ตอนที่ 5 ดื่มได้แต่ห้ามเมา

1550 Words
สามสิบนาทีต่อมา... “ทำไมไปนาน? ห้องน้ำคนเยอะ?” จินดาหราถามคนที่เพิ่งกลับมาที่โต๊ะ หลังหายไปนานร่วมครึ่งชั่วโมง ถ้าอีกห้านาทีพิมพ์อัปสรยังไม่กลับมาเธอก็คงต้องเดินไปตาม ถึงทางร้านจะมีการ์ดทว่าก็วางใจไม่ได้ซะทีเดียว “พี่เกลโทรมา ก็เลยคุยกันนาน” เพื่อนทุกคนของเธอรู้จักเกศริน รู้ว่าสาวรุ่นพี่คือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเธอ ทุกครั้งที่เธอสั่งสินค้าเข้ามาต้องมีออร์เดอร์ของพวกมันสองคนรวมอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าซื้อไปใช้หรือแค่ต้องการอุดหนุนเธอ ส่วนอีกคนนะเหรอ? นอกจากมันจะไม่เคยควักเงินซื้อของเธอแม้แต่บาทเดียว ยังจิ๊กของเธอไปใช้ฟรีอีกต่างหาก โชคดีแค่ไหนที่มันไม่หอบของเธอไปเป็นของกำนัลเด็กในสต็อก รวยแต่งกทำตัวไม่สมฐานะลูกชายคุณนายแดงเศรษฐินีเมืองดอกคูณเอาซะเลย แม่ก็ออกจะสปอร์ตสายเปย์ ลูกชายขี้งกได้ใครก็ไม่รู้ “สั่งของ?” “อือ พี่เกลไปเซอร์เวย์มา มีสินค้าหลายตัวที่กำลังนิยมก็เลยว่าจะเอามาขายเพิ่ม” สินค้าของเธอมีมากกว่ายี่สิบรายการ เรียกได้ว่าสวยครบจบที่ร้านพิมพ์อัปสร ถามว่าที่ขายน่ะใช้มั้ย? บอกเลยว่าก่อนขายใช้เองทุกตัว ถ้าไม่ดีพิมพ์อัปสรไม่เอามาขายแน่นอน “แค่นี้ยังรวยไม่พอ?” “กูยังรวยได้อีก พร้อมมากที่จะไปเปิดบัญชีเพิ่ม” “เหอะๆ” จินดาหราเสแสร้งแกล้งหัวเราะ มองหน้าคนพูดด้วยสายตาชนิดหนึ่ง “มันเป็นไร? ทำไมเป็นงี้?” พิมพ์อัปสรยักคิ้ว พยักหน้าไปทางกาญจน์สิเนห์ ก่อนเธอไปเข้าห้องน้ำก็ยังดีๆ ทำไมตอนนี้เปลี่ยนจากคุณหนูร้านทองเป็นนางลำยองกอดไหยาดอง จินดาหราหันไปมอง ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย “เหมือนเดิม ทะเลาะกับผัว งอนผัว ก็เลยอยากเมา กูก็นึกว่ามันอยากจะมานั่งดื่มชิลๆ” “เรื่องอะไรอีกล่ะ” พิมพ์อัปสรถาม ไม่ได้แปลกใจ เพราะกาญจน์สิเนห์สามารถทะเลาะกับผู้ชายของตัวเองได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยขี้ประติ๋วแค่ไหนก็ตาม เอาแค่เรื่องที่กาญจน์สิเนห์โทรไปหาแฟนหนุ่มรุ่นพี่แล้วเขาไม่ได้รับสายในทันที ก็สามารถคิดได้เป็นตุเป็นตะว่าเขากำลังคุยกับคนอื่น สมองส่วนมโนของนางโคตรแจ่ม คนเขียนบทละครยังต้องยอมแพ้ “ถามกูเหรอ?” เจ้าของหัวข้อสนทนาเงยหน้าถาม มองเพื่อนตาปริบๆ “กูจะเลิก...เลิก! เลิก! เลิก!” “...” พิมพ์อัปสร “...” จินดาหรา “พวกมึงไม่เชื่อกู? ครั้งนี้กูเลิกจริงๆ เชื่อสิว่ากูเลิกจริงๆ...