ตอนที่ 9
วันหยุดที่ไม่น่าเบื่อ
การออกมาทานอาหารกับอธิปัตย์วันนี้ทำให้อัญญารินทร์กับเขาสนิทกันมาก หญิงสาวเรียนรู้อะไรอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับตัวแฟนเช่าของเธอคือเขาเป็นคนที่มีความรู้รอบตัวเยอะมากๆ เป็นคนคุยสนุกสรรหาเรื่องมาเล่าให้เธอจนการอยู่ด้วยกันไม่ทำให้เธอรู้สึกเบื่อเลยสักนิด
“ขอบคุณมากนะครับอัญญาที่วันนี้พาผมไปทานอาหารอร่อยๆ เอาไว้พฤหัสหน้าเราไปทานร้านอื่นกันบ้างไหม แต่อัญญาต้องให้ผมเป็นคนจ่ายเงินนะ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ให้ผู้หญิงเป็นคนจ่ายเงิน”
“ใครจะจ่ายก็เหมือนกันและอัญญารู้ว่าที่คุณทำแบบนี้ก็เพื่องานของอัญญาที่จะถึงอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า” หญิงสาวไม่อยากจะเอาเปรียบเพราะที่เขามาชวนเธอไปทานอาหารวันนี้มันก็อยู่นอกเหนืองานที่คุยกันไว้ ถึงแม้เขาจะบอกว่าเพราะรู้สึกเบื่อและหาเพื่อนทานอาหารก็ตาม
“ดูท่าทางคุณจะตื่นเต้นกับงานครั้งนี้นะครับ”
“ก็ตื่นเต้นสิคะนี่เป็นงานแต่งงานแรกของเพื่อนในกลุ่มเลยนะคะ พวกเราทุกคนตั้งใจจะมาร่วมงานนี้ มันเป็นเหมือนการเจอกันครั้งแรกหลังจากเรียนจบค่ะ”
“คุณก็เลยต้องหาใครสักคนคงไปเป็นแฟนในงานใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะมันอาจฟังดูเหมือนไร้สาระนะคะแต่ อัญญามีเหตุผลค่ะ”
“เหตุผลอะไรครับ”
“อันที่จริงถ้าไปเจอเพื่อนตามปกติ อัญญาก็ไม่เคยจ้างใครมาเป็นแฟนเช่าแบบนี้หรอกนะคะ แต่ครั้งนี้มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่เขาชอบเอาชนะอัญญาทุกอย่างตั้งแต่สมัยเรียน แล้วเราสองคนเลิกกับแฟนในเวลาไล่เลี่ยกันค่ะ แต่อัญญารู้มาว่าเขาเพิ่งคบกับผู้ชายคนใหม่ไม่นานอัญญาไม่อยากโดนเขาหัวเราะเยาะที่ยังไม่มีแฟนก็เลยคิดว่าจะจ้างใครสักคนคงไปในงานอย่างน้อยก็ตบตาเขาไปก่อนค่ะ หลังจากงานก็จะบอกว่าเลิกกับคุณแล้วแค่นั้นเอง”
“ผมว่าผู้หญิงนี่เป็นเพศที่ซับซ้อนเข้าใจยากมากๆ”
“ดูเหมือนคุณอธิปจะรู้เรื่องผู้หญิงค่อนข้างดีเหมือนกันนะคะ”
“ก็ผมเคยมีแฟนมาแล้วและก็หลายคนด้วยครับ”
“จริงด้วยสิอัญญาลืมไปเลยค่ะ”
“ลืมอะไรครับ”
“ก็ลืมถามไปเลยว่าคุณมีแฟนหรือยัง แล้วมารับงานนี้อัญญาจะทำให้คุณมีปัญหาหรือเปล่า” หญิงสาวมัวแต่ดีใจที่อธิปัตย์รับงานและเห็นว่าเขาตรงสเปกมากๆ จนลืมถามเรื่องสำคัญไปเลย
“ผมลองถามกลับนะครับอัญญา ถ้าคุณมีแฟนคุณจะให้แฟนออกมาทำงานแบบนี้ไหม”
“ตอบตามตรงนะคะไม่มีทางค่ะ เคยได้ยินไหมที่ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะอัญญาก็เหมือนกันค่ะแฟนข้าใครอย่าแตะ” หญิงสาวพูดแล้วหัวเราะเสียงสดใสทำให้อธิปัตย์เองก็หัวเราะตามเธอไปด้วย
“ผมยังไม่มีแฟนหรอกครับ เลิกกับผู้หญิงคนล่าสุดก็เกือบจะครึ่งปีแล้วแหละ อาชีพอย่างผมบางครั้งมันก็หาผู้หญิงที่เข้าใจยากนะครับ เวลาเราลงไปอยู่ในเรือไปทำงานบนเรือบางครั้งก็ไม่มีเวลาที่จะคุยโทรศัพท์ที่นั่นมันเหมือนโลกอีกใบหนึ่งเลย”
“เป็นเพราะห่างกันเหรอคะทำให้คุณต้องเลิกกับแฟนแต่ตอนนี้คุณก็กลับมาแล้วทำไมไม่ไปง้อเธอล่ะ”
“ไม่ใช่ปัญหานั้นปัญหาเดียวหรอกครับ คนรักกันมันมีปัญหาจุกจิกหลายอย่างถ้าไม่เข้าใจและไม่เคลียร์ตั้งแต่แรกพอปล่อยไปนานๆ ปัญหาสะสมถึงเวลาทะเลาะกันขึ้นมาทุกอย่างมันก็พัง”
“เขาถึงบอกไงคะว่าคนที่เป็นแฟนกันมีอะไรก็ควรจะเคลียร์กันให้จบภายในหนึ่งวัน อย่าทะเลาะกันข้ามวันค่ะ”
“อันนี้มันก็จริงครับ แล้วคุณล่ะที่บอกว่าเลิกกับแฟนเลิกนานหรือยัง”
“อัญญาเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่ถึงสามเดือนเลยค่ะ” เธอตอบเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีความรู้สึกเสียใจอยู่นั้นอีกแล้ว
