบนี้ทุกวัน
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่คนตัวเล็กต้องเดินด้วยรองเท้าส้นสูง กับกระโปรงทรงเอที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาหนึ่งคืบครึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้ลำบากอะไรในตอนเดินแต่การที่เธอใส่รองเท้าส้นสูงทั้งวันก็ทำให้เธอเมื่อยขาเป็นธรรมดา
คนตัวเล็กค่อยๆ หย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งบริเวณหน้าป้ายรถเมล์ ตรงบริเวณนี้ต่างมีนักศึกษาหลากหลายสาขาต่างมารอขึ้นรถกันเต็มหมด แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครนั่งบนม้านั่งเนื่องจากอาจไม่ทันเมื่อรถเมล์ลงจอด ทุกคนจึงยืนรอกันเสียส่วนใหญ่
ตอนนี้ใครจะแย่งขึ้นรถเธอก็ไม่สนมันแล้ว เธอเมื่อยขาไปหมด รู้อย่างนี้เธอน่าจะลองเปลี่ยนมาใส่รองเท้าผ้าใบ
"เมื่อยอ่า.." คนตัวเล็กบ่นพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว ฝ่ามือค่อยๆ นวดไปตามเรียวขาสวยของตัวอย่างแผ่วเบา ในตอนนี้กระโปรงของเธอร่นขึ้นไปถึงคืบอวดขาขาวผ่องสู่สายตาสาธารณชน
แต่ใครจะแคร์? อยากมองก็มองไปพอดีมีของดีไว้ให้โชว์ ปกติเธอใส่สั้นและโชว์เนื้อหนังมังสาเป็นปกติเวลาไปเที่ยวกลางคืนอยู่แล้ว ไม่เคยมีใครต่อว่าสักคน แต่...
"จะอวดขาให้คนอื่นมองทำไม..." เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังขึ้น เหมือนเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เธอได้ยิน แต่ตรงบริเวณเก้าอี้นั่งก็ไม่มีใครอื่นนอกจากเธอกับเขา ทำให้คนตัวเล็กรีบหันหน้าขวับไปมองทางต้นเสียงในทันทีทันใด
กึก!
จากที่กำลังจะอ้าปากด่าอีกฝ่าย ริมฝีปากของคนตัวเล็กกลับหุบเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนเอ่ยพูดคำนั้น
นี่มันรุ่นพี่วิศวะคนนั้น.. คนที่เธอเจอเขาในลิฟต์เมื่อไม่กี่วันก่อน คนตัวเล็กสบเข้ากับดวงตาดุดันของเขาที่ยังคงอยู่ในชุดเสื้อช็อปสีเลือดหมูของมหาลัยเธอ ร่างสูงยืนพิงอยู่กับเสาที่เป็นส่วนหนึ่งของศาลาหลบฝน
เขาในตอนนี้กับตอนที่เจอในลิฟต์แทบไม่ต่างกัน เพราะใบหน้านั้นยังคงปกปิดด้วยแมสสีดำสนิท สีผมคาราเมลของเขามันคือจุดเด่นเสียจริง
คนนี้ใช่พี่พายุที่เพื่อนของเขาแนะนำเธอในวันนั้นนี่นา แต่ทำไมเขาต้องปกปิดหน้าด้วยแมสด้วย หรือเขาไม่ได้หล่อเหมือนที่เพื่อนของเขาพูด?
"มองพี่ทำไมครับ" อาจเป็นเพราะคนตัวเล็กเอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่ตั้งนานสองนานอีกฝ่ายจึงเอ่ยถามคนตัวเล็กมาแบบนั้น
"เปล่าค่ะ พอดีได้ยินเสียงนกเสียงกาดังมาจากข้างหลัง เราเลยเผลอมองไปน่ะค่ะ ไม่คิดว่าจะมีใครยืนอยู่ตรงนั้น" คนตัวเล็กส่งยิ้มหวานเคลือบยาพิษไปให้ร่างสูงที่ยืนพิงเสาอย่างสบายอกสบายใจ ก่อนจะผินหน้ากลับมาทางเดิมพร้อมกับริมฝีปากที่ลอบเบะใส่เขา แต่ก็ไม่วายยังคงได้ยินเสียงของเขาดังขึ้นมาจากข้างหลังอีกจนได้
"หึ ตัวแค่นี้แต่ปากจัดใช้ได้เลยนี่นา..."
ขวับ!
และนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กหันใบหน้ายุ่งๆ ไปหาเขาอีกครั้ง เมื่อกี้เขาว่าเธอใช่หรือเปล่า? นี่เขาด่าเธอปากจัดงั้นเหรอ :(
คนตัวเล็กที่กำลังจะอ้าปากเอ่ยคำเถียงเขาออกไป แต่นั่นก็เป็นเวลาเดียวกับรถเมล์สายที่เธอต้องขึ้นกลับห้องจอดลงบริเวณหน้าป้าย ทำให้เธอต้องละเว้นการต่อปากต่อคำกับเขา ก่อนจะรีบขึ้นรถเมล์ในเวลาต่อมา
โดยไม่ได้หันไปมองข้างหลังอีกว่าใครอีกคนจะกลับสายไหน หรือกลับกับรถอะไร และเธอไม่ทันได้สังเกตว่า 'เขา' เองก็ขึ้นรถเมล์มากับเธออีกเช่นเดียวกัน
คนตัวเล็กลงตรงหน้าปากซอย 8 ซึ่งมันต้องเดินเข้าไปในซอยอีกราวร้อยเมตรกว่ามันจะถึงหอพักของเธอ ราคาหออยู่ที่กลางๆ ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าดีระดับหนึ่ง คงมีแต่ระยะทางระหว่างหอกับถนนใหญ่นี่แหละที่เธอต้องเผชิญ แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรกับเธอมากนักอาจเป็นเพราะความชิน เธอเองก็อยู่หอนี้ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว
คนตัวเล็กก้มลงมองนาฬิกาบนข้อมือก็พบว่ามันเลยหกโมงเย็นมาเกือบสิบห้านาทีได้แล้ว ท้องฟ้าจากสีเหลืองทองแปลเปลี่ยนเป็นสีเทาจางๆ ทำให้คนตัวเล็กต้องรีบสาวเท้าไปตามฟุตบาทของซอยเก้า
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงย้ำเท้าเป็นจังหวะของเธอมีเสียงของรองเท้ากระทบพื้นดังคั่นในบางจังหวะ ในคราแรกก็ได้เอะใจหรืออะไร แต่เหมือนว่าเสียงนั้นมันจะเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นจนคนตัวเล็กต้องรีบหันหน้ากลับไปดู
กึก!
เหมือนว่าทั้งเขาและเธอจะชะงักปลายเท้าเมื่อคนตัวเล็กตวัดสายตาดื้อๆ กลับไปมองร่างสูงของเขาที่อยู่ห่างจากเธอเพียงสามก้าวเท่านั้น
"นี่พี่ตามเรามาทำไม" คนตัวเล็กเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กๆ หัวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปมอยู่แล้ว แต่บุคคลตรงหน้ากลับทำสีหน้าเรียบนิ่งภายใต้แมสที่เขาสวมใส่อยู่เท่านั้น
"พี่ไม่ได้ตามเธอ" เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เหมือนไม่ได้ตกใจกับคำพูดของเธอแต่อย่างใด
"ก็เห็นอยู่ว่าพี่เดินตามเรามา คิดจะปฏิเสธอีกเหรอ" คนตัวเล็กเถียงเขาคอเป็นเอ็น ยิ่งคิดว่าเขาเดิมตามเธอมามันก็ยิ่งทำให้เธอโมโห
แบบนี้ถือว่าเป็นการคุกคามได้หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็แอบมองขาอ่อนเธอด้วยมันก็ยิ่งทำให้คนตัวเล็กคิดว่าเขาอาจจะเป็นไอ้บ้าโรคจิตคนนึงก็เป็นได้
"...."
"เป็นโรคจิตหรือไงถึงได้ตามมาถึงหอกันขนาดนี้"