หึ บอกว่ารักกู แคร์กูคนเดียว ถ้ากูโทรไปจะรับทุกสาย ไม่รับสายกูไม่พอ แต่แม่งไปโผล่ที่สตอรี่ไอจีคนอื่น พอกูโทรไปก็สายไม่ว่าง รอเป็นครึ่งชั่วโมงก็ไม่ยอมโทรกลับ แคร์กับผีสิ” ครืดๆ พิมพ์อัปสรพยักหน้าให้จินดาหราทำหน้าที่นางปลอบ(ใจ) เพื่อนขี้เมา ก่อนจะก้มหน้าอ่านข้อความที่กำลังเด้งขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ เกศรินบอกเธอว่าประมาณครึ่งชั่วโมงจะส่งรายละเอียดสินค้ามาให้ แต่ทว่าผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีตัวอย่างสินค้าที่คุยกันก็ถูกส่งมาจนครบ ทั้งรูปภาพ ข้อมูลรายละเอียด การรีวิว มาครบไม่มีอะไรต้องขอเพิ่ม อีกฝ่ายทำงานเร็ว ละเอียดรอบคอบเสมอ “ก็ไหนบอกว่าแฟนมึงไปงานวันเกิดเพื่อน เขาอาจจะอยู่กับเพื่อนเลยไม่ว่างรับสายมึงไง” จินดาหราพูดปลอบ ทว่าคำปลอบของเธอกลับทำให้คนฟังนอยด์ยิ่งกว่าเดิม “ไม่ว่างหรือไม่อยากรับสายกูกันแน่ กูโทรเป็นสิบสายมันจะไม่ว่างรับซักสายเลยหรือไง ถึงตอนนั้นไม่ว่างรับมันก็ควรโทรกลับมั้ย แต่นี้อะไร...ผ่านมากี่ชั่วโมงแล้ว? จนป่านนี้ก็ยังไม่คิดจะโทรกลับหากูอีก จะไม่ให้กูโมโหได้ไง” พูดจบก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม หมดแก้วแรกก็ต่อด้วยแก้วสอง สาม สี่...เหล้าที่เหลืออยู่ครึ่งขวดสลายหายไปในพริบตา “เบาๆ เดี๋ยวก็เมาหรอก” จินดาหรารีบห้าม แต่ก็ช้ากว่ากาญจน์สิเนห์ที่คว้าเอาเหล้าขวดใหม่ไปรินใส่แก้วตัวเองเรียบร้อย รินเสร็จก็ยกขึ้นดื่มทันที... “มึงอย่าห้าม กูอยากเมา ครั้งนี้กูจะเลิกจริงๆ กูจะหาผัวใหม่” จินดาหราส่ายหน้าเบาๆ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ถ้าผัวมันหาง่ายขนาดนั้น กูกับอีพริ้มคงไม่มานั่งเฝ้ามึงอยู่แบบนี้หรอก” “อีเจินทำไมมึงไม่เข้าข้างกู แล้วมึงจะพูดทำลายความหวังกูทำไม” กาญจน์สิเนห์แบะปากอยากจะร้องไห้ นั่งนิ่งเพราะเถียงไม่ออก จินดาหราพูดถูกทุกคำ ก็ถ้าผัวมันหาง่ายเหมือนมองหาเซเว่น เธอก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้ คงหนีไปหาผัวใหม่ให้ไอ้แก่มันเสียดายนานแล้ว...ที่เป็นอยู่ก็มีความสุขแหละ แค่มันยังสุขไม่สุด “อ้าวอีนี่ พวกกูที่ไม่มีผัวมั้ยต้องนอยด์” จินดาหรามองค้อน เกือบจะยกถังน้ำแข็งฟาดหน้าคนพูดแทนการคิดสรรหาคำมาปลอบ “มึงก็อย่าปัญญาอ่อนให้มาก อย่าคิดที่จะส่งข้อความไปบอกเลิกผัวเชียว พรุ่งนี้ตื่นมาก็ต้องมาเสียเวลานั่งลบข้อความอีก วุ่นวาย” หมายถึงเธอนะที่วุ่นวาย ต้องมานั่งฟังมันบ่นไปลบไป พูดนานก็เริ่มคอแห้ง จากเป็นฝ่ายนั่งดูก็เริ่มดื่มแข่ง ไม่ถึงสิบนาทีเหล้าขวดที่สองก็ถูกจัดการจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว พอขวดเก่าหมด ก็ต้องเปิดขวดใหม่ พิมพ์อัปสรที่กำลังตอบข้อความเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาหรี่เล็ก มุมปากกระตุกรัวๆ เมื่อเห็นสภาพเพื่อนแต่ละคน คนหนึ่งเมา อีกคนครึ่งๆ กลางๆ แต่ถ้าไม่ขู่มันเมาแน่ “เจิน...มึงห้ามเมา ถ้ามึงเมากูจะทิ้งพวกมึงสองคนไว้ที่ร้าน” คนถูกขู่ชะงักมือที่กำลังรินเหล้า “อะไร? มาร้านเหล้าไม่ให้แดกเหล้า แล้วมึงจะให้กูแดกไร? โค้ก? หึ...กูเปิดตู้เย็นแดกที่ห้องก็ได้มะ จะเสียเงินเปิดโต๊ะเพื่อ?” แล้วก็ไม่ใช่ถูกๆ ด้วยนะ บวกเพิ่มจากเดิมสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงว่าเจ้าของร้านรวยเอาๆ “แดกเหล้าอะแดกได้ แต่มึงต้องห้ามแดกจนเมา กูคนเดียวไม่มีปัญญาแบกพวกมึงสองคนกลับหรอกนะ” พิมพ์อัปสรมองเพื่อนตาขวาง พูดจบก็หันกลับไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์เหมือนเดิม ใช้เวลาตอบข้อความไม่นานก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หันกลับมาสนใจเพื่อนทั้งสอง แล้วเบนสายตามองแก้วเหล้าของตนที่ปริมาณน้ำสีทองอร่ามแทบไม่ลดลงจากเดิม เธอบอกว่าจะไม่เมา แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ดื่ม อุตส่าห์มาร้านเหล้าทั้งทีถ้าไม่ดื่มเลยก็กระไรอยู่ ก็อย่างที่บอกเพื่อนไป...ดื่มได้แต่ห้ามเมา เกือบสามชั่วโมงที่ปล่อยใจล่องลอยนั่งละเมียดน้ำเมาเคล้าเสียงดนตรีสด ไม่รู้ว่าร้านปิดปรับปรุงไปนานหรือเธออยู่ในช่วงฮอร์โมนแปรปรวนถึงได้รู้สึกว่าเสียงนักร้องดีกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ละเพลงที่นำมาร้องก็โคตรซึ้งกินใจ อย่างเพลงที่กำลังร้องอยู่ตอนนี้ก็เพราะมาก แต่ทว่าไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ถึงจะอยากอยู่ต่อก็ต้องกลับ “กลับเลยมั้ย?” พิมพ์อัปสรหันไปถามจินดาหราหลังจากที่เสียงเพลงสุดท้ายจบลง เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาร้านปิด หลังจากนี้จะเป็นการเปิดเพลงแทน ถ้าพวกเธอออกไปเวลานั้นก็น่าจะหารถกลับลำบาก ออกไปตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะมีรถหรือเปล่า วันศุกร์แบบนี้แทบจะไม่มีใครขับรถมาเอง อาศัยบริการแท็กซี่กันทั้งนั้น “อือ” จินดาหราพยักหน้าตอบ ส่วนคุณหนูร้านทองไม่ต้องไปพูดถึงเพราะเมาสลบ...หลับคาโต๊ะเรียบร้อยร้านทองไปนานแล้ว เป็นหน้าที่เธอกับจินดาหราที่ต้องแบกคนเมาออกไปขึ้นแท็กซี่ มองหน้ากันกับจินดาหราก่อนเดินเข้าไปพยุงปีกคนละข้าง ซึ่งคนเมาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี...อันนี้คือประชดนะ “เจิน...พริ้ม...เม่ยเม่ย ยาง ม่ายกิงข้าว เอาข้าวหะเม่ยเม่ยกิงด้วยน้า” สองคนซ้ายขวามองหน้ากัน ส่ายหน้าให้กันอย่างเหนื่อยหน่าย ปรากฏความรู้สึกชนิดหนึ่งบนหน้าใบ อะไรคือเมาไม่รู้เรื่องแต่ห่วงแมว? กลัวแมวไม่ได้กินข้าว? ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าระหว่างเพื่อนกับแมว ลูกสาวร้านทองมันจะเลือกใคร เห้อ...มันน่าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่จริงๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD