ตอนที่ 4

1550 Words
“ยังครับ” หลังจากที่แพทริกพูดจบก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง ส่วนวีรณายิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว “คำถามสุดท้ายนะครับ สาวๆคงอยากรู้มากเลยสําหรับคำถามนี้ สเปคสาวๆที่คุณแพทริกชอบเป็นแบบไหนครับ” “เอ่อ...ยังไงก็ได้ครับขอแค่เข้าใจกันก็พอ” แพทริกส่งยิ้มบางๆไปให้ทุกคนอย่างทั่วถึง เมื่อบทสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานจึงเชิญแพริกมานั่งที่โต๊ะซึ่งเตรียมไว้สำหรับแจกลายเซ็น “เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยเดี๋ยวให้ทุกคนเข้าคิวเพื่อรับลายเซ็นคุณแพทริกนะครับ” หลังจากทีมงานประกาศจบทุกคนต่างรีบกุลีกุจอไปต่อแถวเพื่อเข้าคิวทันที “วี ไม่ไปขอลายเซ็นคุณแพทริกเหรอ” ปรียาภัทรถามเพื่อนที่ยังคงยืนจ้องแพริกอย่างไม่วางตา “ไปสิ แต่แถวยาวมากเลยเดี๋ยวเรารอทีหลังก็ได้” วีรณาบอก สีหน้าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่สามารถเข้าไปช่วงชิงเป็นคนขอลายเซ็นคนแรกได้ “แหมๆๆ ไม่ใช่ว่าจะขอลายเซ็นทีหลังเพราะจะแอบโปรยเสน่ห์ใส่คุณแพทริกหรอกนะ” ปรียาภัทรเย้าแหย่อย่างที่ชอบทำอยู่บ่อยๆ “บ้าหรือไง! ใครจะไปทำอย่างนั้นกันเล่า ไปดีกว่า เราไม่คุยกับข้าวหอมแล้ว” วีรณารู้ตัวดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เธอไม่สามารถเถียงสู้ปรียาภัทรได้เลย จึงเลี่ยงไปเพื่อเข้าคิวขอลายเซ็นบ้าง ปรียาภัทรก็ไม่ยอมแพ้ยังตามมาเย้าแหย่วีรณาอีก โดยมาแซงคิวให้ตัวเองอยู่ข้างหน้า และให้วีรณาอยู่ท้ายสุด “ที่เราให้วีอยู่ท้ายสุดก็เพื่อจะให้คุณแพทริกจดจำวีได้แม่นยำที่สุด และวีจะได้มีโอกาสโปรยเสน่ห์ใส่คุณแพทริกยังไงล่ะ ยังโสดอยู่ซะด้วย ยังไงก็อย่าให้พลาดแล้วกันน้า...” ปรียาภัทรยิ้มล้อเลียน “นี่แน่ะ บ้าที่สุด ชอบแซวเราอยู่เรื่อย” วีรณาแอบหยิกที่แขนปรียาภัทรเบาๆ การแจกลายเซ็นดำเนินมาเรื่อยๆจนมาถึงปรียาภัทร “คุณแพทริกคะ คนข้างหลังเนี่ย เขาปลื้มคุณมากๆเลยค่ะ” ปรียาภัทรแอบกระซิบบอกแพทริกโดยไม่ให้วีรณาได้ยิน “ครับ” แพทริกรับคำแล้วส่งยิ้มบางๆให้ เมื่อถึงคิววีรณา เธอก็เกิดอาการประหม่าวางตัวไม่ถูก ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาอยู่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ “คุณครับ จะให้ผมเซ็นตรงไหนครับ” เแพทริกเห็นผู้หญิงตรงหน้ายื่นนิ่งเป็นนานสองนาน เขาจึงเอ่ยถามเธอ “เอ่อ...คือ..รบกวนเซ็นใส่สมุดให้หน่อยนะคะ” วีรณาบอก ก่อนที่จะรีบควานหาสมุดที่เป็นไดอารี่ที่เธอตัดเก็บภาพของชายหนุ่มแปะเอาไว้จากกระเป๋าสะพาย “นี่ค่ะ” แพทริกรับไว้แล้วเปิดไปที่หน้าแรกของไดอารี่ ด้านในมีลายมือน่ารักเขียนเป็นภาษาไทยไว้พร้อมบรรยายใต้รูป ซึ่งเป็นรูปของเขา แพทริกมองแล้วอมยิ้มก่อนที่จรดปากกาเซ็นชื่อลงไปในหน้าแรก ใจจริงเขาอยากจะเปิดดูด้านในว่าเขียนถึงเขาว่าอย่างไรบ้าง