บทที่ 1 เจ้าสาวของอสูร(02)

1509 Words
ราเชนได้แต่ส่ายศีรษะออกมาเป็นคำตอบ เพราะไม่รู้เลยว่าลูกชายจะมาหรือไม่ ก็เล่นไปบังคับกันซะขนาดนั้น เป็นเขาก็คงไม่มา ใครจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก แถมยังไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้ง และไม่รู้ว่าหากลูกชายมา แล้วงานแต่งนี้จะเป็นอย่างไร เพราะลูกชายก็หัวดื้อไม่แพ้คนเป็นแม่ คงมีอะไรเซอร์ไพรส์ให้มารดาตกใจแน่นอน “คุณหญิง ดิฉันแต่งหน้าเจ้าสาวเสร็จแล้วนะคะ ไหนล่ะคะเจ้าบ่าวที่จะให้แต่ง” ช่างแต่งหน้าช่างเจรจาเอ่ยถามขณะจูงมือเจ้าสาวมาให้ทุกคนชม “ฉันก็รอมันอยู่นี่ละ ไม่รู้ว่ามันจะมาไหม” โรสกล่าวเสียงกังวล แล้วหันมาส่งยิ้มให้กับว่าที่ลูกสะใภ้คนสวย ซึ่งอยู่ในชุดไทยประยุกต์สีทอง เปิดไหล่กว้างด้านซ้าย ส่วนอีกด้านมีสไบยาวสลวย “สวยมากหนูนาง สวยจริงๆ แม่เลือกคนไม่ผิดเลย” เจ้าสาวก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ให้ แอบแสดงสีหน้ากังวลกับงานแต่งงานวันนี้ ก็หล่อนนั้นยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าบ่าวเลยสักครั้ง เคยได้ยินแต่กิตติศัพท์ความร้ายกาจ ถ้าเจอกันแล้ว หล่อนจะต้องทำตัวอย่างไร จะพูดกับเขาแบบไหน ช้องนางกังวลไม่น้อยในเรื่องนี้ ก่อนที่จะทำใจฮึดสู้ ในเมื่อหล่อนตัดสินใจยอมรับข้อเสนอของโรสแล้ว หล่อนก็ต้องทำให้ได้ พลันหันไปส่งยิ้มให้น้องชายและน้องสาวที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา “พี่นางของนุช สวยจังเลยค่ะ” นุชนาถเอ่ยเสียงหวาน เข้ามากอดพี่สาวไว้แน่น ก่อนที่จะเอ่ยถึงบิดาที่ไม่สามารถมาร่วมยินดีด้วยได้ เพราะต้องรักษาตัวจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ครั้งที่เกือบทำให้พวกเธอสามคนสูญเสียผู้เป็นพ่อไป “เสียดายนะคะที่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้พ่อออกจากโรงพยาบาล ไม่งั้นพ่อก็คงชมพี่นางเหมือนที่นุชชม ใช่ไหมชิน” เธอเอ่ยพร้อมกับผละออกห่างแล้วหันไปถามอชิน น้องชายคนสุดท้อง “ใช่ พี่นางสวยมากๆ” อชินตอบเสียงเข้ม “พี่ก็อยากให้พ่อมา” ช้องนางตอบเสียงเศร้า เพราะใครๆ ก็ต้องอยากให้บุพการีมาอวยพรในวันที่มีคู่ครองและกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่กันทั้งนั้น เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชายและน้องสาวแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าเพราะคำพูดของตน เจ้าหล่อนก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “แต่ไม่เป็นไร แค่มีชินกับนุชพี่ก็ดีใจแล้ว แล้วอีกอย่างพ่อก็กำลังรักษาตัวอยู่ พี่ไม่อยากให้พ่อต้องลำบากมาที่นี่ ชินกับนุชออกไปช่วยรับแขกข้างนอกเถอะ อีกไม่นานพิธีก็เริ่มแล้ว” “ได้ครับ/ได้ค่ะ” ทั้งสองตอบรับและหันหลังกลับเดินออกไปบริเวณหน้างาน “เอ้า! คุณหญิง ตกลงจะให้ดิฉันแต่งหน้าเจ้าบ่าวไหมคะ ถ้าไม่ งั้นดิฉันจะได้ขอตัวกลับ ดิฉันก็มีงานเยอะนะคะ” ช่างแต่งหน้าเอ่ยถามพลางยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นมาดู เพราะเจ้าตัวนั้นรับงานเอาไว้แน่นเอี๊ยด วันๆ หนึ่งสี่ถึงห้างาน ทำให้ต้องรีบไปงานอื่นต่อ “รออีกสักแป๊บสิ เดี๋ยวลูกชายของฉันก็มา” โรสพูดด้วยอาการร้อนรน กลัวว่าลูกชายจะไม่มาจริงๆ เข็มนาฬิกาเดินหมุนไปเรื่อยๆ จนเวลาเหลืออีกเพียงสิบนาทีก็จะถึงเวลาเริ่มพิธี แต่ก็ยังไม่เห็นเงาของเจ้าบ่าว ทำให้โรสแสนจะหงุดหงิดใจ แถมพอกดโทรศัพท์ไปหาก็ดันได้ยินแต่เสียงให้ฝากข้อความ “นั่งก่อนเถอะคุณ เดี๋ยวเจ้ารามันก็มาเอง” ราเชนต้องเอ่ยบอกให้ภรรยาใจเย็น หยุดเดินวนไปวนมาแล้วนั่งลง เพราะกลัวว่าจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อนที่จะได้เริ่มพิธี “คุณจะให้ฉันนั่งลงได้ไงคะ ป่านนี้แล้วมันยังไม่มาเลย เจ้าลูกชายของคุณ ดูสิ เหลือเวลาไม่ถึงห้านาทีแล้ว” โรสถึงกับนั่งไม่ติด ต้องเดินไปชะเง้อคอมองว่าลูกชายจะมาเมื่อไร เวลาก็เดินผ่านไป เดินไปเรื่อยๆ และแล้วในที่สุดเวลาก็เดินมาถึงฤกษ์พิธีหมั้นหมาย ฝ่ายผู้ดำเนินงานต้องเดินมาสอบถามเมื่อเห็นว่าเลยฤกษ์มาพอสมควรแล้ว “โอ๊ย!! คุณฉันจะทำไงดี เจ้ารามันจะมาไหม นี่มันจะไม่นับว่าฉันเป็นแม่ของมันหรือไง” เธอถามเสียงสั่น รู้สึกเวียนหัวขึ้นมา จนจะเซล้ม “คุณหญิงไหวไหม ผมก็บอกคุณแล้วว่าอย่าไปบังคับมัน” ราเชนรีบวิ่งเข้ามาประคองภรรยาแล้วพาไปที่โซฟา พร้อมกับที่ช้องนางรีบไปหายาดมมาให้ “ดีขึ้นไหมคุณหญิง” ผู้เป็นสามีเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าสีหน้าของภรรยาเริ่มดีขึ้น จึงค่อยๆ พยุงขึ้นมาพิงที่โซฟา คนอาการดีขึ้นพยักหน้า ก่อนที่จะหลบตาลงเพื่อทำใจประกาศยกเลิกงานแต่ง ก็จะดำเนินงานต่อได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีเจ้าบ่าว พลันหันไปบอกผู้ดำเนินงานน้ำเสียงเศร้า “ประกาศยกเลิกงานแต่งเลยค่ะ ลูกชายของฉันคงไม่มาแล้ว ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ทำให้เสียเวลา” แล้วหันไปหาว่าที่ลูกสะใภ้ “แม่ขอโทษนะลูกที่ทำให้หนูเสียหน้าและเสียใจ” เธอเอ่ยออกมาด้วยความเสียใจและรู้สึกน้อยใจลูกชายสุดรัก น้ำตาคลอที่หน่วยตาไม่คิดเลยว่ารามันจะไม่ยอมมา ทั้งๆ ที่ขู่ไปแล้วว่าจะตัดความสัมพันธ์แม่ลูก เจ้าหล่อนพยายามสกัดกั้นไม่ให้น้ำตาไหล ไม่อยากจะทำให้มันเศร้าไปมากกว่านี้ และดีใจไม่น้อยที่อนุวัต บิดาของช้องนางไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะขืนมาอาการคงทรุดหนักมากไปกว่าเก่า “ไม่ต้องขอโทษนางหรอกค่ะคุณหญิง นางเข้าใจดี” “ยังไงแม่ก็ต้องขอโทษ ที่ทำให้หนูหม้ายงานแต่งแบบนี้ แม่…” แต่ไม่ทันที่โรสจะเอ่ยจบ เสียงทุ้มต่ำของคนที่หล่อนรอคอยก็ดังขึ้น พร้อมกับก้าวเท้าหนาเข้ามาปรากฏอยู่ตรงหน้า “ผมมาแล้ว” เจ้าของเสียงทุ้มเดินเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ผู้เป็นแม่และพ่อ ก่อนจะปรายตามองไปหาว่าที่เจ้าสาวด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ แสยะยิ้มให้อย่างเหยียดหยาม รามันอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีซีด กางเกงยีนสภาพขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ซึ่งสภาพแบบนี้เขาก็จงใจทำ เพื่อทำให้เจ้าสาวที่ไม่รู้ว่าคือใครนั้นอับอาย “จะเริ่มงานเลยไหมครับ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ” เอ่ยเสียงเหี้ยมพร้อมกับเดินไปกระชากตัวของเจ้าสาวเข้ามาหาแล้วกดริมฝีปากหนาลงไปที่แก้มนวล ทุกคนต่างตกใจทำสีหน้าเหลอหลากันไปหมด “ว้าย!!” ช้องนางร้องลั่นเมื่อโดนกระชากอย่างแรงแถมยังโดนหอมแก้มทั้งซ้ายและขวา “หอมแบบนี้ นี่เอง แม่ฉันถึงต้องจ่ายเงินไปเป็นสิบล้านกับค่าตัวของเธอ ว่าแต่หากินแบบนี้มากี่รายแล้วแม่โสเภณี” รามันสาดกระหน่ำความร้ายกาจให้เห็นทันที คำพูดของเขาทำให้ทุกคนต่างอึ้ง ขนาดโรสยังยกมือขึ้นมาทาบอก ไม่คิดว่าลูกชายจะพูดแรงและไม่ให้เกียรติผู้หญิงถึงขนาดนี้ “ทำไมพูดแบบนี้เจ้ารามัน พ่อไม่เคยสอนให้แกพูดดูถูกผู้หญิงแบบนี้นะ ขอโทษหนูนางซะ” น้ำเสียงเหี้ยมเอ่ยสั่งพร้อมกับจ้องมองลูกชายตาเขม็ง ไม่พอใจในการกระทำและคำพูด “ไม่จำเป็นครับพ่อ ผมไม่เห็นความจำเป็นต้องขอโทษ ในเมื่อมันจริงทุกอย่าง แล้วนี่จะเริ่มงานเลยไหมครับ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ” มือหนาบีบรัดข้อมือสวยแน่น ก่อนจะกระชากให้เดินตามไปหน้างาน โรสส่ายหน้าอออกมากับการกระทำของลูกชาย ก่อนจะร้องห้ามสามีไม่ให้ตามไปเอาเรื่องลูกชาย รู้ดีว่านิสัยลูกชายเป็นอย่างไร ห่าม เถื่อน เย็นชา แต่ไม่ได้ใจร้ายอย่างที่แสดงออกมา แต่ลูกชายหล่อนนั้นแสดงความอ่อนโยนไม่เป็น และยังคงช้ำกับความรักครั้งเก่า ที่ทำให้เกือบไม่เป็นผู้เป็นคน เพราะถูกหลอกถึงสองครั้งสองครา หล่อนก็หวังว่าลูกสะใภ้จะช่วยบำบัดรักษาจิตใจของลูกชายให้กลับมาเป็นเช่นเดิม และเมื่อเห็นว่ารามันกำลังก้าวลิ่วๆ เข้าไปในงาน ทั้งที่ยังคงแต่งตัวแบบนั้น โรสก็ร้องถามเสียงดังลั่น “เจ้ารามันแกจะไม่แต่งตัวก่อนหรือไง” รู้อยู่แล้วว่าลูกชายตัวดีคงแต่งแบบนี้มาเพื่อประชดประชัน แต่หล่อนก็ไม่ใส่ใจ ในเมื่ออยากแต่งแบบนี้ก็ตามสบาย หล่อนก็ไม่ขัด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD