“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ก่อนเอื้อมมือไปรับซองโดยไม่คิดจะนำเงินออกมานับด้วยซ้ำ
“ไม่นับดูหน่อยเหรอ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเชื่อใจคุณ” เพียงคำนั้นก็ทำให้หัวใจเย็นชารู้สึกอุ่นซ่านขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“จำเอาไว้นะ...ฟ้า ตั้งแต่นี้ไปคุณคือผู้หญิงของผม ถ้าอยากได้อะไรก็บอกพันเค้าได้ เค้าจะจัดการให้คุณทุกอย่าง”
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันคง...ไม่อยากได้อะไรอีกแล้วค่ะ”
“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปเลย เอาล่ะ หมดธุระแล้วนายกลับไปเถอะพัน บอกแผนกตรวจสุขภาพให้เตรียมพร้อมไว้ พรุ่งนี้...ฉันจะพาฟ้าไปตรวจร่างกาย...อย่างละเอียด”
“ครับท่าน แล้ว...วันนี้ท่านจะเข้าไปที่โรงพยาบาลรึเปล่าครับ”
บุญญานนท์นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ล่ะ ฉันเหนื่อย อยากพักสักวัน”
คำตอบนั้นทำให้พันรบรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่ทำงานร่วมกันมาเกินห้าปี ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เจ้านายของเขาจะพูดคำว่าเหนื่อยหรืออยากพักให้ได้ยิน
“ครับท่าน” แล้วพันรบก็ก้าวออกไปอย่างรู้หน้าที่ เมื่อคนสนิทลับสายตาไปบุญญานนท์จึงได้หันกลับมาสบตากับหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง
“ผมให้พันหาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้คุณแล้วนะ วางอยู่ในห้องรับแขก เดี๋ยวคุณก็เอาไปเก็บในตู้ให้เรียบร้อยและกัน”
“ค่ะ”
“งั้นก็ไปเถอะ ผมจะทำงานสักหน่อย”
“แต่คุณ...บอกว่าเหนื่อยไม่ใช่เหรอคะ”
“แล้วทำไม”
“คุณ...น่าจะไปนอนพักหน่อยนะคะ”
“หมายถึงนอนกับคุณน่ะเหรอ”
ได้ยินอย่างนั้นแก้มเนียนก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอจะรีบยกมือปฏิเสธ
“ไม่ใช่นะคะ ฉัน...เอ่อ...ฟ้าหมายถึงท่าทางคุณดูเพลียมากจริง ๆ ไหน ๆ วันนี้ก็ได้หยุดงานแล้วคุณควรได้นอนพักในห้องของคุณ คือ...ไม่ได้หมายถึงนอนกับฟ้านะคะ แค่...อยากให้คุณได้นอนหลับพักผ่อนเท่านั้น”
บุญญานนท์กลั้นยิ้มกับคำพูดติด ๆ ขัด ๆ ของคนที่เหมือนจะลืมไปว่าหน้าที่หลักจริง ๆ ของเธอคืออะไร แต่ก็ช่างเถอะ เขาจะปล่อยให้เธอได้นอนสบาย ๆ ไปสักพัก ส่วนเรื่องนั้น...อาจจะต้องให้เวลาเธอทำใจอีกหน่อย
“ปกติผมไม่นอนตอนกลางวัน คงนอนไม่หลับหรอก”
“ไม่หลับก็ไม่เป็นไรนี่คะ แค่ได้นอนเอนหลังพักสายตาบ้างก็น่าจะช่วยทำให้ผ่อนคลายแล้วค่ะ”
“ดูเหมือนคุณจะอยากให้ผมไปนอนเหลือเกินนะ หรือกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณเลยไม่อยากให้อยู่ใกล้”
“เปล่านะคะ ฟ้าแค่...เป็น...เอ่อ...เป็นห่วง”
“ห่วง?” สีหน้าเขาดูแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ค่ะ ฟ้าเป็นห่วงคุณจริง ๆ”
บุญญานนท์ถอนหายใจเฮือกก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พลอยทำให้เธอต้องรีบลุกตามไปด้วย
“ก็ได้ งั้นผมจะไปเอนหลังสักหน่อย คุณก็เอาข้าวของไปเก็บให้เรียบร้อยละกัน สักสิบเอ็ดโมงก็โทรสั่งอาหารเที่ยงมาด้วยล่ะ เบอร์ร้านอาหารติดอยู่ที่หน้าตู้เย็น อยากกินอะไรก็สั่งมา โทรศัพท์ในห้องมีสองเครื่อง อยู่ตรงผนังข้างตู้เย็นกับโซฟาในห้องรับแขกใช้โทรออกข้างนอกได้ตามสบาย ส่วนโทรศัพท์มือถือของคุณผมสั่งให้พันหาให้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยไปเอาที่โรงพยาบาล”
“ฟ้าต้องมีมือถือด้วยเหรอคะ”
“ต้องมีสิ ไม่งั้นผมจะติดต่อคุณยังไงล่ะ”
“แต่คุณบอกว่าที่นี่ก็มีโทรศัพท์นี่คะ”
“คุณไม่คิดจะออกไปข้างนอกเลยหรือไง หรืออยากอยู่แต่ในห้องทั้งวัน”
“ก็...”
“ตามนี้แหละ” เขาตัดบทก่อนจะก้าวออกไปจากห้องทำงานแล้วมุ่งไปทางห้องนอนของตนเองอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้เธอได้แต่ถอนหายใจตามกับความเอาแต่ใจของเขา แต่มันเหมือนเป็นความเอาแต่ใจที่มีผลดีมากกว่าผลเสีย เธอจึงไม่อยากคิดอะไรให้เปลืองสมองอีก เพราะโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เขาว่า ก็คงมีเอาไว้ติดต่อกับเขาแค่คนเดียวอยู่แล้วเพราะเธอไม่รู้จักใครที่จะต้องบันทึกเบอร์ลงไปอีก
นภาภัสเดินไปที่ห้องรับแขกแล้วก็ต้องกะพริบตาปริบ ๆ เมื่อเห็นถุงกระดาษหลายสิบถุงที่วางเรียงรายอยู่ ซึ่งในนั้นมีเสื้อผ้าหลากหลายชนิด ทั้งชุดชั้นใน ชุดนอน ชุดลำลอง หรือเดรสตัวสวย ซึ่งน่าแปลกมากที่เสื้อผ้าเหล่านี้มีขนาดพอดีตัวเธออย่างเหลือเชื่อ
แต่ที่ทำให้หน้าเธอร้อนผ่าวขึ้นมาก็คงจะเป็นชุดนอนตัวบางที่แทบจะปิดอะไรไม่มิด โชคดีที่แต่ละชุดยังมีเสื้อคลุมที่สวมทับได้อีกชั้น ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดของคุณเลขาฯ พันรบ หรือเป็นความจงใจของใครบางคนแถวนี้กันแน่
ข้าวของทั้งหลายที่พันรบนำมาให้ถูกย้ายเข้าสู่ลิ้นชักทีละชิ้นอย่างเป็นระเบียบ เธอหันหน้าเข้าตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ในห้อง ไม้แขวนเรียงหันหัวไปทิศเดียวกัน ช่องบนสุดเป็นหมอนสำรอง กับกล่องเก็บสายผ้าพันคอ เธอเลือกผ้าซาตินสีครีมขึ้นมา ลูบปลายนิ้วเบา ๆ อย่างไม่รู้ตัว หลังจากผ่านการเป็นคนเร่ร่อนมาหลายวันแถมยังไม่มีความทรงจำใด ๆ หลงเหลืออยู่ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าเธอเริ่มจะมีอะไรที่เป็นของตัวเองขึ้นมาแล้ว
หญิงสาวหันไปมองซองสีน้ำตาลที่บรรจุเงินหนึ่งล้านเอาไว้พร้อมกับความคิดหลากหลาย ก่อนหน้านี้เธอไม่มีแม้แต่เศษเงินติดตัว ทว่าตอนนี้กลับมีพร้อมทุกอย่าง แต่ทำไม...เธอถึงไม่ได้มีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นเลยนะหรือเพราะรู้ดีว่าเงินก้อนนั้นมันต้องแลกมาด้วยอะไร
แล้วอยู่ดี ๆ เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าหากเธอไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ ข้าวของที่เขาให้พวกนี้เขาจะขอมันคืนไปทั้งหมดเลยรึเปล่า
ดูเหมือนว่าเธอมีเรื่องต้องถามหลังจากพบเขาในครั้งหน้าแล้ว อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้ว่าหากเธอ ‘ทำงานพลาด’ เขาจะทำอย่างไรกับเธอต่อไป หรือเธอต้องกลับไปเป็นคนเร่ร่อนตามเดิม...