“เหตุผลล่ะบอกได้ไหม มันเจ็บมากจนคุณไม่กล้าพูดออกมาหรือเปล่า”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะเหตุผลก็คือความเข้าใจค่ะ อัญญาเป็นคนติดแฟนค่ะ เขาเป็นวิศวกรและออกไปไซต์งานบ่อยๆ บางครั้งก็ไม่ได้เจอกันเลยเป็นสัปดาห์อัญญาก็เลยคิดว่าถ้ามีแฟนแล้วต้องอยู่ห่างกันไม่ได้คุยกันก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ สบายใจด้วยเหตุผลมันอาจจะดูงี่เง่านะคะแต่อัญญาก็เป็นของอัญญาแบบนี้ค่ะ ถ้าใครรับได้ก็คบต่อเขาหากเขารับไม่ได้อัญญาก็เลิก”
“ดูเหมือนคุณจะไม่แคร์เลย”
“แคร์สิคะ มีใครไม่แคร์กับความรักบ้างล่ะแต่แคร์ไป เสียใจไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกค่ะ อัญญาเป็นคนที่ลืมอดีตง่ายและเลือกมองไปข้างหน้ามากกว่า ชีวิตคนเรามันสั้นค่ะคุณอธิป อะไรที่มีความสุขไม่เดือดร้อนใครอัญญาก็เลือกที่จะทำ”
“คุณอายุแค่นี้เองนะอัญญาทำไมพูดเหมือนปลงกับการใช้ชีวิตแล้วล่ะ”
“อัญญาพูดตามความรู้สึกและสิ่งที่เจอมาค่ะ พ่อกับแม่ท่านเสียไปเร็วมากและเสียไปอย่างกะทันหัน มันเลยทำให้อัญญาคิดว่าชีวิตของคนเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเพราะฉะนั้นก็เลือกที่จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ค่ะ”
“แล้วไม่มีญาติคนอื่นเลยเหรอ” อธิปัตย์ถามด้วยความเห็นใจเพราะด้วยวัยเพียงแค่นี้ต้องมาอยู่คนเดียวรับผิดชอบทางร้านรับผิดชอบถึงตัวเองอีกแถมยังเป็นผู้หญิงก็คงจะดูเหนื่อยมากๆ
“มีค่ะแต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดค่ะ อัญญายังมีครอบครัวตากับยายแต่ก็ไม่ได้สนิทเท่าไหร่นานๆ ถึงจะกลับไปเยี่ยมท่านครั้กหนึ่งค่ะ” หญิงสาวไม่ได้บอกว่ามารดาของเธอหนีตามบิดามาทำให้ตากับยายไม่ค่อยยอมรับเธอเท่าไหร่ ตั้งแต่มารดาเสียชีวิตเธอกลับไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่บ้านสองครั้งแต่ดูเหมือนท่านจะไม่ดีใจและกลับรู้สึกอึดอัดด้วยซ้ำที่เธอไปเยี่ยม
จากนั้นอัญญารินทร์ก็เลยเลือกที่จะส่ง ส่งของขวัญไปให้ช่วงปีใหม่และสงกรานต์แต่เธอไม่อยากไปที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
ส่วนครอบครัวของบิดาเธอก็ไม่สนิทเพราะปู่กับย่าเสียชีวิตไปแล้วจะเหลือแต่พี่สาวของบิดาที่เธอเองก็ไม่ได้สนิทด้วยอาจจะนับได้ว่าตอนนี้อัญญารินทร์เหลือตัวคนเดียวไม่มีญาติที่ไหนเลยก็ว่าได้
“ผมถามเรื่องนี้ทำให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ อัญญาไม่ได้คิดอะไรมากแล้วคุณอธิปล่ะคะไม่มีครอบครัวที่ไหนเหรอ” หญิงสาวถามกลับบ้าง
“ผมมีครอบครัวครับ มีพ่อแม่ พี่ชายและน้องสาวแต่พวกเขาไม่รู้หรอกครับว่าผมกลับมาถึงที่เมืองไทย”
“อ้าว....ทำไมล่ะคะคุณไม่สนิทกับครอบครัวเหรอ”
“ผมยังไม่อยากเข้าที่บ้านครับ ว่าจะอยู่แบบนี้สักพักแล้วค่อยเข้าไปหาท่านดีกว่า”
“ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่ามีเหตุผลอะไรที่คุณถึงทำแบบนี้แต่ชื่อเถอะค่ะไม่มีใครรักเลยหวังดีกับเราเหมือนคนในครอบครัวอีกแล้ว”
“ขอบคุณครับอัญญาที่เตือนสติบางทีผมอาจจะติดต่อท่านไปเร็วๆ นี้ก็ได้”
“อัญญาไม่ได้บังคับหรือต่อว่าคุณนะคะ อัญญาก็แค่เตือน เอาล่ะค่ะถึงบ้านแล้ว ขอบคุณมากๆ ที่พาอัญญาออกไปข้างนอกวันหยุดเลยไม่น่าเบื่อ”
“ผมก็ขอบคุณสำหรับอาหารมื้ออร่อยและพฤหัสหน้าเจอกันนะครับ”
“ถ้าคุณอธิปไม่มีธุระไปไหนเราก็มาเจอกันได้ค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเปิดลงจากรถประตูเข้าไปในบริเวณบ้าน