บทที่แปด

2767 Words
สัมผัสแผ่วเบาจากเขาทำให้พิมพ์พลอยร้อนวูบไปทั่วเรือนร่าง แรงต้านทานมันหายไปไหนหมดไม่รู้…รู้สึกอ่อนแอลงทันที นัยน์ตาคมเข้มสีรัตติกาลเจือปนไปด้วยความร้อนแรง แม้จะแกล้งมองร่างบางเบื้องหน้าด้วยสายที่ยากจนเกินคาดเดา …ทว่าความปรารถนาทั้งหมดมันกระจ่างชัดเจน พิมพ์พลอยไม่แน่ใจว่าถูกนาวินอุ้มออกมาจากคลับตั้งแต่เมื่อไร คนตัวเล็กได้แต่ก้มหน้าก้มตาซบอกแกร่งของผู้เป็นสามี เพราะอับอายเกินทนไหว ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นกับเขาในห้องน้ำสาธารณะได้ ความเป็นกุลสตรีเลือนหายไปไหนหมด เสียงครางแผ่วเบายังคงแว่วดังกระทบโสตประสาทอยู่เลย ทุกสัมผัสจากชายหนุ่มเหมือนไฟอันเร่าร้อนซึ่งกระหน่ำแผดเผา เขาตอกย้ำตีตราจองในทุกสัดส่วนของร่างกาย ไม่มีตรงไหนของผิวขาวที่ปราศจากการครอบครอง นาวินเคลื่อนตัวพาดมือหนาลงยังเตียงกว้างเพื่อกักขังเธอไว้ในอ้อมแขนแกร่ง เขาจงใจเปิดเกมรุกให้คนตัวเล็กนอนจมยังเตียงนุ่ม แม้มันไม่ได้รัดแน่นจนน่าอึดอัด แต่ก็เปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่จองจำทุกความรู้สึกไว้อยู่ดี พันธนาการทุกสิ่งทุกอย่างจนเธอไม่สามารถเอื้อนเอ่ยปฏิเสธได้ กลายเป็นอ่อนไหวอีกครั้ง…ไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลยสักนิด เคยต้องการเขายังไงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ทว่าบัดนี้ใจมันรู้ดีว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร …เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองเพลิงชัดๆ รู้ดีว่าไฟมันร้อนแต่ก็ไม่อาจต้านทานเสน่หาที่มีให้เขาได้ “ถอดเสื้อให้ฉันสิ” เสียงเยือกเย็นนิ่งสนิทคงเส้นคงวาเหลือเกิน ไม่หวั่นไหวเลยสักนิด เป็นเธอมากกว่าที่ใจเจ้ากรรมดันเต้นโครมคราม “พะ…พิมพ์…ว่าเรา” จะบอกว่าอยากหยุดทุกอย่างลงตอนนี้ก็ดูเหมือนไม่ทันเสียแล้ว เมื่อชายหนุ่มผู้รู้ทันไม่ให้โอกาสได้เปลี่ยนใจ …โอกาสของพิมพ์พลอยหมดลงตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นร่างบางแนบชิดกับชายอื่นแล้ว! ประกบจุมพิตลงทันทียามคนตัวเล็กเผยอปากปฏิเสธ ขัดใจไปก็เหมือนเปล่าประโยชน์ รู้ดีว่าคนเบื้องบนนั้นร้ายกาจแค่ไหน ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างอ้อยอิ่งราวกับต้องการเว้าวอนร้องขอความเห็นใจ แต่เพียงชั่ววินาทีความอ่อนหวานทั้งหมดกลับแปรเปลี่ยนเป็นรุกเร้า คนใจร้ายเริ่มหยอกเย้าพลางตวัดเรียวลิ้นสากเพราะต้องการความร่วมมือในสัมผัสที่เขาเป็นผู้ปรนเปรอ ความหวั่นไหวไหลวูบเข้าสู่ขั้วหัวใจ ยามลิ้นร้อนจูบซับไปมาเพื่อควานหาน้ำหวาน มือหนาเอื้อมบีบปลายคางเบาๆ เพื่อให้ตนเองสามารถดื่มด่ำความหอมล้ำจากโพรงปากได้อย่างถนัดถนี่ พิมพ์พลอยหอบหายใจแรงขึ้นคล้ายรู้สึกจะขาดใจ ผู้ชายคนนี้ไม่ยอมผละห่างจากเธอแม้แต่นาทีเดียว เขายังคงตอกย้ำซ้ำไปซ้ำมาเพื่อตีตราความเป็นเจ้าของล่ามโซ่ตรวนไว้ในทั่วทุกซอกมุมของเรียวปากกระจับ หญิงสาวทำได้เพียงแค่กำเสื้อเชิ้ตของเขาแน่นเพราะต้องการระบายความอึดอัด จุมพิตของนาวินแม้ดูคล้ายอ่อนโยนเพียงใด ทว่ามันก็สามารถสร้างความวาบหวามรวมทั้งทรมานไม่ต่างกัน เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กนั้นเริ่มขัดขืน เพราะเธอหอบหายใจไปมาพลางทุบตีอกแกร่ง ชายหนุ่มจึงยอมถอนจูบออกไปอย่างร่ำไร แต่ก็ไม่วายขบเม้มยังเรียวปากสีชมพูอีกครั้งราวกับเสียดาย “ปฏิเสธตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว” เขาว่าในขณะเดียวกันก็จับมือบางไล่ลงมาเพื่อปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนเอง “เร็วสิเด็กดี” พิมพ์พลอยกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ มือเล็กสั่นเทาไปหมดไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ดวงตาคมเข้มของชายหนุ่มมาพร้อมกับไฟเสน่หา มันลุกลามไปทั่วห้องกว้างจนหมดสิ้น เด็กน้อยอย่างเธอไม่สามารถต้านทานอะไรเขาได้อยู่แล้ว คราแรกรู้สึกประหม่าจนอยากจบทุกอย่างลงตรงนี้ …แต่สุดท้ายแล้วนาวินก็สามารถทำให้เธอโอนอ่อนผ่อนตามได้ไม่ยาก “ฉันรู้ว่า…เธอก็อยากเหมือนกัน” “พะ…พิมพ์” ไม่ว่าเขาสัมผัสตรงไหนก็อ่อนปวกเปียกไปหมด นาวินหัวเราะในลำคอก่อนโน้มตัวลงไปเพื่อขบเม้มแรงๆ ยังซอกคอขาวผ่องราวกับหมั่นไส้ “อะ…อ๊ะ” พิมพ์พลอยร้องเสียงแผ่วเบา เมื่อชายหนุ่มใช้เขี้ยวคมผสมไรฟันฝากฝังรอยรักเอาไว้อย่างจงใจ ส่วนมือหนาก็ไม่วายเคลื่อนประสานยังหลังมือบางเพราะต้องการให้เธอทำตามใจปรารถนา เพียงไม่นานเสื้อเชิ้ตสีดำก็ร่วงหล่น ผ่านพ้นเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามตามความต้องการ แผ่นอกแกร่งเปลือยเปล่าประจักษ์ต่อสายตา พิมพ์พลอยรีบเบือนหน้าหนีมองไปทางอื่นฉับพลัน ใบหน้าหวานแดงซ่านไม่กล้าสบตาเขาเพราะเขินอาย ไม่เคยใกล้ชิดใครขนาดนี้ด้วยซ้ำ แผ่นอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายชาตรีนั่นพาเธอเข้าใกล้ความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก …ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง “เขินเหรอ” “…” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มเหมือนรู้ทัน “ทำใจให้ชินเถอะ…เดี๋ยวมันจะยิ่งกว่านี้” คนตัวสูงไม่ปล่อยให้เธออยู่ห่างกายนาน ชายหนุ่มจับเอวคอดกิ่วยกคนตัวเล็กคร่อมนั่งลงบนหน้าตัก พิมพ์พลอยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหรือเปล่า มันปลุกความใจกล้าจนเผลอโอบรอบคอกว้างเหมือนเชิญชวนทางอ้อม …อยากตีด้วยเองเหลือเกิน กล้าหาญขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร นาวินคลี่ยิ้มทรงเสน่ห์ ก่อนเคลื่อนลงไปยังแผ่นหลังเปล่าเปลือยที่โผล่พ้นชุดเดรสซึ่งมีสายคล้องคอ ความเสียวซ่านเกิดขึ้นทันใด เมื่อชายหนุ่มไล้นิ้วเรียวยาวของตนเองลูบวนไปมาจนทั่วแผ่นหลังขาวเนียน สติของเธอเหมือนเริ่มมลายหายไป ลำคอตีบตันชั่วขณะ ยามริมฝีปากร้อนผ่าวเกี่ยวสายเชือกออกห่างจากชุดเดรสที่สวมใส่ ชายหนุ่มทำราวกับต้องการเขี่ยมันไปให้พ้นทาง เดรสตัวสวยร่วงหล่นลงมากองยังบริเวณเอวคอด หน้าอกอวบอิ่มซึ่งทะลักเสื้อชั้นในสีหวานทำให้คนตัวสูงลำคอแห้งผากเฉียบพลัน ริมฝีปากเขาไล่จูบซับยังเรียวไหล่ พร้อมขบเม้มจนเกิดรอยแดง คนตัวเล็กใช้นิ้วมือสัมผัสผ่านเรือนผมสีน้ำตาลพร้อมขย้ำระบายความรู้สึก อยากให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงความทรมานซึ่งเขาเป็นผู้มอบให้ “อะ…อื้อ” พิมพ์พลอยบิดเร้าเมื่อคนใจร้ายใช้ลิ้นร้อนโลมเลียบริเวณยอดทับทิมผ่านเนื้อผ้า ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากปลดตะขอชั้นในออกจากกันราวกับชำนาญ นาวินงับยังยอดอกสีชมพูราวกับหิวกระหาย ชายหนุ่มดื่มด่ำพลางตวัดลิ้นเลียจนมันเริ่มบวมเป่ง มือเล็กของคนที่โดนกระทำอัดอั้นจนเผลอจิกเล็บยาวลงยังแขนขาวพลางขีดข่วน “อะ…อ๊า” มือใหญ่อีกข้างหนึ่งกอบกุมยังหน้าอกเต่งตึง ส่วนนิ้วเรียวหยอกล้อเล่นกับยอดดอกไม่แพ้ริมฝีปาก ชายหนุ่มทำสลับไปมาอย่างนั้นคล้ายกับกลั่นแกล้ง ใบหน้าหวานจึงเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ เพราะเริ่มหอบหายใจตอบรับความรัญจวนซึ่งเขาเป็นผู้ปลุกเร้า นาวินกดคนตัวเล็กลงจนแนบสนิทผ้าปูที่นอน พร้อมมือหนาดันขาเรียวยาวให้อ้าออกจากกัน ชุดสวยถูกถอดตั้งแต่เมื่อไรเธอไม่รู้เลย ทว่ากลับเริ่มสัมผัสได้ถึงความเย็บเฉียบของเครื่องปรับอากาศจน พานขนลุกไปทั่วร่างกาย จึงได้สติว่าบัดนี้ร่างแสนงดงามเปิดเผยต่อสายตาเขาเรียบร้อยแล้ว ดวงตาสีรัตติกาลเหมือนต้องมนตร์สะกดไล่สำรวจยังทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างสาว ทุกสิ่งที่หลอมรวมกันเป็นเธอค่อยๆ หลอมละลายความรู้สึกเขาให้เคลิบเคลิ้มหลงใหลในไม่ช้า “อะ…อ๊ะ” เสียงครางราวกับขาดใจดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาต่ำลงมายังกลีบดอกไม้งามที่บัดนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน “พะ…พี่วิน” เผลอตัวเรียกชื่อเขาเสียงอ่อย นิ้วเรียวทำหน้าที่ของมันโดยการสัมผัสยังร่องลึกใจกลางความเป็นหญิงพลางเลื่อนชั้นในออกจากเรียวขายาว “อย่าปฏิเสธฉันเลยในเมื่อเธอพร้อมขนาดนี้” น้ำหวานสีใสไหลออกในขณะที่เขาดันนิ้วของตนเองเข้าไปในกายเธอ และมันตอดรัดจนแทบบ้า “พะ…พิมพ์ทรมาน” เสียงเว้าวอนดังขึ้นยามชายหนุ่มเคลื่อนนิ้ว ยาวเข้าออกเป็นจังหวะเนิบนาบตามนิสัยคนขี้แกล้ง ภาพคนใต้ร่างครวญครางอย่างสุขสมนั่นช่างน่ามองเหลือเกิน ทำไมถึงน่าปรารถนาน่ารักน่าใครได้ขนาดนี้ “รู้แล้ว…ใจเย็นสิ” ชายเจ้าเล่ห์ยกยิ้ม เขาชอบทุกอย่างซึ่งหลอมรวมเป็นเธอ ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสอ่อนหวานเสียงครางแผ่วเบารวมถึงท่าทีบิดเร้าราวกับไร้เดียงสานั้นทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง “ฮะ…ฮึก” ร่างเล็กสั่นระริกไปด้วยความทรมานเมื่อชายหนุ่มขยันเร่งจังหวะให้นิ้วเรียวขยับกระหน่ำเข้ากายสาวเร็วยิ่งขึ้น “อะ…อ๊ะ” “อยากแล้วใช่มั้ย” เสียงครางของเธอถูกกลืนด้วยสัมผัสเร่าร้อน เมื่อนาวินใช้ลิ้นสากกวาดชิมน้ำหวาน ซึ่งไหล่เยิ้มออกมาจากกลีบดอกชุ่มฉ่ำราวหื่นกระหาย “มะ…ไม่ไหวแล้ว” ความวาบหวามยังคงดำเนินต่อไปเพราะคนใจร้ายทำเหมือนต้องการจะกลั่นแกล้งให้เธอขาดใจตายอยู่ตรงหน้า เขาใช้ประสบการณ์ที่มีเหนือกว่า ปลุกเร้าจนร่างบางเหมือนใกล้แตกสลายเต็มที นาวินถอดปราการทุกอย่างออกจากร่างกายจนหมดสิ้น ปรากฏกายแกร่ง เขาไม่รอช้าไม่ให้เวลาพิมพ์พลอยทำใจแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาในกายเธอจนสุดความเป็นชาย ความปวดร้าวเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายทันใด เขาเองก็ทรมานไม่ต่างจากกัน เพราะสัมผัสบีบรัดจากเนื้อสาวทำให้นาวินอึดอัดจนปวดเกร็งไปหมดทั้งตอดรัดคับแน่นเหลือเกิน “ฮะ…ฮึก” คนตัวเล็กหอบสะท้านทุบตีอกแกร่ง ยามชายหนุ่มนั้นโยกสะโพกไปมาเป็นจังหวะเนิบนาบ ซ้ำความแข็งขึงยังกดทับเข้ามาอย่างลึกล้ำ “จะ…เจ็บ!” ความปวดร้าวเคลื่อนเข้าสู่ร่างกายเฉียบพลันเมื่อชายหนุ่มดันตัวตนอันใหญ่โตเข้ามาจนดอกไม้งามรู้สึกเหมือนใกล้ฉีกขาด “อะ…อ่า” เสียงทุ้มครางในลำคอเพราะกายสาวรัดแน่นจนเขาเกือบลืมหายใจ นาวินรู้ได้ในทันทีว่าตนเองคือคนแรกของเธอ รู้สึกภูมิใจประหลาด จนความรู้สึกบางอย่างเผลอแล่นผ่านเข้าสู่หัวใจอีกครั้ง …ความรู้สึกแบบนี้มันเคยเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า “อะ…เอามันออกไป!” เสียงหวานร้องห้ามในขณะที่น้ำตาไหลรินอาบแก้ม เธอพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยท่าทีพยศ ต้องการให้คนตัวโตถอยห่างกายตัวเองให้เร็วที่สุด ผมยาวสลวยสบัดพริ้วไปมาจนแผ่สยายอยู่เต็มหมอน “ใจเย็น…เดี๋ยวมันจะดีขึ้น” ปลอบโยนด้วยน้ำเสียงซึ่งไพเราะที่สุดเท่าที่คนหยาบคายอย่างเขาจะทำให้เธอได้ “พิมพ์เจ็บ!...ฮะ…ฮึก…อะ…เอามันออกไป” สัมผัสเสียวซ่านแปรเปลี่ยนเป็นปวดร้าวเมื่อชายหนุ่มดึงดันเข้ามาในกายสาวต่อไป แม้จะสงสารเธอมากแค่ไหน แต่ถ้าให้หยุดตอนนี้ต้องกลายเป็นเขาที่ขาดใจ… ผู้ชายคนนี้จะขาดใจตายเพราะอยากรักเธอ! นาวินกัดฟันกรอดขบกรามแน่นจนเป็นสัน ตัวเองก็ทรมานไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ทว่ายอมเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาขึ้นไปจูบซับยังบริเวณหางตาเพื่อช่วยให้เธอผ่อนคลาย “ฮะ…ฮึก!” ความคับแน่นของเธอตอดรัดจนเขาแทบหยุดหายใจ จะให้ทำใจผละห่างจากเรือนร่างแสนหวานได้อย่างไร …เขาทำไม่ได้หรอก! “อะ…อ่า” แรงกระแทกกระทั้งยังคงดำเนินต่อไป คนตัวเล็กทำได้เพียงจิกเล็บยาวยังผ้าปูที่นอน ยามชายหนุ่มกระแทกกายใส่สุดแรง “อะ…อื้อ” เสียงครางต่ำดังขึ้นในจังหวะเดียวกันที่คนตัวโตพลิกร่างเธอให้ขึ้นมายังข้างบน พิมพ์พลอยเบิกตากว้างรู้สึกเขินอายยามประสานสายตากันชัดๆ ใบหน้าหวานร้อนวูบบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน เมื่อชายหนุ่มเริ่มบีบเคล้นยังอกอิ่มอีกครั้ง นาวินทำเหมือนปรานีแต่กายเขายังคงรุกเร้าเคลื่อนเข้ามาไม่หยุดหย่อน มืออีกข้างจับสะโพกผายให้ขยับกายเคลื่อนตามจังหวะที่ต้องการจนร่างบางกระตุกเกร็ง “อะ…อ๊า” เธอร้องครางเสียงหวานยามทั้งสองกายเคลื่อนในจังหวะเดียวกัน นาวินบีบเคล้นอกเต่งตึงทั้งสองข้างสุดแรงในขณะที่พิมพ์พลอยเปิดรับกายใหญ่ที่กระแทกเข้าหา คนตัวโตโน้มกายละเลงลิ้นเปียกชื้นลงยังเม็ดทับทิม เขาใช้สัมผัสซึ่งดูดดื่มยิ่งกว่าคราแรก ฟันคมขบเม้มฝากรอยรักทั่วหน้าอกของภรรยาจนเต็มไปหมด มือเล็กก็เช่นกันมันขีดข่วนยังไหล่กว้างลามไปยังหลังแกร่งราวกับระบายความรู้สึกทั้งหมดจากสัมผัสหนักหน่วงที่ได้รับ เสียงครางดังประสานจากทั้งคู่ดังกึกก้องทั่วห้องนอน ไม่รู้ว่ากิจกรรมรักนี้จะจบลงเมื่อไร เมื่อนาวินพาพิมพ์พลอยไปแตะขอบสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ค่ำคืนนี้คงอีกยาวไกลสำหรับทั้งสองคนจริงๆ อย่างที่เขาว่า… ผ่านไปกว่าครึ่งค่อนราตรีดวงตาสีรัตติกาลมองยังร่างเปลือยเปล่าซึ่งหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ แววตาของเขานิ่งสนิทยากเกินกว่าจะแปลความหมายออกว่าเวลานี้ ชายหนุ่มคิดอะไรอยู่… คนขี้หงุดหงิดลุกขึ้นจากเตียงนอน พร้อมคว้ากางเกงสีดำขึ้นมาสวมใส่อยากเปิดประตูออกไปเพื่อสูบบุหรี่ดับความเครียด นาวินเสยผมสีน้ำตาลราวกับใกล้หมดความอดทน เพราะไม่รู้ว่าต้องรู้สึกเช่นไร ส่วนลึกของหัวใจดีใจไม่น้อย เมื่อรับรู้ว่าตนเองเป็นคนแรกที่มีสิทธิ์ครอบครองภรรยา แต่อีกใจก็ร้องค้านว่าอย่าไปให้ค่าอะไรกับหญิงสาวมากนัก จำในสิ่งที่เธอเคยทำไม่ได้แล้วหรือ ถ้าหากเอาหัวใจเสี่ยงเข้าไปรู้สึกอะไรกับพิมพ์พลอยอีก …รู้ได้ในทันทีว่ามันคือหายนะ ควรให้ค่าดูแลอีกคนที่คอยเคียงข้างเขาอย่างพิชชามากกว่าสิ …แค่เซ็กซ์อย่าคิดอะไรมากมาย สมัยนี้มันก็แบบนี้กันทั้งนั้นถือว่าพรหมจรรย์ของเธอชดใช้ในความเจ็บปวดซึ่งเขาเคยได้รับก็แล้วกัน เสียงพ่นลมหายใจแผ่วเบา ปกติแล้วนาวินไม่ใช่คนสูบบุหรี่จัด เขามักใช้มันเวลาเครียดหรือมีเรื่องให้คิดเท่านั้น ร่างสูงหลับตาลงพลางนึกถึงร่องรอยรักที่เขาฝากไว้ยังเรือนร่างบาง …ชายหนุ่มจำมันได้อย่างถนัดตา ความสงสารแล่นสู่หัวใจแกร่ง แต่จะให้ทำอย่างไรความปรารถนาปกคลุมทั่วจิตใจ นาวินเสพติดร่างกายเธอเสียแล้ว กลิ่นหอมอ่อนๆ สัมผัสไร้เดียงสา ทว่ากลับแฝงไปด้วยความร้อนแรงที่เขาหลงใหล ‘จะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด!’ อย่าไปแยแสหรือตีค่าอะไรเกินตัว …ไม่ต้องคิดให้วุ่นวายใจไป ก็เป็นสามีภรรยากันแบบนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว หลังจากนี้เขาจะแสวงหาแต่ผลกำไรในการแต่งงานจอมปลอมครั้งนี้เท่านั้น ในเมื่อร่างกายของเธอคือสิ่งหอมหวานและมันเป็นสิทธิ์ซึ่งคนเป็นสามีสามารถกระทำกับภรรยาได้อย่างไม่ผิด …หกเดือนนี้จะใช้มันให้คุ้มเมื่อทุกอย่างจบก็ถือว่าทางใครทางมัน อย่าคิดหวังอะไรมากกว่านี้ เพราะผู้หญิงร้ายกาจอย่างเธอสมควรที่จะได้รับเพียงแค่ความเจ็บปวดเท่านั้นไม่ใช่ความรัก! …อย่าเอาหัวใจตนเองไปหวั่นไหวอีกเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นคนตัวโตตัดสินใจขยี้บุหรี่ด้วยปลายเท้า ก่อนเลื่อนประตูเพื่อเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งหนึ่ง เผลอเหลือบมองยังพิมพ์พลอยเพียงชั่วครู่ อคติซึ่งบดบังทำให้เขาเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นมาสวมใส่และเดินจากไปในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD