บทที่ 2 ข้าหาใช่พลับนิ่ม

1746 Words
สองวันผ่านพ้นไป ในจวนราชครูลู่ตงเหิงกลับมาสงบสุขอีกครั้ง หลังจากพายุพ้นผ่านสร้างความเสียหายให้กับจวนไม่น้อย เขาลาราชการงานการสอนองค์ชายทั้งหลายในวังมาซ่อมแซมบ้านให้เรียบร้อย พรุ่งนี้จึงจะเข้าไปทำหน้าที่เช่นเดิม รวมทั้งร่วมหารือในท้องพระโรงเรื่องเกี่ยวกับอุทกภัยในปีนี้ แต่ตอนบ่ายต้องออกไปธุระด้านนอกในสำนักศึกษาหลวง เรื่องส่งตำราเรียนรูปแบบใหม่ที่ฝ่าบาท สวีเจี้ยนหง มีรับสั่งให้จัดทำขึ้นโดยรวมคำสอนของปรัชญาขงจื๊อและเล่าจื๊อเข้าด้วยกันเป็นวิชาปรัชญาในรัชศกฉางตี้นี้ และเพิ่มเนื้อหาในตำราพิชัยสงครามของกุนซือในอดีตแต่ละราชวงศ์ที่เคยกระจัดกระจาย ให้รวมอยู่เป็นตำราเดียวกันเสีย เพื่อให้ง่ายต่อการเรียนรู้ของเหล่าขุนนางรุ่นใหม่ “ท่านพี่เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ ข้าจะทำมื้อเย็นไว้รอท่าน” อดีตอนุเผยที่ได้ตำแหน่งฮูหยินใหญ่ของจวนกล่าวอย่างอ่อนหวานเอาอกเอาใจ ทั้งขยิบตาให้หลานสาววัย 18 หนาวกล่าวคำพูดหวานหูด้วยเช่นกัน “เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ ท่านน้าเขยข้าจะช่วยท่านน้าหญิงทำของที่ท่านน้าเขยชอบไว้รอ” เผยจูเอ่อกล่าวด้วยวาจาปานน้ำผึ้งป่าเดือนห้าเช่นเดียวกัน ตอนนี้นางแทบจะแทนที่บุตรสาวของท่านน้าเขยไปแล้ว เหลือเพียงท่านน้าเขยออกหนังสือรับนางเป็นบุตรบุญธรรม โอกาสที่นางจะเจริญก้าวหน้าอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว “ขอบใจเจ้าสองคนมาก ข้าจะรีบไปรีบกลับ” ราชครูวัยกลางคนยิ้มมองหลานสาวกับภรรยาตัวเองอย่างชื่นอกชื่นใจ แค่นี้เขาก็มีแรงไปทำงานแล้ว เผยหลิงหลิงรู้จุดอ่อนข้อนี้ของสามีดี นางถึงเป็นอนุคนโปรดเสมอมา และเมื่อหมดวาสนาของฮูหยินใหญ่นางจึงได้ขึ้นตำแหน่งแทนที่อย่างรวดเร็ว นางเพียงใช้มารยาและอำนาจมืดของท่านพ่อนิดหน่อย ก็สามารถเขี่ย ซูหว่านเถียน ให้พ้นทางของนางอย่างง่ายดาย เมื่อรถม้าของนายท่านลู่ออกไปจากหน้าประตูจวน ก็ถึงเวลาที่เผยจูเอ่ออยากไปจัดการนางคุณหนูตกอับท้ายจวนแล้ว “ท่านน้าเจ้าคะ ข้าขอไปเรือนท้ายจวนสักครู่นะเจ้าคะ” เผยจูเอ่อขออนุญาตท่านน้าเพื่อจะไปดูสภาพเรือนโกโรโกโสของเซวียนเฉ่า ป่านนี้คงจมกองซากปรักหักพังของเรือนท้ายจวนไปแล้วกระมัง “อย่าให้มันมากนัก น้าเขยเจ้ากำลังมีเรื่องราชการงานมาก” เผยหลิงหลิงไม่คิดห้ามปรามหลานสาว ทั้งยังสนับสนุนให้จัดการนางลูกเลี้ยงอวดดีที่ไม่ยอมก้มหัวให้นาง เสียให้สิ้นซากก็ดีเหมือนกัน ตั้งแต่แม่ของนางถูกเขี่ยพ้นทาง นางก็หาวิธีจัดการ ทั้งทรมานนางคุณหนูใหญ่มาตลอดสิบปี แต่ว่ามันก็อายุยืนเสียเหลือเกิน จนไม่รู้ว่าเทพองค์ใดคุ้มครองมันนัก จะได้เลิกเซ่นไหว้ “เจ้าค่ะ ข้าจะไม่ให้เรื่องนี้กวนใจถึงน้าเขยเด็ดขาด” นอกจากนางไม่ให้เรื่องกวนใจถึงน้าเขยแล้ว นางยังสั่งสอนนางลูกนอกคอกคนนี้แทนน้าเขยของตนเองอีกด้วย ทุกวันเผยจูเอ่อเอาอกเอาใจน้าเขยอย่างมาก ไปคารวะทุกเช้า ไปยืนส่งไปทำราชการทุกวันคู่กับท่านน้าหญิง แล้วก็ช่วยท่านน้าหญิงจัดการพวกอนุที่เหิมเกริม จนตอนนี้นางมีน้ำหนักในใจน้าเขยเป็นอย่างมาก หากนางจะหาเรื่องลูกสาวนอกคอกของน้าเขย น้าเขยมักจะหลับตาข้างหนึ่งเสมอ นั่นทำให้นางได้ใจ ร่างสตรีที่วัยมากกว่าลู่เซวียนเฉ่าสองปีเดินเข้าไปเรือนหลัง ผ่านประตูที่ปิดกั้นไม่ให้มันออกไปเรือนหน้าเพื่อ เสนอหน้าให้น้าเขยสงสาร โดยเรื่องนี้ท่านน้าหญิงจัดการอย่างดี นับว่ามันอยู่ในจวนเหมือนเหลือแต่ชื่อ เสียงเหยียบย่ำน้ำเฉอะแฉะที่ท่วมเป็นแอ่ง ๆ จนเผยจูเอ่อต้องเดินอย่างระมัดระวังกลัวจะลื่นล้มไปเสียก่อน จนเมื่อมาถึงเห็นสภาพของผู้หญิงที่อยู่ในชุดเก่า ๆ ซักแล้วซักอีกจนผ้าแทบจะเปื่อยหมดแล้วก็เผยยิ้มเยาะออกมา เผยจูเอ่อเดินไปยังด้านหลังของเซวียนเฉ่า ดวงหน้ายกยิ้มอย่างสะใจ นึกภาพตอนนางหน้าคว่ำลงไปในบ่อน้ำแล้วรีบยกเท้าขึ้นหมายจะถีบมันตกน้ำ แต่ว่า... หวืด!!...แผละ!!! เผยจูเอ่อลื่นหงายหลังล้มไปเพราะน้ำที่เจิ่งนองกับพื้นที่มีตะไคร่น้ำทำให้นางเสียหลัก กรี๊ด...อ๊าย!!! เสียงราวหมูออกลูกหวีดร้องด้านหลัง ทำให้ลู่เซวียนเฉ่าหันมอง แล้วนางก็พบว่าหลานของแม่เลี้ยงของนางมาหกล้มอันใดอยู่ด้านหลัง แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า... “เจ้าง่วงทำไมไม่ไปนอนที่เรือนดี ๆ เล่า มานอนบนพื้นให้เปรอะเปื้อนโคลนทำอันใดเล่า หรือว่าเจ้าอยากเล่นโคลนเหมือนต้าเหมิงเล่า” ต้าเหมิงคือกระบือที่สำหรับเทียมเกวียนขนของในจวน แล้วก็มีคนดูแลมันอย่างดี แต่นิสัยของกระบือต้าเหมิงนั้น ทุกคนในจวนทราบดีว่ามันชอบนอนในโคลนตม เหมือนกับเผยจูเอ่อในขณะนี้ เหล่าบ่าวไพร่ที่มาด้วยกัน ต่างเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะแทบแย่ เมื่อคุณหนูใหญ่เปรียบเปรยคุณหนูเผยเสียเห็นภาพว่าเป็นเช่นไร “กล้าดีอย่างไรมาล้อเลียนข้า” เสียงของเผยจูเอ่อแผดแหลม จนเหล่าบ่าวไพร่และเซวียนเฉ่าต้องเอามือปิดหู เพราะกลัวว่าแก้วหูจะแตกเสียก่อน “ข้าหาได้ล้อเลียน แต่พูดไปตามที่เห็น ขนาดบ่าวไพร่เจ้ายังหัวเราะขบขัน แล้วจะให้ข้าทนอยู่ได้อย่างไร” เซวียนเฉ่าพูดไปก็หัวเราะไปจนนางรู้สึกจุกไปทั่วท้อง ไม่คิดว่าวันนี้จะมีนางเอกงิ้วมาแสดงเป็นกระบือนอนในโคลนให้นางดูได้เหมือนยิ่งนัก “ข้าต้องขอบใจเจ้า หลายวันมานี้ข้าเหงา มีเจ้ามา กรีดร้องเช่นนี้ นับว่าข้าหายเหงาทีเดียว”ลู่เซวียนเฉ่ารู้ว่า เผยจูเอ่อต้องการมาหานางที่เรือนหลังเพื่ออะไร แต่ว่านางจะยอมให้ถูกรังแกง่าย ๆ ได้อย่างไร นางไม่ใช่ท่านแม่ผู้แสนใจดีที่ยอมให้อนุขี่อยู่บนหัว นางก็คือนาง สิบปีที่ผ่านมาหากนางเป็นพลับนิ่มจะรอดชีวิตมาได้อย่างไร หากยังไม่รับรู้ว่าท่านแม่ของนางไปอยู่ที่ใด มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับท่านแม่กันแน่ นางจะไม่ยอมโดนรังแกและรักษาชีวิตเอาไว้เพื่อทวงคืนความยุติธรรม และคนที่น่าสงสัยที่สุดไม่พ้นอนุเผย เพราะนางเป็นคนเดียวที่ได้ประโยชน์หากท่านแม่ของตนหายตัวไป “กรี๊ด...พวกเจ้าคันหลังกันใช่หรือไม่ เหตุใดยังหัวเราะอยู่ได้ ไม่รีบยกข้าขึ้นอีก ข้าจะสั่งโบยเจ้า” เสียงกรีดร้องของเผยจูเอ่อ ทำให้เหล่าบ่าวไพร่ที่ตามมากลัวจนตัวสั่น แล้วเข้าไปพยุงร่างที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนขึ้นยืน แต่เมื่อเผยจูเอ่อตั้งตัวได้ นางกลับปรี่เข้ามาหา ลู่เซวียนเฉ่า ต้องการจะสั่งสอนนางให้รู้ที่ต่ำที่สูง “เจ้า...หัวเราะเยาะข้า เช่นนั้นก็กินเลือดต่างข้าวแล้วกัน” เซวียนเฉ่าที่ระแวดระวังตัวอยู่แล้ว นางยกมือขึ้นจับข้อมือของเผยจูเอ่อ แล้วหยิบเศษกระเบื้องขึ้นมาจดจ่อไปที่ใบหน้าที่คิดว่างดงามของเผยจูเอ่อ “เจ้าคิดว่าข้าจะให้เจ้ารังแกข้าง่าย ๆ งั้นหรือ...เหอะ! ฝันไปเถอะ ตอนนี้เจ้าอายุ 18 หนาวแล้ว ยังไม่ได้ออกเรือน เห็นทีว่าข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้ใบหน้าเจ้ามีความงดงามขึ้นอีกหน่อยดีหรือไม่” เศษกระเบื้องเย็นชื้นด้วยน้ำฝนค่อย ๆ กดลงบนใบหน้าของเผยจู่เออ จนนางกรีดร้อง “เจ้า...อย่านะ” “อย่างั้นเหรอ...หรือว่าเจ้ามาหาข้า ไม่ใช่ต้องการให้ข้าสงเคราะห์แล้วมาหาข้าทำอันใด...!!” เสียงเหี้ยมของ ลู่เซวียนเฉ่าน่าหวาดกลัว จนเหล่าบ่าวไพร่ไม่กล้าเข้ามาช่วยเหลือ เพราะกลัวจะถูกคุณหนูใหญ่ทำร้ายเอา “ไม่...อย่า...อย่าทำอะไรข้า หากเจ้าทำล่ะก็” “ถ้าข้าทำแล้วจะทำไม...ข้าก็อยู่ของข้าดี ๆ ไม่เคยไประรานเจ้าน้าหลาน เหตุใดต้องบีบบังคับข้านัก คิดว่าข้าจะกลัวพวกเจ้าเรอะ อย่าคิดว่าเรื่องเลว ๆ ที่ทำไว้จะไม่มีคนล่วงรู้” ลู่เซวียนเฉ่าข่มขู่กลับไปบ้าง นางใช้มือรั้งแขนของเผยจูเอ่อจนแขนไพล่หลัง แล้วจับรวบไว้ในมือเดียว นางทำงานหนักมาหลายปี กำลังวังชาย่อมมีมาก เรี่ยวแรงของเผยจูเอ่อนั้นเทียบนางไม่ได้อยู่แล้ว “ปล่อย...ปล่อยข้า...ข้ายอมแล้ว” เผยจูเอ่อไม่คิดว่าจะต้องมาเสียท่าให้คุณหนูตกอับอย่างลู่เซวียนเฉ่า นางประมาทเกินไปจนเป็นรอง ไม่รู้ว่าวันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ถึงลุกขึ้นมาต่อต้าน ปกติไม่สู้ก็นึกว่าจะสามารถรังแกนางได้เสมอ “แล้วเจ้าจะมาระรานข้าอีกหรือไม่เล่า ครั้งหน้าข้าจะเตรียมของต้อนรับให้ยิ่งใหญ่กว่านี้สักหน่อย” “มะ...ไม่...ข้า...ไม่มาแล้ว” เผยจูเอ่อต้องยอมนางไปก่อน หากวันนี้นางเสียโฉม จะมีบุรุษใดแต่งสตรีมีรอยแผลเป็นให้เป็นอัปมงคลตระกูลได้อีก “ฝากบอกท่านน้าเจ้าด้วย ข้ามิใช่พลับนิ่ม หากคิดจัดการข้า ก็ลองดูว่าเวลาหมามันจนตรอกมันจะกัดไม่เลือกแบบใด” ลู่เซวียนเฉ่าผลักร่างสกปรกด้วยโคลนไปให้ไกล เผยจูเอ่อเจ็บใจที่จัดการมันไม่ได้ ยังถูกมันข่มขู่ ไว้ให้นางหาทางจัดการมันภายหลังก็แล้วกัน วันนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD