ตอนที่ 8 เปิดโอกาสให้ตัวเองและคนที่จะเข้ามา

1218 Words
อีกมุมของสนามบาสเก็ตบอลห่างจากม้านั่งที่ฟ้าลดาปักหลักนั่งประมาณยี่สิบเมตรมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เธอ และเจ้าของสายตาคู่นั้นก็กำลังหันไปพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อนของเขาเกี่ยวกับเธอ “ไอ้คุณมองไรวะ เรียกไม่ตอบ” “ผู้หญิงคนนั้นใครวะ?” คนถูกเรียกไม่ตอบทว่าพยักพเยิดหน้าไปทางม้านั่งที่มีร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาเป็นนักบาสของมหาวิทยาลัยปกติจะซ้อมอยู่ที่สนามกลาง แต่สัปดาห์นี้สนามกลางปิดปรับปรุงชั่วคราววันนี้ก็เลยเป็นวันแรกที่พวกเขาพากันมาใช้สนามบาสของคณะนิเทศศาสตร์แทน ฌอนมองตามสายตาเพื่อน ก่อนหันหน้ากลับมาตอบ “ฟ้าใส” “ฟ้าใส?” เจ้าคุณทวนชื่อที่เพื่อนบอก มุมปากยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นฟ้าใส เขาเคยเห็นเธอมาก่อนหน้านี้แล้วสองครั้งสองครา ครั้งแรกตอนที่เขาไปดูฟุตบอลกับเพื่อนที่สนามราชมังฯนัดที่ทีมชาติไทยเจอกับทีมชาติเวียดนาม ตอนนั้นเห็นแค่ไกลๆ แต่ทว่าภาพของเธอในชุดเสื้อทีมชาติที่กำลังเชียร์ฟุตบอลอย่างดุเดือดเผ็ดมันติดตาตรึงใจเขามาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนครั้งที่สองเขาเพิ่งเจอเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนที่สนามบินดอนเมือง เขาเพิ่งเดินทางมาจากเยี่ยมเพื่อนที่ขอนแก่น บังเอิญเห็นเธอก็ตอนที่กำลังจะลงจากเครื่อง กว่าเขาจะลงจากเครื่องได้เธอก็เดินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก ที่สำคัญเขาไม่คิดว่าเธอเองก็เรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี่ด้วย ความบังเอิญที่เกิดขึ้นถึงสามครั้งสามคราถ้าไม่ใช่พรหมลิขิตก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว “ใครวะ?” “มึงสนใจ?” คนถามเอียงหน้ามอง หรี่ตาแคบก่อนยักคิ้วส่งให้เพื่อนเพื่อบอกว่ากูรู้ทันมึง “สวยถูกใจอะดิ แต่เสียใจด้วยคนนี้มึงน่าจะแห้วว่ะ” “ทำไม? แฟนมึง?” “แฟนกูก็เหี้ย ไม่ใช่แฟนกูเว้ย แฟนไอ้สอง” “สองไหนวะ?” เจ้าคุณหรี่ตามองเพื่อน เขาไม่ได้เรียนคณะนี้แต่ก็พอรู้จักเพื่อนหรือว่ารุ่นน้องคณะนี้อยู่หลายคน “สองเพื่อนไอ้เช่” “ไอ้ปอร์เช่ที่เรียนวิศวะ?” เจ้าคุณจำปอร์เช่ได้ทันทีเพราะเคยทาบทามอีกฝ่ายให้มาอยู่ชมรมบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยด้วยกัน ปอร์เช่เป็นคนที่เล่นบาสเก็ตบอลเก่งมากคนหนึ่ง เล่นได้หลายตำแหน่งทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์และการ์ดจ่ายจนเขาอยากจะได้มาร่วมทีมมหาวิทยาลัยด้วย ทว่าเจ้าตัวปฏิเสธทำให้เขาเสียดายจนถึงทุกวันนี้ ‘ผมเล่นบาสชิลๆอะพี่ เล่นเอาสนุกๆ ไม่ได้คิดเล่นจริงจัง ยังไงก็ขอบคุณพี่มากแล้วกันที่ชวนเข้าชมรม’ ถึงเหตุผลของมันจะอินดี้ แต่เขาก็เข้าใจ “เออ ก็มีแค่ปอร์เช่เดียวปะวะที่มาเล่นบาสกับเรา ส่วนนั่นไอ้สองคนตัวสูงๆขาวๆหน้าหล่อๆที่กำลังวิ่งหาช่อง เล่นบาสเก่งพอๆกับไอ้เช่ จริงๆมันก็ไม่ได้เก่งแค่บาสหรอกฟุตบอลมันก็เทพไอ้นี้แม่งหล่อแล้วยังเก่งทุกอย่าง” เจ้าคุณมองไปที่สนามตำแหน่งที่ปรมะกำลังส่งลูกบาสให้ฉัตรวัตเพื่อนสนิทของตัวเองชู้ตสามเมตร ก่อนจะหันกลับไปมองฟ้าลดาที่กำลังมองดูลูกบาสสีส้มมุดลงห่วงสายตาเป็นประกายเจิดจรัส ริมฝีปากของเธอยิ้มกว้าง ถ้าเธอเป็นแฟนของฉัตรวัตจริงก็ต้องบอกว่าทั้งสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก ฟ้าลดาเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก ความสดใสเป็นธรรมชาติของเธอทำให้คนที่พบเห็นต้องยิ้มตาม ฉัตรวัตเองก็เป็นผู้ชายที่หล่อ เท่ และมีเสน่ห์มากคนหนึ่ง “ฟ้าใสเป็นแฟนไอ้สองงั้นเหรอ?” “ก็คงเป็นมั้ง... ก็เห็นมันพามาด้วยทุกครั้งแถมยังควงคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว ตัวติดกันอย่างกะปาท่องโก๋ไม่ใช่แฟนจะเรียกว่าอะไร อย่าบอกนะว่ามึงสนใจฟ้าใสจริงๆ” “เปล่า แค่รู้สึกว่าน้องน่ารักดี” “ไอ้น่ารักมันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่น่ารักจะเป็นดาวคณะวิศวะได้ไง ก็ดีที่มึงไม่ได้สนใจน้องมันจริงจัง แต่ถ้ามึงสนใจฟ้าใสขึ้นมาจริงๆก็ตัดใจซะ ไอ้สองเห็นหน้ามันหล่อๆมาดคุณชายแบบนั้นตัวจริงแม่งโหดใช้ได้เลยนะเว้ย” เจ้าคุณยกยิ้มมุมปาก ส่ายหน้าไปมาให้กับคำพูดของเพื่อน ดึงสายตาให้กลับมาโฟกัสการแข่งขันบาสเก็ตบอลในสนามเหมือนเดิม ก่อนขยับตัวลุกขึ้นตั้งใจจะออกไปสูบบุหรี่ฆ่าเวลา ระหว่างทางที่กำลังจะเดินพ้นประตูโรงยิมก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปยังม้านั่งที่ฟ้าใสนั่งอยู่ ไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็เกิดเปลี่ยนใจเดินไปยังม้านั่งอีกฝั่ง และตอนนี้เขาก็กำลังยืนอยู่ตรงหน้าฟ้าใส... ผู้หญิงที่ทำให้เขาสนใจตั้งครั้งแรกที่เห็นหน้า และจำเธอได้มาจนถึงทุกวันนี้ “มากับไอ้สองเหรอครับ?” ฟ้าลดาหันหน้าไปมอง เมื่อเห็นเป็นหนุ่มหล่อในชุดนักกีฬาบาสของมหาวิทยาลัยก็พยักหน้าขึ้นลง เดาเอาว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนเป็นหรือไม่ก็รุ่นพี่ของสองกับปอร์เช่ “ค่ะ” “พี่ชื่อเจ้าคุณนะครับ จะเรียกสั้นๆว่าคุณก็ได้ พี่เป็นนักกีฬาบาสของมหา’ลัย เรียนคณะสถาปัตย์ปีสี่” “ฟ้าใสค่ะ อยู่ปีสาม เรียนคณะเดียวกับสอง” “วิศวะ?” “ค่ะ วิศวะ” “พี่เพิ่งรู้ว่าไอ้สองมีแฟนแล้ว” เจ้าคุณชวนคุยต่อ ยิ่งเห็นหน้าใกล้ๆก็ยิ่งรู้สึกเสียดายที่เพิ่งได้มารู้จักฟ้าลดา ตอนที่แอบมองก็รู้อยู่แล้วว่าฟ้าลดาเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งทว่าเทียบไม่ได้เลยกับการที่ได้มายืนมองใกล้ๆแบบนี้ น่าเสียดายที่เขารู้จักเธอช้าเกินไป เขาน่าจะรู้จักเธอให้เร็วกว่านี้ อย่างน้อยก็เร็วกว่าไอ้สอง “หมายถึงฟ้าใสเหรอคะแฟนสอง?” “ไม่ใช่เหรอครับ?” “ไม่ใช่หรอกค่ะ” ฟ้าลดาส่ายหน้ายิ้มๆ นี่ไม่ไช่ครั้งแรกที่เธอถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนสอง “ฟ้าใสไม่ใช่แฟนสองหรอกค่ะ ฟ้าใสกับสองเราเป็นแค่เพื่อนกัน” “น้องฟ้าใสไม่ใช่แฟนไอ้สอง?” คำตอบของฟ้าลดาสร้างความประหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก ทว่ามากกว่าความประหลาดคือความดีใจที่เธอกับไอ้สองไม่ได้เป็นแฟนกัน ถ้าเธอไม่ใช่แฟนไอ้สองเขาก็ย่อมมีสิทธิ คิดไม่ผิดจริงๆที่เข้ามาทัก “ไม่ใช่ค่ะ... ฟ้าใสกับสองเราเป็นแค่เพื่อนกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD