ทำความรู้จัก

1473 Words
ตอนที่ 7 ทำความรู้จัก “ถ้าคุณอธิปไม่ทานอะไรเรามาคุยกับเรื่องสัญญาเลยก็ได้นะ คุณเอาสัญญามาด้วยหรือเปล่า” “นี่ครับสัญญาที่ทางบริษัทเตรียมให้” อัญญารินทร์รับเอกสารมาอ่านอย่างละเอียด ตาคู่สวยไล่อ่านทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ ระหว่างที่อ่านก็แอบมองออกไปหน้าร้านและรอคอยว่าสิรดาจะเข้ามาหรือเปล่า หญิงสาวอ่านสัญญายังไม่จบเสียงไลน์ก็ดังขึ้นเสียก่อนและเป็นสิรดาที่ไลน์มาบอกว่าเธอต้องทำโอทีจึงมาหาที่ร้านไม่ได้ “มีอะไรหรือเปล่าครับ” “เปล่าค่ะ” อัญญารินทร์ปฏิเสธและอ่านสัญญาส่วนที่เหลือ “คุณอัญญามีอะไรที่อยากจะสอบถามเกี่ยวกับสัญญาจ้างไหมครับ” “มีนิดหน่อยค่ะ คือในสัญญาเขียนว่าห้ามมีความสัมพันธ์เกินเลยกว่าสถานะแฟนเช่า แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าเกินเลยค่ะ” “ก็คงหมายถึงเรื่องบนเตียงนั่นแหลครับ เพราะการเป็นแฟนกันก็ต้องแสดงออกให้คนอื่นเห็นถึงการเป็นคู่รักอาจมีการจับมือ บ้างกอดหรือโอบบ้าง” เขาตอบตามที่สอบถามมาจากทินกร “ฉันพอเข้าใจค่ะ” “แล้วมีตรงไหนอีกไหมครับ” “คิดว่าไม่มีนะคะ” เมื่อตอบไปแล้วหญิงสาวก็เซ็นชื่อลงในสัญญาสองแผ่นก่อนจะส่งให้อธิปัตย์เซ็นบ้างจากนั้นทั้งสองคนก็เก็บสัญญาไว้คนละแผ่น “ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะทำความรู้จักกันแล้วนะครับคุณอัญญา” “ฉันขอเริ่มก่อนเลยนะคะ อย่างที่บอกไปเมื่อวานว่าฉันชื่ออัญญารินทร์ แต่เพื่อนๆ และคนใกล้ตัวมักจะเรียกฉันว่าอัญญา ค่ะ อายุ 23 ปี เปิดร้านกาแฟแห่งนี้มาประมาณ 8 เดือนแล้วค่ะ” “และคุณมีพี่น้องหรือครอบครัวไหมครับ” อธิปัตย์ถามเพิ่ม “คุณพ่อคุณแม่ของฉันเสียชีวิตไปแล้วค่ะ ตอนนี้ก็อยู่คนเดียว” “ผมเสียใจด้วยนะครับ” เขารู้สึกเห็นใจเธอมากที่อายุแค่นี้ต้องใช้ชีวิตลำพังเพียงคนเดียว “ขอบคุณค่ะ” “นอกจากพนักงานในร้านที่ผมเห็นแล้วคุณมีเพื่อนสนิทไหมครับ” “มีค่ะ เธอชื่อใบเตยอันที่จริงวันนี้ใบเตยก็จะมาเจอคุณด้วยแต่พอดีเธอมีงานด่วนเลยมาไม่ได้” “ไม่เป็นไรครับผมว่าคงมีโอกาสได้เจอกัน” “ทีนี้ถึงตาคุณอธิป ฉันอยากให้คุณแนะนำตัวเองให้ฉันรู้จักมากขึ้นค่ะ เพื่อที่เราจะได้แสดงบทบาทคู่รักได้อย่างสมจริงที่สุด” “ผมชื่ออธิปัตย์ อายุ 28 ปีครับ ตอนนี้กำลังตกงานครับ” “แต่ถ้าเพื่อนฉันถามคุณจะตอบว่าตกงานไม่ได้นะคะ” “แล้วจะให้ผมตอบว่าอะไรดีล่ะ บอกว่าผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศแล้วกำลังจะเริ่มทำงานดีไหม” อธิปัตย์เสนอเพราะเขาไม่อยากโกหกมาก “คุณจะตอบแบบนั้นก็ได้นะ แต่ถ้าเขาถามเพิ่มเติมเช่นเรียนที่ไหน เรียนอะไรคุณจะตอบเขาได้ไหมล่ะ ฉันเองยิ่งไม่มีความรู้เรื่องนี้อยู่ด้วย” “เรื่องนั้นผมคิดว่าผมตอบได้” “ทำไมคุณดูมั่นใจจังคะคุณอธิป” “ก็ก่อนที่ผมจะมาทำงานนี้ผมเคยทำงานบนเรือสำราญและคุยกับแขกคนไทยคนหนึ่งเขาเป็นนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางไปรอบโลก ผมยืมตัวตนเขามาใช้ก็ได้” “ฉันว่าอย่าเลยค่ะ ถ้าตัวจริงโผล่มาคุณจะยุ่งเอานะคะ ถึงฉันอยากได้หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแต่แบบนี้มันก็เสี่ยงเกินไปค่ะ” “ผมรับรองว่าไม่มีใครจับได้หรอกครับเพราะคนที่ผมพูดถึงตอนนี้เขาไปเที่ยวแถวแอฟริกาใต้และวางแผนจะอยู่ที่นั่นครึ่งปี” อธิปัตย์โกหกคำโต “เอางั้นก็ได้ค่ะ” อัญญารินทร์เห็นท่าทางมั่นใจของเขาก็เลยยอมคล้อยตาม “อีกเกือบสามอาทิตย์กว่าจะถึงงานแต่งของเพื่อนฉัน ระหว่างนี้คุณจะทำอะไรคะ จะรับงานอื่นก่อนหรือเปล่า” “ช่วงนี้ผมอาจจะต้องหางานประจำทำ” “ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงมารับงานนี้” “ผมมีเหตุผลส่วนตัวครับ และคิดว่างานนี้ค่อนข้างตรงกับความต้องการของผมในช่วงนี้พอดี เรื่องรายละเอียดผมไม่สามารถบอกคุณได้ หวังว่าคุณจะเข้าใจ” “ฉันเข้าใจค่ะ ถ้าอย่างนั้น เรามาคุยกันเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยสำหรับการเป็นแฟนปลอมๆ กันดีกว่านะคะ มันมีหลายอย่างที่เราต้องพูดให้ตรงกัน” “ได้ครับ” “อย่างแรกเลยคือเรื่องราวความรักของเราค่ะ เราต้องมีเรื่องราวที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อที่เพื่อนๆ จะได้ไม่สงสัย” “คุณอยากให้เป็นแบบไหนครับ” อธิปัตย์ถาม “ฉันคิดว่าเราควรจะเจอกันโดยบังเอิญดีไหมคะ เช่น คุณมาที่ร้านกาแฟของฉันบ่อยๆ แล้วเราก็เริ่มทำความรู้จักกัน จนกระทั่งพัฒนาความสัมพันธ์” อัญญารินทร์เสนอ “ฟังดูเป็นไปได้ครับ” อธิปัตย์เห็นด้วย “ส่วนเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นชอบอะไรไม่ชอบอะไรนิสัยใจคอ เราต้องจำให้ขึ้นใจนะคะ เพื่อที่เวลาเพื่อนถาม เราจะได้ตอบตรงกัน และฉันอาจจะต้องขอถ่ายรูปคู่กับคุณลงในโซเชียลจะได้ไหม” “ได้สิ แต่ผมว่าถ่ายไม่ต้องเห็นหน้าเต็มก็ได้นะ พวกเขาจะรอที่จะเห็นหน้าผมในวันงาน ผมว่ามันน่าจะตื่นเต้นดี” อธิปัตย์กลัวว่าถ้าหน้าขอตนไปโผล่ในโซเชียลแล้วทางบ้านจะรู้ว่าเขากลับมาแล้ว “ฉันเห็นด้วยเลยค่ะ” “ร้านคุณเปิดทุกวันไหมครับ” “ไม่ค่ะ ร้านของฉันปิดวันพฤหัสค่ะ คุณถามทำไมคะ” “ผมคิดว่าเราควรจะนัดเจอกันบ้างในช่วงเวลาที่เราว่าง เพื่อซ้อมบทบาทและทำความรู้จักกันให้มากขึ้น” “แต่นั่นมันไม่อยู่ในสัญญานะคะ” “ผมรู้แต่ช่วงนี้ผมเองก็ว่างๆ น่ะเลยอยากจะหาเพื่อนคุยด้วย” “เอาไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีก็ได้ค่ะ” อัญญารินทร์รู้สึกแปลกใจที่อธิปัตย์ดูจะร่วมมือและเข้าใจสถานการณ์ได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก เขาดูเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบ ไม่เหมือนกับท่าทางเงียบๆ นิ่งๆ ของเขา “ได้ครับ ผมว่าเราควรแลกเบอร์ติดต่อกันไว้” “ก็ดีค่ะ” เมื่ออธิปัตย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเบอร์และสแกนคิวอาร์โค้ตอัญญารินทร์ก็ค่อนข้างจะแปลกใจกับโทรศัพท์ของเขาเพราะดูแล้วมันแพงมากสำหรับคนที่บอกว่าตัวเองตกงาน “มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสีหน้าของเธอเหมือนกำลังสงสัยอะไรสักอย่าง “โทรศัพท์ของคุณไม่เหมือนกับโทรศัพท์ของคนที่บอกว่าตกงานเลยนะคะ” “ก่อนหน้านี้ผมทำงานแจกไพ่บนเรือสำราญครับ เวลาแขกเล่นได้เยอะก็จะมีทิปให้ผมเยอะหน่อย และโทรศัพท์เครื่องนี้ผมก็ได้มาจากที่นั่น” ด้วยประสบการณ์ที่ได้เจอคนมาเยอะทำให้อธิปัตย์เอาเรื่องของคนเหล่านั้นมาผสมกันเป็นเรื่องของตัวเองได้อย่างแนบเนียน “แล้วทำไมตอนนี้ไม่ทำต่อล่ะคะ” “หมดสัญญาจ้างครับผมเลยว่างงาน ระหว่างสัญญาใหม่ผมเลยหาอะไรทำแก้เบื่อ” “อย่างเช่นรับจ้างเป็นแฟนใช่ไหมคะ” “ใช่ครับ” ชายหนุ่มนั่งคุยกับเธอจนท้องฟ้าด้านนอกมืดครึ้มเขาก็ขอตัวกลับ “แล้วคุณอธิปจะกลับยังไงคะ” “ผมนั่งแท็กซี่ครับ” “ให้ฉันไปส่งไหมคะ” “ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณพักที่นี่หรือเปล่าครับ” “ปกติฉันจะกลับบ้านค่ะ แต่ถ้าช่วงไหนเหนื่อยมากๆ ก็จะนอนหลังร้านค่ะ” “หลังร้านเหรอครับ ผมว่ามันค่อนข้างอันตรายนะครับ” “ไม่อันตรายเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้ค้างที่นี่บ่อย” “วันนี้คุณจะกลับไปนอนที่บ้านใช่ไหม ให้ผมช่วยปิดร้านนะ” “อย่าเลยค่ะ ฉันเกรงใจนี่มันก็มืดแล้ว” “เพราะมืดแล้วไงล่ะ ผมเลยต้องช่วยไปเถอะครับ” อธิปัตย์ช่วยดึงประเหล็กแบบม้วนลงมาปิดจากนั้นก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าร้าน อัญญารินทร์เห็นว่าเขาขึ้นแท็กซี่ไปแล้วเธอจึงขับรถออกมา หญิงสาวรู้สึกแปลกใจกับท่าทางของเขาเพราะดูเหมือนจะเป็นคนเย็นชาแต่กลับมีความห่วงในแฝงอยู่ในนั้นด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD