หลายวันต่อมา
“เป็นยังไงบ้างแก ฉันเห็นแกนั่งถอนหายใจจะเป็นร้อยรอบแล้วนะวันนี้” ฟักแฟงวางรายงานที่อาจารย์ให้เอากลับมาแก้ลงบนโต๊ะเรียน ฝ่ามือเล็กของเธอลูบลงหลังฉันเบาๆเป็นการปลอบประโลม
“ตอนนี้ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ว่ะแก”
“ฉันเข้าใจแกนะเว้ย แต่อย่าเศร้าจนไม่กินอะไรแบบนี้ดิวะ”
“มันกินไม่ลงดื้อๆ อ่ะแก ภาพทุกอย่างมันยังติดตาอยู่เลย” หลังจากเกิดเรื่องขึ้นวันนั้น ทุกอย่างก็ดูแย่ไปหมด เดซี่แท้งลูกของเธอกับอาเธอร์ เธอท้องแต่ไม่บอกใคร
ส่วนอาเธอร์ก็โกรธฉันมาก เขาขู่จะไปแจ้งความ ข้อหาพยายามฆ่าด้วย เรื่องแจ้งความฉันก็หวั่นๆ นะ ไม่อยากมีประวัติขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ที่เศร้าสุดก็คงเป็นเรื่องที่เดซี่แท้งลูก ฉันได้ทำลายชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะเกิดมา ถึงจะไม่ได้ตั้งใจทำก็เถอะ แต่นั่นก็ทำให้เกิดการสูญเสียอยู่ดี
“ไอ้นารา เป็นไงบ้างวะ พวกฉันพึ่งรู้เรื่องเนี่ย” เสียงดวินเพื่อนของฉันดังขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องเรียน ดวงตาเศร้าสร้อยช้อนขึ้นมองเพื่อสนิทของตัวเองด้วยแววตาสั่นระริก
“นั่นสิ ฝั่งโน้นเขาเอาไง ไอ้เชี่ยอาเธอร์ก่อเรื่องแล้วแม่งลอยตัวเลย น่าจับมันมากระทืบ” ตามด้วยเสียงเข้มของโฬม เพื่อนผู้ชายอีกคนของฉัน
“แล้วทางบ้านเดซี่ว่ายังไงบ้าง เขาจะเอาเรื่องแกมั้ย” ฉันฟุบหน้าลงบนกองหนังสือตรงหน้า อย่างไม่รู้จะตอบคำถามของเพื่อนยังไง น้ำตามันพาลไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
“ฮึก!รอพวกเค้าบอกมาอย่างเดียวอ่ะแก” ตอนนี้เดซี่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ฉันไม่กล้าแม้แต่จะไปเยี่ยมเธอด้วยซ้ำ เพราะไม่กล้าสู้หน้าเธอ
เมื่อเช้าฉันพึ่งโทรถามข่าวของเธอกับอาเธอร์ สภาพร่างกายเดซี่ดีขึ้นแล้วแต่สภาพจิตใจยังอยู่ในขั้นที่แย่ถึงแย่ที่สุด
“ทำใจดีๆ ก่อนนะแก คงไม่มีอะไรหรอก อย่างน้อยก็คงไกล่เกลี่ยกันก่อนจะได้แจ้งความนั่นแหละ”
“อืม...ขอให้เป็นอย่างนั้น ฉันไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่มารับรู้เรื่องแบบนี้ด้วย” ฟักแฟงลูบหลังฉันเบาๆ เป็นการปลอบ ฉันเองก็ตอบไม่ได้ว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไง รู้งี้เรียนทางกฎหมายซะก็ดี ไม่น่ามาเรียนวิศวะเลยเรา
ฉันแยกกันกับเพื่อนๆหลังเรียนเสร็จ จริงๆพวกมันจะตามไปอยู่เป็นเพื่อนที่ห้องด้วย แต่ฉันห้ามไว้ก่อนเพราะตอนนี้อยากอยู่คนเดียวมากกว่า
@คอนโดของนารา
แกร้ก!
“เอ๊ะ! ลืมปิดแอร์งั้นเหรอ แล้วนี่กลิ่นบุหรี่มาจากไหน” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนเป็นโบว์ ฉันใช้มือปัดแกว่งกลิ่นฉุนตรงหน้า บีบจมูกก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้อง
“กลับมาแล้วเหรอ”
"เฮือก!"ร่างบางสะดุ้งเฮือก นัยน์ตากลมโตเบิกโพล่งมองไปทางเสียงทุ่มต่ำนั่นด้วยความตกใจ มันดังมาจากห้องนั่งเล่น
คนตัวโตที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงสีเดียวกันเจ้าของเสียงน่าสยดสยองนั่น นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาตัวยาว นิ้วของคีบบุหรี่ที่มีควันลอยโขมงอยู่ขึ้นจรดริมฝีปากของตัวเอง
“.กะ...แกเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” ปากเล็กถามออกไปด้วยท่าทางตกอกตกใจ กวาดสายตามองหาสิ่งที่จะช่วยป้องกันตัวเอง เพราะมันชักจะไม่ชอบมาพากล
ขาเรียวค่อยๆก้าวถอยหลังหมายจะออกจากห้อง เมื่อผู้ชายปริศนาคนนั้นลุกขึ้นยืนเต็มความสูง บุหรี่ในมือเขาถูกทิ้งลงพื้น ก่อนจะใช้เท้าหนาเหยียบลงดับมัน
หมับ!!
“กรี๊ด!!! ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต” แต่ช้าไป ร่างสูงอุ้มฉันขึ้นพาดบ่าก้าวขาเร็วๆ เข้าไปในห้องนอนของฉัน กำปั้นเล็กทั้งทุบ ทั้งตีลงแผ่นหลังของเขาแต่ก็ไม่เป็นผล
"ฮึ!"เขากลั้วขำในคอออกมาอย่างน่ากลัว เพียงไม่กี่อึดใจร่างบางก็ถูกโยนลงบนเตียงนอนอย่างแรง
“อั๊ก!!” ศีรษะทุยชนเข้ากับขอบเตียงอย่างจัง ร่างกายจุกไปทุกส่วนเพราะเขาโยนฉันลงแรงมาก ฉันงอตัวเข้ากุมหน้าท้องตัวเองเอาไว้ไม่มีแม้แต่เสียงจะเรียกให้คนช่วย
“เก่งมากไม่ใช่เหรอ เรื่องทำร้ายคนอื่น”
“แกพูดเรื่องอะไร ฉันไปทำอะไรให้แก โอ๊ย!” ฉันถอยหลังหนีจนชิดหัวเตียง แต่เขากลับดึงขาฉันลากลงมาประชิดตัวเขาที่อยู่ปลายเตียง ร่างสูงตรงหน้าแสยะยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม มือหนาค่อยๆ ถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด มะ...ไม่นะ เขาจะทำอะไรฉัน
"มานี่!"
“อย่า! แกจะทำอะไรฉัน ออกไปนะ” มือเล็กคว้าหมอนขึ้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะปามันด้วยแรงที่มีทั้งหมดใส่ไอ้บ้านั่น
“ฮึ! ลองท้องดูมั้ย จะได้รู่ว่าท้องแล้วแท้งมันเจ็บปวดแค่ไหน”
“อึก! ทะ...ท้อง ไม่นะ อย่าเข้ามานะ!!” ฉันตะเกียกตะกายหนีอย่างสุดแรง แต่ช้ากว่าคนที่กำลังขึ้นคร่อมฉันอยู่ เข็มขัดหนังราคาแพงถูกถอดออกจากหัวกางเกงเปลี่ยนมันมาใช้พันธนาการแขนทั้งสองข้างของฉันไว้เหนือศีรษะ มือหนาจัดการกระชากเสื้อนักศึกษาของฉันออกจนมันขาดวิ่น กระดุมกระเด็นไปกระจัดกระจายทั่วเตียงนอน
แคว่ก!!!
“กรี๊ดดดดด!! ช่วยด้วย อั๊ก!!” ร่างบางเจ็บแสบไปทั้งตัวจากแรงกระชากของเขา กระโปรงนักศึกษาของฉันถูกเขาถอดออกแล้วโยนมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี ไม่นานบราเซียกับแพนตี้ตัวจิ๋วที่เป็นปราการสุดท้ายก็ถูกเขาถอดออกไปด้วย
“หึ! ใส่สั้นขนาดนี้แต่ไม่ใส่ซับใน คงโดมาจนไม่มีอะไรให้ปกปิดแล้วสินะ” คนตัวโตขึ้นคร่อมฉันที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง มือหนาบีบเค้นลงมาที่ปทุมถันของฉันจนเจ็บไปหมด ริมฝีปากร้อนฉ่าโน้มลงตะโบมดูดดึงมันเหมือนจะทำให้มันขาดออกไปคามือของเขา
“อย่า!! กรี๊ดดดดด แค่กๆๆ” ฉันกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง ทั้งน้ำหูน้ำตาที่ไหลออกมาอาบพวงแก้มจนทำให้ฉันสำลักมัน เรียวขาเล็กพยายามดันขึ้นถีบเขาในขณะที่ถูกคร่อมเอาไว้
“กลัว!"
"อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันขอร้อง"มือเล็กที่ถูกเข็มขัดรัดไว้เหนือศีรษะพยายามยกขึ้นมาไหว้ขอร้องเขา
"ทำไมฉันต้องปรานี คนที่กล้าทำลายชีวิตคนอื่น"มือหนาบีบคางของฉันเอาไว้จนรู้สึกเจ็บเหมือนกามจะแตก เขามองลงมาทางฉันด็วยสายตาโกรธแค้น
"กะ...แกพูดเรื่องอะไร"
"..."เขายกยิ้มมุมปากอย่างน่ากลัว ก่อนจะโน้มลงมาครอบปากลงหน้าอกอวบอิ่มของฉันอีกครั้งอย่างมูมมาม
"ยะ..อย่าทำแบบนั้น มันเจ็บ” ฉันส่งเสียงห้ามพลางดีดดิ้นไปมา แต่ไม่เป็นผลเขาฝั่งเขี้ยวคมลงบนเนินอกของฉันจนรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วเนินอก "อย่าทำฉัน!! หยุดเถอะนะ ฉันขอร้อง ฮึก!"
“หึ! มาลองของจริงกันดีกว่า” เรียวขาของฉันถูกจับแยกออกจากกันกว้าง ก่อนที่เขาจะแทรกตัวเข้ามาตรงกลางหว่างขา มือหนาถอดกางเกงของตัวเองโยนทิ้งลงบนพื้น งัดท่อนเอ็นแข็งชูชันหัวเห็ดสีแดงเด้งออกมาต่อหน้าฉัน
“ไม่นะ!! แกจะทำอะไรฉัน ถอยออกไปนะไอ้บ้า!” ฉันพยายามดันตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะแขนยังถูกมัดอยู่ แถมเขายังจับเอวคอดของฉันไว้แน่น มือหนาชักรูดแก่นกายขนาดใหญ่ไร้การป้องกันสองสามที จากนั้นก็จับมันยัดเข้ามาในช่องทางรักคับแคบไร้การเล้าโลมของฉันอย่างรุนแรง
สวบ!!!
“กรี๊ดดดดด! เอามันออกไป กรี๊ดดดดด!!!” น้ำตาที่ไหลอยู่แล้วหลั่งไหลออกมามากขึ้นไปอีก ความเจ็บปวดที่เขามอบให้แล่นเข้าเกาะกุมไปทั่วร่าง ราวกับจะขาดใจตาย แขนทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการไว้ ยกมาดันแผงอกของเขาเอาไว้ หมายจะให้เขาหยุดการกระทำป่าเถื่อนนี้
ฉันกำลังถูกข่มขืน
"กรี๊ดดดดดด!! ช่วยด้วย อึก! อย่า...อย่าทำฉันเลย ฉันขอร้อง"