แต่ก็จะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป เลยทำได้แค่เพียงยื่นสมุดคืนให้เธอหลังจากที่เขาจรดปากกาเซ็นชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วีรณารีบคว้าไดอารี่แต่มือของเธอดันพลาดไปถูกมือแพทริกเข้า ทันทีที่มือสัมผัสกันเธอรู้สึกว่ากระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั่วร่างกาย รู้สึกประหม่ามากขึ้น ส่วนแพทริกก็รู้สึกไม่ต่างกัน เธอกลัวเขาโกรธจึงรีบชักมืออกมาพร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเป็นการยกใหญ่ ก่อนที่จะคว้าสมุดไดอารี่วิ่งออกจากห้องแถลงข่าวไป ปรียาภัทรเห็นเพื่อนวิ่งออกไปเลยรีบวิ่งตามไปเพื่อจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ วีรณาวิ่งออกมาแล้วหยุดยืนที่หน้าประตูห้องแถลงข่าว ลมหายใจหอบถี่อย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่เพราะอาการเหนื่อยหอบจากการวิ่งพรวดพราดแต่เป็นเพราะว่าอาการตกใจจากการที่ได้สัมผัสแพทริกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แม้จะเพียงแค่แผ่วเบาก็ตามที วีรณาทาบมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอกซ้าย สัมผัสได้ว่าหัวใจเธอเต้นกระหน่ำจนแทบจะระเบิดมาอยู่นอกอกอยู่รอมร่อ นี่เธอเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ไม่ได้การแล้ว! ถ้าเป็นแบบนี้ เธอควรอยู่ให้ห่างเขาไว้จะดีกว่า อันตรายต่อหัวใจดวงน้อยๆของเธอมากเกินไป “วี! เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงได้วิ่งออกมาแบบนั้นล่ะ” เมื่อปรียาภัทรวิ่งมาถึงตำแหน่งที่วีรณายืนอยู่จึงรีบถามเพื่อนทันที ด้วยอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนรักกันแน่ “คือ...เรา...” วีรณาไม่กล้าบอกว่าอาการที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพียงเพราะว่าเธอบังเอิญได้สัมผัสมือของแพทริก เลยโดนอาการประหลาดเล่นงาน เธอไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการที่รู้สึกว่ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งไปทั่วร่างเพียงแค่ได้สัมผัสเขาอย่างแผ่วเบามันคืออะไร “ว่าไง เป็นอะไรหรือเปล่า” ปรียาภัทรถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นวีรณาเงียบไป “ไม่มีอะไรหรอก เรากลับกันดีกว่า” วีรณาไม่ตอบแต่เบี่ยงเบนประเด็นโดยการชวนเพื่อนกลับ ปรียาภัทรไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ เพียงแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเป็นห่วงที่จู่ๆวีรณาวิ่งพรวดพราดออกมาแบบนั้น แต่เพื่อนไม่สะดวกจะบอกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงลิฟท์ วีรณาเพิ่งรู้ตัวว่าบัตรนักศึกษาของเธอหายไป “ข้าวหอม บัตรนักศึกษาเราหายไปไหนก็ไม่รู้” วีรณาหันไปบอกปรียาภัทรอย่างหน้าตาตื่น “ตอนอยู่ที่ห้องแถลงข่าว เราก็เห็นวีแขวนไว้อยู่นะ” ปรียาภัทรตอบพลางครุ่นคิดไปด้วย “เราว่าน่าจะตกอยู่ในห้องแถลงข่าวแน่ๆเลย ข้าวหอมไปช่วยเราหาหน่อยนะ” วีรณาว่า ก่อนที่จะเอ่ยปากชวนปรียาภัทรให้ไปช่วยหาบัตรนักศึกษาของตัวเอง “อืม...ได้สิ” ปรียาภัทรพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน สองสาวเดินกลับมายังห้องแถลงข่าวโดยไม่รู้ว่าแพทริก โรเจอร์และลูอิส ยังคงอยู่ในห้อง “คุณแพทริกครับ นั่นบัตรอะไรตกอยู่ที่พื้นน่ะครับ” โรเจอร์บอกแพทริกขณะที่ทั้งหมดกำลังจะเดินออกจากห้องแล้วพบบัตรหล่นอยู่ที่พื้น “เดี๋ยวผมไปเก็บมาให้ครับ” ลูอิสอาสา เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วนำมาให้แพทริก “นี่ครับคุณแพทริก” แพทริกพยักหน้าและรับเอาไว้ “น.ส.วีรณา รุ่งสิริทรัพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัย...” แพทริกอ่านตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่บนบัตรพร้อมทั้งมองรูปภาพของเจ้าของบัตรด้วยรอยยิ้ม “เธอน่ารักดีนะครับ” โรเจอร์ว่า ส่วนลูอิสก็ไม่น้อยหน้าพยายามชะโงกหน้ามาดูรูปเจ้าของบัตรบ้าง “น่ารักจริงๆด้วยครับ” ลูอิสหันไปบอกแพทริกอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยันอีกเสียงว่าเจ้าของบัตรน่ารักจริงๆ จากที่เขาตั้งใจจะกลับไปพักผ่อน จึงเปลี่ยนใจนั่งรอเจ้าของบัตรอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม เพราะยังไงซะเขาก็คิดว่าอีกไม่นานเจ้าของบัตรต้องมาแน่ๆ นึกถึงใบหน้าของเธอตอนประหม่าเมื่อมาอยู่ใกล้เขา ทำให้รู้สึกอยากจะแกล้งเธอขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพียงแค่คิดแพทริกก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี “นายว่าคุณแพทริกดูจะอารมณ์ดีมากไปไหม” โรเจอร์แอบกระซิบถามลูอิส ที่ยืนอยู่ข้างๆกัน “ฉันก็ว่างั้นแหละ ดูบัตรแล้วก็ยิ้ม สงสัยจะเป็นเอามาก” ลูอิสกระซิบกลับอย่างเบาๆ แพทริกได้ยินแต่ไม่แน่ใจว่าลูกน้องกำลังกระซิบกระซาบอะไรกัน “นี่! พวกนายนินทาอะไรฉัน” แพทริกเอ่ยเสียงเข้มต่อว่า แต่ไม่ได้จริงจังนัก “เปล่าครับ” ทั้งสองคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมทำหน้านิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อย่าให้ฉันรู้นะว่านินทาอะไรฉัน จะเตะกลับลอนดอนแทบไม่ทันเลยคอยดู” โรเจอร์และลูอิสค้อมศีรษะน้อยๆก่อนทั้งคู่จะยิ้มมุมปากด้วยรู้ว่าแพทริกไม่มีทางทำอย่างที่บอกแน่ แพทริกนั่งรอเพียงไม่นาน เจ้าของบัตรอย่างวีรณาก็กลับมาในห้องแถลงข่าวอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ทันทีที่วีรณาเปิดประตูมาเห็นคนในห้อง เท้าเล็กๆก็แทบจะถอยหลังหนีอย่างอัตโนมัติ แพทริกและคนติดตามของเขายังอยู่ในห้อง วีรณานิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมก้าวเท้าต่อเห็นเพื่อนชะงักอยู่หน้าประตู ปรียาภัทรจึงแปลกใจและถามอย่างใคร่รู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD