บทนำ
De king lounge
“ไม่คิดเลยว่าจะเจอมึงที่นี่”
‘กวินภพ’ ร้องทักขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของผู้มีนัยน์ตาสีชา แต่งกายด้วยสีดำทั้งตัวเดินตรงเข้ามาภายในสถานที่อโคจรอันเต็มไปด้วยแสงสีและเหล่าผีเสื้อราตรี แสงไฟวอมแวมไม่อาจบดบังประกายออร่าของ ‘ณฟ้า’ ได้เลยแม้แต่น้อย ผู้ชายคนนี้โดดเด่นเป็นที่น่าสนใจเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
“กูแค่จะมานั่งดื่ม ไอ้เทวาบอกว่าวันนี้มีอะไรเด็ดๆ”
หลายปีที่ผ่านมาเขาหาความสุขทางกายตามประสาหนุ่มโสด โดยมี ‘เทวา’ เป็นผู้คอยจัดสรรให้อย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องไปไขว่คว้าหัวใจของใคร เพราะอำนาจเงินสามารถเนรมิตได้ทุกอย่าง
ไม่มีอีกแล้วความรักในหัวใจดวงนี้ ชายหนุ่มเลือกปัดทุกความสัมพันธ์ที่สิ้นเปลืองความรู้สึกทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ไม่น่าเชื่อว่าแค่อกหักเพียงครั้งเดียวจะเปลี่ยนผู้ชายแสนอบอุ่นให้กลายเป็นคนเย็นชาไร้ความรู้สึกได้
“มันวางยามึงแล้วละถ้าบอกว่าแค่มานั่งดื่ม เพราะวันนี้เด็ดจริง” ชายหนุ่มยกยิ้มร้ายพลางหัวเราะในลำคอ กวินภพเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของที่นี่ ผู้ชายคนนี้มีด้านมืดและเห็นแก่ตัวพอสมควร ชายหนุ่มลงทุนในธุรกิจสีเทาร่วมกับเพื่อนสนิทอย่าง ‘ภาคภูมิ’ ตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเป็นคนไหวพริบดีและรอบจัดพอตัว แต่กว่าจะมายืนอยู่ยังจุดนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ผ่านสมรภูมิชีวิตมามากพอดู
“กูแค่อยากมาดื่ม”
ณฟ้าระบายลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายเพราะติดนิสัยขี้รำคาญความวุ่นวาย ขณะที่นัยน์ตาคมเข้มกวาดมองไปรอบกาย
“ถ้ามึงเห็นไม้เด็ดที่กูเตรียมไว้ รับรองมึงจะไม่แค่อยากดื่มแน่ๆ กูมั่นใจ” เพื่อนตัวร้ายคะยั้นคะยอขายของสุดฤทธิ์
“กูไม่ได้หมกมุ่นแบบมึง” ณฟ้าว่าเข้าให้ พร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมสีน้ำตาลอย่างที่ชอบทำประจำยามโดนขัดใจ
“แต่มึงก็ไม่เคยขาด” เว้นระยะคำพูดครู่หนึ่งเพื่อให้ณฟ้าได้ตัดสินใจ “ตามกูมาแล้วจะไม่ผิดหวัง”
“เออๆ” ร่างสูงบอกตัดรำคาญเพราะทนการเซ้าซี้ไม่ไหว แล้วเดินตามเจ้าของสถานที่ไปติดๆ
ก้องภพเดินนำเพื่อนสนิทผ่านโซนวีไอพีขึ้นมายังชั้นสอง ซึ่งณฟ้าคุ้นเคยเป็นอย่างดี เดอคิงค่อนข้างมีชื่อเสียงพอตัวในหมู่นักเที่ยว ที่การันตีถึงคุณภาพของเครื่องดื่ม บรรยากาศชวนผ่อนคลาย รวมทั้งบรรดาเด็กๆ ที่คอยมาเอนเตอร์เทน ที่สำคัญคือเก็บความลับของลูกค้าดีเยี่ยมเพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพราะส่วนใหญ่เป็นบรรดาไฮโซ นักธุรกิจกระเป๋าหนัก ตลอดจนคนมีชื่อเสียงในแวดวงสังคม ที่ล้วนแล้วแต่แวะเวียนมาใช้บริการที่นี่อย่างไม่ขาดสาย
กวินภพพาเดินขึ้นมายังห้องขนาดใหญ่ที่ประตูหน้าบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง และมีป้ายเขียนบอกอย่างชัดเจนว่าเป็น ‘ห้องประมูลพรหมจรรย์’
“กูไม่ได้อดอยากปากแห้งถึงขนาดต้องประมูลผู้หญิงแข่งกับใคร” เจ้าของนัยน์ตาสีชาโพล่งขึ้นมาในจังหวะที่หุ้นส่วนเดอคิงกำลังจะผลักประตูบานสูงออก
“ลองเข้ามาดูก่อน เผื่อมึงจะเปลี่ยนใจ”
“เสียเวลากูมาก”
“หึ…มึงจะไม่พูดคำนี้หลังจากมึงเห็นอะไรดีๆ ที่กูภูมิใจนำเสนอ”
กวินภพไม่ได้สนใจท่าทางเฉยชาราวกับไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการดื่มด่ำเหล้าราคาแพงของณฟ้า ยังคงดื้อดึงจะพาราชสีห์หนุ่มเข้าไปภายในห้องให้ได้
คนตัวโตด้านหลังจึงได้แต่กลอกตามองบนพร้อมกับถอนหายใจ และเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในที่สุด ทว่าคิดในใจว่าจะอยู่แค่แป๊บเดียวเท่านั้น หลังเสร็จสิ้นการประมูลก็จะลงไปยังชั้นวีไอพีทันที
ทำไมคนเราถึงทำตัวน่ารำคาญ น่าหงุดหงิดใจได้ขนาดนี้นะ นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทหรอกนะ
“คนต่อไป”
เสียงประกาศที่ดังก้องมาจากบริเวณเวทีด้านหน้าห้องไม่ได้ทำให้ณฟ้าตื่นตาตื่นใจแต่อย่างใด แม้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่จะสวมชุดนอนซีทรูแสนวาบหวิวก็ตาม แล้วเจ้าหล่อนก็ถูกผู้ชายโต๊ะหนึ่งประมูลไป หลังจากจ่ายค่าตัวกันเรียบร้อย หล่อนก็เดินไปหาแขกอย่างว่าง่ายและรู้งานที่สุด
กวินภพพาณฟ้ามายังโต๊ะหน้าเวทีโดยอาศัยสิทธิ์พิเศษความเป็นเจ้าของสถานที่ ความหล่อเหลาของสองหนุ่มที่ทุกคนลงความเห็นว่าหล่อลากดินนั้นเรียกสายตาทุกคู่ให้เหลือบมอง แต่เพียงครู่ก็หันไปให้ความสนใจบนเวทีต่อ
“คนต่อไปนะครับ น้องคนนี้เปิดตัวที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่เคยผ่านงานมาก่อน รับรองความสดใหม่ มั่นใจว่าหลายคนต้องตาลุกวาวแน่ๆ ขอเชิญพบกับกระต่ายสาวแสนสวยได้เลยครับ!”
สิ้นสุดการโฆษณาชวนเชื่อ เสียงโห่ร้องพร้อมเสียงผิวปากก็ดังเซ็งแซ่ เสียงแซวไม่ลดดีกรีความจาบจ้วงลงเลยสักนิด บรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างพูดคุยกระซิบกระซาบกันไปมาถึงสรรพคุณของสินค้าที่พิธีกรกล่าวอ้าง ขณะที่ณฟ้าได้แต่แค่นยิ้มและทำเสียงในลำคอ อวดอ้างเกินจริงหรือเปล่า
“คนนี้แหละที่กูบอกมึง” เพื่อนสนิทเหมือนเป็นหน้าม้า ชายหนุ่มหันหน้ามาย้ำกับเขาอีกรอบหนึ่ง ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีนัยน์ตาเจ้าเล่ห์จากเจ้าของคำพูดก็เบี่ยงไปโฟกัสยังตำแหน่งซึ่งตนเองสนใจ
“จะอะไรนักหนา” เขาไม่ใช่พวกคลั่งไคล้หลงใหลผู้หญิงจนเก็บไปเพ้อฝัน ไม่รู้หลอกลวงหรือเปล่าที่บอกไม่เคยผ่านมือชายใด คนเห็นแก่ตัวคิดว่าไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะมาทำงานแบบนี้หรอก นอกเสียจากพวกหวังรวยทางลัด
“นั่นไงออกมาแล้ว”
ณฟ้าสลัดความคิดในหัวทิ้ง ก่อนเพ่งสายตาไปยังตำแหน่งที่เจ้าของหนุ่มว่า กลางเวทีปรากฏหญิงสาวหน้าตาสะสวย เรือนร่างแบบบาง ความสูงคะเนด้วยสายตาน่าจะราวๆ หนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตร เธอสวมชุดหนังสีดำมันปลาบสะท้อนแสงไฟ ความสั้นของชุดแทบปกปิดอะไรต่อมิอะไรไม่มิด ส่งให้หญิงสาวดูร้อนแรงและยั่วยวน ทว่าก็ยังคงความน่ารักด้วยที่คาดผมหูกระต่ายสีชมพูตัดขอบสีเดียวกันกับชุด
แต่เมื่อณฟ้าลองสังเกตดูดีๆ ก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างคุ้นตาเหลือเกิน เครื่องหน้าหวานเช่นนี้เขาเห็นเป็นประจำที่บริษัท นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเจือความประหม่าที่ทำให้บางครั้งเขานึกรำคาญใจ หญิงสาวมักพูดคุยเจื้อยแจ้วและเป็นมิตรกับทุกคน ยกเว้นเจ้านายอย่างเขาที่เธอหวาดกลัว ไม่ผิดแน่ๆ!
ผู้หญิงตรงกลางเวทีคือ ‘พสิกา’ หรือหนูผึ้ง สาวใสซื่อบริสุทธิ์น้องรักคนดีของพิมพ์พลอย
เพราะอะไร ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่!
ในหัวมีแต่คำถามเหล่านี้ดังซ้ำไปซ้ำมา และตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากรู้อยากเห็นเรื่องเธอขนาดนี้
คงเพราะเมื่อมองหน้าเธอชัดๆ เห็นว่าใบหน้าแสนสวยเต็มไปด้วยความกังวล ท่าทางไม่เป็นสุข เพราะเธอขยันเอื้อมมือลูบไล้เรียวแขนราวกับต้องการป้องกันตนเองจากภยันตราย จนทำให้เขานึกเป็นห่วง
เสียงโห่ร้องอย่างถูกใจยังคงดังเกรียวกราวต่อเนื่อง บางคนปรบมือ บางคนผิวปาก สายตานับร้อยจับจ้องไปยังจุดจุดเดียวไม่ต่างจากเขาด้วยความสนใจ พสิกาตอนนี้เปรียบดั่งกระต่ายน้อยซึ่งรอคอยเวลาถูกป้อนเข้าปากสัตว์ร้าย
หึ ไม่มีทางรอดหรอก
“เป็นไงที่กูบอก”
“อืม”
“อืมแปลว่า?”
กวินภพถามเมื่อเห็นนัยน์ตาสีชาไม่ปรากฏร่องรอยของความรู้สึกอะไร นิ่งเรียบสนิทสมกับเป็นณฟ้า ต่อให้ภายในใจจะร้อนรุ่มปวดร้าวแค่ไหน เขาก็ใช้รอยยิ้มหวานปานเทพบุตรอำพรางทุกสิ่งที่คิดไว้อยู่ดี
“ก็ดี”
“มึงสนใจ?” เลิกคิ้วถาม
ณฟ้าพยักหน้าแทนคำตอบตามประสาคนพูดน้อย พลางมือใหญ่หมุนป้ายสีสนิมไปมา นัยน์ตาไม่ละจากร่างเพรียวบางแม้แต่วินาทีเดียว ในอกร้อนรุ่มด้วยความสงสัยว่าเพราะอะไรผู้หญิงคนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งๆที่…
ช่างเถอะ สะบัดความคิดฟุ้งซ่านลบเลือนมันไป
“หึๆ” กวินภพหัวเราะในลำคอคล้ายว่าอารมณ์ดี เห็นทีคืนนี้คงมีอะไรสนุกๆ ให้บันเทิงใจแน่ๆ
ราชสีห์หนุ่มออกล่าเหยื่อแล้ว กระต่ายน้อยตัวนี้ไม่รอดแน่ เมื่อมีเธอเป็นเป้าหมาย ณฟ้าก็พร้อมกระโจนเข้าใส่ทันทีอย่างไม่ลังเล
อาจเพราะสนุกตามประสาหนุ่มโสดมานาน จนอยากหาอะไรแก้เบื่อให้เพลินใจ เสียเงินเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับไฮโซหนุ่มชื่อดัง
“เริ่มประมูลเลยนะครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่...สามแสนบาท!” พิธีกรบนเวทีประกาศพร้อมผิวปากเชิญชวนเหล่านักท่องราตรีกระเป๋าหนัก
“บิตครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนบาทนะครับ เริ่มครับ!”
