ตอนที่1 ทักทาย

1476 Words
บ้านบวรกิจวัฒนา บรรยากาศบนโต๊ะอาหารช่วงค่ำของบ้านบวรกิจวัฒนาวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อลูกทั้งสามคนกลับบ้านมากินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้คนเป็นแม่ดีใจจนยิ้มไม่หุบ “ที่สนามแข่งเป็นยังไงบ้างตาฟรินท์” “ก็ดีครับ ไทเกอร์มันเก่งด้านนี้อยู่แล้ว”ไทเกอร์ที่ฟรินท์พูดถึงคือลูกชายฝาแฝดของเสือเพื่อนสนิทของคนเป็นพ่อ ซึ่งฟรินท์กับไทเกอร์ได้ร่วมกันเปิดสนามแข่งรถแบบครบวงจรระดับต้น ๆ ของประเทศ สามารถจัดการแข่งขันรถได้ทุกชนิด แต่ว่าเจ้าตัวก็แค่ลงหุ้นด้วย เข้าไปช่วยดูเอกสารช่วงเย็น ไม่ได้เอาเวลาทั้งวันไปทิ้งไว้ที่นั่น เพราะต้องไปช่วยธุรกิจของคนเป็นพ่อเป็นหลัก “แล้วตาโซลของแม่ล่ะ เรียนจบอยากทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าลูก”ปิ่นมุกหันไปเลิกคิ้วถามลูกชายอีกคนของเธอ ที่อีกเทอมเดียวก็จะเรียนจบแล้ว แต่ทว่าลูกชายคนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าอยากจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ยังคงทำตัวลอยไปลอยมาเหมือนไม่มีแก่นสารในชีวิต “ตาโซลพ่อจองตัวแล้วนะ” “อย่าบังคับลูกค่ะพี่เพลิง”ปิ่นมุกเอ่ยตำหนิคนเป็นสามี ที่คิดจะยัดเยียดให้ลูกชายไปช่วยธุรกิจของตัวเองอีกคน เธอเป็นคนเลี้ยงลูกแบบอิสระ ไม่เคยบังคับให้ลูกต้องไปทำในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่หากลูกเต็มใจไปเธอก็ไม่คิดจะขัดแย้งอยู่แล้ว “พี่ไม่ได้บังคับ ลูกเป็นคนบอกพี่เอง ว่าเรียนจบจะไปช่วยงานพี่อีกคน” “จริงเหรอลูก” โซลพยักหน้า“ใช่ครับ ผมเป็นคนบอกพ่อเอง” “ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรนะลูก ยังไงตาฟรินท์ก็ช่วยพ่ออยู่แล้ว ถ้าอยากทำอะไรที่ชอบ แม่จะลงทุนให้เอง” ปิ่นมุกเอ่ยออกมาอย่างใจป้ำ ทำให้คนเป็นสามีทำสีหน้าล้อเลียนเธอ ลูกชายของเธอสองคนมีนิสัยที่ต่างกันมาก ฟรินท์พี่ชายคนโตจะเป็นคนสุขุม เยือกเย็นกว่าโซลที่บางครั้งติดจะดื้อรั้นและเอาแต่ใจไปหน่อย แต่ทว่าก็ไม่เคยทำเรื่องเดือดร้อนใจให้เธอสักครั้ง และเธอเองก็มีวิธีจัดการลูกทั้งสองคนของเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ไม่ได้ตามใจไปเสียหมดทุกอย่างเหมือนที่คนเป็นสามีกำลังคิด “ส่วนลูกสาวของแม่คงไม่ต้องถามเนอะ ว่าอยากทำอะไร? ตายีนส์คงไม่ยอมให้เราทำงานหรอก” “พี่ยีนส์ไม่มีสิทธิ์บังคับหรอกค่ะ ถ้ามิลจะทำ” “แหม...ตอนนี้ทำเป็นเก่งนะ พี่เห็นอะไรก็ตามใจไอ้ยีนส์ทุกอย่าง ตามใจจนมันได้ใจแล้ว”โซลแกล้งเอ่ยเย้าแหย่น้องสาวที่ตอนนี้กำลังคบกับเพื่อนสนิทเขาอยู่ “ตามใจอะไร มิลนี่นะตามใจพี่ยีนส์ ไปเอามาจากไหนก่อน เพื่อนพี่ต่างหากที่ต้องตามใจมิล” “พี่จะรอดูนะว่าเราเรียนจบแล้วจะได้ทำงานตามที่อยากทำเหมือนปากว่าหรือเปล่า” “ไม่ต้องไปว่าน้องหรอก มาอีกเรื่องดีกว่า…” โซลกระพริบตารอคนเป็นแม่พูด สายตาแบบนี้เขาเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นสายตาของความห่วงใยที่มองกี่ครั้งเขาก็รู้สึกตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่แปลกใจทำไมคนเป็นพ่อถึงได้หลงแม่นัก ขนาดลูกโตหมดแล้วก็ยังตามใจแม่เขาตลอด “ไม่ถูกใจผู้หญิงคนไหนเลยเหรอลูก” “ยังเลยครับ” “เห้อออ ตาฟรินท์แม่พอเข้าใจนะว่านิสัยเหมือนแม่ แต่เราอ่ะ นิสัยแพรวพราวเหมือนพ่อ ได้ข่าวว่าเมื่อก่อนควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วตอนนี้หายไปไหนหมดแล้วล่ะ หืม?” “อะ แฮ่ม”เพลิงแกล้งกระแอมส่งเสียงออกมาเมื่อโดนพาดพิงถึง“อะไรไม่ดี ปิ่นก็โยนให้พี่หมดนะ” “ปิ่นพูดเรื่องจริงค่ะ ถ้าตาฟรินท์แพรวพราวได้สักครึ่งของพี่ ป่านนี้ปิ่นน่าจะมีหลานไปแล้ว เรียนจบมาเป็นปีแล้วยังไม่ควงใครมาหาแม่สักคน” “ที่พี่ฟรินท์ไม่มีใครตอนนี้ มันคิดได้สองอย่างนะครับ ว่าไม่ชอบผู้หญิงหรือไม่ก็มีใครในใจอยู่แล้ว”โซลส่งสายตายียวนให้พี่ชาย ที่หันมาถลึงตาใส่เมื่อเจ้าตัวหลุดพูดเรื่องอะไรไม่เข้าท่าออกไป ที่ทำให้คนเป็นแม่ตาเบิกโพลงเพราะความอยากรู้ทันที “จริงเหรอโซล? ใครกันตาฟรินท์” “ไม่มีครับแม่ อย่าไปฟังมันมากเลย ผมทำงานทุกวัน จะเอาเวลาไหนไปจีบใคร ทั้งวันวิ่งวุ่นที่บริษัท ตอนเย็นเข้าไปดูเอกสารที่สนามแข่งอีก”เท้าหนาของฟรินท์ถีบเข้าที่เท้าของโซลทันที เพื่อให้หยุดพูดสักที ซึ่งการกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของน้องเล็กมิลลิที่นั่งมองเหตุการณ์ด้วยความสนุกสนาน คนหนึ่งไม่อยากให้แม่กดดันเรื่องมีแฟนเพราะยังคงรักสนุกอยู่ไม่อยากผูกมัดกับใคร อีกคนก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ว่ามีคนในใจอยู่แล้ว “แม่ไม่ได้กดดันนะ แต่ตาฟรินท์ก็เรียนจบแล้ว ตาโซลก็อีกเทอมเดียว มาให้น้องสาวคนเล็กนำไปก่อนได้ยังไง รีบ ๆ ทำเวลาหน่อยสิ แม่อยากให้เราสองคนแต่งงานก่อนมิลลินะ” “ขนาดไม่ได้กดดันนะ ลูกกลับบ้านมาทีไร พี่เห็นพูดเรื่องนี้ทุกที ปล่อยลูกไปบ้างเหอะปิ่น ลูกโตแล้ว จะใครแต่งงานก่อนกันก็ให้เป็นเรื่องของลูกดีกว่า เลือกคู่ครองนะปิ่น ไม่ได้ไปเดินหาตามตลาดนัดได้ง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่” “พูดแบบนี้พี่กำลังว่าปิ่นอยู่นะคะ ปิ่นหวังดีกับลูกค่ะ ถ้าแบบปิ่นบังคับลูก แล้วแบบพี่นี่ยังไงคะ พูดไม่ดูตัวเองเลยนะคะ” ปิ่นมุกพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะอาหารทันที การกระทำของคนเป็นแม่เป็นสิ่งที่ลูกทั้งสามคนเห็นจนชิน และอีกไม่กี่วินาทีต่อมา คนเป็นพ่อก็จะลุกขึ้นเดินตามไปง้อทันที เป็นแบบนี้เสียทุกครั้ง “กินกันให้อิ่มนะ พ่อต้องไปง้อแม่ก่อน งอนตุ๊บป่องไปอีกแล้ว” นั่นไง…ไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ ร่างสูงของพ่อที่ยังคงความแข็งแรงรีบก้าวยาว ๆ ตามคนเป็นแม่ไปทันที ทำให้ทั้งฟรินท์ โซลและมิลลิที่มองตามคนเป็นพ่อยิ้มขบขันออกมาทันที ไม่ว่ากี่ปีพ่อก็ยังเป็นฝ่ายง้อแม่แบบนี้มาเสมอ รู้ทั้งรู้ว่าพูดอะไรไปแม่ก็ต้องชนะ แต่ก็ขยันทำให้แม่โกรธแบบนี้ประจำ “ไปก่อนนะ”โซลลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อไม่มีผู้ใหญ่อยู่ในโต๊ะ เขาจะกลับไปนอนคอนโดของเขาเหมือนทุกครั้ง “ไม่นอนบ้านว่ะ คอนโดมึงไม่หายไปไหนหรอก” “ไปนอนคอนโดดีกว่า เผื่อไอ้พวกนั้นนัดไปไหน” “จะนัดกันไปไหนก็ไป ห้ามชวนพี่ยีนส์ไปด้วย” มิลลิดักทางพี่ชายทันที พักหลังเธอเห็นนัดปาร์ตี้กันบ่อย เธอไม่ชอบให้แฟนหนุ่มกินเหล้าแล้วขับรถกลับคอนโดคนเดียวมันอันตราย “ปล่อยให้มันมีอิสระบ้างมิลลิ ที่พี่ไม่อยากหาแฟน ก็เพราะกลัวเจอผู้หญิงนิสัยแบบเธอนี่แหละ” “นี่ พี่ว่ามิลเหรอ ห๊า!!! แบบมิลมันเป็นยังไง” มิลลิส่งเสียงแว้ดออกมาทันที แต่คนพี่ชายรีบเดินออกมาจากตรงนั้นเสียก่อน พร้อมทั้งหัวเราะไปด้วยที่สามารถกวนอารมณ์ให้น้องสาวโมโหออกมาได้ วันต่อมา ในช่วงที่การจราจรติดขัดในยามเช้า สร้างความหงุดหงิดให้กับโซลยิ่งนัก เขาเบื่อการเรียนเช้าที่สุด แต่ทว่าต้องฝืนลุกขึ้นเพราะเป็นวิชาที่อาจารย์ประจำวิชาโหดสุด เข้าสายนาทีเดียวก็ไม่ได้ เขาเลยต้องเผื่อเวลาไว้เกือบชั่วโมง ทำให้ตอนมาถึงมหาลัยไม่มีเพื่อนในกลุ่มคนไหนแหกขี้ตาตื่นเร็วเหมือนเขา โซล: มากันกี่โมงว่ะ นิ้วเรียวยาวกดพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในแชทกลุ่มเพื่อน แต่ไร้การตอบกลับจากเพื่อนคนไหน ทั้งที่อีกหนึ่งชั่วโมงต้องเข้าเรียนแล้ว “เพื่อนยังไม่มาเหรอ?” เสียงหวานของผู้หญิงส่งเสียงมาจากด้านหลังของเขา ร่างสูงหันไปมองเห็นเป็นเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะที่นานทีปีหนจะได้คุยกัน เธอคือใยไหมดาวมหาลัยคนสวย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD