ตอนที่ 10
เงื่อนใข
ข้าวต้มปลากับสลัดทูน่า และน้ำพีชปั่นหมดไปแล้ว ทว่า สิปปกร ก็ยังไม่ออกมา เขาน่าจะยังคุยงานไม่เสร็จ แพรไหม ชะเง้อคอมองเข้าไปยังห้องรับรองด้านในหลายครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วเธอเริ่มรู้สึกเบื่อ ทั้งตอนนี้เริ่มจะดึกแล้ว เธอจึงเดินออกจากโซนห้องอาหาร มาทางล็อบบี้ด้านนอก เห็นมีการบรรเลงเพลงไวโอลินที่แสนไพเราะ
หญิงสาวเลยนั่งฟังอย่างเพลิดเพลิน
“แพรจริงด้วย”
เสียงทักจากด้านหลัง ทำให้เธอหันไปมอง ก่อนจะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็น ดนัย รัตนโสภณ ผู้ชายคนที่ สาลินี เอ่ยถึงเมื่อวันก่อน และเป็นคนที่ลุงไพสันต์ พี่ชายของพ่อ พยายามแนะนำเพื่อให้เข้าหาเธอ
“ค่ะ”
นี่เป็นครั้งที่สาม ที่เธอได้เจอหน้าผู้ชายคนนี้
พอทราบว่าเขาเป็นทายาทคนโตของเหมืองไพรัช และอาจมีธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของลุงไพสันต์ ทางฝ่ายนั้นถึงได้คะยั้นคะยอเธอนัก
พลันเสียงของ ผู้ปกครองของเธอ ก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ แพรไหม ถ้าใจเธอต้องการแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบ ไม่ต้องการ ใครก็มาจับคู่ให้เธอไม่ได้ทั้งนั้น"
ขึ้นอยู่กับเธออย่างงั้นเหรอ?
“แพรเป็นยังไงบ้าง เห็นว่าเรียนปีสุดท้ายแล้วใช่ไหม วันก่อนที่เจอกันพี่อยากจะคุยกับแพรอีก แต่โทรและไลน์หาก็ติดต่อแพรไม่ได้เลยครับ”
น้ำเสียง ดนัย สุภาพ ขณะย่อกายลงนั่งข้างๆเธอ
แพรไหม ลอบมองเขาเล็กน้อย ดนัยมีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าขาวสะอาดออกตี๋เล็กน้อย เหมือนเขาจะสูงกว่าเธอมาก ทว่าก็ยังน้อยกว่า สิปปกร
ไม่แน่เหมือนกันว่าทำไม เธอถึงชอบเปรียบเทียบผู้ชายทุกคนที่ได้พบเจอกับผู้ปกครองตัวเองเสมอ
“ใช่ค่ะเรียนปีสุดท้ายแล้ว ช่วงนี้แพรเลยค่อนข้างยุ่งทั้งเรื่องเรียนและตอนนี้แพรทำงานพิเศษช่วงค่ำที่ทีน่าคาเฟ่ด้วยค่ะ” กระนั้นเธอก็เอ่ยตอบอย่างสุภาพ และคุยโวเกี่ยวกับการได้ทำงานพิเศษของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ แม้เพิ่งจะไปทำแค่วันแรก
คำบอกด้วยสีหน้าและท่าทางที่สดใสนั้น
ทำให้ ดนัย อึ้งไปสักพัก
“อะไรกันถึงกับต้องไปทำงานพิเศษร้านกาแฟเลยเหรอ? จะได้วันละเท่าไหร่กัน นี่แสดงว่าผู้ปกครองของแพรไม่ได้เรื่องเลยนะซิ ถึงปล่อยให้แพรลำบากแบบนี้”
แม้เงื่อนใขของเธอ จะทราบกันเฉพาะคนในครอบครัว
แต่คาดว่าลุงไพสันต์ น่าจะคุยให้อีกฝ่ายรู้พอสมควร
“ไม่ใช่ค่ะ คุณสิปดูแลแพรดีมาก”
หญิงสาวแก้ตัวทันควัน ด้วยไม่อยากให้มีใครมาเอ่ยถึงผู้ปกครองของเธอในด้านไม่ดีแบบนี้
“แพรอยากทำเองค่ะ เพราะอยากมีประสบการณ์ และแพรเป็นคนขอร้องคุณสิบเพื่อไปทำเอง อีกอย่างร้านนั้นก็อยู่ใกล้มอ ไม่ได้ลำบากอะไรเลยค่ะ”
หน้าสวยเชิดขึ้น และขยับตัวออกห่าง
แปลกที่เธอไม่ชอบน้ำหอมฉุนๆ ที่ได้กลิ่นจากกายของอีกฝ่าย ยิ่งอยู่ใกล้เธอก็ยิ่งรู้สึกเวียนหัวแปลกๆ
“แต่ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะไม่ยอมให้แพรไปทำแบบนั้นหรอก คนอย่างสิปปกร มีโรงแรม ผับใหญ่และอสังหาในมือมากมาย แค่ตำแหน่งเด็กเสริฟร้านกาแฟเล็กๆแบบนั้น ถ้าจะให้แพรทำเป็นงานพิเศษทำไมจะให้ทำในเครืออัครเวทย์ไม่ได้”
มันก็จริงนะ! แต่เธออยากทำที่ ทีน่าคาเฟ่ นี่นา
เธอไม่อยากทำในเครือของอัครเวทย์
แต่คงไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ คิดแล้ว แพรไหม ก็เหยียดกายลุกขึ้นเพื่อจะไปรอผู้ปกครองอยู่อีกฝั่ง ด้วยคาดว่าเขาน่าจะคุยธุระเสร็จแล้ว
แต่อุ้งมือหนาของ ดนัย คว้าข้อมือเธอไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวซิแพร! จะรีบไปไหนกัน คุยยังไม่จบเลยจะเดินหนีพี่ดื้อๆ อีกแล้วเหรอ?”
“แพรต้องกลับบ้าน คุณสิปน่าจะคุยธุระเสร็จแล้ว”
ดนัย ชะงักไปเพียงครู่ เขาลืมไปว่านี่คือ โรงแรมเคเอ็มแมริออท เป็นโรงแรมของสิปปกร ก็ว่าอยู่คนอย่างมัน ไม่มีทางปล่อยให้ แพรไหม เด็กในปกครองของมัน ไปไหนมาไหนตามลำพังอยู่แล้ว หากไม่ใช่ในเขตของตัวเอง
“สัปดาห์หน้าจะมีงานเลี้ยงเปิดตัวโครงการใหม่ของรัตนโสภณ พี่อยากให้แพรไปด้วย"
“แพรคงต้องขออนุญาตคุณสิปก่อนค่ะ”
“พี่ส่งคำเชิญถึงประธานอัครเวทย์แล้ว เขาน่าจะพาแพรไปด้วยนะ”
“ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกค่ะ”
ไม่ใช่ว่าทุกงานเขาจะพาเธอไปด้วย อีกอย่างถ้าเป็นงานนี้เธออาจปฏิเสธ ด้วยไม่อยากจะพบเจอกับคนในตระกูลอนันตวงศ์ของตัวเอง และไม่อยากไปยืนปั้นหน้าเหมือนเช่นทุกครั้ง
“ไม่เป็นไร งั้นใส่นี่ไว้ก่อน”
ดนัย ขยับมาใกล้ดึงข้อมือเธอมาสวมสร้อยเส้นเล็กที่เป็นรูปหัวใจสองดวงคล้องเกี่ยวกัน สีวาววับที่สะท้อนจากแบรนด์ดังนั้น ตัดกับผิวขาวผ่องบริเวณหลังมือของเธอ และแพรไหม พอจะรู้ราคาของมันเป็นอย่างดี
“พะ..แพรรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”
เธอเอ่ยเสียงปราม ขณะดึงมือออกและพยายามจะถอดตะขอสร้อยออกจากข้อมือของตน ทว่าอีกฝ่ายกลับปรามไว้
“อย่าถอดเลยครับ ขอร้องเถอะถ้าแพรไม่รับน้ำใจจากพี่ พี่คงไม่สบายใจ และอาจถูกคุณไพสันต์ตำหนิหลายอย่างแน่เลย”
คิ้วเรียวสวยของ แพรไหมย่นเข้าหากันเล็กน้อย
ทำไมลุงของเธอต้องตำหนิ ดนัย ด้วย
“....”
“นะครับ รับไว้เถอะอย่างน้อยพี่ก็จะได้สบายใจ”
“ก็ได้ค่ะ”
แค่รับไว้ก็น่าจะพอ เขาจะได้ไม่ต้องคะยั้นคะยอเธออีก
ทว่า ดนัย กลับเดินมาใกล้จนเกือบชิด แล้วโน้มหน้าลงมากระซิบข้างๆใบหูของเธอ
“ตอนนี้เอาแค่สร้อยข้อมือไปก่อน ไว้แพรเป็นอิสระตามเงื่อนไขพินัยกรรมเมื่อไหร่ พี่จะให้ของหมั้นที่อลังการตามที่แพรต้องการทุกอย่างเลยครับ”
เงื่อนใขตามพินัยกรรม
หัวใจของ แพรไหม กระตุกวาบ
ก่อนที่เสียงนุ่มทุ้มต่ำที่คุ้นเคยจะดังขึ้น
“แพร! อยู่นี่เอง”
*************