“สี่แสน!” ชายสูงวัยตรงโต๊ะข้างๆ เวทีชูป้ายขึ้นทันทีที่พิธีกรเอ่ยจบ ราวกับหลงเสน่ห์แม่กระต่ายน้อยตั้งแต่แรกเจอ
“นั่นเสี่ยวัฒนา ได้ยินมาว่ารับจ้างเก็บกวาดงานให้พวกนักธุรกิจที่แกล้งเป็นพ่อพระ” กวินภพกระซิบบอกพร้อมพยักพเยิดหน้าไปทางชายสูงวัยที่ประมูลเป็นคนแรก ดูแล้วมีอายุมากกว่าพวกตนพอสมควร รอบกายเสี่ยวัฒนาเต็มไปด้วยการ์ดชุดดำ ณฟ้ามองแวบเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ลึกลับซับซ้อนซ้ำยังดูร้ายกาจ เลี่ยงได้เลี่ยง อย่าหาเรื่องใส่ตัวด้วยการมีปัญหากับเสี่ยใหญ่นี่เด็ดขาด!
“โต๊ะสาม...สี่แสนบาทครับ มีใครให้มากกว่านี้มั้ยครับ”
“สี่แสนครั้งที่หนึ่ง!” พิธีกรเริ่มทำหน้าที่
ในขณะที่พสิกามองซ้ายมองขวา ก่อนจะก้มหน้ามองพื้น หลบเลี่ยงสายตาหื่นกระหายที่มองมา และคล้ายกับยอมรับในชะตากรรมของตนเอง
“สี่แสนครั้งที่สอง”
“ห้าแสน!” เสียงนี้ดังมาจากโต๊ะด้านหลังห้อง เรียกความสนใจจากพิธีกรได้เพียงแค่ชั่วครู่
“ห้าแสน ครั้งทะ…”
“เจ็ดแสน!”
ดูเหมือนเสี่ยวัฒนาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าอย่างไรคืนนี้ตนต้องเป็นผู้โชคดีได้หญิงสาวไปครอบครอง
“เจ็ดแสนบาท ครั้งทะ…”
“แปดแสน!” คนข้างหลังเองก็ไม่ถอยให้เช่นกัน ตะโกนเสียงดังแทรกขึ้นมาตั้งแต่พิธีกรยังเอ่ยไม่จบประโยค
“ว้าว…ฮอตมาเลยครับกระต่ายน้อยของเรา มีใครให้มากกว่านี้มั้ยครับ”
พิธีกรหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ต่างจากกระต่ายสาวที่ยืนหน้าซีดเผือด กำมือแน่นคอตกคล้ายคนหมดสิ้นหนทาง
ภายในใจของพสิกาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ต้องจำใจกัดฟันฝืนทำในสิ่งที่ตนเองเกลียดชังมากที่สุด
“หนึ่งล้านบาท!” เสี่ยใหญ่ยกป้ายพร้อมบอกจำนวนตัวเลขที่ทำให้ใครต่อใครต่างตกตะลึง เพราะตัวเลขดังกล่าวทำให้ค่าตัวของผู้หญิงคนนี้สูงลิ่วเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เดอคิงเลาจน์เคยเปิดประมูลผู้หญิงมา
“หนึ่งล้านบาท ครั้งที่นะ…”
“สองล้านบาท”
ณฟ้าไม่รอช้ารีบยกป้ายทันที เพราะมั่นใจว่าคนที่นั่งโต๊ะข้างหลังคงไม่สู้ราคาแน่นอน ไม่รู้อะไรดลใจให้เขากระโจนลงสู่สนามการประมูลนี้ ทั้งที่ปกติแล้วผู้ชายอย่างเขาไม่จำเป็นจะต้องไปยื้อแย่งเธอกับใคร
พสิกาเหลือบมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาดีที่เอ่ยตัวเลขสูงลิบ ก่อนเบิกตากว้างคล้ายตกใจสุดขีด แต่เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็รีบก้มหน้าลงมองพื้น เสมือนต้องการปิดบังใบหน้าที่แท้จริง
“นี่มึง…”
“คนนี้กูขอ”
กวินภพมองเพื่อนอย่างไม่เชื่อสายตา คนอย่างณฟ้าไม่เคยทุ่มเงินเพื่อผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากจ่ายแค่นิดๆ หน่อยๆ ผู้หญิงก็พร้อมขึ้นเตียงแล้ว และเรื่องผู้หญิงเขาไม่เคยขาดมือ
“ว้าว! สองล้านบาทแล้ว สองล้านบาท ครั้ง…”
“สองล้านห้าแสน!” หนุ่มใหญ่ยังสู้ไม่ถอย โพล่งตัวเลขขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกหักหน้า ก่อนที่สายตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเกลียดชังจะตวัดมองหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่คิดปิดบังความรู้สึก
“สองล้านห้าแสน ครั้ง…”
“สามล้าน!”
คนอย่างณฟ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ในใจตะโกนขึ้นมาว่า อย่างไรคืนนี้เขาต้องคว้าพสิกามาแนบกายให้ได้
“สามล้าน ครั้งที่หนึ่ง” พิธีก่อนเริ่มเคาะค้อนคล้ายกับส่งสัญญาณปิดประมูล ทว่าเสี่ยใหญ่ยังคงนิ่งเฉย หากแต่ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมาเป็นระยะๆ แต่มีหรือที่ณฟ้าจะสนใจ
เขาใส่ใจในเป้าหมายที่อยากได้เท่านั้น คนอื่นก็แค่มดแค่แมลง ไม่มีความสำคัญอะไรถึงต้องให้ค่ามารบกวนจิตใจ
“สามล้าน ครั้งที่สอง”
“…”
“สามล้าน ครั้งที่สาม...ปิดประมูลครับ! คุณผู้ชายคนนี้ได้น้องกระต่ายไป ยินดีด้วยครับ” ทันทีที่พิธีกรพูดจบ สายตาทุกคู่ต่างหันมาสนใจยังตำแหน่งซึ่งร่างสูงยืนอยู่
คนของเสี่ยวัฒนาเหมือนตั้งท่าจะเข้ามาหาเรื่องเพราะหนุ่มหล่อทำให้เจ้านายไม่พอใจ แต่กวินภพกลับไวกว่า เจ้าของเลานจ์หรูยกมือขึ้นเรียกการ์ดของร้านให้เข้ามาล้อมรอบเพื่อคอยคุ้มกันณฟ้า
“แหม...ไหนบอกไม่สนใจ”
“ไม่ต้องมาแซว มึงได้เงินสมใจแล้วนี่” คนชนะประมูลตอบกลับ ทว่าสายตายังมองตามร่างเล็กจนกระทั่งเธอลงจากเวที
“กูได้เงินแต่มึงได้เหงื่อ มันก็น่าจะคุ้มๆ กันปะวะ”
“ไอ้…”
“เดี๋ยวให้ลูกน้องไปเรียกเด็กมาให้เผื่อมึงอยากดื่มต่อ” กวินภพถามขึ้นตามประสาคนค้าขาย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูพากลับเลย” ณฟ้าบอกความต้องการน้ำเสียงเย็นชา
กวินภพเผยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนมีลับลมคมใน จนเพื่อนสนิทเห็นแล้วนึกหมั่นไส้
“ไหนตอนแรกบอกไม่สนวะ…”
“…”
“ไม่สนแต่ลากเข้าห้องเลยใช่มั้ยล่ะมึง!”
ระบายเสียงหัวเราะดังๆ เพราะอารมณ์ดีจนกู่ไม่กลับ เห็นทีคืนนี้สำหรับแม่กระต่ายน้อยยังคงอีกยาวไกลเหลือเกิน
…เธอเจอศึกหนักเสียแล้วพสิกา!