ร่างสูงสง่าในชุดสูทเต็มยศดูเรียบหรูตั้งแต่หัวจรดเท้าก้าวลงจากเมอร์ซิเดสเบนซ์คันงามที่พลขับเป็นผู้เปิดประตูพร้อมโค้งคำนับให้อย่างนอบน้อม อัครพล นิธิโสภณ ท่านประธานหนุ่มแห่ง The Famous โรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองก้าวเดินเข้ามาในโรงแรมด้วยความสง่าผ่าเผยและน่าเกรงขาม ทำให้บรรดาพนักงานต่างยืนตัวลีบพร้อมยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อมเพราะกิตติศัพท์เรื่องความเข้มงวดของเจ้านายหนุ่มหล่อคนนี้เป็นที่ทราบดีของบรรดาพนักงานหากทำผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้อนาคตทางการงานดับวูบได้ในทันที เพราะ The Famous มีสโลแกนว่าทุกอย่างภายในโรงแรมต้อง เรียบ หรู ดูดีและเพอร์เฟ็คซึ่งเป็นนโยบายของท่านประธานหนุ่มสุดหล่อผู้แสนน่าเกรงขามนามว่าอัครพลนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ The Famous เป็นโรงแรมแถวหน้าที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายและมียอดจองห้องพักเต็มเกือบทั้งปีแม้ว่าจะมีราคาแพงหูฉี่แต่เพื่อแลกกับบริการระดับไฮคลาสแล้วบรรดาผู้ที่มาพักต่างยินยอมที่จะจ่ายแต่โดยดี บรรดาพนักงานต่างถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อร่างสูงสง่าของท่านประธานลับหายเข้าไปภายในลิฟต์ผู้บริหารพร้อมกับเลขาคู่ใจ
มาริสาลุกขึ้นยกมือไหว้เจ้านายหนุ่มอย่างนอบน้อมและหันไปยิ้มทักทายให้กับคเชนทร์ผู้เป็นเลขากึ่งๆ ผู้ติดตามที่มีความสนิทสนมกันดี ด้วยภารกิจและงานที่รุมเร้ามากมายในแต่ละวันทำให้อัครพลต้องมีเลขาถึงสองคนโดยคเชนทร์มีหน้าที่ติดตามเจ้านายเวลาออกไปนอกสถานที่หรือต้องไปตรวจโรงแรมสาขาต่างจังหวัดซึ่งมีความคล่องตัวมากกว่าที่จะให้เลขาที่เป็นหญิงสาวติดตามไปด้วย ส่วนเธอนั้นมีหน้าที่เฝ้าออฟฟิศทำตารางนัดหมายและจดรายงานการประชุมต่างๆ โดยมีผู้ช่วยอีกคนนามว่าอารดา เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มปรายตามองโต๊ะข้างๆ ที่ยังว่างเปล่ามาริสาจึงรีบบอกทันทีก่อนที่เจ้านายจะถามเพราะรู้ใจกันเป็นอย่างดีด้วยร่วมงานกันมานานถึงห้าปี
“น้องอายยังไม่เข้ามาค่ะบอส แต่โทรมาบอกเมื่อสักครู่ว่าอาจจะมาช้าหน่อยค่ะ” มาริสารายงานแต่ไม่ได้บอกทั้งหมดว่าสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายมาช้านั้นเพราะประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยซึ่งอารยาย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ให้บอกผู้เป็นเจ้านาย
“ถ้าอารดามาแล้วบอกให้เข้าไปพบผมในห้องด้วยนะ” อัครพลออกคำสั่งและเดินเข้าห้องไปทิ้งให้คเชนทร์และมาริสาสบตาอย่างรู้กันว่าเจ้านายคงจะ ‘คิดถึง’ เจ้าของโต๊ะที่ว่างเปล่ามากแค่ไหน
“มาถึงก็ถามหาทันทีคงจะคิดถึงน้องอายแย่แล้วล่ะสิบอสเรา” มาริสากระซิบกระซาบกับคเชนทร์เพราะความสัมพันธ์ระหว่างอารดาและอัครพลนั้นมีเพียงเธอและคเชนทร์เท่านั้นที่รู้
“ไม่คิดถึงได้ไงล่ะครับพี่สาก็น้องอายน่ารักขนาดนั้น”
“อย่าไปพูดแบบนี้ให้บอสได้ยินเชียวนะเชน”
“ใครจะกล้าล่ะครับพี่สาผมก็กลัวตายเหมือนกันนะ แค่เรียกน้องอายตามพี่สายังไม่ได้ต้องเรียกคุณอายเท่านั้น” ทั้งสองคงจะยืนคุยกันอีกนานหากไม่มีเสียงอินเตอร์คอมดังขึ้นเสียก่อน
“ค่ะบอส” มาริสากดตอบเสียงเรียกจากห้องท่านประธาน
“คุณมาริสาฝากถามคุณเลขาของผมหน่อยว่าเข้าห้องไม่ถูกหรืออย่างไร”
“เอ่อ...” มาริสามองหน้าคเชนทร์พลางยิ้มแหย
“ไปเดี๋ยวนี้ครับบอส” คเชนทร์ตอบและรีบเปิดประตูเข้าห้องไปทันที มาริสาถอนหายใจที่เกือบโดนหางเลขแต่เช้า
“สงสัยในโลกนี้คนที่บอสจะใจดีด้วยคงมีแต่น้องอายคนเดียวล่ะมั้ง” มาริสาถอนหายใจและก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อไป
ยี่สิบนาทีต่อมาอารดาก็เดินทางมาถึงที่ทำงานด้วยสภาพไม่ปกตินักเพราะเธอถูกมอเตอร์ไซค์คันอื่นเฉี่ยวชนขณะโดยสารมากับวินมอเตอร์ไซค์อีกคัน เพราะกลัวจะมาทำงานสายหญิงสาวจึงเลือกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ในวันนี้แค่ครั้งแรกก็เกิดเรื่องเสียแล้ว ร่างบางเดินกะเผลกมายังโต๊ะทำงานช้าๆ
“ตายแล้วน้องอายทำไมถลอกปอกเปิกแบบนี้ล่ะคะถ้าบอสเห็นเข้าแย่แน่ๆ” อารดายิ้มแหยเพราะรอยถลอกที่ปรากฏชัดเจนทั้งที่หัวเข่าและข้อศอกคงไม่อาจปกปิดไม่ให้อัครพลเห็นได้แน่ๆ
“คุณมาริสาเดี๋ยวผมขอ...” อัครพลชะงักคำพูดไว้เพียงเท่านั้นเมื่อเห็นร่างบางที่เขาถวิลหาตลอดหนึ่งอาทิตย์อยู่ตรงหน้าแต่รอยยิ้มของเขาก็ต้องหุบลงฉับพลันเมื่อสังเกตเห็นว่าตามผิวเนียนของอารดาเต็มไปด้วยรอยถลอกและมีเลือดไหลซึม
“อาย เกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นแบบนี้” ร่างสูงถลาเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้จนมาริสาหลบแทบไม่ทัน
“คุณใหญ่” อารดาเอ่ยเรียกชื่อเล่นของท่านประธานแห่ง The Famous ซึ่งมีแต่ครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้นที่จะเรียกขานเขาด้วยชื่อเล่น
“ว่าไงอายตอบผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
“อาย...อาย” อารดาอึกอักไม่กล้าตอบเพราะรู้ตัวว่าผิดที่ฝ่าฝืนคำสั่ง อัครพลห้ามนักหนาไม่ให้เธอนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือรถประจำทางโดยเด็ดขาดแต่เพราะคราวนี้เธอเกรงว่าจะมาทำงานสายจึงแอบใช้บริการโดยไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุ
“อาย” น้ำเสียงเข้มของอัครพรทำให้อารดาเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้าที่กำลังมองมาด้วยแววตาจริงจัง
“อายขอโทษค่ะ อายแค่กลัวว่าจะมาทำงานไม่ทันก็เลย...ก็เลยนั่งวินมอเตอร์ไซค์แล้วพอดีว่ามีรถอีกคันแล่นมาเฉี่ยวทำให้รถล้มค่ะ”
“มันน่านัก ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้อายนั่งรถพวกนั้นเพราะมันเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้วทำไมถึงยังดื้อ” อัครพลดุเสียงเข้มด้วยความเป็นห่วงแต่คนโดนดุกลับไม่คิดเช่นนั้นอารดานั่งก้มหน้าน้ำตาคลอ แค่เธอเจ็บตัวก็แย่มากพอแล้วกลับถูกผู้ชายที่ตนรักและเทิดทูนบูชาเหนือสิ่งอื่นใดดุซ้ำอีกทำให้หญิงสาวรู้สึกแย่จนต้องหลั่งน้ำตาออกมา อัครพลรู้สึกตัวเมื่อเห็นว่าร่างบางตรงหน้าน้ำตาร่วงเผาะ ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้พร้อมรวบร่างบางมากอดอย่างปลอบประโลม
“ผมขอโทษที่เสียงดัง แต่ที่ผมดุเพราะเป็นห่วงอายรู้ไหม” อัครพลปลอบพร้อมทั้งใช้นิ้วมือกรีดน้ำตาออกจากแก้มเนียนอย่างอ่อนโยน เมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดที่แสนคุ้นเคยอารดาจึงปล่อยโฮออกมาเพราะยังขวัญเสียไม่หายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
“เจ็บมากไหม” หญิงสาวพยักหน้าอยู่กับอกของเขา
“เชน เดี๋ยวนายไปเตรียมรถนะฉันจะพาอายไปหาหมอ”
“ครับนาย” คเชนทร์รับคำสั่งและรีบเดินออกไปทางลานจอดรถทันที เมื่อได้ยินว่าจะไปหาหมออารดาจึงรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับจับแขนเสื้อเขาเขย่าไปมา
“อายไม่ไปหาหมอไม่ได้เหรอคะ อายไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ทำแผลเฉยๆ ก็ได้นะคะ นะ” หากเป็นเรื่องอื่นเมื่อเจอน้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้เขามักใจอ่อนเสมอแต่ถ้าเป็นเรื่องความปลอดภัยของคนตรงหน้าเขายอมไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่ได้ครับ ผมต้องพาอายไปเช็คให้ละเอียดว่าไม่ได้รับการกระทบกระเทือนในอวัยวะส่วนสำคัญที่มองไม่เห็น”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ครับ ไปกันได้แล้วคเชนทร์คงเตรียมรถรอเรียบร้อยแล้วล่ะ” โดยไม่รอให้อารดาอิดออดไปมากกว่านั้นท่านประธานหนุ่มแห่ง The Famous ก็ช้อนร่างเธอขึ้นอุ้มและเดินออกไปทางลานจอดรถทันทีทิ้งให้มาริสามองตามไปด้วยความอิจฉาหญิงสาวรุ่นน้องจับใจที่ได้ครอบครองหัวใจของเจ้านายหนุ่มผู้แสนเพียบพร้อม