ตอนที่ 1 คุณหนูใหญ่ ฟางหยุนเฟย

1355 Words
“เปรียบตัวเจ้าดุจจันทรา ตัวข้าขอเป็นเมฆาที่โอบกอดเจ้าไว้” เสียงอึกทึกครึกโครมรอบจวนราชครู “ฟางหลี่ถง” ดังขึ้นจนทำให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงตื่นจากนิทราที่แสนยาวนาน ร่างกายหนักราวกับถูกรถบรรทุกทับมาทั้งคันเมื่อเริ่มกะพริบตาไล่แสงที่ส่องเข้ามาพร้อมกับสภาพห้องที่ไม่คุ้นเคย “เสียงดังจังเลย นี่มันอะไรกัน” “คุณหนูฟื้นแล้ว เร็ว ๆ เข้าส่งคนไปแจ้งท่านราชครูเร็ว ๆ เข้าเถิด” “เจ้าค่ะแม่นมถง” อะไรกัน เมื่อครู่นี้พวกเขาบอกว่ายังไงนะ “ราชครู” แล้วก็ยังมี “แม่นม” อีกงั้นหรือ ที่นี่ไม่ใช่หน้าโรงเรียนอนุบาลหรือ ฉันกำลังจะได้บรรจุเป็นข้าราชการครูวันแรก แต่ก็ต้องกระโดดน้ำลงไปช่วยเด็กน้อยที่กำลังจมน้ำอยู่ แล้ว….หลังจากนั้นเล่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “เอายามาหน่อยแล้วเตรียมชุดใหม่เอาไว้ให้คุณหนูด้วย เงียบ ๆ ละ” “ทราบแล้วเจ้าค่ะ” เสียงกระซิบกระซาบที่ราวกับเกรงว่าจะทำให้ผู้ที่นอนอยู่ไม่พอใจยิ่งทำให้ผู้ที่นอนอยู่เริ่มสับสนยิ่งนักเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้องเมื่อค่อย ๆ แหงนมองที่เพดานที่เป็นไม้หรูหราและเตียงสี่เสาที่มีผ้าม่านสีสดล้อมรอบ “นี่มันอะไรกัน ที่นี่คือที่ไหน” “คุณหนู ตื่นแล้วงั้นหรือเจ้าคะ อย่าทำให้บ่าวตกใจเช่นนี้สิเจ้าคะหากว่าท่านแม่ทัพฉินไม่อยู่ตรงนั้นแล้วละก็ เกรงว่า….” “แม่ทัพฉิน….โอ๊ย!!” “ช่วยข้า ช่วยตามหาผู้ที่ฆ่าข้าด้วย” ความทรงจำบางอย่างไหลเข้ามาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว นางชื่อ “ฟางหยุนเฟย” เป็นบุตรสาวคนโตของท่านราชครูฟางหลี่ถง นางเป็นว่าที่คู่หมั้นของท่านอ๋อง “หมิงเว่ยหราน” ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของฝ่าบาทจวินอ้ายอี้เหริน “ทำไมถึงคุ้นชื่อพวกนี้จังเลยนะ…เดี๋ยวนะ!!” “เจ้าคะคุณหนู บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ บ่าว….” สาวใช้ที่ตกใจเมื่อนางตะโกนออกมาจนทำน้ำที่จะให้นางล้างหน้าคว่ำลงจนหกกระจายที่พื้นคุกเข่าด้วยตัวที่เปียกและนั่งตัวสั่นหันมามองนางด้วยความกลัว มิใช่เพียงนางแต่เป็นสาวใช้เกือบห้าคนที่อยู่ในนี้ที่ตัวสั่นเพราะความกลัว “ขอโทษที ๆ คือว่าตกใจไปหน่อย ที่นี่….เอ่อ…คือที่ใด” “คะ…คุณหนู ที่นี่เป็นห้องของคุณหนูเจ้าค่ะ” “รู้แล้ว ๆ ข้าหมายถึง….ข้า…ข้าคือ ฟางหยุนเฟย!!….งั้นหรือ!!” “คุณหนู เจ้าน่ะรีบไปเรียกท่านหมอมาเร็วเข้า บอกว่าคุณหนูฟื้นแล้ว…โธ่คุณหนู” “ท่านคือ….” “คุณหนู ข้าคือแม่นมถงอย่างไรเจ้าคะ” “แม่นมถง ไม่ผิดแน่ ข้าคือ….กระจก…ขอกระจกให้ข้าหน่อย ไม่สิ ข้าจะไปดูเอง” นางเห็นแล้ว กระจกบานใหญ่ที่อยู่ถัดออกไปอีกที่หนึ่งจากห้องของนาง เมื่อเดินไปแล้วนางจึงเริ่มส่องดูตัวเอง “เป็นไปได้อย่างไร ชุดข้าราชการที่ภาคภูมิใจนั่นล่ะ เด็ก ๆ ละ ไม่นะ น้ำหวาน ภูมิ ต้นหอม วายุ นิค กลับ….กลับไปไม่ได้แล้วงั้นหรือ” น้ำตาเริ่มไหลรินเมื่อนึกถึงว่าตนเคยเป็นอะไรก่อนหน้านี้ “ลูกตาล” พึ่งจะสอบบรรจุข้าราชการครูได้สำเร็จ และวันนี้เป็นวันแรกที่ได้สวมชุดเครื่องแบบที่แสนจะภูมิใจ ก่อนข้ามถนนไปที่โรงเรียนได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยเพราะมีเด็กตกน้ำ ด้วยสัญชาตญาณของครูอนุบาล เธอวิ่งลงไปทันที นึกไม่ถึงว่าสามารถช่วยเด็กขึ้นมาได้ แต่กลับแลกมาด้วยชีวิตของเธอเอง สวรรค์คงเห็นใจเธอกระมังถึงได้ส่งเธอมาเกิดใหม่ยังที่แห่งนี้ “แต่ว่า….ทำไมถึงส่งมาในนิยายนี่กันละ แว่นละ แว่นตา…ไม่ต้องใช้งั้นหรือ นี่…ว้าว….นึกไม่ถึงว่าฟางหยุนเฟยจะรูปร่างดีเอวบางร่างเล็กถึงเพียงนี้ พระเจ้างดงามมากจริง ๆ แต่ว่า….แย่แล้ว!!” ใช่แล้ว นางข้ามมิติมาจริง ๆ มิใช่ฝัน เรื่องนี้นางเริ่มรู้แล้วเพียงแต่ฟางหยุนเฟยตามนิยายที่นางเคยอ่าน ดูเหมือนว่านางจะมีบทอยู่เพียงไม่กี่หน้า ซึ่งในเวลาต่อมาก็ถูกพระเอกของเรื่องสั่งฆ่าเพราะบังอาจไปวางยาเขาด้วยความโง่เขลาที่หลงเชื่อตัวร้ายในนิยาย เช่นนั้นเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตอนไหนกันเล่า แล้วตอนนี้นางอายุเท่าใดแล้ว…. “คุณหนูอายุเต็มสิบเก้าปีไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา และวันนั้นก็เป็นวันที่คุณหนูประกาศว่าจะหมั้นหมายกับท่านอ๋องหมิงเว่ยหรานด้วยอย่างไรเล่าเจ้าคะ” “แม่นม ท่านอ๋องผู้นั้น….เขาชอบพอข้างั้นหรือ” หวีในมือแม่นมสะดุดลงเมื่อถูก “ฟางหยุนเฟย” เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ว่านางพึ่งฟื้นหลังจากที่ตกน้ำในสระบัวหลวงในวังโดยไม่ทราบว่าตกลงไปได้เช่นไร ตอนนี้ทั้งวังหลวงกำลังสืบหาสาเหตุอยู่เช่นกัน “ลูกตาล” ในร่างของฟางหยุนเฟยพยายามผูกเรื่องที่เคยอ่านในนิยายกับข้อมูลที่เจ้าของร่างให้นางมาและทำให้แม่นมเริ่มไม่สงสัยและเล่าเรื่องราวก่อนหน้านี้ให้นางฟัง “คือว่า…ถึงอย่างไรในตอนนี้ท่านอ๋องกับคุณหนูก็นับได้ว่าเป็น….” “เมื่อครู่ท่านบอกว่า อีตาอ๋องนั่น…ชื่ออะไรนะ” “คุณหนู เหตุใดเรียกขานเช่นนั้นเจ้าคะพระองค์เป็นถึงพระราชนัดดาของฝ่าบาท มียศเท่าเทียมองค์ชายและเป็นคนที่ฝ่าบาททรงโปรดนะเพคะ” “ใช่เขาจริง ๆ และอีกไม่นานก็จะสั่งฆ่าข้าสินะเพราะอยากแต่งกับนางเอกอย่างไรเล่า” “อะไรนะเจ้าคะ คุณหนูท่านว่าอะไรเจ้าคะ” “เปล่าเจ้าค่ะ แม่นมแล้วโดยปกติข้า…เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ หมายถึง…ทั่ว ๆ ไป ข้าทำอะไรบ้างและเก่งอะไรบ้าง” ฟางหยุนเฟยถามไปเช่นนั้นเพราะในนิยายแทบจะไม่ได้บอกเรื่องราวของนางเอาไว้เลยเพราะนางไม่ใช่นางเอก ไม่ใช่นางร้าย ตัวอิจฉาหรือเพื่อนนางเอก เป็นเพียงแค่โคตรของโคตรตัวประกอบที่โผล่มาเพียงสามหน้ากระดาษในฐานะว่าที่คู่หมั้นของพระเอกนางตายเพราะวางแผนวางยาพระเอกและถูกจับได้จนถูกสั่งประหาร และเรื่องราวก็ดำเนินไปจนจบที่พระเอกนางเอกครองคู่กัน แต่หากนับในตอนนี้ที่นางอยู่ในตอนนี้ เรื่องราวในนิยายยังไม่ได้เกิดขึ้นเลย “แม่นม เหตุใดท่านจึงเงียบไปเล่าเจ้าคะ ช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิเจ้าคะ” “คือว่า คุณหนูสูญเสียท่านแม่ไปตั้งแต่ตอนห้าขวบ หลังจากนั้นท่านราชครูก็เอาใจใส่เลี้ยงดูท่านมาด้วยความรักและคอยตามใจท่านมาเสมอ จนกระทั่ง….ฮูหยินจากไปสองปี นายท่านจึงได้รับฮูหยินหลานอี้เหนียงเข้ามาในจวนทำให้ท่านไม่พอใจ หลัยิ่งได้ทราบว่าฮูหยินมีบุตรสาวอีกคน จากนั้นท่านก็….” วีรกรรมที่แม่นมเล่าให้นางฟังนั้นไม่ธรรมดาเลย แม้ว่าเรื่องราวของหยุนเฟยจะมิได้ถูกเขียนไว้มากนัก แต่ที่แม่นมเล่ามา นางมิใช่คนดีอะไร ที่จริงต้องบอกว่าหากไม่ถูกฆ่าให้ตาย นางเป็นนางร้ายได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ “ทั้งเอาแต่ใจ ขี้วีนและโวยวายแล้วยังตบตีสตรีไปทั่วเมืองหลวงเพื่อผู้ชายคนเดียวเนี่ยนะ!!” “แต่คุณหนูก็มีข้อดีหลายอย่างนะเจ้าคะ” “อะไรงั้นหรือแม่นม” ฟางหยุนเฟยหันไปมองแม่นมพร้อมกับยิ้มอย่างมีความหวังเมื่อนางกำลังจะเอ่ยข้อดีของฟางหยุนเฟยให้ฟัง “ท่านรักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวสวย ๆ ซึ่งสตรีหลายคนในเมืองหลวงต่างล้วนพากันอิจฉา เพราะท่านมักจะมีชุดสวย ๆ เครื่องประดับใหม่ ๆ ที่พวกนางอยากได้แต่ก็ได้เพียงแค่มองเจ้าค่ะ” “นั่นน่ะหรือที่ท่านเรียกว่าข้อดี!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD