ตอนที่ 3 : ย้ำเตือน
“ต่อที่เตียงไหมคะ พริกจะทำให้คุณสบายตัวจนกว่าคุณจะพอใจ”
“วันนี้ฉันต้องไปธุระต่อ เธอจะนอนห้องนี้ก็ได้พรุ่งนี้เช้าค่อยเช็คเอ้าท์ ส่วนเงินฉันจะให้ธนินลูกน้องของฉันโอนให้”
“ค่ะ” พริกหวานพยักหน้ารับรู้และส่งยิ้มให้กับชายหนุ่ม มองร่างกายกำยำที่กำลังลุกแต่งตัว โดยไม่มีท่าทีเขินอายแม้แต่น้อย
“คงไม่โง่ปล่อยให้ตัวเองท้อง และจำไว้ด้วยว่าฉันไม่ชอบให้ผู้หญิงแสดงตัวเป็นเจ้าของถ้าอยากได้ชีวิตที่สุขสบายมีเงินให้ใช้ มีคอนโดให้อยู่ ก็ทำตามคำสั่งฉัน เป็นแค่ที่ระบายตอนที่ฉันเหนื่อย”
“ค่ะ พริกไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองท้อง และไม่มีทางเข้าไปเป็นเจ้าของชีวิตคุณโรมัน ขอโทษที่วันนี้พริกทักไลน์หาคุณก่อน แต่พริกต้องการใช้เงิน”
“หวังว่าจะไม่มีคราวหน้า โชคดีที่วันนี้ฉันเครียดเลยยอมทำตามคำร้องขอของเธอ และอีกอย่างควรจำใส่หัวไว้ว่าฉันไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนไปคอนโด ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว และสถานะของเธอนอนได้แค่เตียงโรงแรมเท่านั้น”
พริกหวานส่งยิ้มบางๆให้กับชายหนุ่ม และรับฟังคำพูดแดกดันของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย มองร่างกายกำยำที่เดินผ่านหน้าไปอย่างไร้เยื่อใย
ปัง
เสียงประตูปิดลงด้วยฝีมือของชายหนุ่มที่เดินออกจากห้อง สายตาคมกริบปรายตามองลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่หน้าห้อง ไม่สนใจว่าจะได้ยินเสียงอะไรที่ดังเล็ดลอดออกมาก่อนหน้านี้ เพราะมันเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา
“จัดการโอนให้พริกหวานสามแสน”
“ครับคุณโรมัน”
“และสืบดูว่าเส้นทางการเงินของเด็กคนนี้โอนไปให้ใครบ้าง”
“ได้ครับ”
ใบหน้าคมคายเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึก เดินเข้าลิฟต์ด้วยท่าทางสุขุม
การได้ลิ้มชิมรสของสดทำให้ร่างกายกำยำกระชุ่มกระชวย ไม่คิดว่าเด็กที่ไม่มีประสบการณ์จะทำให้คนไร้ความรู้สึกอย่างโรมันติดใจ
แต่มันก็แค่ร่างกายเธอที่เขาติดใจ แค่หาเศษหาเลยแก้เงี่ นไปพลางๆ ไม่ได้คิดจริงจัง ตอนที่เธอส่งข้อความมาเป็นช่วงที่รู้สึกเครียดพอดี ปกติแล้วเขาจะเป็นคนนัดเธอ ไม่เคยเสียดายเงินที่เสียให้เด็กผู้หญิงคนนี้เพราะร่างกายเธอทำให้เขาผ่อนคลายได้จริง
หาผู้หญิงแก้เครียดและระบายความอัดอั้นเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ผู้หญิงที่นอนด้วยต้องไม่เข้ามาเป็นเจ้าของชีวิต ทำหน้าที่แค่ตอนนอนเท่านั้นแล้วจะได้ค่าตอบแทนแบบที่ต้องการ ซึ่งเธอยอมรับกฎในข้อนี้อย่างง่ายดาย และเธอไม่เคยเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเขาเลยถ้าไม่ต้องการเงิน
เขาไม่ชอบภาระผูกพันนั่นคือข้อตกลงการร่วมเตียงของเรา ต่อให้เขาไม่สวมเครื่องป้องกันแต่เธอต้องป้องกัน มีเพียงแค่เธอที่เขากล้าจะสอดใส่แบบไร้เครื่องป้องกัน อาจเป็นเพราะตอนนั้นอยากลองความสดความซิงของเธอ เลยติดใจจนทุกครั้งที่ร่วมหลับนอนกับเธอเขาไม่เคยสวมเครื่องป้องกันเลย
หน้าที่ป้องกันคือเธอ และถ้าเกิดท้องเธอเองที่พลาดไม่ใช่เขา
ภายในห้องสวีทที่เงียบสงัดหลังจากชายหนุ่มเดินออกไปแล้ว ขาที่ไร้เรี่ยวแรงล้มลงกับพื้นจนสะโพกมนกระแทกพื้นอย่างจังแต่เธอกลับไร้ความรู้สึก เพราะสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันต้องด้านชาจริงๆถึงกล้าทำได้ ใบหน้าหวานก้มลงมองพื้น มองเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่ที่พื้นทำเอาน้ำตาคลอ
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำให้พริกหวานหันไปมองกระเป๋าของตัวเองที่มีโทรศัพท์เครื่องหรูอยู่ในนั้น ไม่ต้องไปหยิบก็รู้ว่าคือข้อความอะไร ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ยินหลังจากเขาออกจากห้องไปแล้ว
ทำให้พริกหวานนึกย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน
เด็กสาวใช้เวลาในช่วงปิดเทอมหางานพิเศษทำ ดวงตากลมโตจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเก่านิ้วเรียวยาวเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยเพื่อหางานพาร์ทไทม์ อยากช่วยครอบครัวแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเลยอยากหางานทำแล้วจ่ายค่าเทอมเอง ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ครอบครัว
แววตาใสซื่อเลื่อนหางานไปเรื่อย แต่แล้วหน้าจอโทรศัพท์มีสายโทรเข้ามาทำให้เธอต้องหยุดชะงักและระบายยิ้มเมื่อแม่เธอโทรเข้ามา
“จ้ะแม่”
(มีเงินให้แม่สักหนึ่งหมื่นไหมพริกหวาน)
“พริกไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นหรอก มีแต่เงินที่พ่อกับแม่โอนมาให้ใช้เดือนละสองพันจ้ะ พริกว่าจะหาพาร์ทไทม์ทำ ชั่วโมงละสี่สิบห้าสิบก็ยังดี”
(โอ๊ย ชาติไหนมันจะพอ เจ้าหนี้จะมาฆ่ายกครัวอยู่แล้ว ไปเรียนกรุงเทพภาระก็เยอะแยะ กูกับพ่อมึงก็หาจ่ายให้มึงได้ กูจะมาขอความช่วยเหลือจากมึงไม่ได้เลย กรุงเทพเขาว่ามีงานได้เงินดีมึงไม่ไปทำ ขายตัวให้เสี่ยรวยๆสักคนก็สุขสบายไปทั้งชาติ เอาเงินมาจุนเจือครอบครัว กูเลี้ยงมึงมาจนโตปานนี้มึงควรชดใช้บุญคุณกูบ้าง)
“.....” เธออึ้งไปกับคำพูดของแม่แท้ๆตัวเอง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินคำพูดแบบนี้จากแม่เลยสักครั้ง แม่ผู้อ่อนโยนกับเธอคนนั้นหายไปไหนแล้ว คนที่เห็นดีเห็นงามที่เธอสอบติดมหา’ลัยรัฐบาลคนนั้นไปไหน
ทำไมทุกอย่างมันถึงเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือขนาดนี้
“แม่เป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นบอกพริกได้นะ”
(กูจะเอาเงินไปคืนเขา มึงต้องหามาให้กู ถ้าไม่ได้มึงเตรียมกลับมาจัดงานศพให้กูกับพ่อมึงได้เลย)
ตู๊ด ตู๊ด...
ทันทีที่ปลายสายพูดจบสายก็ถูกตัดไปทันที คำพูดของแม่ยังกึกก้องอยู่ในหู หลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นและหาคำตอบอะไรไม่ได้เลย
พริกหวานนั่งคิดอยู่สักพักทำให้เธอตัดสินใจโทรหาป้าแท้ๆ ของตัวเองที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน คงได้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้แม่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้
ใช้เวลาไม่นานปลายสายกดรับ
“สวัสดีจ้ะป้าเล็ก พริกหวานเองนะจ๊ะ”
(เอ้อ...เป็นไงบ้างละลูก สบายดีไหม ปิดเทอมไม่เห็นกลับมาบ้าน)
“พอดีพริกตั้งใจจะหางานทำช่วงปิดเทอมเลยไม่ได้กลับจ้ะ”
(จะว่าไปก็ดีแล้วที่เอ็งไม่กลับ)
คำพูดของคนปลายสายทำให้พริกหวานนิ่งไปชั่วขณะและตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“เมื่อกี้แม่โทรมา ป้าพอจะรู้เรื่องราวบ้างไหมจ๊ะ”
(มันโทรไปขอเงินเอ็งละสิ คงด่าเอ็งด้วยสินะ ป้าได้ยินเสียงมันแว่วๆดังมาถึงนี่ แม่เอ็งมันเปลี่ยนไปตั้งแต่เอ็งกลับไปหลังสงกรานต์นั่นแหละพริกหวาน เพราะผีพนันออนไลน์เข้าสิง แรกๆมันก็ได้ดิบได้ดีนะ แต่ช่วงหลังเห็นท่าว่าจะเสีย จนไปกู้ยืมคนนั้นทีคนนี้ที สุดท้ายก็เสียทำให้หนี้สินบาน แถมยังไปกู้นอกระบบอีก เจ้าหนี้มารอหน้าบ้านทุกวัน ยืมคนนี้เอาไปคืนคนนั้น คนแถวนี้เขาเอือมกันหมดแล้ว)
ช่วงสงกรานต์นั่นแปลว่าช่วงที่เธอปิดเทอมใหญ่ปีหนึ่งกำลังขึ้นปีสอง ก็ไม่มีเดือนเอง ทำไมทุกอย่างมันดูปุบปับขนาดนี้
“แล้วพ่อละจ้ะ พ่อไม่ห้ามแม่เหรอ แล้วผักหวานละ น้องน่าจะห้ามพ่อกับแม่นะ”
(เฮ้อ...พ่อเอ็งก็เป็นไปกับเขาด้วย และอีตัวต้นเรื่องคือน้องสาวเอ็งนั่นแหละ ผักหวานมันสอนพ่อแม่เล่นเอง แล้วตอนนี้ก็หนีออกจากบ้านไปอยู่กับผัวที่เป็นเด็กแว๊นซ์เพราะไม่อยากถูกเจ้าหนี้ตามรังควาน ทำให้บ้านเอ็งตอนนี้มีแค่พ่อกับแม่เอ็งเท่านั้นแหละ)
ราวกับถูกไม้หน้าสามตีเข้าที่หน้า ร่างกายชาไปทุกส่วน เธอรู้ดีว่าน้องสาวตัวเองค่อนข้างแก่นแก้วเกินวัย ใครๆต่างพูดกันว่าเธอกับน้องสาวต่างกันสุดขั้ว
“ขอบคุณที่บอกพริกนะ เอาไว้ว่างๆพริกจะโทรหาป้าเล็กใหม่นะ หรือถ้ามีเรื่องอะไรให้โทรหาพริกได้ตลอดเลยนะจ๊ะ”
ไม่นานเธอได้ร่ำลาปลายสายด้วยน้ำเสียงปกติ ทั้งที่หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำกับเรื่องที่ได้ยิน
นอกจากคำพูดของป้าที่คิดไม่ตกแล้ว คำพูดของแม่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่รู้จบ