บทนำ.3

1383 Words
Thai Kitchen House นั่นคือชื่อของร้านอาหารแห่งนี้ แดเนียลถอดแว่นกันแดดออกแล้วหนีบเอาไว้กับคอเสื้อ เป็นเวลานานพอสมควรที่เขาไม่ได้รับประทานอาหารไทย ใบหน้าคมเข้มยกยิ้มจางๆ ก่อนจะผลักประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ร่างบอบบางของมัทนาลัยนั่งอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ หญิงสาวละสายตาจากสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายในมือตอนที่ได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านดังขึ้น มือเล็กรีบรวบปิดสมุดบัญชีเล่มดังกล่าว หยิบเมนูอาหารแล้วขยับเท้าออกมาจากหลังเคาน์เตอร์เพื่อต้อนรับแขกคนแรกของวัน หลังจากที่อีกฝ่ายพาตัวเองไปนั่งโต๊ะตรงมุมในสุดที่ติดกับกระจกมองเห็นวิวด้านนอกเรียบร้อยแล้ว “สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” มัทนาลัยยื่นเมนูอาหารไปตรงหน้าชายหนุ่ม แดเนียลรับเอาไว้พร้อมๆ กับที่ดวงตาสีดำสนิทมองดวงหน้าของอีกฝ่าย ดวงตากลมโตสีดำขลับ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ล้อมกรอบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งที่เชิดรั้นนิดๆ รับกับริมฝีปากรูปกระจับที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพู หากแต่ร่างบอบบางแต่งกายอย่างทะมัดทะแมง ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อตสีแดงเข้ม แขนเสื้อถูกพับขึ้นจนเกือบๆ ถึงข้อศอก ชายเสื้อถูกซ่อนในกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด เท้าเล็กถูกหุ้มด้วยรองเท้าบูทสั้นทรงมาร์ตินสีน้ำตาล เป็นเพราะชายหนุ่มเอาแต่จ้องเธอ หญิงสาวจึงเปิดปากถาม “ขอโทษนะคะ คุณคงมาจากที่อื่นใช่ไหมคะ คงไม่ใช่คนแถวนี้ ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็จะแต่งตัวสไตล์นี่ละคะ ผู้ชายก็จะแต่งออกแนวคาวบอย ส่วนผู้หญิงก็แต่งตัวแบบคาวเกิร์ล แบบที่ฉันใส่” ยามที่ถามมัทนาลัยคลี่ยิ้มบางๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านมองเช่นนี้ เพราะบ่อยครั้งที่มีนักท่องเที่ยวจากรัฐอื่นรวมถึงจากต่างประเทศมาแวะเวียนมาที่ร้าน แล้วมองการแต่งตัวที่แตกต่างจากคนในเมืองใหญ่ไปสักหน่อย ร้านอาหารของเธอตั้งอยู่บนเส้นทางที่จะผ่านไปยังอุทยานแห่งชาติบิกเบนด์ ซึ่งเป็นอุทยานที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติเพราะสามารถทำกิจกรรมแนวผจญภัยได้หลายอย่างทั้งการพายเรือ ขี่ม้าชมวิว เดินป่า ดูนก หรือการชมดาวยามคืนเดือนมืด ส่วนเรื่องที่พัก ต้องเตรียมเต็นท์ไปกางเอง เพราะทางอุทยานไม่มีไว้บริการ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด ที่เขาจะมองเธอแบบนั้น “อ่าครับ ขอโทษทีครับ” แดเนียลตอบรับออกไปแบบนั้น เมื่อหญิงสาวคิดว่าเขามองการแต่งตัวของเธอ อันที่จริงแล้วเขาสนใจดวงหน้าหวานๆ นั่นต่างหาก ดูอย่างไรหญิงสาวก็ไม่น่าจะใช่คนอเมริกันแท้ หากเขามองไม่ผิดหญิงสาวน่าจะเป็นคนเอเชียเสียมากกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ” “ขอโทษนะครับดูเหมือนว่าคุณจะไม่ใช่คนอเมริกัน ผมเข้าใจถูกไหมครับ” เพราะแดเนียลไม่อาจปล่อยให้เรื่องที่ตัวเองสงสัยต้องค้างคาใจ จึงถามออกไปแบบไม่ลังเล “ค่ะ ฉันเป็นคนเอเชีย เป็นคนไทย” เมื่ออีกฝ่ายอยากรู้ มัทนาลัยจึงไม่ลังเลที่จะตอบออกไปเช่นกัน เพราะหญิงสาวถือว่าสัมพันธภาพที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าเลือกกลับมาเยือนร้านของเธออีก หากพวกเขาเหล่านั้นกลับมาเที่ยวเท็กซัสอีกครั้ง “ผมก็เป็นคนไทยนะครับ” พออีกฝ่ายบอกมาแบบนั้น มัทนาลัยถึงกับมองเขาอย่างแปลกใจ ความกังขาฉายชัดในดวงตาคู่สวย เพราะทั้งโครงหน้าและรูปร่างของชายหนุ่มไม่ได้ใกล้เคียงคนไทยเลยสักนิด พอถูกหญิงสาวมองด้วยสายตาเคลือบแคลง แดเนียลจึงรีบอธิบายเพิ่มเติม “คือผมเป็นลูกครึ่งไทยอเมริกันน่ะครับ” “เข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ฉันสงสัย เพราะคุณดูไม่ค่อยเหมือนคนไทยสักเท่าไร” “ไม่เป็นไรครับ” แดเนียลไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองทำไมถึงได้ใช้เวลาคุยกับผู้หญิงตรงหน้าได้นานขนาดนี้ แล้วที่สำคัญแค่ได้พูดคุยกันกลับทำให้เขารู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จนเขาอยากจะสานสัมพันธ์ต่อ แต่พอฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าที่เขาหนีมาพักผ่อนเพราะต้องการหนีจากปัญหาเดิมๆ พอคิดได้แบบนั้น ชายหนุ่มจึงตัดเรื่องความต้องการอยากสานสัมพันธ์กับผู้หญิงตรงหน้าทิ้งไปก่อน “ว่าแต่ที่ร้านมีเมนูอะไรแนะนำบ้างครับ” “ฉันขอแนะนำเป็นผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสด ผัดเปรี้ยวหวาน หรือไม่ก็ต้มยำทะเลกินกับข้าวสวยร้อนๆ แต่ถ้าต้องการแบบด่วนๆ ก็แนะนำเป็นกระเพราหมูราดข้าวไข่ดาวค่ะ รับอะไรดีคะ” “ขอทุกอย่างที่คุณพูดมาเลยครับ” “หืม แน่ใจว่าจะกินหมดเหรอคะ หรือว่าคุณมีคนอื่นมาด้วย” เพราะชายหนุ่มเลือกอาหารทั้งหมดที่เธอพูดออกไป หญิงสาวจึงอดสงสัยไม่ได้ ดวงตากลมโตเหลือบมองไปนอกร้านทว่าก็ไม่พบใคร จึงดึงสายตากลับมาที่แดเนียลอีกครั้ง และพบว่าบนใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปาก “ผมมาคนเดียวครับ” “ฉันแค่เกรงว่าคุณจะกินคนเดียวไม่หมดน่ะค่ะ มันเยอะนะคะ” “รับรองว่าผมกินจนไม่เหลือแน่นอนครับ” เมื่ออีกฝ่ายรับคำหนักแน่นแบบนั้น มัทนาลัยจึงไม่โต้แย้งอีก หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างแล้วบอกเขา “ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ อาจจะนานสักหน่อย เพราะวันนี้ฉันอยู่ร้านคนเดียว พอดีวันนี้ผู้ช่วยของฉันลาป่วยน่ะค่ะ” มัทนาลัยให้คำตอบเพียงเท่านั้น ก่อนที่หญิงสาวจะเดินเข้าไปที่หลังร้าน นัยน์ตาสีดำสนิทของแดเนียลมองตามร่างบอบบางไปจนลับสายตา ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่โต๊ะอาหาร จากนั้นจึงทอดสายตาผ่านกระจกใส มองวิวนอกร้านซึมซับบรรยากาศแบบชนบท ระหว่างที่รออาหารจานแรกมาเสิร์ฟ หากแต่ในสมองของชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดบางอย่าง และนัยน์ตาสีดำสนิทก็ฉายชัดว่ามีความลังเลอยู่หลายส่วน ความน่ารักของเธอกำลังจะทำให้เขาต้องสร้างปัญหาเดิมๆ เพิ่ม ‘เอาไงดีวะ’ แดเนียลคิดในใจ เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความลังเลใจในการสานสัมพันธ์กับผู้หญิงสักคน ทั้งที่เมื่อก่อนเพียงแค่ได้สบตากัน ผู้หญิงทุกคนต่างยอมสยบให้เขา บางครั้งไม่ต้องออกปากเลยด้วยซ้ำ พวกเธอก็ยินยอมพร้อมใจเสนอตัว แต่กับผู้หญิงที่เขาเพิ่งได้เจอ แตกต่างออกไป หญิงสาวไม่มีท่าทีสนใจเขาเกินกว่าลูกค้า หรือว่าเสน่ห์ของเขาจะลดลง ไม่ได้ แบบนั้นเขาไม่ยอมเด็ดขาด แดเนียลลืมเรื่องที่กำลังทำให้ตัวเองต้องหนีปัญหามาจากนครนิวยอร์กไปจนหมดสิ้น ดวงตาคู่คมวาววับตอนที่ทอดสายตามองไปยังห้องครัวที่หญิงสาวเพิ่งจะหายเข้าไปด้านในได้เพียงไม่นาน และตอนนี้ความลังเลนัยน์ตาสีดำสนิทก็ไม่หลงเหลืออีกแล้ว และนั่นหมายความว่า แดเนียลต้องการสร้างปัญหาเพิ่มให้กับตัวเอง ไม่สิ เขาจะไม่สร้างปัญหาเพิ่มให้ตัวเอง แต่เขากำลังจะโยนปัญหาไปให้พี่ชายที่เกิดวันเดือนปีเดียวกันกับเขาต่างหาก ‘ขอโทษนะเดวิด ฉันอยากได้ผู้หญิงคนนี้ แต่ฉันยังไม่อยากมีปัญหาเพิ่มว่ะ นายไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้เท่าไร งั้นช่วยรับปัญหาไปจากฉันหน่อยก็แล้วกันนะ’ ‘...’ ‘ไอ้พี่ชาย’ ใบหน้าคมคายกระตุกยิ้มร้ายที่มุมปาก ดวงตาคู่คมละสายตาจากการมองวิวนอกร้าน หันมาจ้องประตูห้องครัวที่มีเสียงโลหะดังกระทบกันดังออกมาเป็นระยะๆ แทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD