เด็กน้อยของสิงห์2|ยอมคบกับหนู เพื่อจะให้หนูเป็นตัวแทนของใครหรือเปล่า

1681 Words
วันต่อมา... “ขึ้นมา” เธอที่กำลังนั่งรอรถรับส่งเพื่อจะไปโรงเรียนอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้านก็ต้องรีบเงยหน้าขึ้นมามอง เพราะได้ยินเสียงคุ้นหูเอ่ยเรียกเธอ ซึ่งเธอก็พยายามไม่สนใจยังนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ของตัวเองต่อ “ยาหยี ขึ้นมา” เธอคิดว่าถึงต่อต้านไปก็คงไม่มีประโยชน์ จึงยอมลุกขึ้นพร้อมกับเข้ามาในรถ “บอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้านั่งรถต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย” เขาไม่พูดเปล่า เบี่ยงตัวมาดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาติดให้เธอเสร็จสรรพ แล้วก็กลับไปในที่นั่งของตัวเอง “ขอโทษเรื่องเมื่อวานด้วยนะ” “ถ้าจะไปส่งก็รีบไปได้แล้ว” เขามองเธออยู่สักพักก็ขับรถออกมาทันที ตลอดระยะเวลาที่เรานั่งรถมาด้วยกันก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย จนเขามาจอดรถอยู่บริเวณข้างกำแพงโรงเรียน พอรถดับสนิทเธอก็เตรียมตัวเพื่อจะลงจากรถทันที แต่ก็โดนแฟนหนุ่มคว้ามือไว้ก่อน “สัญญาว่าต่อไปจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” “ครั้งก่อนสิงห์ก็พูดแบบนี้ แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้” “อย่าเย็นชากับฉันแบบนี้ได้ไหม” ซึ่งเขาก็ดึงเธอเข้าไปกอดโดยที่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร “ที่ยอมคบกับหนูเนี่ย เพื่อจะให้หนูเป็นตัวแทนของใครหรือเปล่า” “ไม่ใช่” “หนูบอกเลยนะว่าหนูไม่ใช่ตัวแทนของใคร ถ้าคิดว่าจะคบเล่น ๆ ก็เลิกทำซะ” “เธอไม่ใช่ตัวแทนของใคร” “ปล่อยได้แล้ว” พอเธอบอกแบบนั้นเขาก็ยอมปล่อยเธอแต่โดยดี แต่ก็ยังไม่ยอมปลดล็อกประตู “ปลดล็อกประตูด้วย” “วันนี้ได้เงินมาเท่าไหร่” “ก็สองร้อยเท่าเดิม” เขาไม่ได้พูดอะไรตอบเธอมา แต่หยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาพร้อมกับหยิบธนบัตรสีเทาหลายใบมายัดใส่มือของเธอไว้ “เอามาให้หนูทำไม” “ไว้ซื้อขนม” “แล้วเอามาให้อะไรเยอะแยะขนาดนี้” “ติดตัวเอาไว้ใช้ยามจำเป็น” “ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้เขาไปโดยที่เขาก็กดปลดล็อกประตูให้ เธอจึงดันประตูออกมาพร้อมกับเดินเข้าโรงเรียนของตัวเองโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองแฟนหนุ่มของตัวเองเลย ...... หลังจากที่ไปส่งแฟนสาวที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถไปยังมหา’ลัยของตัวเองซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ค่อนข้างมาก โดยใช้เวลาขับนานเกือบหนึ่งชั่วโมงพอมาถึงก็รีบเดินเข้าห้องเรียนทันทีเพราะเหลือเวลาไม่มากก็จะถึงเวลาเรียนของเขาแล้ว “ไปส่งยาหยีมาเหรอ ทำไมถึงมาช้า” “ใช่” เขาตอบเพื่อนตัวเองไปพร้อมกับมานั่งลงที่ประจำของตัวเองซึ่งไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามา “เอาละนักศึกษา ก่อนอื่นเลยเช็กชื่อกันก่อน....” หลังจากที่อาจารย์เช็กชื่อเรียบร้อยแล้วท่านก็เริ่มสอนเนื้อหาในวิชาทันที จนเวลาล่วงเลยมาเกือบสิบเอ็ดโมง เขากับเพื่อนก็ย้ายจากห้องเรียนมาที่โรงอาหารประจำคณะต่อ “กูได้ยินข่าวเรื่องนึงมาว่ะ แต่ไม่รู้ว่าจริงไหม” “ถ้าอยากให้กูรู้ก็พูดมา พูดอ้อมค้อมอยู่ได้” “ได้ยินมาว่าแพรไหมกลับมา” พอได้ยินเพื่อนพูดออกมาแบบนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป “ถ้าเธอกลับมาแล้วมึงจะทำยังไงต่อ” “ต้องทำอะไรต่อด้วยเหรอ ตอนนี้กูมีแฟนแล้วนะ” “มึงลืมแพรไหมได้จริงเหรอวะ” “…..” “ก็กูรู้สึกว่า เหมือนมึงกำลังพยายามให้ยาหยีเป็นแพรไหมอยู่ยังไงก็ไม่รู้” “ทำไมมึงถึงคิดแบบนั้น” “ไม่รู้สิ สงสัยเพราะว่ารูปร่างหน้าตาของยาหยีกับแพรไหมก็ค่อนข้างคล้ายกัน แถมทั้งสองคนยังชอบอะไรเหมือน ๆ กันอีก กูเลยคิดว่าบางทีมึงยอมคบกับน้องเขาก็เพื่อต้องการให้มาเป็นตัวแทนของแฟนเก่ามึง” “อย่าให้กูได้ยินมึงพูดคำนี้อีก กูไม่ได้คบกับยาหยีเพื่อเอาเธอมาเป็นแทนใคร” “ขอโทษเพื่อน กูไม่ได้ตั้งใจจะพูด” เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นั่งกินข้าวของเองต่อ พอกินเสร็จแล้วก็รีบขึ้นไปยังห้องเรียนที่จะเรียนช่วงบ่าย หลายชั่วโมงต่อมา... หลังจากที่เขาเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบขับรถมายังโรงเรียนที่แฟนสาวของตัวเองเรียนอยู่ โดยที่จอดรถอยู่ตรงที่เดิมที่จอดเมื่อเช้า ซึ่งไม่นานเธอก็เดินมาเปิดประตูพร้อมกับเข้ามานั่ง และคาดเข็มขัดนิรภัยตามที่เขาบอก “ทำไมเหมือนผิวไหม้เลย ไปทำอะไรมา” เขาสังเกตหน้าพร้อมกับผิวที่แขนของเธอมีรอยแดงไหม้ “วันนี้มีสอบวิ่ง หนูไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มเลยไม่รู้ว่าครูให้ใส่ชุดวอร์มมา” “ตอนอาบน้ำเสร็จต้องทาครีมบำรุงนะไม่อย่างนั้นผิวจะลอก” “ค่ะ” “อยากไปไหนก่อนกลับไหม เดี๋ยวฉันจะพาไป” “ไม่อยากไปไหน อยากกลับบ้านมากกว่า” “งั้นก็กลับกันเถอะ วันนี้แม่ฉันทำเค้กด้วยนะ เพิ่งโทรบอกว่าให้ชวนเธอไปกิน” “อยากกินเค้กพอดีเลย” พอเธอตอบออกมาแบบนั้นเขาก็ยิ้มให้กับเธอพร้อมกับสตาร์ตรถขับออกมาด้วยความเร็วไม่มากเพื่อจะกลับบ้านของตัวเอง “คุณแม่ขา” พอรถจอดสนิทแฟนสาวของเขาก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านของเขาไปในทันที โดยที่เขาทำได้เพียงแค่เดินตามเธอไป พอเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังยืนกอดกับแม่เขาอยู่ “วันนี้แม่ทำเค้กสตรอว์เบอร์รีด้วยนะลูก” “อยากกินแล้วค่ะ” “งั้นก็ไปกินกันเถอะลูก” แม่ของเขาก็เดินจูงมือแฟนสาวไป ส่วนเขาก็ขึ้นมายังห้องของตัวเองเพื่อจะเปลี่ยนชุดนักศึกษาออกเป็นชุดใส่สบายแทน พอเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมาหาแฟนสาวที่ห้องรับแขก โดยที่ตอนนี้เธอกำลังนั่งกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย “อร่อยมากขนาดนั้นเลยเหรอ” “ใช่ สิงห์กินไหม” “ไม่ ฉันไม่ชอบกินอะไรแบบนี้” “ไม่รู้จักของอร่อยซะแล้ว” “อีกไม่กี่วันหนูยาหยีก็ปิดเทอมแล้วใช่ไหมลูก” “ใช่ค่ะคุณแม่” “งั้นดีเลย ถ้าวันไหนแม่ทำเค้กอีกจะได้ไปชวนมาทำด้วยกัน” “ได้เลยค่ะ หนูพร้อมเป็นลูกมือคุณแม่” “แล้ววันนี้จะไปสนามอีกแล้วเหรอลูก” “ครับ” “ทำไมไม่หยุดสักวันล่ะ เลิกเรียนมาก็ต้องไปทำงานไม่เหนื่อยหรือไง” “ไม่ได้ทำอะไรหนักเลยครับ แค่ว่าจะเข้าไปเช็กอะไรนิดหน่อยก็จะกลับแล้ว” “หนูอยากไปด้วยจัง” “ไม่ต้องไปหรอก อายุของเธอไม่เหมาะที่จะไปสถานที่แบบนั้น” “ก็เป็นแบบนี้ตลอด” เธอตอบเขาออกมาพร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ยอมที่จะใจอ่อนให้เธอเรื่องนี้แน่นอน เพราะตั้งแต่เราตกลงคบกันมาได้หลายเดือนเขาก็มีข้อห้ามเธอเรื่องเดียวเท่านั้น คือห้ามไปที่สนามโดยที่เขาไม่รู้เด็ดขาด เพราะที่นั่นค่อนข้างอันตรายมาก ซึ่งเคยมีครั้งหนึ่งที่เธอแอบหนีไปสนาม โดยวันนั้นบังเอิญว่ามีคนที่แข่งรถแล้วแพ้แต่ไม่ยอมจบ จนมีเรื่องต่อยตีกันค่อนข้างหนักจนบังเอิญเด็กสาวไปโดนลูกหลงเข้าแล้วเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนั้นเขารู้สึกโกรธมากโดยที่สั่งสอนคนที่มันทำแฟนสาวเขาอย่างสาหัส ส่วนเด็กสาวก็โดนเขาต่อว่า และสั่งห้าม “หนูไม่ได้ไปสนามกับสิงห์นานแล้วนะ” “แล้วจะไปที่แบบนั้นทำไม” “แต่ที่แบบนั้นมันคือที่ทำงานของสิงห์ไม่ใช่เหรอ” “เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมชอบเถียงผู้ใหญ่จัง” “เด็กอะไร หนูเป็นน้องสิงห์แค่สองปีเอง” “ไม่ต้องมาเถียง ไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป” “ไม่ไปด้วยก็ได้ แต่ห้ามไปส่งสายตาให้ผู้หญิงนะ” “ผู้หญิงที่ไหนอย่าหาเรื่องทะเลาะ” “หนูไม่ได้หาเรื่องทะเลาะ แต่หล่อ ๆ แบบสิงห์ผู้หญิงก็ต้องอยากเข้าหา” “ฉันไม่สนใจใครนอกจากเธอหรอก” พอเขาพูดออกมาแบบนั้น เด็กสาวที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมา “พูดแบบนี้หนูเขินนะ” “งั้นต่อไปจะไม่พูด” “ไม่เอา หนูอยากได้ยินสิงห์พูดแบบนี้บ่อย ๆ “ “งั้นก็อย่าดื้อ กินเค้กให้หมดจะได้กลับบ้าน ฉันจะได้ไปทำงาน” “สิงห์อยากไปทำงานก็ไปสิ หนูจะอยู่กับคุณแม่” “ใช่ลูก เราอยากจะไปทำงานก็ไปสิ เดี๋ยวแม่จะคุยเล่นกับหนูยาหยีต่อ” “อยู่กับแม่ฉันก็อย่าดื้อมาก” “หนูไม่เคยดื้อกับคุณแม่นะ อย่าใส่ร้ายหนูสิ” “จริงลูก เราอย่าใส่ร้ายน้องสิตาสิงห์ หนูยาหยีอยู่กับแม่ไม่เคยดื้อสักครั้ง” “แม่ก็อย่าตามใจเด็กนี่มาก เดี๋ยวจะเสียคนเอา” พอเขาพูดออกไปแบบนั้น เด็กสาวจากที่ยิ้มแย้มอยู่ก็เริ่มหน้าบึ้งตึงเหมือนเก่า พร้อมกับขยับไปกอดแม่ของเขาไว้แน่น ส่วนแม่ของเขาพอเห็นเด็กสาวเหมือนจะร้องไห้ก็กอดปลอบกันไป จนเขาที่กำลังนั่งมองอยู่รู้สึกเหมือนตัวเองควรจะไปจากตรงนี้ได้แล้ว “ไปเลยนะพ่อตัวดี” “งั้นผมไปก่อนนะครับ ฉันไปแล้วนะ” เขาบอกลาแม่ของตัวเองกับแฟนสาวพร้อมกับรีบเดินออกมาจากบ้านเพื่อจะไปสนามแข่งรถของตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD