บทที่ 1-2

1316 Words
‘พี่ฟอซรังเกียจเรามากขนาดนั้นเลยเหรอ’ นีรญาคิดอย่างน้อยใจ ร่างเล็กค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นยืน หญิงสาวไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ “นีรขอ…” “ออกไป” หญิงสาวไม่ทันได้เอ่ยจบประโยค ฟอซโซก็เค้นเสียงรอดไรฟัน นั่นทำให้หญิงสาวทราบว่าชายหนุ่มกำลังโกรธจัด นีรญาหน้าถอดสี “พี่ฟอซคะ นีรไม่ได้ตั้งคือว่านีร…” “ฉันบอกให้ออกไป เดี๋ยวนี้” น้ำเสียงแข็งกระด้าง ท่าทางดุดัน และสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองที่เปลี่ยนไป ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก น้ำใสๆ เริ่มขังคลอที่หน่วยตา “พี่ฟอซคะ นีร…” “ฉันบอกให้ออกไป” เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มคว้าต้นแขนข้างหนึ่งของเธอเอาไว้ แล้วฉุดรั้งร่างเล็กให้ขยับเท้าตาม จัดการโยนร่างแบบบางออกนอกห้องอย่างไม่ไยดี นัยน์ตาสีเทาอ่อนแข็งกร้าว มองดวงหน้าเล็กที่น้ำตาขังคลอหน่วยตาอย่างดูแคลน “เธอควรจำเอาไว้ด้วยว่า ตัวเองเป็นใครแล้วฉันเป็นใคร” “...” “เธอเป็นแค่เด็กที่คุณพ่อกับคุณแม่รับมาดูแล” “...” “ทีหลังอย่ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉันอีก” เสียงบานประตูกระแทกเข้ากับกรอบไม้โครมใหญ่ ทำให้ร่างเล็กที่นั่งกองอยู่บนพื้นสะดุ้งเฮือก นีรญาค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง ดวงตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองบานประตูสีน้ำตาลเข้มที่ปิดสนิทด้วย แววตาค่อยๆ หม่นแสงลง ความรู้สึกผิดอยู่ในอกท่วมท้น นีรญาทราบดีว่าการกระทำของเธอเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่เพราะความรักที่อัดแน่นอยู่ในอกทำให้เธอไม่อาจนิ่งเฉยได้ แต่เธอคงลืมไปว่าตัวเองเป็นเพียงผู้อาศัยใต้ชายคาของคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้เท่านั้น ใช่ เธอควรพึงระลึกเอาไว้เสมอว่าตัวเองเป็นใคร แล้วเขาเป็นใคร ทีหลังจะได้ไม่ทำเรื่องขาดสติแบบนั้นอีก และที่สำคัญตอนนี้เขาคงเกลียดเธอไปแล้ว ดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตาทิ้งสายตาที่บานประตูไม้สีน้ำตาลเข้มอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับเท้ากลับห้องของตัวเองไปอย่างอ่อนแรง บ้าเอ๊ย! ฟอซโซกระแทกตัวลงบนปลายเตียงอย่างหงุดหงิด หลังจากที่ชายหนุ่มจัดการโยนผู้ก่อกวนออกไปนอกห้อง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม ใบหน้าหล่อเหลาตึงเครียด ‘เป็นบ้าอะไรของเธอ’ ชายหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิด และพอคิดไปถึงตอนที่ริมฝีปากของเขาและเธอแนบเข้าหากัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ชายหนุ่มก็อดหัวเสียไม่ได้ เขาต้องเสียริมฝีปากที่เขาหวงแหน และใช่ นั่นคือจูบแรกของเขา มันอาจจะดูเหลือเชื่อ แต่นั่นคือเรื่องจริง เขาอาจจะมีคู่ควงมามาก แต่เขาไม่เคยจูบใคร และก็แน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนได้สัมผัสริมฝีปากของเขา เพราะจุมพิตของเขามันล้ำค่ามาก และเขาก็ตั้งใจจะมอบความล้ำค่านั้นให้กับผู้หญิงที่เขารักเท่านั้น แม้จะผ่านมายี่สิบเจ็ดปี ทว่าเขาก็ยังไม่เจอคนที่คิดว่าจะรักได้ และตัวเขาเองก็ทำใจให้จูบผู้หญิงที่ไม่ได้รักใคร่ไม่ลง แต่นีรญากลับช่วงชิงมันไป บ้าชะมัด มือหนายกขึ้นเสยผมเพื่อระบายความหงุดหงิด นัยน์ตาสีเทาอ่อนแข็งกร้าวเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า ลมหายใจพรืดใหญ่ถูกพ่นออกครั้งแล้วครั้งเล่า คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนยับย่น เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องผิดพลาดบ้าบอนี่เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด ‘เห็นทีพี่คงต้องอยู่ให้ห่างจากเธอแล้วละมั้ง นีรญา’ นีรญานั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมห้อง แผ่นหลังบอบบางพิงเข้ากับผนังเย็นเยียบ ดวงตากลมโตมองไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่ใบหน้าเล็กจะค่อยๆ แนบลงบนเข่า ในหัวพลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่บิดาของหญิงสาวเพิ่งจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุได้เพียงสิบปี บิดาของเธอชื่อนนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ส่วนมารดานั้นตั้งแต่เธอจำความได้ก็ไม่เคยเห็นหน้า แม้กระทั่งรูปก็ไม่เคยได้เห็น บิดาของเธอบอกแต่เพียงว่าเลิกรากับมารดาของเธอตอนที่เธออายุได้ขวบเศษ และในชีวิตของเธอก็มีเพียงบิดาคนเดียวเท่านั้น ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก เธอกับบิดาอาศัยในบ้านเช่าแห่งหนึ่งในชุมชนเล็กๆ ติดแม่น้ำในกรุงเทพฯ ชีวิตสองคนพ่อลูกก็มีความสุขตามอัตภาพ จนกระทั่งบิดาของเธอจากไป ครอบครัวคาสซาโน่จึงรับเธอมาดูแล เพราะมารดาของฟอซโซเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดาเธอ มารดาของฟอซโซชื่อปาริมา เป็นผู้หญิงตัวเล็กที่มีหน้างดงามหมดจด แม้ตอนนี้จะอยู่ในวัยสี่สิบเจ็ดปี หากแต่ใบหน้ายังดูอ่อนเยาว์คล้ายผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ ส่วนบิดาของฟอซโซมีชื่อว่าฟาบิโอ หากเธอจำไม่ผิดตอนนี้ท่านน่าจะอายุประมาณห้าสิบเจ็ดปี ทว่าใบหน้ายังดูหล่อเหลาไม่ต่างจากคนอายุสี่สิบปีต้นๆ ท่านทั้งสองใจดีและเมตตาเธอมาก ดูแลเธอเป็นอย่างดี และยังจดทะเบียนรับเธอเป็นบุตรบุญธรรม ฟอซโซมีน้องสาวชื่อฟลอเรนซา ซึ่งทั้งคู่เป็นฝาแฝดกัน และฟลอเรนซาก็เป็นพี่สาวที่น่ารักมากสำหรับเธอ ส่วนฟอซโซนั้นแม้เขาจะไม่ได้ใจดีกับเธอมาก แต่ก็ไม่เคยใจร้ายกับเธอ จนกระทั่งตอนนี้ ตอนที่เธอทำเรื่องที่ไม่สมควรลงไป หากจะมีคำถามสักข้อว่าทำไมเธอถึงได้ทำเรื่องโง่เง่าแบบนั้น หญิงสาวสามารถตอบได้อย่างเต็มปากว่าเป็นเพราะเธอรักเขา เธอรักพี่ชายต่างสายเลือด ซึ่งเป็นความรักแบบหนุ่มสาว ไม่ใช่ความรักของพี่น้องอย่างที่ควรจะเป็น และเธอก็ไม่อาจห้ามปรามความรู้สึกของตัวเองได้ แต่ถ้าหากถามว่าทำไมเธอถึงได้รักเขา เธอก็ตอบไม่ได้เช่นกัน เพราะรู้ตัวอีกที ในหัวใจของเธอก็มีเขาอยู่ในนั้นแล้ว และตอนนี้เขาต้องเกลียดเธอไปแล้วแน่ๆ กลีบปากนุ่มเม้มสลับคลายอย่างครุ่นคิด เธออยากขอโทษเขา แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขายังโกรธจัด เธอควรเว้นระยะสักพัก อย่างน้อยก็รอให้เขาใจเย็นลงกว่านี้สักหน่อย ค่อยหาโอกาสไปขอโทษก็แล้วกัน เพราะกว่าจะข่มตาให้หลับลงได้ก็เกือบๆ รุ่งสาง นีรญาจึงลงมาที่โต๊ะอาหารในตอนเช้าช้ากว่าคนอื่นๆ ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะคือเฟเดริโก้ คาสซาโน่ เป็นบิดาของฟาบิโอ ทางซ้ายมือเป็นฟาบิโอกับปาริมา ส่วนทางด้านขวาเป็นฟอซโซกับฟลอเรนซา เก้าอี้ข้างๆ ฟลอเรนซาคือที่นั่งประจำของหญิงสาว นีรญาขยับเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง “ขอโทษที่นีรลงมาช้าค่ะ” นีรญากล่าวขอโทษ โดยสายตาของหญิงสาวมองไปที่เฟเดริโก้ ก่อนจะมองไปที่ฟาบิโอและปาริมา ซึ่งทุกคนต่างพยักหน้ารับแล้วเผยรอยยิ้มบางๆ เป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร จะมีก็แต่ฟอซโซเพียงเท่านั้นที่เห็นว่านี่เป็นการกระทำที่ไม่สมควร ชายหนุ่มจึงต่อว่า “ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานๆ แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” นีรญาหันหน้าไปทางต้นเสียง ใบหน้าหล่อเหลาจ้องเขม็งมาที่เธอ นั่นเป็นเหตุให้ดวงตากลมโตวูบไหว ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษอย่างสำนึกผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD